ตอนที่แล้วบทที่ 42 ญาติฝ่ายมารดา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 สัญญาห้าวัน

บทที่ 43 แสร้งเป็นประมุขน้อยของนิกายเซียวเหยา


บทที่ 43 แสร้งเป็นประมุขน้อยของนิกายเซียวเหยา

"ยินดีอย่างยิ่ง"

กู่เสวียนเฉินที่กำลังคิดว่าจะเริ่มคุยกับพวกนาง เขาจะปฏิเสธได้ยังไง ใช่ไหม?

"ไม่ทราบว่าคุณชายมาจากไหน?"

"คุณชายอายุเท่าไหร่?"

"คุณชาย..."

แต่กู่เสวียนเฉินยังไม่ทันได้ถามถึงบิดา เด็กสาวสองคนที่เงียบมาตลอด ก็ถามทุกอย่างเกี่ยวกับกู่เสวียนเฉิน

หลังจากตอบคำถามแบบกำกวม กู่เสวียนเฉินก็รู้ตัวตนของเด็กสาวสองคน!

ฉีจื่อเยียน คุณหนูใหญ่ของตระกูลปรมาจารย์โอสถในแคว้นว่านกู่ ส่วนฉีเสี่ยวอวี่ที่อยู่ข้างๆ นางคือสาวใช้ของนาง

แต่ถึงทั้งสองจะเป็นนายกับบ่าว แต่ก็สนิทกันเหมือนพี่น้อง ถ้าไม่บอก คนอื่นก็ดูไม่ออก

จากนั้นกู่เสวียนเฉินก็หยิบภาพวาดของบิดาที่เตรียมไว้ออกมา "ไม่ทราบว่าคุณหนูทั้งสองเคยเห็นคนผู้นี้ไหม?"

"ท่านลุงกู่..."

มองภาพวาดที่เหมือนจริง เด็กสาวสองคนก็ตกตะลึง

"พวกเจ้ารู้จักท่าน?" กู่เสวียนเฉินตื่นเต้นทันที

ฉีเสี่ยวอวี่รีบพูด "แค่รู้จักได้ยังไง คุณหนูของข้ายังเคยช่วยชีวิตท่านไว้เลย"

ฉีเสี่ยวอวี่อธิบาย กู่เสวียนเฉินถึงได้รู้ว่า ตอนที่บิดาเข้ามาในแคว้นว่านกู่ ท่านบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายก็สลบอยู่ข้างทาง ถูกฉีจื่อเยียนที่ผ่านมาพาไปรักษาที่ตระกูลฉี

"ขอบคุณคุณหนูทั้งสองที่ช่วยชีวิตบิดาข้า" กู่เสวียนเฉินรีบคำนับ "ขอให้คุณหนูทั้งสองพาข้าไปพบบิดาข้าด้วยเถอะ"

เขารู้ว่าบิดาที่อยู่แค่ขอบเขตแดนวิญญาณเดินทางมาแคว้นว่านกู่ต้องอันตรายมาก แต่กู่เสวียนเฉินก็ไม่คิดว่าท่านจะเกือบตาย

เด็กสาวสองคนพูดคุยกัน ฉีจื่อเยียนก็พูด "การเจอบิดาเจ้า คงจะยากสักหน่อย"

"ตอนนั้นบิดาเจ้าบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่ตระกูลฉีข้าเป็นปี จากนั้นท่านก็ไปที่ตระกูลหลงหามารดาเจ้า แต่พอไปที่ตระกูลหลงแล้ว ท่านก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย!"

"อย่างที่คิดจริงๆ เป็นตระกูลหลงสินะ?" กู่เสวียนเฉินหรี่ตา "งั้นรบกวนคุณหนูทั้งสองชี้ทางไปตระกูลหลงให้ข้าด้วย"

ฉีจื่อเยียนส่ายหน้า "ตอนที่บิดาเจ้ารักษาตัวอยู่ ท่านเคยเล่าเรื่องของท่านกับมารดาเจ้าให้ข้าฟัง ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเจ้าไปแบบไม่เตรียมตัว เจ้าอาจจะจบเหมือนบิดาเจ้า เข้าไปได้ แต่ออกมาไม่ได้!"

ฉีเสี่ยวอวี่ยิ้ม "เจ้าอย่าโง่นักเลย ที่นี่คือแคว้นว่านกู่ ไม่ใช่แคว้นจื่อหยานของพวกเจ้า ข้าจะบอกพลังของตระกูลหลงให้เจ้าฟัง"

"ตระกูลหลงอาศัยวิชาค่ายกลอยู่ในแคว้นว่านกู่ พวกเขามีปรมาจารย์ค่ายกลระดับห้าสามคน แถมยังมีผู้แข็งแกร่งระดับว่างเปล่าอีกสองคน!"

"แม้แต่คนรุ่นเยาว์ที่ไร้ประโยชน์ ก็ยังมีขอบเขตถ้ำสวรรค์เหมือนเจ้า แถมยังมีผู้แข็งแกร่งขอบเขตรวมเป็นหนึ่งอีกมากมาย!"

"และจวนที่พำนักตระกูลหลงก็เป็นค่ายกลขนาดใหญ่ ต่อให้ไม่มีใครสนใจเจ้า แค่พอเจ้าเข้าไปในประตูนั้น เจ้าก็อาจจะติดอยู่ในค่ายกลจนตาย!"

ถึงพลังของตระกูลหลงจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิด แต่กู่เสวียนเฉินก็ยังยืนกราน "ในเมื่อมาแล้ว ข้าย่อมมีวิธีของข้า"

ฉีจื่อเยียนพูด "จริงๆ แล้วคุณชายกู่ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น หลังจากที่ท่านอาหญิงสี่ตระกูลหลง  ทะลวงไปยังปรมาจารย์ค่ายกลระดับสี่แล้ว ฐานะของนางในตระกูลหลงก็สูงขึ้น ตอนนี้ถึงบิดาเจ้าจะอยู่ในตระกูลหลง อิสรภาพอาจถูกจำกัดบ้าง แต่ท่านก็น่าจะปลอดภัย!"

"แทนที่จะบุกเข้าไปในตระกูลหลง สู้ล่อบิดามารดาเจ้าออกมาจากตระกูลหลง ไม่ดีกว่าหรือ?"

เห็นท่าทางมั่นใจของฉีจื่อเยียน กู่เสวียนเฉินก็ถาม "เจ้ามีวิธีล่อพวกเขาออกมา?"

การแย่งคนมาจริงๆ แล้วเป็นวิธีที่ไม่ดี แถมถึงตนเองจะมีวิชาพิเศษ แต่ถ้าตระกูลหลงใช้ความปลอดภัยของบิดามาข่มขู่ วิธีของตนเองย่อมใช้ไม่ได้

ฉีเสี่ยวอวี่ยกคิ้ว "มีวิธีอยู่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณชายกู่อยากจะยอมเสียสละหรือไม่?"

"ว่ามาเถอะ" กู่เสวียนเฉินพูด

ฉีเสี่ยวอวี่มองฉีจื่อเยียน แล้วเดินไปหากู่เสวียนเฉิน กระซิบ

กู่เสวียนเฉินตกใจ "อะไรนะ?  แต่งงานเข้าตระกูลฉี?"

ที่แท้ตระกูลฉีหาคู่หมั้นให้ฉีจื่อเยียน ถึงอีกฝ่ายจะมีฐานะสูงส่ง แต่ฉีจื่อเยียนไม่ชอบการแต่งงานทางการเมืองแบบนี้

ฉีเสี่ยวอวี่ยุยง ฉีจื่อเยียนจึงคิดจะหาคนมาแสร้งแต่งงาน เพื่อปฏิเสธการแต่งงานนี้

แต่หาคนมาสองวันแล้ว ก็ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ จึงได้แต่ดื่มสุราปรอบใจตนเอง

พอเจอกู่เสวียนเฉิน ทั้งสองก็รู้ทันทีว่า เขาคือคนที่เหมาะสมที่สุด!

เพราะกู่เสวียนเฉินเคยแต่งงานเข้าตระกูลอื่นแล้ว ถึงต่อไปฉีจื่อเยียนจะหย่ากับเขา ก็จะไม่ส่งผลต่อชื่อเสียงของเขามากนัก

เห็นกู่เสวียนเฉินตกใจ ฉีเสี่ยวอวี่ก็ยุยงต่อ

"คุณหนูเคยช่วยชีวิตบิดาเจ้า ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าจะตอบแทนนางแล้ว แถมด้วยฐานะของตระกูลฉี ตอนที่พวกเจ้าแต่งงาน ตระกูลหลงย่อมต้องมา ตอนนั้นเจ้าก็จะได้เจอท่านลุงกู่..."

ในตอนนั้น คนรับใช้ของตระกูลฉีก็รีบวิ่งเข้ามา "คุณหนูใหญ่ ทำไมท่านยังอยู่ที่นี่ คุณชายหานรอท่านที่บ้านตั้งนานแล้วนะขอรับ"

ฉีจื่อเยียนขมวดคิ้ว มองกู่เสวียนเฉินด้วยสายตาอ้อนวอน

ฉีเสี่ยวอวี่พูดเบาๆ "ลูกผู้ชายตัวจริง ต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณนะ"

กู่เสวียนเฉินยักไหล่ "พวกเจ้าพูดมาขนาดนี้ ข้าคงปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะ"

จริงๆ แล้ว แค่ฉีจื่อเยียนเคยช่วยชีวิตบิดา ก็คุ้มที่ตนเองจะช่วยนางแล้ว แถมการแต่งงาน ก็เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเจอบิดา

"เยี่ยม!"

ฉีเสี่ยวอวี่มองกู่เสวียนเฉินด้วยความชื่นชม ทั้งสามคนก็ออกจากโรงเตี๊ยม

รถม้าจอดรออยู่ที่หน้าโรงเตี๊ยม เห็นกู่เสวียนเฉินจะขึ้นรถม้าของฉีจื่อเยียน คนรับใช้ก็รีบบอก "คุณหนูใหญ่..."

"คุณชายกู่เป็นสหายข้า เขาจะนั่งรถม้าคันเดียวกับข้า" ฉีจื่อเยียนพูดจบ ทั้งสามคนก็ขึ้นรถม้า

รถม้าเริ่มเคลื่อนที่ เด็กสาวสองคนก็เริ่มเล่าสถานการณ์ปัจจุบันให้กู่เสวียนเฉินฟัง

ตระกูลหานก็เป็นตระกูลปรมาจารย์โอสถ พลังของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าตระกูลฉีเล็กน้อย ช่วงนี้ตระกูลฉีมีผู้อาวุโสคนหนึ่งทะลวงไปยังปรมาจารย์โอสถระดับห้า พลังของสองตระกูลจึงใกล้เคียงกัน

แต่นี่เป็นแค่พลังด้านบุคลากร ถ้าพูดถึงพลังที่แท้จริงของสองตระกูล ตระกูลฉียังต้องใช้เวลาอีกหน่อยถึงจะตามทัน

หลังจากเล่าเบื้องหลังของหานม่อคร่าวๆ แล้ว ฉีจื่อเยียนก็พูดต่อ "ดังนั้นตอนนี้ เจ้าต้องสร้างตัวตนที่ไม่ด้อยไปกว่าหานม่อ!"

กู่เสวียนเฉินถาม "สร้างตัวตน?  ไม่กลัวถูกเปิดโปงหรือไง?"

ฉีจื่อเยียนยิ้ม "แค่ผ่านเรื่องนี้ไปได้ หลังจากนั้นเจ้ากับบิดาเจ้าออกจากแคว้นว่านกู่ ถึงพวกเขาจะรู้ความจริง ตระกูลหานก็ให้ความสำคัญกับชื่อเสียง คงไม่แต่งงานกับข้าอีกหรอก ถูกต้องไหม?"

"งั้นก็จะส่งผลต่ออนาคตของเจ้าสิ" กู่เสวียนเฉินไม่กังวลเรื่องตัวเอง

ฉีจื่อเยียนส่ายหน้า "ข้าอยากจะบรรลุวิถีโอสถที่สูงส่ง ไม่เคยคิดเรื่องความรัก ชื่อเสียงเสียหาย ก็ดี จะได้ไม่ต้องมีใครมารบกวน"

กู่เสวียนเฉินพยักหน้า การที่สามารถเป็นปรมาจารย์โอสถระดับสี่ในวัยนี้ นอกจากพรสวรรค์แล้ว ฉีจื่อเยียนต้องขยันมากแน่นอน

กู่เสวียนเฉินถาม "แต่ตัวตน..."

เขาไม่รู้จักแคว้นว่านกู่ จึงไม่รู้ว่าจะสร้างตัวยังไงถึงจะผ่านไปได้

ฉีเสี่ยวอวี่ที่ฉลาดมากพูดทันที "ในเมื่อเจ้ามาจากแคว้นจื่อหยาน เจ้าก็แสร้งเป็นประมุขน้อยของนิกายเซียวเหยา แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นสำเนียง หรือการถามเกี่ยวกับประเพณีที่นั่น เจ้าก็จะไม่ถูกเปิดโปง"

"และถึงนิกายเซียวเหยาจะตกต่ำในช่วงนี้ แต่มันก็เป็นมรดกของนิกายจักรพรรดิ ตราบใดที่คุณหนูยืนกรานว่าชอบเจ้า ตระกูลก็คงไม่คัดค้านมากนักหรอก"

"ให้ข้าแสร้งเป็นประมุขน้อยของนิกายเซียวเหยา?" กู่เสวียนเฉินถามอย่างจนใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด