ตอนที่ 894 การโจมตีที่ต่อเนื่อง

[ความสามารถสร้างสรรค์ระดับปรมาจารย์ระดับโลก (ครอบคลุม 8 ด้าน เช่น ดนตรี วรรณกรรม เพลง...) ราคา 96 หยวน]

นี่คือสินค้าที่ เย่เฉิน สะดุดตา

แม้ว่า เย่เฉิน จะเคยได้รับ [ความเชี่ยวชาญเครื่องดนตรีระดับปรมาจารย์] จากเกมมาแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงทักษะการบรรเลง ไม่ใช่การสร้างสรรค์เพลงขึ้นมาเอง

แน่นอนว่า เย่เฉิน เองก็สามารถแต่งเพลงระดับสุดยอดได้ แต่การแต่งเพลงนั้นต้องใช้แรงบันดาลใจ และเวลาที่ค่อนข้างนาน..

แต่ด้วยทักษะนี้ เรื่องนั้นจะเปลี่ยนไปทันที

เย่เฉิน รู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่คือสิ่งที่เขาต้องการอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน เคยแต่งเพลงเปียโนขึ้นมาหนึ่งเพลง หลังได้แรงบันดาลใจจาก หาน เม่าอวี้ แต่เนื่องจากแรงบันดาลใจนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ เพลงที่เขาแต่งจึงมีเพียงบางส่วน และยังไม่สมบูรณ์

ทั้งนี้เขาเองไม่มีแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจึงไม่ได้แต่งต่อ แต่ถ้าเขาซื้อทักษะนี้ แม้ไม่มีแรงบันดาลใจ เขาก็สามารถสร้างผลงานชิ้นเอกได้อย่างง่ายดาย

“ซื้อเลย”

เย่เฉิน กดซื้อทันที พร้อมชำระเงิน

[ติ๊ง!]

[คุณได้ซื้อความสามารถสร้างสรรค์ระดับปรมาจารย์ระดับโลก สำเร็จ]

ทันทีที่การซื้อเสร็จสมบูรณ์ ข้อมูลมหาศาลก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของ เย่เฉิน เขาหลับตาลง และเริ่มซึมซับข้อมูลเหล่านั้น

เมื่อ เย่เฉิน ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจก็พรั่งพรูออกมา เพลงเปียโนที่เขาเคยแต่งไม่จบ ตอนนี้เขามีแนวทางชัดเจนในการแต่งส่วนที่เหลือแล้ว

“ไม่เสียชื่อความสามารถระดับปรมาจารย์ระดับโลก สุดยอดจริงๆ”

เย่เฉิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขารีบใช้โอกาสจากแรงบันดาลใจนี้ จัดการสร้างผลงานชิ้นนี้ให้เสร็จ

เพียง 30 นาทีเท่านั้น เย่เฉิน ก็วางปากกาลง เพลงเปียโนที่เขาแต่งได้เสร็จสมบูรณ์ และหากปรับแต่งอีกเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นเพลงที่เทียบเท่ากับผลงานชิ้นเอกระดับโลกได้ไม่ยาก

เพลงนี้มีชื่อว่า ‘หากชีวิตเป็นดั่งเช่นแรกพบพาน(人生若只如初见)’ และในอนาคตมันจะมีบทบาทสำคัญในช่วงเวลาสำคัญ!

หลังจากแต่งเพลงเสร็จสมบูรณ์ เวลาก็ดึกมากแล้ว ดังนั้น เย่เฉิน จึงเข้านอนทันที

เช้าวันใหม่ ในสำนักงานของเจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เป็นคู่แข่งกับ หวังเจียงเก๋อ มาโดยตลอด

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ กำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ รอการประกาศผลประเมินร้านอาหารของมิชลินด้วยความคาดหวัง

เมื่อถึงเวลา เว็บไซต์ทางการของมิชลินก็เผยผลประเมินออกมาอย่างเป็นทางการ

“ฮ่าๆๆ ในที่สุดร้านของเราก็ได้รับมิชลินหนึ่งดาวแล้ว!”

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ร้องอย่างตื่นเต้น เขามีความสุขมากจนฮัมเพลงออกมาเบาๆ เขาเริ่มจินตนาการถึงลูกค้าที่จะหลั่งไหลมาที่ร้านหลังจากการประกาศนี้

“บอสครับ ผมอัปเดตข้อมูลแล้ว มีแต่คอมเมนต์ดีๆ เต็มไปหมดครับ”

ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆ เข้ามารายงาน

“หลายคนบอกว่าอยากมาทานที่ร้านของเรา มีแต่คำวิจารณ์ที่ดีทั้งนั้น…”

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ฟังด้วยความพึงพอใจ นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ ‘คำว่ามิชลินมันเหมือนป้ายทองคำจริงๆ’ พอแขวนป้ายนี้ ร้านย่อมดึงดูดลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย

“ผมตรวจดูแล้วครับ ยืนยันได้ว่าไม่มีชื่อร้านหวังเจียงเก๋อในรายการเลย เย่เฉิน คนนั้นไม่ได้ติดสินบน คริสติน่า ผู้ชายคนนี้มันไม่ฉลาดเลย!”

“กับอีแค่เงิน 10 ล้านดอลลาร์อาจจะดูเยอะ แต่ถ้าได้ป้ายทองคำอย่างมิชลินมา มันก็คุ้มค่า!”

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ พูดอย่างมั่นใจ

“แน่นอนครับ คนอย่างท่านช่างมีวิสัยทัศน์ ไม่มีใครเหมือน ไม่เหมือนเจ้าหนุ่ม เย่เฉิน นั้นที่ไม่รู้จักลงทุน”

ผู้ช่วยรีบประจบประแจงทันที

“ว่าแต่ เรื่องที่จ้างคนปล่อยข่าวลือไปถึงไหนแล้ว?”

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ถาม

“ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขาเริ่มกระจายข่าวลือในอินเทอร์เน็ตแล้ว”

ผู้ช่วยเปิดวิดีโอหนึ่งขึ้นมาให้ดู

ในวิดีโอนั้นเป็นการเปรียบเทียบระหว่างร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ และหวังเจียงเก๋อ โดยใช้เกณฑ์ต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัว บรรยากาศ ฯลฯ ซึ่งทั้งสองร้านมีความใกล้เคียงกันมาก...

ร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ที่ได้เป็นร้านมิชลินระดับหนึ่งดาว ได้กลายเป็นที่พูดถึงในเชิงเปรียบเทียบกับร้านหวังเจียงเก๋อทันที

ผ่านการรีวิวจากบล็อกเกอร์ที่เต็มไปด้วยการเสียดสี และเหน็บแนม ก็ทำให้ความคิดเห็นของชาวเน็ตเริ่มถูกเบี่ยงเบน

“ดูแล้ว ร้านหวังเจียงเก๋อ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”

“ร้านฮว๋ายมู่เป็นมิชลินหนึ่งดาว คนละระดับเลย ไหนจะราคาต่อหัวที่พอๆ กันอีก แบบนี้ หวังเจียงเก๋อ จะไปสู้ได้ยังไง?”

“โอ๊ย ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันไม่พาแฟนไปหวังเจียงเก๋อแล้วล่ะ!”

ความคิดเห็นเชิงลบต่อ หวังเจียงเก๋อ หลั่งไหลมาเรื่อยๆ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นผลงานของกองทัพไซเบอร์ที่ทางร้านอาหารญี่ปุ่น ฮว๋ายมู่จ้างมา

เมื่อผู้ช่วยเล่าถึงกระแสข่าวให้เจ้าของร้าน ฮว๋ายมู่ ฟัง เขาก็ยิ้มอย่างพอใจ

“ดีมาก!”

ในขณะที่ผู้ช่วยพูดประจบสอพลอ เจ้าของร้านก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มวางแผนหาเงินเพื่อเตรียมซื้อกิจการหวังเจียงเก๋อในวันที่ต้องปิดตัว

แต่แล้ว… ผู้ช่วยก็ได้รับข่าวใหม่

มันคือประกาศผลการคัดเลือก ร้านอาหาร แบล็กเพิร์ล(BLACK PEARL) ประจำปีนี้

ผู้ช่วยหน้าซีดเผือดเมื่อได้รับการแจ้งเตือนใหม่ เขากดเปิดลิงก์เกี่ยวกับผลการประกาศรางวัลของร้านอาหารแบล็กเพิร์ลประจำปีนี้

ข้อความที่เด่นชัดในบรรทัดแรกทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก :

‘ร้านใหม่ที่ได้รับการประเมินระดับ แบล็กเพิร์ล ธรี ไดมอนด์(Black Pearl Three Diamonds) ในปีนี้ : หวังเจียงเก๋อ!’

สีหน้าของผู้ช่วยแข็งทื่อทันที

“นี่...นี่...”

เขาพูดตะกุกตะกัก ไม่กล้าบอกข่าวร้ายนี้ให้เจ้าของร้านได้รับรู้…

“นายเป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าแบบนั้น?”

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ที่ยังอยู่ในอารมณ์ดีสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับผู้ช่วยของเขาจึงถามอย่างสงสัย

“เอ่อ...บอส...ลองดูนี่ครับ”

ผู้ช่วยที่ไม่กล้าพูดตรงๆ จึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้เจ้าของร้านดู

“ดูอะไรล่ะ มีอะไรน่าสนใจในมือถือของนาย?”

เขาพูดอย่างไม่สนใจ แต่พอเห็นเนื้อหาในโทรศัพท์มือถือก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาด

“แบล็กเพิร์ล ธรี ไดมอนด์?!!”

วินาทีถัดมา เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ถึงกับร้องเสียงดังออกมาด้วยความตกใจ

แบล็กเพิร์ล อาจไม่เป็นที่รู้จักในระดับสากลเท่ากับมิชลิน แต่ในประเทศจีน มันคือมาตรฐานที่เทียบเท่ากับมิชลินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

และแบล็กเพิร์ล ธรี ไดมอนด์ เทียบได้กับร้านมิชลินระดับสามดาว

เมื่อได้รู้ว่า หวังเจียงเก๋อ ได้ระดับนี้ เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ ก็พูดอะไรไม่ออก

“หรือว่า เย่เฉิน จ่ายเงินซื้อ แบล็กเพิร์ล ธรี ไดมอนด์? เขาจะมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?”

เจ้าของร้านอาหาร ฮว๋ายมู่ เต็มไปด้วยความสงสัย

ก่อนหน้านี้ เขาเคยถาม คริสติน่า ว่า ถ้าจะให้ร้านตัวเองได้ระดับมิชลินสามดาวต้องจ่ายเท่าไหร่

คริสติน่า บอกว่าต้องใช้เงินถึง 80 ล้านดอลลาร์ แถมยังไม่มีการันตีเต็มร้อย มีแค่โอกาส 70-80% เท่านั้น

เงินจำนวนนี้เทียบได้กับหลายร้อยล้านหยวน เขาจึงตัดสินใจไม่เสี่ยงลงทุน

แต่ตอนนี้ เมื่อรู้ว่า หวังเจียงเก๋อ ได้ แบล็กเพิร์ล ธรี ไดมอนด์ เขาก็อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก

หลังจากประกาศผล ชื่อเสียงของ หวังเจียงเก๋อ และกระแสบนโลกออนไลน์เองก็เปลี่ยนทิศทางไปเช่นกัน

“โห.. เชี้ย ไม่นึกเลยว่า หวังเจียงเก๋อ จะเจ๋งขนาดนี้”

“ใช่! ถึงมิชลินหนึ่งดาวจะดี แต่เทียบกับ แบล็กเพิร์ล ธรี ไดมอนด์ ไม่ได้เลย”

“หวังเจียงเก๋อ นี่แหละของจริง!!!”

แม้ว่ากองทัพไซเบอร์ของ ฮว๋ายมู่ จะพยายามปั่นกระแสแย่ๆ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ได้

ระดับหนึ่งดาว กับสามเพชร มันต่างกันมากเกินไป

และในขณะที่เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ฮว๋ายมู่ กำลังหัวเสีย…

ข่าวร้ายที่น่าหดหู่ยิ่งไปกว่านั้นก็มาถึง!!!