บทที่ 616: ไพ่ตายใบสุดท้าย ความพยายามในการเป็นซูเปอร์ไซย่า 5!
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 616: ไพ่ตายใบสุดท้าย ความพยายามในการเป็นซูเปอร์ไซย่า 5!
“น่าสนใจ! เจ้าเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยพลังแห่งการรังสรรค์ของปีศาจตนนั้น”
“แต่น่าเสียดาย เจ้าใกล้จะสิ้นชีพอีกครั้งแล้ว”
สิ้นคำประกาศิต ลูกพลังงานในมือซารามะก็ก่อรูปอย่างสมบูรณ์ เขาสะบัดข้อมือเหวี่ยงมันลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว
ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความสิ้นหวัง เมื่อเห็นลูกพลังงานสีทองอร่ามค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ ราวกับดวงอาทิตย์ดวงน้อยที่กำลังจะเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง
ปราศจากเบจิต้า พวกเขาแทบจะไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะต้านทานการโจมตีอันรุนแรงนี้ นับประสาอะไรกับการเอาชนะซารามะ
จิเรน? ท็อปโปะ? ฟรีเซอร์?
แม้แต่พลังของพวกเขารวมกัน ก็คงไม่อาจผลักลูกพลังงานสีทองอร่ามนั้นออกไปได้ อย่าว่าแต่จะต้านทานมันไว้ได้สักเสี้ยววินาทีเลย
โกฮัง พิคโกโร่ หลินลั่ว และทาโร่—ไม่ต้องพูดถึงพลังของพวกเขาเลย เพียงแค่เฉียดกรายเข้าใกล้ลูกพลังงานนั่นในรัศมีสิบเมตร พวกเขาก็คงม้วยมรณาเพราะแรงกดดันอันมหาศาล!
เป็นไปไม่ได้
มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
ครั้งนี้ โลกถึงกาลอวสานอย่างแท้จริง…
“ยัง!”
ทันใดนั้น เสียงตะโกนก้องกังวานก็ปลุกทุกคนให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์
พวกเขามองขึ้นไปเบื้องบน เห็นหลินเฉินก้าวออกมา มือประคองลูกพลังงานเอาไว้
ทว่า เมื่อเทียบกับลูกพลังงานของซารามะ ไม่ว่าจะขนาดหรือพลัง ลูกพลังงานของหลินเฉินก็ดูด้อยกว่ามากมายนัก
แท้จริงแล้ว แม้แต่พวกเขาคนใดคนหนึ่งก็สามารถรับมือกับพลังงานปริมาณนั้นได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงซารามะ
ทว่าในขณะนั้นเอง หลินเฉินก็เอ่ยขึ้นว่า “เหล่าไซย่าทั้งหลาย ก้มหน้าลง อย่ามองขึ้นไปบนฟ้า!”
ทันทีที่สิ้นเสียง หลินเฉินก็เหวี่ยงพลังงานทรงกลมที่อยู่ในมือขึ้นไปบนท้องฟ้าเบื้องบน
จากนั้น เบื้องหลังพลังงานทรงกลมสีทองอร่ามขนาดมหึมาของซารามะ พลังงานของหลินเฉินก็ระเบิดออก สว่างวาบไปทั่วทั้งฟ้า
“หือ? นั่นอะไรน่ะ?” ซารามะเอ่ยอย่างงุนงง สงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่โกคู โบรลี่ และคนอื่น ๆ ต่างเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาร้องบอกหลินลั่วและทรังคซ์ให้ก้มหน้าลงเช่นกัน พร้อมกับก้มศีรษะลงตามคำเตือนของหลินเฉิน
ส่วนโกฮังนั้นไม่มีใครบอกให้ก้มหน้าลง
เพราะไม่ว่าเขาจะมองหรือไม่มองก็ไม่ต่างกัน เขาไม่มีหางอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องแสงจากดวงจันทร์
โกคูและพรรคพวกต่างตระหนักได้ในทันทีว่าหลินเฉินกำลังจะแปลงร่างเป็นวานรยักษ์!
แต่การแปลงร่างเช่นนี้จะต้านทานพลังของซารามะได้จริงเหรอ?
ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของทุกคน หลินเฉินเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง
กระบวนการแปลงร่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาวานรยักษ์สีทองอร่ามขนาดมหึมาก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า
ทว่า แม้วานรยักษ์ตนนี้จะทรงพลังเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบชั้นกับซารามะได้ กระทั่งเบจิต้าก็ยังเหนือกว่า
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซารามะซึ่งชะลอพลังคลื่นยักษ์ของตนเอาไว้เพื่อรอดูแผนการของหลินเฉิน จะเผยสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“แค่นี้เองรึ? แปลงร่างเป็นลิงเพราะเห็นว่าข้าชอบเรียกเจ้าแบบนี้งั้นเหรอ? น่าขันเสียจริง! ตายซะ!”
พลังคลื่นยักษ์สีทองที่ถูกชะงักค้างเติ่งอยู่กลางอากาศพลันเคลื่อนตัวลงมาอีกครั้ง
ทว่าในเสี้ยววินาทีนั้น หลินเฉินในร่างวานรยักษ์สีทองกลับหยุดนิ่งราวกับต้องมนตร์ ฟ้าคำรามลั่น ท้องฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ ประกายสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ราวกับมังกรฟ้ากำลังร่ายรำอยู่รอบกายเขา
กระแสไฟฟ้าวิ่งวนทั่วขนสีทองอร่ามดุจดวงตะวัน
“นั่นมันอะไรกัน…”
เพราะทันทีที่สายฟ้าปรากฏ ทุกคนสัมผัสได้ถึงพลังออร่าของหลินเฉินที่พลุ่งพล่านขึ้นอีกขั้น
“แปลกจังเลย ทำไมพลังของลุงหลินเฉินในร่างวานรยักษ์สีทองถึงเพิ่มขึ้นได้อีกล่ะครับ? หรือว่ายังมีร่างที่แข็งแกร่งกว่าวานรยักษ์สีทองอีก?” โกฮังพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
พอได้ยินคำพูดของลูกชาย โกคูพลันเข้าใจทุกสิ่ง
“หรือว่าจะเป็น... วานรยักษ์สีทองร่างสอง! พี่หลินเฉินกำลังจะทะลวงขีดจำกัดไปสู่ซูเปอร์ไซย่าร่างห้าอย่างนั้นเหรอ!”
“ซูเปอร์ไซย่าร่างห้าเหรอ?” เบจิต้าอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “แต่ฝ่าบาทลิงค์ยังไม่อาจก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นได้ไม่ใช่เหรอ?”
จิเรนรู้สึกสับสนยิ่งนัก จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน? พวกไซย่ายังมีร่างที่เหนือกว่าซูเปอร์ไซย่าร่างสี่อีกอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ นั่นคือสิ่งที่พี่ชายลิงค์เคยคาดการณ์เอาไว้” โบรลี่อธิบาย “เขาบอกว่าเหนือกว่าซูเปอร์ไซย่าร่างสี่น่าจะมีระดับที่สูงกว่านั้นอีก แต่พี่ชายลิงค์ไม่เคยบรรลุถึงขีดจำกัดนั้นได้เลย”
“ปัญหาสำคัญอยู่ที่ร่างวานรยักษ์สีทองขั้น 2 ที่พี่ลิงค์ติดอยู่ในตอนนี้! เขาบอกว่าหากควบคุมสติในร่างวานรยักษ์สีทองขั้น 2 ได้ ก็อาจจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าร่าง 5 ได้ แต่เขายังไม่เคยทำสำเร็จเลย!”
โกคูเสริมว่า “เมื่อชาวไซย่าแปลงร่างเป็นวานรยักษ์ พวกเขาจะสูญเสียสติไป การควบคุมสติในร่างวานรยักษ์สีทองยิ่งยากกว่า เมื่อก่อนเพื่อที่จะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าร่าง 4 พวกเราก็ลำบากยากเย็นแสนเข็ญ และร่างวานรยักษ์สีทองขั้น 2 ยิ่งยากกว่านั้นมาก”
“ช้าก่อน!” ฮิตโตะร้องขัดขึ้น “เมื่อครู่บอกว่าหลินเฉินไม่เคยควบคุมร่างวานรยักษ์สีทองขั้นสองได้ แล้วตอนนี้เขา…”
ถัดมา ความเงียบสงัดก็เข้าปกคลุมทั่วบริเวณ
ทุกสายตาค่อย ๆ เลื่อนขึ้นสูง เบื้องบนนั้นปรากฏร่างของหลินเฉินในร่างวานรยักษ์สีทองขั้นสอง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองลงมายังพวกเขาอย่างน่าสะพรึงกลัว
เท้ามหึมาของมันยกขึ้นสูง เตรียมที่จะกระแทกลงมา
“วิ่ง!”
เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังระงมไปทั่ว
โชคยังดีที่การโจมตีของซารามะมาถึงในจังหวะนั้นพอดี
หลินเฉินที่อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง ตอบสนองต่อการโจมตีนั้นแทบจะในทันที
ร่างวานรยักษ์กางแขนออก รับการโจมตีของซารามะไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์!
แล้วก็คำรามลั่น พลางรัดแขนเข้าหากัน พยายามบดขยี้พลังลมปราณของซารามะ
“แข็งแกร่งเหลือเกิน! นี่คือร่างวานรยักษ์สีทองร่างที่สองงั้นเหรอ?” จิเรนอุทานเสียงดัง
หากหลินเฉินงัดไม้ตายเช่นนี้ออกมาในศึกชิงจ้าวยุทธภพทั่วจักรวาล การประลองคงจบลงภายในพริบตา
“แต่มันก็เปล่าประโยชน์ หากสติยังไม่กลับคืนมา! ในระดับนี้ ซารามะยังรับมือไหว!” เบจิต้ากล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน
ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน
พลังที่หลินเฉินปลดปล่อยออกมาในเวลานี้ แม้จะทรงพลัง แม้จะจุดประกายความหวังในการต่อกรกับซารามะอีกครา
แต่การใช้เพียงร่างกายมหึมาที่ไร้ซึ่งการควบคุมเช่นนี้ หลินเฉินไม่อาจเอาชนะซารามะลงได้
การกระทำต่อมาของซารามะก็เป็นเครื่องพิสูจน์
เมื่อเห็นพลังคลื่นของตนถูกบดขยี้ ซารามะแสยะยิ้มเยาะหยัน ก่อนจะพุ่งเข้าหาหลินเฉินอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้หลินเฉินจะใช้กรงเล็บฟาดฟันซารามะอย่างรวดเร็วปราดเปรียว แต่การโจมตีนั้นกลับไร้ซึ่งรูปแบบที่แน่นอน ซารามะที่เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระราวกับสายน้ำ จึงหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย
ซารามะแสยะยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะปล่อยหมัดพุ่งเข้าใส่หลินเฉิน พลังคลื่นกระแทกอันมหาศาลซัดร่างยักษ์ของหลินเฉินกระเด็นถอยหลังไปไกล
เลือดสีแดงฉานไหลรินจากบาดแผลกลางอก แววตาดุดันบนใบหน้าคมคายยิ่งเปล่งประกายความเกรี้ยวกราดมากขึ้นเป็นทวีคูณ
วานรยักษ์สีทองคำคำรามลั่น ทรวงอกกำยำถูกทุบตีอย่างบ้าคลั่ง พลังงานสีแดงฉานแผ่กระจายออกจากปากไปทุกทิศทุกทาง ราวกับภูเขาไฟที่ระเบิดความพิโรธออกมา
ทุกหนแห่งที่พลังงานร้ายกาจพุ่งผ่าน ภูเขาลูกแล้วลูกเล่าระเบิดหายไปในชั่วพริบตา ทะเลเหือดแห้งจนเห็นผืนทรายเบื้องล่าง ผืนดินแห้งแล้งเริ่มลุกไหม้เป็นจุล!
การโจมตีอันบ้าคลั่งของวานรยักษ์สีทองยังคงพุ่งตรงไปยังโกคูและคนอื่น ๆ อย่างไม่ลดละ
โล่พลังงานที่จิเรน ฮิตโตะ และฟรีเซอร์ร่วมกันสร้างขึ้นอย่างเร่งด่วน กลายเป็นเกราะกำบังบาง ๆ ที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้จากการโจมตีของหลินเฉิน
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_