ตอนที่แล้วบทที่ 23 เอาไปประมูลขายเลยดีไหม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้

บทที่ 24 งานของลุงชีช่างมีจิตวิญญาณจริง ๆ


บทที่ 24 งานของลุงชีช่างมีจิตวิญญาณจริง ๆ

ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าให้พวกเขาตั้งราคา พวกเขาก็คงไม่รู้จะตั้งยังไง

ในห้องไลฟ์สดถึงจะพูดว่ามีคนที่อยากได้จริงๆ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่กำลังป่วน

สู้เอาไปประมูลเลยดีกว่า

ไม่แน่ว่าอาจจะใช้โอกาสนี้เปิดตลาดกระถางต้นไม้แกะสลักอื่นๆ ได้อีกด้วย

เมื่อมี 'ของดีประจำร้าน' ที่ดูดีมีระดับอยู่ด้านหน้า เวลาที่คนมองดูกระถางกล้วยไม้สกุลหวายแกะสลักที่มีราคาไม่กี่ร้อยหยวน พวกเขาก็อาจจะรู้สึกว่ามันถูกมากก็ได้!

หลังจากที่เฉินจิ่วซือพูดความคิดของตัวเองออกมา คุณตาก็ไม่ได้คัดค้าน

นี่ไม่ใช่โอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองหรอกหรือ

ถ้าสามารถขายงานแกะสลักหินภูเขาไฟนี้ในราคาที่เทียบเท่าทองคำได้ มันก็คงเป็นการเปลี่ยนสิ่งที่ไร้ค่าให้กลายเป็นสิ่งที่มีค่า และเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งที่เขาทำมาตลอดชีวิต

เมื่อเรื่องทุกอย่างถูกตัดสินใจได้แล้ว เฉินจิ่วซือก็เปลี่ยนเรื่อง "ในเมื่อเรื่องนี้ตัดสินใจได้แล้ว งั้นพวกเราไปดูที่ห้องทำงานกันหน่อยดีไหม ทำงานมาสองวันครึ่งแล้ว ออกไปเดินเล่นบ้าง จะได้ผ่อนคลาย"

"ได้สิ ฉันก็อยากจะดูเหมือนกันว่าฝีมือการแกะสลักของพวกเขาลดลงหรือเปล่า" คุณตาฝูพยักหน้าในทันที

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฝูจือหยินได้บอกแผนการทั้งหมดให้เขาฟังแล้ว ทำให้เขาเข้าใจความสำคัญของห้องทำงานนี้

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่บอกว่าเพื่อนเก่าของเขานั้นตอนนี้ก็แทบจะไม่มีรายได้เลยเช่นกัน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ พวกเขาก็จะมีรายได้

คนแก่แล้ว ยังไงก็ต้องมีค่าใช้จ่าย

"ถ้ามีคุณตาฝูคนเดียว งานที่ผลิตมันก็จะจำกัด ผมเห็นว่าพวกเราในห้องไลฟ์สดมีคนที่อยากได้กระถางต้นไม้หินภูเขาไฟเยอะแยะเลยใช่มั้ยครับ พวกเราก็เลยรวมตัวคนที่แกะสลักเก่งๆ ในหมู่บ้านมาตั้งห้องทำงาน แล้วก็มาแกะสลักกระถางกล้วยไม้สกุลหวายหินภูเขาไฟโดยเฉพาะ"

ระหว่างทางไปศาลากลางหมู่บ้าน เฉินจิ่วซือก็อธิบายให้กับผู้ชมในห้องไลฟ์สดฟัง "เดี๋ยวทุกคนลองดูนะครับว่ามีอะไรที่ชอบกันไหม"

จริงๆ แล้วแฟนคลับส่วนใหญ่ก็เข้าใจดีว่า 28 นักษัตรของคุณตาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขามากนัก

ไม่ต้องพูดถึงราคาของงานชิ้นใหญ่แบบนี้เลย แค่ซื้อไปแล้วจะเอาไปวางไว้ที่ไหนก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนธรรมดารู้สึกปวดหัวแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะซื้อไหว

แต่พอได้ยินสิ่งที่เฉินจิ่วซือพูด แต่ละคนก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

งานชิ้นใหญ่ของคุณตาคงจะซื้อไม่ได้ แต่ถ้าได้งานแกะสลักของคนอื่นที่มีขนาดเล็กลงมาแล้วก็ราคาถูกลงก็น่าสนับสนุน

ถ้าคนในหมู่บ้านของเฉินจิ่วซือทำงานนี้กันได้ บางทีอาจจะลดราคาลงมาเหลือแค่หลักสิบหรือหลักร้อยมันก็คงจะสุดยอดมาก

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่บอกว่ามันก็ดูดีมีระดับก็น่าซื้อมากพออยู่แล้ว

กระถางต้นไม้ที่ไหนจะเป็นงานศิลป์แบบนี้

ไม้กระถางของใครจะบำรุงไต แถมยังบำรุงความร่างกายได้ด้วยแบบนี้

ราคาถูก แถมยังดูดีมีระดับ แถมยังมีประโยชน์

ไม่ว่าจะพูดยังไงก็คุ้มค่าสุดๆ ไปเลย

ข้อความในห้องไลฟ์สดเองก็กำลังถูกรัวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

ในสายตาของฝูจือหยินเต็มไปด้วยความยินดี

จากสถานการณ์ของข้อความเหล่านี้ ดูเหมือนว่ากระถางกล้วยไม้สกุลหวายหินภูเขาไฟในราคาหลักร้อยก็น่าจะมีคนจำนวนมากที่ยอมรับได้...

"โห ไอ้เจ้านี่มันทำเงินได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมฉันรู้สึกว่าเวลาที่ใช้ไปกับการปลูกกล้วยไม้ตั้งสามปีสู้พวกคุณลุงคุณตาไม่ได้เลยเนี่ย"

เธอเกือบจะอุทานออกมา แต่ก็ยังรู้ตัวว่ากำลังไลฟ์สดอยู่ เลยต้องกลั้นเอาไว้

เมื่อคิดได้ดังนั้น ฝูจือหยินก็เหลือบมองเฉินจิ่วซือ

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินจิ่วซือนึกถึงไอเดียการรวมการแกะสลักกับกระถางกล้วยไม้สกุลหวาย พวกเขาก็คงจะนั่งอยู่บนกองทองแล้วก็ขอทานไปวันๆ ต่อไปอีกนาน

งานแกะสลักหินภูเขาไฟที่ไม่เป็นที่ต้องการ เมื่อมาเจอกับกล้วยไม้สกุลหวาย ก็กลับมีปฏิกิริยาทางเคมีที่สุดยอดแบบนี้ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งน่าตื่นเต้นจริงๆ!

แบบนั้นเอง เธอก็ถือโทรศัพท์ที่ใช้ไลฟ์สดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและเดินตามหลังเฉินจิ่วซือไป แล้วก็มาถึงศาลากลางหมู่บ้านโดยไม่รู้ตัว

ห้องกิจกรรมตรงมุมตะวันออกเฉียงเหนือของลานแห่งนี้ ได้กลายเป็นห้องทำงานไปแล้ว

และยังไม่ทันที่จะเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากข้างใน

"พวกเขาทะเลาะอะไรกันเนี่ย"

เฉินจิ่วซือขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วก็รีบเดินเข้าไปข้างใน

ทำไมจู่ๆ ถึงทะเลาะกันล่ะ

ปกติตอนที่ทุกคนนั่งตากแดดคุยเล่นกันที่ปากทางเข้าหมู่บ้านก็ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา

ตอนนี้มีคนดูไลฟ์สดเป็นแสนๆ คน ถ้าเกิดมีภาพที่ไม่ดีออกไปจะทำยังไงล่ะเนี่ย

"ผู้ใหญ่บ้านมาพอดีเลย!"

"จิ่วซือ มาตัดสินหน่อยสิ นี่เป็นแบบที่ฉันออกแบบมาโดยเฉพาะ มันสามารถผสมผสานกับการปลูกกล้วยไม้สกุลหวายได้อย่างลงตัว แต่พวกเขากลับบอกว่างานแกะสลักของฉันไม่ดี!"

"ก็ดูที่แกแกะสิ มันจะไปมีคนอยากซื้อได้ยังไงเล่า?!"

เมื่อเห็นเฉินจิ่วซือเดินเข้ามา ห้องทำงานก็เงียบลงไปชั่วขณะ แล้วก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีกครั้ง

และจากนั้นไม่นาน เฉินจิ่วซือก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่

"ลุงชี แล้วคุณแกะสลักอะไรไปหรอ ทำไมทุกคนถึงเป็นแบบนี้กัน

เฉินจิ่วซือมองไปที่คุณตาที่เพิ่งคุยโม้เมื่อกี้ ด้วยความสงสัย

ฝีมือของคนพวกนี้ไม่ได้เก่งเท่าคุณตาฝู

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ

แถมเมื่อก่อนก็แกะสลักอยู่แค่ไม่กี่อย่าง ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องทะเลาะกันเลย

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น คุณลุงชีก็หันไปด้านข้าง แล้วก็ชี้ไปที่โต๊ะที่ไม่ไกล

"ว้าว ซี้ดดดดด"

เฉินจิ่วซือถึงกับสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ

นี่มันของจริง นี่มันของแทร่!

ถ้าเอาผลงานแกะสลักของคุณลุงชีไปลงอินเทอร์เน็ตให้คนเห็นกันเยอะๆ อุณหภูมิโลกคงจะสูงขึ้นอีกสององศาแน่ๆ

ก่อนที่เฉินจิ่วซือจะได้พูดอะไร ฝูจือหยินก็หันไปดูบ้าง

และในขณะเดียวกัน กล้องในห้องไลฟ์สดก็หันไปด้วย

"ถ้าฉันไม่ได้ตาฝาด.. นั่นมันชักโครกใช่ไหม.."

"คุณลุงชีทำอะไรแปลกๆ อีกแล้วเหรอ.."

"คุณลุงแกะสลักเป็นชักโครกจริงหรอเนี่ย!"

"มีคนแก่ที่ไหนคิดถึงเรื่องที่คนไม่ค่อยทำกันแบบนี้ได้เนี่ย"

ก่อนที่แฟนคลับในห้องไลฟ์สดจะได้สงสัยอะไร เฉินจิ่วซือก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย แล้วก็ถามด้วยความงงงวย "คุณลุงชี นี่คุณลุงแกะสลักเป็นอะไรเหรอครับ"

"มีเงินใช้ทันทีไงล่ะ!"

คุณลุงชีรีบเดินไปที่ 'ชักโครก' แล้วก็เปิด 'ฝาชักโครก'

โอ้โห!

เหรียญเฉียนหลง!

*** เหรียญจีนโบราณ ของมงคลในตำนานเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่งคั่งชาวจีนโบราณถือว่าเป็นสิ่งที่จะนำโชคลาภมาให้ ***

'ฝาชักโครก' ของผลงานแกะสลักรูป 'ชักโครก' นี้มันเปิดปิดได้ แถมยังแกะสลักเป็นเหรียญเฉียนหลงอีกด้วย!

"เหรียญเฉียนหลงหรอ แล้วชักโครกก็คือม้างั้นเหรอ ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยตัดสินหน่อย ผมบอกว่างานแกะสลักของเขาดูมีปัญหา มันไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของคุณ แต่เขากลับคิดว่าตัวเองคิดถูกเนี่ย"

*** ตรงจุดนี้ผู้แปลไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมเป็นม้า แต่เดาว่าน่าจะสื่อถึงพวกรูปปั้นม้าลากเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าพูดถึงงานแกะสลักที่มีเหรียญก็มักจะนึกถึงรูปปั้นม้าลากเหรียญ ที่มักใช้สื่อถึงการลากสมบัติเงินทองเข้าบ้าน ***

"ชักโครกทำไมจะไม่ใช่ม้าล่ะ มันก็ใช้นั่งขี่ นั่งขี้ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่าง งานของฉันใช้เครื่องมือและฝีมืออย่างมีชั้นเชิง ถ้าฉันให้แกทำแบบฉัน แกก็คงจะปาดมันทิ้งไปครึ่งหนึ่งแน่ๆ" คุณลุงชีพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "แล้วอีกอย่าง คุณไม่คิดว่าการเอามันไปปลูกกล้วยไม้สกุลหวายจะเข้ากันได้เหรอไง"

"เห้อ ก็ได้ๆๆ แกเก่งมากก็ได้ แล้วไอ้งานข้างๆ นั่นมันอะไรกันล่ะนั่น แกะสลักเป็นมังกรก็ดูดีอยู่หรอก แต่ข้างบนทำไมถึงมีหมูตัวการ์ตูนแปลกๆ นั่นได้เล่าตาชี!"

"เป็ปป้าพิกขี่มังกรไงเล่า จะลูกหลานเหลนโหลนของฉันก็ชอบมันทั้งนั้น! แกไม่ทำการบ้านหน่อยหรอว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้เขาชอบอะไรกัน อีกอย่าง เอาไปใช้ปลูกกล้วยไม้สกุลหวายก็เข้ากันดีไม่ใช่เหรอไง หรือแกจะให้ฉันแกะสลักเป็นเกาะจงซานแบบแกงั้นเหรอ ใครมันจะอยากเอาไปวางบนโต๊ะกันเล่า"

"ละ.. แล้วนี่ล่ะ ไดโนเสาร์กำลังสู้กับหมาป่างั้นหรอ มันอะไรกันเนี่ย......"

...???

ในหัวของเฉินจิ่วซือเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

ในขณะที่ฟังเหล่าคุณลุงคุณตาปะทะฝีปากกัน เขารู้สึกงงไปหมด

ตั้งแต่ที่เห็นชักโครกนั่นแล้ว เขารู้สึกว่าสมองของเขาตามความคิดของคุณลุงชีไม่ทันแล้ว

แต่มันไม่ใช่แค่ชักโครก มันยังมีแป็ปป้าพิกขี่มังกร ไดโนเสาร์สู้กับหมาป่า...... พวกนี้ก็ว่าไปไกลแล้วนะ แต่ตัวด้วงที่กำลังชูสัญลักษณ์อิโมจินั่นมันอะไรกัน..

ฉันคิดว่าคุณตาฝูก็สุดยอดแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะมีอีกคนที่สุดยอดเหมือนกัน ถึงแม้จะคนละความหมายก็เถอะ!

หรือว่าคุณลุงชีจะเป็นเทพแห่งมีมมาเกิดกันนะ

เขาทันสมัยขนาดนี้เลยเหรอ..

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด