บทที่ 311 พัสดุสุดแกร่งจากกองทัพ!

เมื่อต้องอยู่บนเกาะนี้อีกสักพัก ซูยี่จึงตัดสินใจระเบิดหินที่ไม่จำเป็นบนเกาะทิ้งต่อไป

เมื่อคนของกองทัพมาถึง พวกเขาก็จะประหยัดเวลาได้มาก

อย่างไรก็ตาม นอกจากการล่าสัตว์ทะเล พวกเขาก็ไม่มีอะไรอื่นให้ทำที่นี่

เรื่องการล่าสัตว์ทะเล ซูยี่สามารถให้ไห่หยวนและคนอื่นๆ จัดการได้ เมื่อกลับไปเขาก็แค่ใช้คะแนนความดีความชอบทางทหารแลกเปลี่ยนกับลูกแก้วสมองที่พวกเขาได้มา

คะแนนความดีความชอบทางทหารสำคัญมากสำหรับพวกเขา สามารถแลกของได้มากมาย

ในอนาคตเมื่อมีลูกแก้วสมองมากขึ้น พวกเขาก็สามารถแลกเปลี่ยนลูกแก้วสมองได้

นอกจากนี้ ลูกแก้วสมองที่มีพลังพิเศษเฉพาะ พวกเขาก็จะนำออกมาให้ทุกคนแลกเปลี่ยน

เพราะพลังพิเศษเฉพาะนั้นมีค่ามาก สำหรับทหารธรรมดาแล้ว อาจจะยังควบคุมพลังพิเศษแบบนั้นไม่ได้

แม้ว่าไห่หยวนและคนอื่นๆ จะรีบอยากกลับ แต่หลังจากรู้ถึงการสนทนาระหว่างซูยี่กับกองทัพ พวกเขาก็เต็มใจที่จะอยู่รออีกสักพัก

เครื่องบินที่จะลงจอดบนเกาะ จำเป็นต้องจัดการพื้นที่บนเกาะให้เรียบร้อย

งานนี้ซูยี่ทำคนเดียวไม่ไหว พวกเขาจึงช่วยกัน โดยไม่ได้ไปล่าสัตว์ทะเล

ในความคิดของพวกเขา สัตว์ทะเลสามารถล่าได้ตลอด แต่การจัดการเกาะไม่ควรล่าช้า

พวกเขาจะช่วยกันจัดการเกาะ ซูยี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

หนึ่งคนรับผิดชอบใช้กล้องส่องทางไกลขนาด 300 มิลลิเมตรจับตาดูประตูแห่งกาลเวลาที่อยู่ไกลออกไป คนที่เหลือช่วยกันทำความสะอาดเกาะ

กล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่นี้ เป็นของที่ซูยี่ได้รับมาก่อนหน้านี้ตอนที่ขึ้นหอดูดาวและเก็บไว้ในพื้นที่เก็บของ นอกจากนี้เขายังมีกล้องส่องทางไกลขนาดอื่นๆ อีก

ตอนนั้นซูยี่คิดว่าการทิ้งมันไว้ที่หอดูดาวไม่มีความหมาย สู้เอาติดตัวไปดีกว่า บางทีอาจมีประโยชน์ในภายหลัง

ตอนนี้ ถึงเวลาที่มันจะได้ใช้งานแล้ว

กล้องส่องทางไกลดาราศาสตร์ขนาด 300 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นของใหญ่โตทีเดียว

ใช้สังเกตประตูแห่งกาลเวลาที่อยู่ห่างออกไป 12 กิโลเมตร เห็นได้ชัดเจนมาก

สิ่งนี้ ซูยี่แน่นอนว่าจะทิ้งไว้บนเกาะนี้ ใช้มันสังเกตการณ์จะได้เห็นชัดกว่า

มันมีเลนส์ตาอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้

ซูยี่และคนอื่นๆ ยังใช้หินก่อสร้างบ้านหลังหนึ่ง ใช้ดาบรบของเขาตัดหินให้เป็นก้อนอิฐ ดังนั้นบ้านที่สร้างขึ้นจึงแข็งแรงมาก แม้แต่พายุเฮอริเคนกลางทะเลก็ต้านทานได้

เพราะแต่ละก้อนหินหนักหลายพันกิโลกรัม

มีบ้านแล้ว ตอนกลางคืนพวกเขานอนก็สบายใจขึ้นมาก

ตอนกลางคืน ผิวทะเลมืดสนิท แต่ประตูแสงนั้นยังคงมีแสงสว่าง

น่าเสียดายที่แสงไม่สว่างมาก มองไม่เห็นว่ามีสัตว์ประหลาดออกมาจากประตูหรือไม่ หรือมีสัตว์ทะเลถูกแสงดึงดูดว่ายผ่านเข้าไปหรือเปล่า

ซูยี่และไห่หยวนพร้อมคนอื่นๆ คิดว่า ต้องมีสัตว์ทะเลถูกดึงดูดแน่นอน

การป้องกันแสง กลายเป็นเรื่องสำคัญมาก

ไห่หยวนและคนอื่นๆ แนะนำว่า อาจติดตั้งทุ่นลอยใต้ประตูแสง แล้วครอบฝาบังแสงไว้ด้านบน

แน่นอน ยังมีวิธีอื่นๆ อีก

ซูยี่คิดว่า วิธีเหล่านี้ก็ถือว่าน่าเชื่อถือ

แต่ต้องการวัสดุที่เหมาะสม

ตอนนี้ สิ่งที่พวกเขาขาดที่สุดคือวัสดุและอุปกรณ์ที่เหมาะสม

การจะติดต่อกับกองทัพอีกครั้งต้องรออีกสี่วัน

ตอนนั้น กองทัพน่าจะส่งคนกลุ่มแรกมาแล้ว

ดังนั้น ซูยี่หวังว่ากองทัพคงคิดถึงจุดนี้แล้ว และนำวัสดุที่เหมาะสมมาด้วย

ตอนกลางคืน ซูยี่เฝ้ายามอยู่คนเดียว

ไห่หยวนและคนอื่นๆ ต่างบอกให้ซูยี่ไปพักผ่อน เพราะวันนี้พวกเขาใช้พลังจิตและพลังกายไปมากในการจัดการเกาะ

สัตว์ประหลาดตัวนั้นนอนอยู่ข้างๆ ซูยี่ ราวกับมันไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่เป็นสุนัข

ซูยี่ถือเครื่องเอกซเรย์กำลังสแกนสัตว์ประหลาด

"สามหัวใจ นี่มันบ้าไปแล้ว"

ซูยี่พบว่ามันมีสามหัวใจ รู้สึกว่าแปลกประหลาดมาก

ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหายใจ ระบบเผาผลาญ คล้ายกับสิ่งมีชีวิตบนโลกมาก

ซูยี่คิดว่า สถานการณ์นี้บ่งบอกว่าโลกนั้นกับโลกของเราน่าจะมีสภาพแวดล้อมคล้ายกัน

แต่เขายังพบอวัยวะอื่นๆ อีก แต่ไม่รู้ว่ามีหน้าที่อะไร

ซูยี่เตรียมจะเอาซากสัตว์ประหลาดกลับไปให้มากที่สุดก่อนจะออกเดินทาง

แน่นอน ถ้าได้ตัวอย่างที่มีชีวิตมาด้วยก็จะดีที่สุด

ตัวที่ฝึกไว้แล้วนี้ ซูยี่คิดว่าน่าจะเหมาะกับการสังเกตมากกว่า เอาไว้ทำการทดลองอย่างอื่น

การผ่าชันสูตรอะไรพวกนี้ ใช้สัตว์ประหลาดตัวอื่นก็พอ

แค่รอกองทัพส่งคนมา ซูยี่ก็จะไม่รีบกลับเร็วนัก ต้องบรรลุเป้าหมายของตัวเองก่อนถึงจะกลับได้

ดึกมาก ซูยี่เห็นแสงสว่างบนท้องฟ้า

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเป็นขีปนาวุธจากกองทัพ

แน่นอน มันไม่มีหัวรบ พวกเขาใช้ขีปนาวุธเป็นจรวด ส่วนบนเป็นห้องขนส่ง สามารถบรรจุของได้มาก

ซูยี่เห็นแสงสองสาย แสดงว่าเป็นขีปนาวุธสองลูก

ไม่นาน พวกมันก็ตกลงในทะเลไม่ไกลจากเกาะ ไม่ได้ชนเกาะเล็ก

ซูยี่บินไปเอาขีปนาวุธมาไว้บนเกาะ

ไห่หยวนและคนอื่นๆ ก็ได้ยินเสียง จึงตื่นขึ้นมากันหมด

"นี่คือเสบียงที่กองทัพส่งมา ใช้ขีปนาวุธจริงๆ เหรอ?" ไห่เฟิงตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีการส่งพัสดุที่แข็งแกร่งขนาดนี้

"ตอนแรกที่ผมเห็น ก็ตกใจเหมือนกัน" ซูยี่ยิ้มบางๆ แล้วเปิดห้องขนส่งด้านบน

ข้างในใช้วัสดุกันกระแทกและกันน้ำมากมาย เพื่อป้องกันของข้างในเสียหาย

ซูยี่พบกล้องวิดีโอในนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถ่ายมาให้ซูยี่และคนอื่นๆ ดู

หลังจากเปิดดู ซูยี่ถึงพบว่าครั้งนี้ขนส่งอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมทางทหารมาให้

ซูยี่ต้องประกอบชุดอุปกรณ์นี้ขึ้นมา เพื่อใช้สื่อสารกับดาวเทียมของกองทัพส่งข้อความ ซึ่งจะช่วยเพิ่มเวลาในการสื่อสารและความสามารถในการส่งข้อมูลได้มาก

ส่วนที่เหลือ ต้องรอเครื่องบินขนส่งนำมาให้

ตอนนี้ กองทัพขอให้ซูยี่จัดเตรียมสภาพแวดล้อมสำหรับการลงจอดให้มากที่สุด

กองทัพแนะนำให้ใช้วิชาควบคุมลมปราณของซูยี่ สร้างทางวิ่งบนผิวน้ำ

กองทัพยังไม่มีเครื่องบินขนส่งที่ลงได้ทั้งน้ำและบก แต่ได้เริ่มส่งคนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหาเครื่องบินขนส่งที่สามารถลงจอดบนผิวน้ำได้แล้ว

ซูยี่วางแผนจะสร้างทางวิ่งบนเกาะโดยตรง เขาสามารถทำให้ทางวิ่งเรียบร้อยได้

ตอนนั้น ใช้วิชาควบคุมลมปราณสร้างผลเหมือนสายเคเบิลดักจับ แม้ทางวิ่งจะสั้น ก็สามารถให้เครื่องบินขนส่งลงจอดได้

ในวิดีโอมีอุปกรณ์เลเซอร์ให้ซูยี่ไว้ใช้นำทางเครื่องบินลงจอด

ก่อนฟ้าสาง เครื่องบินจะออกเดินทาง ก่อนค่ำน่าจะมาถึง

การบินมาถึงเกาะภายในหนึ่งวัน ถือว่าเร็วมากแล้ว

ดังนั้น ไห่หยวนและคนอื่นๆ จึงตื่นเต้นมาก

พวกเขาสงสัยว่าเครื่องบินขนส่งจะนำอุปกรณ์แบบไหนมา และจะมีคนมาที่เกาะนี้กี่คน

บางที ในอนาคตที่นี่อาจกลายเป็นด่านหน้าที่สำคัญมาก เป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับอีกโลกหนึ่ง

(จบบท)