บทที่ 55 ผลลัพธ์
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 55 ผลลัพธ์
ท่าทีของซีซี ทำให้หลินเสวียนแปลกใจเล็กน้อย นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เธอดูดีที่สุด อดทนที่สุด และคุยกับเขาได้ง่ายที่สุด จากหลาย ๆ ครั้งที่พวกเขาเจอกันมา
บางทีอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาก็ได้ หลายครั้งที่ผ่านมา พวกเขาไม่ใช่ศัตรูกัน ก็คือคนที่มีเป้าหมายแอบแฝง หรือไม่ก็ทะเลาะกันตลอด ยากที่จะได้คุยกันอย่างสงบแบบนี้
แต่ครั้งนี้สถานการณ์ทุกคนต่างออกไป เพราะมีเป้าหมายร่วมกัน ทุกคนจึงร่วมมือกัน
ถึงแม้สุดท้ายจะเปิดตู้เซฟไม่ได้ แต่พวกเขาก็ได้ความไว้วางใจจากซีซีอย่างแท้จริง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเขาเป็นครั้งแรก
“ได้ ผมพูดก่อน”
หลินเสวียนพิงตู้เซฟที่ยังเปิดไม่ได้ แล้วค่อย ๆ เล่าเรื่องราวที่เขารู้จักหลินเสวียนให้ซีซีฟัง…… จริง ๆ แล้วก็คือการแนะนำตัวของเขานั่นแหละ
เขาเริ่มเล่าตั้งแต่จบมหาวิทยาลัย จนถึงงานปัจจุบัน เหมือนการสัมภาษณ์งานเลยทีเดียว แต่แล้วเขาก็พูดไปได้เพียงครึ่งเดียว——
“พอแล้ว ไม่ต้องเล่าต่อแล้ว”
ซีซีขัดเขา ส่ายหัวเบา ๆ :
“หลินเสวียนที่คุณรู้จัก ต้องไม่ใช่คนเดียวกับเจ้าของตู้เซฟนี้แน่”
“ทำไมเหรอ?”
หลินเสวียนไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาก็สงสัยแบบนั้นเหมือนกัน สงสัยว่านี่ไม่ใช่ตู้เซฟของเขา
แต่ถึงจะสงสัย…แต่ลึก ๆ เขาก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง ถ้าหากตู้เซฟนี้เป็นตู้เซฟที่เขาฝากไว้ในปี 2032 หรือ 2042 ล่ะ? เรื่องนี้ก็เป็นไปได้ในทางตรรกะ
เพราะตอนนี้ปี 2022 ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะไปเปิดตู้เซฟ ฉะนั้นเขาจึงยังไม่รู้รหัสผ่าน
แต่ไม่คิดเลยว่า ซีซีจะตัดสินใจได้รวดเร็วขนาดนี้ว่า หลินเสวียนคนนี้ไม่ใช่หลินเสวียนคนเดิม เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเขาคนนั้น
“เพราะว่า...มันธรรมดามากเกินไป”
ซีซีถอนหายใจเบา ๆ :
“จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่รู้หรอกว่าหลินเสวียนตัวจริงควรจะเป็นยังไง ฉันไม่เคยรู้จักหลินเสวียนคนไหนเลยสักคน แต่ฉันรู้สึกได้...ว่านี่ไม่ใช่หลินเสวียนคนนั้นที่คุณรู้จักแน่นอน”
“เหรอ?”
หลินเสวียนยกมือขึ้น:
“งั้นถ้าคุณไม่อยากฟัง ผมก็จะไม่เล่าต่อแล้ว ถึงตาคุณตอบคำถามผมบ้างแล้วล่ะ”
ซีซีพยักหน้า แล้วเอนตัวพิงตู้เซฟ:
“ฉันก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงเหมือนกัน ตั้งแต่เด็ก ๆ ความทรงจำของฉันมันก็มั่วซั่วมาตลอด”
“ฉันอธิบายความรู้สึกนั้นไม่ถูก มันเหมือนกับว่าในหัวของฉันมีหลายความทรงจำที่ไม่ใช่ของฉัน แต่ก็เป็นชีวิตที่ฉันเคยผ่านมา เหมือนกับ...เป็นชีวิตของฉันในอีกโลกหนึ่ง”
“เป็นความฝันเหรอ?” หลินเสวียนถาม
ซีซีส่ายหัว:
“ไม่ใช่ฝัน อันนี้ฉันมั่นใจ ถึงแม้ว่าความทรงจำพวกนี้จะกระจัดกระจายและเลือนราง เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ฉันมั่นใจว่ามันไม่ใช่ความฝัน”
“มันเป็นความรู้สึกแบบมิติคู่ขนานเหรอ?” หลินเสวียนถามซ้ำ
ซีซีเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้ารับอย่างไม่ปฏิเสธ
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เอาเป็นว่ามันเป็นความรู้สึกที่อธิบายยากมาก ฉันไปหาหมอมาแล้ว หมอบอกว่าเป็นอาการหลงผิด อาจจะเป็นโรคจิตเภทก็ได้”
“แต่เศษเสี้ยวความทรงจำที่กระจัดกระจายเหล่านั้น...มันช่างสมจริงเหลือเกิน ฉันแทบจะนึกไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นแค่จินตนาการ ดังนั้นฉันเลยอยากจะพิสูจน์ดู”
เธอมองไปที่ตู้เซฟที่มีชื่อ หลินเสวียน เขียนอยู่
“ในเศษเสี้ยวความทรงจำที่กระจัดกระจายนั้น มีชายกลางคนคนหนึ่งที่ฉันมั่นใจว่าไม่เคยเจอ และไม่รู้จักอย่างแน่นอน เขาไว้ผมยาวรก ๆ และมีหนวดเคราที่ดูเว่อร์วังมาก”
ชายกลางคนเหรอ?
ผมยาว?
หนวดเครา?
ภาพของลุงประหลาดในป่ารกร้างผุดขึ้นมาในหัวของหลินเสวียนทันที
“ในความทรงจำ คนคนนั้นบอกฉันว่า เขาเก็บของไว้ให้ฉันในตู้เซฟนี้ เขาพูดว่า——”
*เปรี๊ยะ!*
เสียงประกายไฟที่ดังขึ้นอย่างคมชัด
*วี๋หวอ! วี๋หวอ! วี๋หวอ! วี๋หวอ!*
เสียงไซเรนดังขึ้นอย่างน่าหงุดหงิดทั่วบริเวณ!
“ตายจริง! วงจรหลักกลับมาทำงานแล้ว ระบบเตือนภัยทำงานอัตโนมัติ!”
พี่แมวอ้วนที่กำลังฟังอย่างตั้งใจ ถึงกับผงะลุกขึ้นยืนราวกับถูกไฟช็อต
“เราต้องรีบวิ่งหนี!”
ซีซีลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หยิบหน้ากากขึ้นมาแล้วหันหลังวิ่ง
“อย่า ๆ ๆ !”
หลินเสวียนซึ่งรำคาญพวกที่พูดไม่จบไม่สิ้นเป็นที่สุด รีบดึงซีซีไว้
“พูดให้จบก่อน! พูดให้จบแล้วค่อยวิ่ง! ไม่ขาดแค่ประโยคเดียวหรอก!”
ซีซีหันกลับมามองหลินเสวียน
“คนคนนั้นบอกว่า 【ถ้าอยากรู้เรื่องราวและความจริงทั้งหมด ก็ไปเปิดตู้เซฟนั้นดูสิ】”
“ตอนนั้นเขาตั้งใจจะบอกรหัสผ่านให้ฉัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้บอก ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความทรงจำไม่สมบูรณ์หรือเปล่า”
วี๋หวอ! วี๋หวอ! วี๋หวอ! วี๋หวอ!
เสียงไซเรนดังสนั่น ซีซีสะบัดมือหลินเสวียนออก แล้วหันหลังวิ่งไป
“อ้อ ยังมีอีกอย่างนึง”
เธอกลับมามองอีกครั้ง ยิ้มหวานละไมราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน
ระหว่างคิ้วราวกับดอกไม้บานสะพรั่ง ดวงตาเป็นเสี้ยวพระจันทร์น่ารัก มุมปากมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ สองข้างปรากฏขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
“【เสียงของผู้ชายคนนั้น คล้ายกับนายมากเลยนะ】”
“เพราะงั้นฉันถึงยอมร่วมมือกับนายวันนี้ ไม่งั้น…ฉันจะไม่มาเจอนายหรอก”
บูม!!!!!
บูม!!!!!
บูม!!!!!
แสงสีขาวร้อนจัดสาดส่องลงมา
เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า
……
……
ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ …
ลมหนาวพัดกระแทกหน้าต่าง
บนเตียงมุมห้อง หลินเสวียนลืมตาขึ้น
เขาพลิกผ้าห่ม ลุกขึ้นนั่ง นึกถึงคำพูดของซีซีในฝัน
ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเข้าไปในฝันแล้วไม่ได้เปิดตู้เซฟ…
แต่ก็ได้อะไรมาเยอะเหมือนกัน
สวมรองเท้าแตะแล้วลุกขึ้นยืน
หลินเสวียนเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ เปิดโคมไฟ
“ครั้งนี้เข้าไปในฝัน ได้ข้อมูลมาไม่น้อย ต้องเรียบเรียงความคิดให้ดีซะหน่อย”
หยิบปากกาขึ้นมา
ในขณะที่ความทรงจำในฝันยังชัดเจน หลินเสวียนเขียนสิ่งที่ได้มาลงบนกระดาษแผ่นขาว
【1、ความผันผวนของกาลเวลาควบคุมไม่ได้。】
แม้เรื่องนี้ดูง่ายและไม่จำเป็นต้องอธิบายละเอียดมากมาย แต่หลินเสวียนเจ็บตัวจริง ๆ ครั้งหนึ่ง
เขามักคิดเสมอว่าการใช้ทรัพยากรจากอนาคตมาเปลี่ยนแปลงปัจจุบันและเขียนอนาคตใหม่นั้น จะได้แต่ผลประโยชน์ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น
แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม
“การเปลี่ยนแปลงอนาคตนั้นควบคุมไม่ได้… โอกาสพลาด สูงมาก อาจจะกลายเป็นเอาหินทุบเท้าตัวเองก็ได้”
เขาจำบทเรียนนี้ได้ขึ้นใจ
ต่อไปนี้หากจะเปลี่ยนแปลงปัจจุบันและเขียนอนาคตใหม่ ต้องคิดไตร่ตรองให้มากขึ้น ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียให้รอบคอบ
【2. ความผันผวนของกระแสเวลาจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? ต้องการจุดยึดที่แก้ไขไม่ได้แล้ว】
หลินเสวียนเข้าใจแล้วว่า ทำไมโลหะผสมฮาฟเนียมรุ่นใหม่กับสารเติมเต็มแคปซูลจำศีล ซึ่งเป็นผลงานของศาสตราจารย์สวี่หยุนเหมือนกัน แต่กลับมีเพียงโลหะผสมฮาฟเนียมรุ่นใหม่เท่านั้นที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก ส่วนสารเติมเต็มแคปซูลจำศีลกลับไม่เป็นเช่นนั้น
สาเหตุอยู่ที่หลักการง่าย ๆ ข้อเดียว คือ—
“น้ำที่หกรดลงไปแล้ว ก็ตักกลับขึ้นมาไม่ได้อีก”
สำหรับโลหะผสมฮาฟเนียมรุ่นใหม่นั้น ศาสตราจารย์สวี่หยุนส่งตัวอย่างและข้อมูลไปยังสถาบันวิจัยอวกาศของประเทศจีนแล้ว
นั่นหมายความว่าตั้งแต่จุดยึดเวลาตรงนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครหยุดยั้งการแพร่กระจายของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ไปสู่ทุกแขนงอุตสาหกรรมของโลกได้แล้ว
แม้ว่าสถาบันวิจัยอวกาศของประเทศจีนจะปิดเป็นความลับ แต่เวลา 600 ปี ก็ทำให้วัสดุชนิดนี้รั่วไหลออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เปลี่ยนจากการใช้งานด้านอวกาศมาเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์เสียแล้ว
ดังนั้น นับจากนี้ โลหะผสมฮาฟเนียมชนิดใหม่จึงกลายเป็น “น้ำที่หกแล้ว” ยากที่จะเก็บกู้คืนมา จึงทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตามมาอย่างที่คาด
แต่ของเหลวสำหรับเติมแคปซูลจำศีลนั้นแตกต่างออกไป
ตอนนี้ผลงานวิจัยยังไม่ตีพิมพ์ ยังอยู่ในสถานะ “แมวของชโรดิงเงอร์” มีเพียงสวี่หยุนเท่านั้นที่ถือต้นฉบับอยู่ และมีหลายปัจจัยที่อาจทำให้การตีพิมพ์ล่าช้าหรือถูกขัดขวาง
(การทดลองถ้ายกตัวอย่างก็ประมาณนี้ครับ
แม้แต่หลินเสวียนก็สามารถพูดคุยกับสวี่หยุน ชักชวนให้เขาเปลี่ยนวิธีเผยแพร่ได้ หลินเสวียนเชื่อว่าสวี่หยุนน่าจะรับฟังความคิดเห็นของตนบ้าง หากเขาจริงจัง
เพราะอะไรน่ะเหรอ…สวี่หยุนเคยขอความเห็นจากหลินเสวียน ในเรื่องนี้สวี่หยุนให้เกียรติหลินเสวียนมากทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น สวี่หยุนยังไม่ได้เรียบเรียงบทความเสร็จ ทุกอย่างยังเปลี่ยนแปลงได้
ดังนั้น ในตอนนี้ ของเหลวสำหรับเติมแคปซูลจำศีลยังไม่นับว่าเป็น “น้ำที่หกไปแล้ว” ยังมีโอกาสแก้ไขได้ จึงยังไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตามมา
“การเปลี่ยนแปลงของช่วงเวลาเนี่ย มันมีจุดยึดอยู่สินะ……น่าสนใจ ฉันนึกว่ามันจะเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ซะอีก”
หลินเสวียนรู้สึกแปลก ๆ เขาคิดว่า ในรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลานั้น น่าจะมีกฎเกณฑ์หรือหลักการอะไรซ่อนอยู่
【3. ซีซีมีภาพความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธออยู่ในหัว】
ตอนนี้ยังอธิบายยากอยู่
แต่หลินเสวียนเคยเจอความสับสนจากความฝันแบบเดียวกันมาก่อน เลยพอจะเข้าใจบ้าง
เขาไม่แน่ใจว่าซีซีเป็นโรคจิตเภทหรือโรคบุคลิกภาพแยกหรือเปล่า……ความทรงจำของเธอไม่สมบูรณ์ เป็นแค่เศษเสี้ยวความทรงจำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ต่อเนื่องกัน
และซีซีก็พยายามพิสูจน์ว่านี่คือภาพหลอนหรือความทรงจำจริง ถึงกับเสี่ยงอันตรายไปเปิดตู้เซฟ
“ตรงนี้……มันคล้ายกับการตรวจสอบความฝันของฉันเลย ก็เพื่อจะได้ความจริง ได้คำตอบ”
【4. ชายวัยกลางคนผมยาวเคราดกในความทรงจำของซีซี มีเสียงคล้ายกับตัวเอง】
ข้อมูลตรงนี้สำคัญมาก
“ไม่แปลกเลยที่ซีซีไม่ฆ่าฉันหลายครั้ง และไว้ใจฉันอย่างไม่น่าเชื่อ……ที่แท้ก็เพราะเสียงนี่เองที่ทำให้เธอไว้ใจฉัน”
หลินเสวียนพยักหน้า
ตอนนี้ความสงสัยต่าง ๆ ก็กระจ่างแล้ว
ซีซีไม่ได้รู้จัก และไม่เคยเห็นฉันมาก่อน
แต่เสียงของเธอกลับคล้ายกับผู้ชายที่เธอจำได้มาก เลยทำให้ฉันเองก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไหร่
แต่หลินเสวียนก็มั่นใจว่า ตาแก่แปลก ๆ คนนั้นไม่ใช่เขาแน่ ๆ
“อย่างแรก ตัวฉันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีชีวิตอยู่ถึง 600 ปีข้างหน้าหรอก”
“อย่างที่สอง คนเสียงคล้ายกันก็มีเยอะแยะ ฉันยังรู้สึกว่าเสียงของเธอนี่คุ้น ๆ หูเลยนะ แล้วความทรงจำของซีซีก็ไม่ได้น่าเชื่อถือขนาดนั้นด้วย”
“และสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุด——”
หลินเสวียนลูบหนวดเคราที่เรียบเนียนของตัวเอง คิ้วขมวดเล็กน้อย :
“ฉันไม่มีทางไว้ผมยาวกับเคราหนาแบบนั้นได้หรอก……”
“ไม่มีทางเป็นไปได้เลย”