ตอนที่แล้วบทที่ 40
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 42

บทที่ 41


พ่อครัวจัดการกับผักป่าในกล่องเองเสร็จสรรพเรียบร้อยโดยไม่ได้ถามไถ่เธอสักนิด จากนั้นจึงอุ้มกล่องเดินจากไป

ทิ้งให้ผู้ช่วยเจินยืนใบหน้าแดงก่ำอยู่อย่างงงๆ ทั้งที่เห็นว่าผักป่าโดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา แต่ตัวเธอกลับไม่มีประโยคคำพูดใดๆ ออกมาขัดขวางพ่อครัวตัวโตคนนี้เลยสักนิด ในตอนนี้จึงเกิดความร้อนรนขึ้นมาในใจ ก่อนจะรีบวิ่งบึ่งไปที่ห้องอำนวยการในสำนักงานของโรงพยาบาลโดยตรง

"ผอ.คะ ฉันซื้อผักป่ามาฝาก เที่ยงนี้ฉันให้พ่อครัวทำอาหารมาให้เรียบร้อยแล้วด้วยนะคะ"

ณ ที่นั่งด้านในสุดของห้องอำนวยการแห่งนี้ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ผู้คนในสำนักงานนี้ต่างคุ้นเคย แต่กลับไม่ค่อยมีใครอยากสนิทสนมด้วยมากนัก กำลังนั่งพิงพนักเก้าอี้ร่วมฟังบทสนทนาระหว่างพวกเขาอยู่

ผอ.โรงพยาบาลกระอักกระอ่วนใจ

อีกฝ่ายมองเธอและแสร้งยิ้มอย่างร่าเริง "ใครก็กินผักป่าได้ใช่หรือเปล่า ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกเนอะ ช่วยรวมเลขาหวังไปด้วยนะ"

ผู้ช่วยเจินไม่รู้ว่ามื้อนี้ควรจะตอบไปอย่างไรดี แต่ก็พยักหน้ารับไปอย่างขืนๆ เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาหลังจากนั้นไม่นาน หลายๆ คนในสำนักงานแห่งนี้ที่ได้ยินก็ต่างเดินมาชวนเธอคุยอย่างออกรสออกชาติ ทั้งที่ไม่ได้รู้จักใครเป็นพิเศษ จำได้เพียงว่าตัวเองแค่ส่งต่อรายชื่อไลน์ของซ่งถานให้ผอ. เท่านั้น

ทันใดนั้นหัวสมองเธอก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

นับเป็นความโง่เขลาอีกแล้ว!

ในตอนนั้นกลิ่นผักที่หอมกรุ่นก็ลอยไปทั่วสำนักงาน เมื่อประตูห้องเปิดออก ผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้านหน้าก็ได้กลิ่นโชยแตะจมูกกันคละคลุ้ง…

โชคดีที่พ่อครัวเอาใจใส่เธอ เมื่อเห็นว่าเธอมีอาการมึนงงเหมือนกำลังตกใจอะไรบางอย่าง จึงตักโจ๊กใส่ชามปริมาณเยอะกว่าปกติให้เป็นพิเศษ

ผู้ช่วยเจินนั่งอยู่ในห้องอำนวยการราวคนสิ้นสติแล้วลูบไหล่ คิดในใจ : ผอ.ตบไหล่ฉัน!

จากนั้นก็เปิดฝาโจ๊กด้วยความยินดี ได้รับเกียรตินั่งกินโจ๊กอยู่ในห้องอำนวยการร่วมกับ ผอ.และเลขาหวัง

ซ่งถานไม่รู้เรื่องราวที่พลิกผันในชีวิตของผู้ช่วยเจินเลยแม้แต่สักนิดเดียว

เธอรู้เพียงว่าตั้งแต่วันนี้ในช่วงบ่ายเป็นต้นมา จู่ๆ คำขอเพิ่มเพื่อนในโทรศัพท์มือถือก็เด้งเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ชื่อไลน์แปลกๆ ผุดมาไม่หยุดหย่อน

หนึ่งในนั้น มีไลน์หนึ่งชื่อว่า ‘เลขาหวัง’

โอ้โห!

จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไรล่ะ อยู่ดีๆ ใครก็ไม่รู้มาเพิ่มเพื่อนเธอแล้วประโยคแรกที่ทักมาก็คือ "สวัสดีครับ ผมคือเลขาหวัง ใช่คุณซ่งที่ขายผักป่าหรือเปล่า"

ยังมีไลน์อีกส่วนหนึ่งที่ซ่งถานก็ไม่รู้จักเช่นกัน คำขอเป็นเพื่อนพวกนั้นส่วนใหญ่ระบุคำนำหน้าว่าโรงพยาบาลประชาชนมณฑลหนิง สาขาที่ 1

บางทีอาจเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่ เธอคาดเดาไปต่างๆ นานา แต่ตอนนี้ซ่งถานกำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน จึงไม่มีเวลาคิดอะไรมากมาย ก็เลยดึงคนเหล่านี้เข้ากลุ่มขายผักของเธอไปทันทีเลย

ชั่วครู่ก็ไม่มีใครพูดอะไร…

มีแต่ผู้ชายที่ระบุว่าเป็น "เลขาหวัง" ส่งเครื่องหมายคำถามสามตัวออกมา แล้วก็รีบยกเลิกลบออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ดูมีเงินในการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดในบรรดารายชื่อใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ตอนนี้จึงถามขึ้นว่า

"สวัสดีครับ ถามหน่อยครับว่าผักป่าอร่อยๆ แบบที่ส่งให้ผู้ช่วยเจินยังมีอีกไหม ผมขอ 50 กิโล"

พอพูดแบบนี้ก็ถูกคุณป้าในกลุ่มรุมทึ้งเข้ามาเลย

[โอ้โห พ่อหนุ่ม! อย่าโลภมากนักสิคะ พวกเราซื้อผักป่ากันแค่สิบกิโลเองนะ]

[ผักป่าตอนนี้หมดแล้ว เจ้าของร้านบอกเหลือแต่ยอดดอกถั่วม่วงแล้วค่ะ อันนี้ผัดก็อร่อย ห่อขนมก็พอได้ ถ้าอยากซื้อกินคนเดียว ซื้อสักหนึ่งหรือสองกิโลลองชิมก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องถึง 50 กิโลหรอก]

[สบายใจได้น่า แม่หนูคนขายบอกว่ายอดดอกถั่วม่วงมีเยอะแยะ ไม่ต้องแย่งกัน]

คุณป้าส่วนใหญ่ส่งมาทีเป็นข้อความเสียงยาวยืด ในสำนักงานอำนวยการของโรงพยาบาล เลขาหวังอดทนฟังทีละข้อความไปเรื่อยๆ ฟังไปฟังมาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

เจ้าของร้านขายผักคนนี้... ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาเลยเหรอ

เขาไม่ได้ฝากผู้ช่วยเจินแนะนำมาหรือยังไง ทำไมอีกฝ่ายถึงได้เมินเฉยขนาดนี้

พอเผลอคิดไปแบบนั้น ตั้งสติได้อีกทีก็พบว่าในกลุ่มเริ่มมีการแชร์สูตรเกี๊ยวผักกาดขาวและขนมเปี๊ยะผักเบี้ยใหญ่สูตรใหม่กันเต็มไปหมด จากนั้นก็มีคุณป้าส่งรูปหมูผัดพริกยอดดอกถั่วม่วงมา...

สมกับเป็นกลุ่มขายผักจริงๆ …

เขา หวังชิง ผู้เป็นเลขาใหญ่ของผู้ว่าการมณฑลหนิงเฉิงเลยนะ ตอนนี้กลับต้องมาเฝ้าแย่งซื้อผักในกลุ่มนี้แล้วเหรอ เลขาหวังแอบคิดถึงอาหารมื้อกลางวันซึ่งเพิ่งได้ลองกินมา รู้สึกมึนงงบอกไม่ถูก

จริงๆ แล้ว ถ้ารสชาติเหมือนมื้อนั้น ต่อให้ต้องเข้ากลุ่มต่อแถวรอซื้อก็คงไม่แย่!

พอคิดถึงคำชมไม่ขาดปากและการพูดซ้ำๆ ของผอ.โรงพยาบาล เลขาหวังก็กัดฟัน

[หัวหน้าของฉันต้องการยอดดอกถั่วม่วง เอ่อ…เอาแค่สิบกิโลกรัมก่อนก็ได้ รบกวนคุณส่งให้เร็วที่สุดด้วยครับ]

เยี่ยม! ซ่งถานพึงพอใจกับลูกค้ารายใหญ่คนนี้มาก

‘ดีเลย งั้นเดี๋ยวฉันจะไปเก็บเดี๋ยวนี้ แล้วรีบจัดส่งให้เขาช่วงบ่ายทันที แต่ค่าขนส่งคงต้องให้เขาจ่ายเองนะ’

ขอบคุณพระเจ้า…ในที่สุดผักของเธอก็โด่งดังไปถึงบุคคลระดับหัวหน้าแล้ว ไม่น่าเชื่อ

"สิบกิโลกรัม วันนี้เลยเหรอคะ"

เลขาหวังดีใจมาก "ใช่ วันนี้เลย ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี! " คิดไปคิดมาก็อดถามไม่ได้ "คุณเป็นเพื่อนกับผู้ช่วยเจินใช่ไหม"

ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่ใจดีจริงๆ ผักป่าราคา 30 หยวนที่ให้เขาได้ลองชิมนั้น มันอร่อยมาก!

ในกลุ่มมีเสียงตอบรับมากมาย

จำนวนสมาชิกในกลุ่มขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 61 คนแล้ว เลขาหวังไม่ได้พูดอะไรอีก และก็ไม่มีใครสนใจเขาด้วย

ซ่งถานเหลือบไปดูรายชื่อผู้ที่ต้องจัดส่งผัก บางรายเธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครอบครัวนี้ฐานะการเงินอยู่ในระดับใด แต่แล้วก็โยนเรื่องนี้ทิ้งไปจากความคิด

วัวของลุงหลี่เดินเข้าไปในทุ่งนาอย่างเป็นทางการแล้ว ต้นถั่วม่วงสีสดที่อยู่เต็มพื้นทุ่งนี้ ทำให้วัวแก่ตัดใจเงยหน้าขึ้นไม่ได้เลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะลุงหลี่ดึงเชือกอย่างแข็งขัน วัวแก่ตัวนี้ก็คงยอมนอนอยู่ในทุ่งตลอดทั้งคืนแน่นอน เพราะความรู้สึกที่ถูกลมหายใจอันบางเบาของจิตวิญญาณโอบล้อมอยู่ทั่วทุกสารทิศนั้นดีเหลือเกิน และที่นี่ เฉียวเฉียวกำลังเก็บผักอยู่ ส่วนซ่งถานก็หันไปถ่ายคลิปวิดีโอของวัวและลุงหลี่ ก่อนจะได้คลิปที่มีกลิ่นอายของชนบทในที่สุด

ถึงแม้ว่าดอกถั่วม่วงบางส่วนจะยังไม่บานสะพรั่ง แต่เธอก็ได้วิดีโอสำหรับคลิปโปรโมทแรกของเธอแล้ว

ยอดดอกถั่วม่วงห้าหรือหกแปลง ขายให้กับลูกค้ารายย่อยที่ตลาดแบบนี้ ทั้งเหนื่อยทั้งไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ แม้ว่าซ่งถานจะอยากได้เงินก็จริง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอก็อยากให้คนอื่นที่อยู่นอกเหนือจากตลาดริมน้ำ ได้มีความสุขกับการกินผักป่าเธอบ้างเช่นกัน

ดังนั้น เธอจึงวางแผนที่จะรุกขายตลาดโลกออนไลน์มานานมากแล้ว เดิมทีตั้งใจจะใช้ดอกถั่วม่วงที่กำลังเบ่งบานนี้แหละ ถ่ายออกมาเป็นคลิปวิดีโอที่สวยงามเพื่อเรียกกระแสให้โด่งดัง

แต่ยอดดอกถั่วม่วงกินได้อร่อยเฉพาะตอนที่เป็นยอดอ่อนเท่านั้น พอบานได้สักพักก็จะเริ่มแก่ รสชาติไม่น่ารับประทาน เธอจึงต้องตัดต่อวิดีโออื่นๆ ขณะที่เก็บผักป่า ขณะที่ขายผักในตลาด และภาพของทุ่งนา ผสมเข้าไปบ้าง เพื่อให้ผักอื่นๆ ได้มีที่ยืนในแพลตฟอร์มออนไลน์สักนิด

ในปัจจุบันจังหวะชีวิตผู้คนส่วนใหญ่มักจะตึงเครียด ความกดดันก็มาก คนที่ชอบวิดีโอในชนบทก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าคลิปวิดีโอของซ่งถานจะถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ ทำให้การจัดองค์ประกอบของฟิลเตอร์ออกมาแบบเรียบง่าย แต่ก็ชนะเลิศตรงที่ครอบครัวของพวกเธอกำลังทำงานในฟาร์มจริงๆ ไม่ได้หลอกลวงคนดู ทั้งผักป่าที่เขียวขจีและดอกไม้ม่วงสดใสราวกับว่าจะสามารถกระโดดออกจากหน้าจอได้

เธอใส่เพลงง่ายๆ จากนั้นก็แขวนลิงก์ร้านค้าเถาเป่าที่เพิ่งสมัครใหม่ ชื่อนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา

[ดอกไม้ไร้ชื่อในความทรงจำวัยเด็ก ร้านดอกไม้สีม่วง]

ตัวอักษรขนาดเล็กด้านล่าง :

"ยอดดอกถั่วม่วงอ่อนกำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ช่วงโปรโมชันจัดส่งฟรีทั่วประเทศ! สามารถรับชมไลฟ์สดการเก็บเกี่ยวได้ในเร็วๆ นี้"

การจัดส่งฟรีทั่วประเทศเป็นขีดจำกัดของซ่งถานแล้ว ราคาจึงไม่สามารถลดลงได้อีกแม้แต่น้อย ยังคงเป็นสามสิบหยวนต่อกิโลกรัมเช่นเดิม

วิดีโอแรกที่วางลิงก์ขายโดยตรง เมื่อพิจารณาจากทั้งเว็บ ซ่งถานเห็นว่ามีเพียงแต่ร้านของเธอเท่านั้นที่สินค้าเป็นผัก ความตั้งใจในการหาเงินนั้นชัดเจนมาก เธอไม่รู้ว่าจะมีใครซื้อหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เส้นทางล้วนต้องดำเนินไปทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน

ช่วงเวลาที่สดของดอกต้นถั่วม่วงก็มีเวลาเหลือเพียงสิบวันหรือราวๆ ครึ่งเดือนเท่านั้น ขายได้เท่าไหร่ก็ขายไปเถอะ ขายไม่ออกก็พลิกดินแล้วทำเป็นปุ๋ยหมักให้หมด ก็ยังมีประโยชน์

ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ตั้งใจจะใช้ดอกต้นถั่วม่วงเป็นปุ๋ยหมักตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นา การขายผักเป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น

คลื่นลูกนี้จึงถือว่าไม่ลืมจุดประสงค์ตั้งแต่แรกก็เพียงพอ ส่วนเรื่องการขายผักออนไลน์จะไม่มีใครซื้อเลยหรือไม่...อันนั้นก็ยังไม่มีใครรู้ ซ่งถานเชื่อว่า ตราบใดที่มีคนลองซื้อชิมสักหน่อย เธอจะต้องรักษาลูกค้าคนนั้นให้เป็นขาประจำได้อย่างแน่นอน!

นี่คือข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด