บทที่ 133: ค่ำคืนเเสนสุข!
บทที่ 133: ค่ำคืนเเสนสุข!
“น้องว่าไงนะ? พูดใหม่อีกทีสิ!” เซียวรั่วเสวี่ยคิดว่าตัวเองหูฝาดไป
เซียวซิงหยูแสดงท่าทีเขินอายอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น เเล้วเอ่ยเสียงเบาๆ
"พี่สาว คืนนี้ผมขอนอนกับพี่ได้ไหม?"
บรรยากาศเริ่มอึดอัดและสับสน
ณ ขณะที่เซียวซิงหยูคิดว่าพี่สาวกำลังโกรธ เซียวรั่วเสวี่ยก็หัวเราะออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เซียวหยู ทำไมจู่ๆถึงขอแบบนี้ล่ะ?”
“พี่สาว ตั้งแต่เด็กจนโต พวกเราก็นอนด้วยกันมาตลอด นี่เป็นเรื่องปกติ…จะเรียกว่าจู่ๆได้ยังไง”
เซียวซิงหยูพูดเรื่องจริง เพราะพี่น้องทั้งสองไม่มีพ่อแม่ ต้องอาศัยรายได้เล็กๆน้อยๆจากการทำงานของพี่สาวเช่าห้องเล็กๆอยู่ด้วยกัน
ดังนั้น ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา เซียวซิงหยูจึงนอนบนเตียงเดียวกับเซียวรั่วเสวี่ยมาโดยตลอด
“เซียวหยู น้องพูดถูก แต่ตอนนี้ฐานะของเราดีขึ้นแล้ว อพาร์ตเมนต์มีทั้งห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก มีห้องให้เรานอนแยกกันได้แล้ว”
เเต่เซียวซิงหยูตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาจึงเข้าไปซุกตัวเเล้วออดอ้อนเซียวรั่วเสวี่ย
“พี่สาว ขอร้องล่ะ ผมอยากนอนกับพี่ ไม่อย่างนั้นผมจะฝันร้าย~”
เซียวรั่วเสวี่ยดีดหน้าผากเซียวซิงหยูด้วยความเอ็นดู
“นี่น้องไม่ใช่เด็กหกขวบแล้วนะ ยังมาอ้อนพี่สาวอีกเหรอ? ไม่ได้ผลหรอก กลับไปนอนห้องตัวเองได้แล้ว!”
“พี่สาว ผมจะนอนกับพี่!” เซียวซิงหยูยังคงตื๊อไม่เลิก
เเละในที่สุด เซียวรั่วเสวี่ยก็ต้องยอมแพ้
นอกจากที่เซียวรั่วเสวี่ยใจอ่อนแล้ว มันยังมีปัจจัยภายนอกอีกอย่างหนึ่ง
นั่นคือ คืนนี้เมืองหลงอิ๋นมีหิมะตกจนอากาศหนาวมาก
ห้องของเซียวซิงหยูไม่มีเครื่องทำความร้อน แถมหน้าต่างยังรั่วอีก, เซียวรั่วเสวี่ยสงสารน้องชาย จึงต้องยอมทำตามคำขอที่ไร้เหตุผลของเขา
ส่วนเย่ซือเหมิง กำลังนอนหลับสบายอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
ในห้องนั่งเล่นมีเครื่องทำความร้อน สาวน้อยโลลิอกโตคนนี้คงไม่หนาวเเน่ๆ
…..
“พี่สาว ผมมานอนด้วยแล้ว!”
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เซียวซิงหยูก็ย่องเข้าไปในห้องของเซียวรั่วเสวี่ย กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วราวกับกระต่ายน้อย
“เซียวหยูเบาๆหน่อย พี่แทบจะกระเด็นตกเตียงอยู่แล้ว!”
เซียวรั่วเสวี่ยพูดอย่างอ่อนใจ มองน้องชายด้วยแววตาที่ซับซ้อน
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนที่เซียวซิงหยูยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ เซียวรั่วเสวี่ยต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่
ตอนนั้น เธอเเค่ใช้แขนข้างเดียวก็สามารถกอดเซียวซิงหยูที่ตัวเล็กผอมบางไว้ได้
เเค่เวลาตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผ่านไปเร็วมาก ตอนนี้เซียวซิงหยูเติบโตเป็นหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่กว่า 180 เซนติเมตร เเถมยังแข็งแรงกำยำอีกต่างหาก
“แป๊บเดียวน้องก็โตเป็นหนุ่มแล้ว แขนข้างเดียวของพี่กอดน้องไม่ได้แล้ว” เซียวรั่วเสวี่ยถอนหายใจด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมกอดพี่เอง!”
เซียวซิงหยูมุดเข้าไปในผ้าห่ม โอบกอดเซียวรั่วเสวี่ยไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง
ร่างของเซียวรั่วเสวี่ยสั่นเล็กน้อย ก่อนจะผ่อนคลายลง จากนั้นรอยยิ้มอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเธอ
"เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เด็กคนนี้โตขึ้นมากแล้ว…"
หลังจากปิดไฟ พายุฝนด้านนอกก็ยิ่งโหมกระหน่ำ นอกจากนี้ยังมีเกล็ดหิมะปะปนมาบางส่วนด้วย
อากาศข้างนอกหนาว แต่ในผ้าห่มกลับอบอุ่นอย่างมาก
พี่น้องทั้งสองใช้ความอบอุ่นของกันและกัน สร้างบรรยากาศการนอนที่แสนสบาย
คืนนี้ เซียวซิงหยูและเซียวรั่วเสวี่ยคุยกันมากมาย ตั้งแต่เรื่องตอนเด็กๆ จนถึงเรื่องปัจจุบัน และร่วมกันวาดฝันถึงอนาคต
"พี่สาว พอผมเรียนจบ ผมจะหาเงินเยอะๆ"
"ผมจะซื้อบ้านพักตากอากาศริมทะเล…พี่สาวจะได้ไปเดินเล่นเก็บเปลือกหอยริมทะเลทุกวัน ส่วนผมจะออกไปปราบอสูรร้าย สร้างชื่อเสียง แล้วกลับมากินอาหารที่พี่สาวทำให้ นี่คือชีวิตที่ผมต้องการ"
ทุกคำพูดของเซียวซิงหยูล้วนมาจากใจจริง
เซียวรั่วเสวี่ยซบอยู่ในอ้อมแขนของน้องชาย รอยยิ้มบนใบหน้าเบ่งบานราวกับดอกไม้
"พี่จะตั้งตารออนาคตที่เธอวาดไว้นะ"
การเกิดในยุคสมัยที่วุ่นวายเเบบนี้ สิ่งที่มีค่าที่สุดคือการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ปรมาจารย์อสูรระดับสูงหลายคน ต่อสู้มาหลายสิบปี ก็ยังไม่สามารถมีชีวิตแบบนี้ได้
การพูดคุยของทั้งคู่ดำเนินไปจนถึงตีหนึ่ง จากนั้นห้องพักก็กลับมาเงียบสงบ
ตอนนี้ เซียวซิงหยูนอนหลับไปแล้ว
ก่อนนอน เซียวซิงหยูเป็นคนกอดเซียวรั่วเสวี่ย…แต่หลังจากหลับไป ทุกอย่างก็เหมือนย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน
ร่างกายสูง 180 ของเซียวซิงหยู ม้วนตัวเข้าไปซุกลงในอ้อมกอดของเซียวรั่วเสวี่ยอย่างน่าเอ็นดู
……
เช้าวันรุ่งขึ้น
เซียวรั่วเสวี่ยตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสบายใจ
เมื่อเห็นเซียวซิงหยูที่นอนกรนเบาๆ ในอ้อมแขน เธอก็รู้สึกขบขันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
"ไม่ได้นอนกับเด็กคนนี้มานานแล้วเเฮะ, ความรู้สึกนี้ทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่"
เซียวรั่วเสวี่ยไม่รีบลุกจากเตียง เธอยกมือลูบไล่ไปตามจมูกโด่งๆของเซียวซิงหยู
สายตาที่พี่สาวมองน้องชาย เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู
ในตอนนั้นเอง เซียวซิงหยูเหมือนละเมอ เตะผ้าห่มออก
เนื่องจาก เขาใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว…เซียวรั่วเสวี่ยจึงมองเห็นส่วนที่ไม่ควรมอง เเล้วใบหน้าแดงก่ำทันที
"เซียวหยูโตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ…"
เซียวซิงหยูอยู่ในววัยรุ่น ตอนเช้าจะมีปฏิกิริยาทางสรีรวิทยาของผู้ชาย จึงไม่เหมาะที่จะนอนกับพี่สาวอีก…ไม่อย่างนั้นมันก็จะเจอกับสถานการณ์น่าอายแบบนี้ตลอด
เซียวรั่วเสวี่ยจับใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเอง รีบลงจากเตียงเเล้วไปล้างหน้าทันที
"เซียวหยู ตื่นมากินข้าวเช้าได้แล้ว!"
สิบห้านาทีต่อมา เซียวซิงหยูก็ตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมจากในครัว
เขากระโดดลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟันล้างหน้า
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ เซียวซิงหยูคิดอะไรบางอย่างออก เขาจึงล็อคประตูห้องน้ำเเล้วเปิดแหวนมิติออกมา
"ไม่ได้ดูการเติบโตของเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์มานานแล้ว, ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"
เซียวซิงหยูพึมพำกับตัวเองพลางหยิบกระถางต้นไม้ออกมาจากแหวนมิติ
"หืม…มันโตเร็วมาก!"
เซียวซิงหยูตกตะลึงกับภาพที่เห็น
ในกระถางต้นไม้อย่างมาก
ภายในกระถางตอนนี้ มีเถาวัลย์สีเงินรูปทรงเกลียวเลื้อยพันขึ้นมาความยาวของเถาวัลย์ เหมือนกับงูจนเติมเต็มห้องน้ำทั้งหมด!
บนเถาวัลย์สีเงินมีหนามเล็กๆงอกออกมามากมาย แต่ละอันมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ขยับเบาๆตามลมหายใจของเซียวซิงหยู
เมื่อเทียบกับต้นอ่อนสีเขียวเล็กๆเมื่อก่อน ตอนนี้เถาวัลย์สีเงินที่ดูละเอียดอ่อนนี้ เริ่มมีลักษณะและพลังของอสูรโบราณแล้ว
เซียวซิงหยูเปิดใช้งานดวงตามาร ตรวจสอบข้อมูลของเถาวัลย์สีเงิน
"เหลือแค่ส่วนผสมสุดท้าย ถ้าได้น้ำหวานจากดอกวิญญาณเรืองเเสงมา ก็จะทำให้เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์กลายเป็นอสูรที่แท้จริงได้"
เถาวัลย์พันรอบตัวเซียวซิงหยู หนวดเถาวัลย์ของมันสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยนเพื่อแสดงความสนิทสนม
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดแค่น้ำหวานจากดอกไม้วิญญาณเรืองเเสงเท่านั้น!
เเละน้ำหวานจากดอกไม้วิญญาณเรืองเเสงต้องไปเอาที่เมืองหวงเยียน ชายแดนด้านตะวันตก
"เซียวหยู น้องทำธุระในห้องน้ำนานจัง น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋จะเย็นเเล้วนะ!"
"พี่สาว ผมกำลังจะออกไปเเล้ว!"
เซียวซิงหยูเก็บกระถางต้นไม้เข้าแหวนมิติ จัดเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
"อาหารเช้าวันนี้เยอะจัง~"
เซียวซิงหยูพึมพำอย่างอารมณ์ดีเเล้วเริ่มทานอย่างเอร็ดอร่อย
เซียวรั่วเสวี่ยปอกไข่ให้เขา ส่วนเย่ซือเหมิงตักซุปให้
มื้อเช้าผ่านไปอย่างมีความสุข จากนั้นเซียวซิงหยูก็เดินไปวิทยาลัยเพื่อเตรียมตัวสอบกลางภาค
………………….