บทที่47 สอบข้อเขียน
ริวเดินเข้าสู่ห้องสอบหมายเลข3 ที่เต็มไปด้วยผู้เข้าแข่งขันประมาณ 100 คน ห้องถูกจัดเรียงด้วยโต๊ะยาวอย่างเป็นระเบียบ แสงจากหลอดไฟส่องสว่างสะท้อนกับพื้นหินอ่อน มอบบรรยากาศที่เคร่งขรึมและกดดัน
สายตาของริวทอดไปยังกลุ่มคนที่เขาคุ้นเคย ทั้งเอลซ่า หญิงสาวผมสีบลอนด์ผู้มีท่าทีเย็นชา และ กอร์มุส ชายร่างอ้วนที่ดูหยิ่งผยองในชุดหรูหรา
ริวส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะหมายเลขของเขาอย่างเงียบสงบ
ไม่นานนัก ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบที่ดูภูมิฐานก็ก้าวขึ้นมายืนตรงกลางห้อง ใบหน้าของเขาเฉลียวฉลาดและท่าทางแสดงถึงความมั่นใจ
เขาเป็นกรรมการผู้ควบคุมการสอบครั้งนี้
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่การแข่งขันนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรรุ่นเยาว์ระดับภูมิภาคของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและชัดเจน
“การแข่งขันมีทั้งหมดสองรอบ ได้แก่ข้อเขียนและข้อปฏิบัติ พวกเธอต้องผ่านข้อเขียนก่อนจึงจะสามารถเข้าสู่รอบปฎิบัติได้”
เสียงฮือฮาเบาๆ ดังขึ้นเมื่อกรรมการกล่าวถึงการสอบข้อเขียน เขายกมือขึ้นเพื่อเรียกความสงบก่อนจะอธิบายต่อ
“ข้อเขียนนี้จะทดสอบความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวิวัฒนาการสัตว์อสูร พวกเธอจะเห็นวิดีโอสัตว์อสูรที่แสดงบนหน้าจอ จากนั้นต้องระบุชื่อสัตว์อสูร ลักษณะเฉพาะ จุดเด่นจุดด้อย และวัตถุดิบที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาหรือรักษาสัตว์อสูรตัวนั้น”
" พวกเธอมีเวลา 10 นาทีในการเขียนคำตอบแต่ละข้อ”
เมื่อกรรมการประกาศเริ่มสอบ หน้าจอขนาดใหญ่ตรงหน้าผู้เข้าสอบทุกคนก็ปรากฏภาพของสัตว์อสูร รูปร่างสิงโตปีกแดงที่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วในป่า มันปรากฏตัวเพียง 2-3 วินาทีก่อนที่ภาพจะหายไป
เสียงบ่นดังขึ้นทันทีจากผู้เข้าสอบหลายคน
“เร็วเกินไป!”
“ใครจะดูทัน!”
เสียงดังนั้นถูกตัดขาดด้วยเสียงตะโกนดุดันของกรรมการ
“หุบปาก! พวกเธอคิดว่าที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นหรืออย่างไร? ใครที่ส่งเสียงดังหรือทุจริต จะถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันนี้เป็นเวลาสามปี!”
คำพูดนั้นทำให้ห้องสอบกลับเข้าสู่ความเงียบสงบ บรรยากาศเริ่มกดดันขึ้น ผู้เข้าสอบหลายคนหน้าซีดและเหงื่อแตก
กอร์มุสมองดูวิดีโอด้วยความพึงพอใจ เขายิ้มในใจขณะจดคำตอบ
“หึ ข้อสอบชุดนี้ยากที่สุดในรอบหลายปี แต่โชคดีที่ลุงของฉันเป็นผู้จัดการสมาคมสาขานี้ ฉันรู้มาล่วงหน้าแล้ว ยังไงฉันก็ต้องชนะ”
แต่เมื่อเขาเหลือบสายตาไปเห็นริวที่นั่งเขียนคำตอบด้วยท่าทีสบายๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดทันที
“ไอ้หมอนั่น คิดว่าตัวเองเก่งมากหรือไง เดี๋ยวก็รู้ว่าใครเหนือกว่า!”
ริวที่ดูเหมือนไม่ได้รับแรงกดดันใดๆ จ้องหน้าจอเพียงชั่วพริบตาก่อนจะเริ่มเขียนข้อมูลลงไปด้วยความคล่องแคล่ว ด้วยความรู้ที่เขาสะสมมาตลอดหลายปีและความรู้ที่เขาได้มาเพิ่มจากระบบ
ทำให้เขาตอบได้อย่างง่ายดายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก
สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสียงกรรมการประกาศให้วางปากกาลงทำให้ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ข้อสอบถูกเก็บรวบรวมและนำไปตรวจสอบ
หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง กรรมการกลับมาพร้อมกระดาษในมือ “จากนี้ ฉันจะประกาศผลคะแนน ใครที่ได้คะแนนมากกว่า 80 จะผ่านเข้าสู่รอบปฏิบัติ”
เสียงประกาศคะแนนเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“หมาย301 เคน 30 คะแนน”
“หมายเลข302 ฮาดิส 49 คะแนน”
"หมายเลข303 เอ็ม 43 คะแนน”
“หมายเลข……”
ใบหน้าผู้เข้าสอบเต็มไปด้วยความผิดหวังเรื่อยๆเมื่อผ่านไปจบเกือบครึ่งห้องแล้วก็ยังไม่มีคนผ่านข้อเขียนได้
จนกระทั่ง...
“หมายเลข 379 กอร์มุส 93 คะแนน”
เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้อง ทุกคนหันไปมองกอร์มุสที่ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ แต่รอยยิ้มนั้นคงอยู่ได้ไม่นาน
“หมายเลข380 เอลซ่า 98 คะแนน”
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ทุกสายตามองไปยังเอลซ่าที่นั่งนิ่งอยู่ด้วยความชื่นชม หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความงดงามและสง่างาม
กอร์มุสรีบลุกขึ้น เขาพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ดูสง่างามและพูดกับเอลซ่า
“คุณเอลซ่า.. คุณเก่งมากเลย!”
" พวกเราทั้งคู่ต่างมีคะแนนมากที่สุดในห้องและมาจากเมืองเพลิงตะวันเหมือนกัน เพราะฉะนั้นพวกเรามาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์อสูรด้วยกันหลังจากนี้ดีไหมครับ”
ถึงแม้จะได้ยินคำพูดของกอร์มุส แต่เอลซ่าไม่ได้สนใจแต่อย่างใด เธอเพียงปรายตามองเขาอย่างเย็นชาและเมินเฉยราวกับเขาไม่มีตัวตน ซึ่งทำให้กอร์มุสหน้าเสียและอับอาย
“ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงมาเมินฉัน”
" ถ้าเธอไม่สวย ทำไมนายน้อยผู้เก่งกาจและหล่อเหลาอย่างฉันต้องสนใจเธอด้วย " กอร์มุสกล่าวในใจด้วยความโกรธและหงุดหงิด
แต่ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นจากมุมห้อง กอร์มุสหันไปด้วยความโกรธและพบว่าริวเป็นคนหัวเราะ
“แกขำอะไร!” กอร์มุสถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ริวหันมาพร้อมรอยยิ้มล้อเลียนเล็กน้อย “ขอโทษที เจ้าหมูแฮม ไม่สิ! ตอนนี้ฉันควรเรียกนายว่าหมาเลียมากกว่า”
คำพูดของริวทำให้เกิดเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนรอบข้างทำให้กอร์มุสโกรธจัด “นายได้คะแนนมากกว่าฉันหรือไง ถึงกล้ามาพูดแบบ….”
แต่ก่อนที่กอร์มุสจะพูดจบ เสียงประกาศคะแนนก็ดังขึ้น
“หมายเลข399 ริว 100 คะแนน”
เสียงฮือฮาดังไปทั่วห้อง ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินว่าริวได้คะแนนเต็ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ริวหันมายิ้มซื่อๆ “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน”
กอร์มุสกัดฟันด้วยความโกรธ ขณะที่ริวเดินออกจากห้องอย่างสบายๆ ก่อนจะหันมาทิ้งท้าย “เจอกัน เจ้าหมูแฮม ไม่สิ เจ้าหมาเลีย”
เสียงประตูปิดลง ทิ้งให้กอร์มุสอยู่ในห้องด้วยความโกรธจัด
“ปัง!” กอร์มุสทุบโต๊ะด้วยความโกรธ เขาคำรามในใจ “รอให้ถึงการแข่งขันคัดเลือกหัวหน้ายิมอีกสองปีเถอะ! พ่อของฉันจะเตะพี่ชายแกออกไปและเป็นหัวหน้ายิมเมืองเพลิงตะวันแทน”
จากนั้นกอร์มุสก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลุงของเขาทันที
แต่ถ้ากอร์มุสรู้ว่า พี่ชายของริวที่เป็นหัวหน้ายิมในปัจจุบันกำลังฝึกฝนมังกรเพลิงตะวันที่พัฒนาพรสวรรค์ไปถึงระดับราชา และยังมีสัตว์อสูรพรสวรรค์ระดับราชาเพิ่มเข้ามาอีกตัว
กอร์มุสคงไม่คิดเช่นนั้น...
…………..
หลังจากริวออกจากห้องสอบ เขานั่งลงบนโต๊ะในมุมเงียบสงบของลานกว้างใต้ร่มไม้ใหญ่ สายลมเย็นพัดผ่านเบาๆ เสียงจอแจของผู้เข้าสอบที่กำลังพูดคุยกันถึงผลลัพธ์อยู่ห่างออกไป
ริวหลับตาลง ภายนอกดูเหมือนเขากำลังพักผ่อน แต่แท้จริงแล้วจิตของเขากำลังจดจ่ออยู่กับ แผนที่โบราณสถาน ที่เขาได้รับจากหีบสมบัติระดับเงิน
ดูจากตำแหน่งแล้วซากโบราณสถานแห่งนั้นอยู่ไม่ไกลจากเมืองนี้มากนัก นอกจากการเข้าร่วมการแข่งขัน เขายังมีเป้าหมายที่จะวางแผนสำรวจสถานที่นั้นด้วย
ในขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับแผนที่ เสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้ริวต้องลืมตา
เขาเงยหน้าขึ้นและพบกับร่างของเอลซ่าที่กำลังเดินเข้ามา ใบหน้าของเธองดงามและสง่างามตามแบบฉบับของเธอ แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่พอใจเล็กน้อย
“เธอมีอะไรหรือเปล่า?” ริวถามด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความสงสัย เพราะพวกเขาไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนเลย
“นายทำได้ยังไง?” เอลซ่าถามทันที
ริวขมวดคิ้วเล็กน้อย “หมายถึงอะไร?”
“ฉันหมายถึง... นายทำคะแนนเต็ม100ได้ยังไง?” น้ำเสียงของเอลซ่าแฝงด้วยความไม่เต็มใจที่จะถาม แต่สายตาของเธอบ่งบอกว่าเธออยากได้คำตอบ
ถึงแม้เธอจะแพ้ริวและอยู่อันดับสองมาตลอด แต่เธอก็เป็นคนที่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง
เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีชื่อเสียงด้านการวิจัยและวิวัฒนาการสัตว์อสูร คะแนน 98 ของเธอในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันความสามารถที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มผู้เข้าสอบ
เธอรู้ดีว่าริวนั้นโดดเด่นในเรื่องการวิจัยสัตว์อสูร แต่เธอไม่เชื่อว่าเขาจะมีความสามารถด้านวิวัฒนาการสัตว์อสูรมากไปกว่าเธอ
แต่ผลลัพธ์ทำให้เธอผิดหวังมาก เธอได้ 98 จาก 100 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมากแล้วเป็นรองริวแค่นั้น
แต่ริวได้100เต็มเพราะคะแนนเต็มแค่100เท่านั้น
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกท้าทายในสิ่งที่เธอถนัดที่สุด มันไม่ใช่ความอิจฉา แต่เป็นความคับข้องใจที่ทำให้เธอต้องรู้คำตอบ
มีคำกล่าวว่า การจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เราต้องรู้จักพวกเขาให้ดีเสียก่อน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจมาถามริวโดยตรง
ริวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย “ก็แค่มีความรู้พอจะตอบคำถามเหล่านั้นได้”
เอลซ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับไม่พอใจกับคำตอบที่ไม่เจาะจงของเขา “แล้วทำยังไงถึงจะมีความรู้เยอะขนาดนั้น?”
ริวชะงักเล็กน้อย เขาคิดจะตอบแบบห้วนๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุย แต่เมื่อเขาสบสายตาของเอลซ่าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง เขาก็เปลี่ยนใจ
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขาได้รับความรู้ส่วนหนึ่งมาจากระบบหรือกลับชาติมาเกิด
ริวทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“เพราะฉันเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่ายังไงล่ะ” ริวตอบพลางยิ้มบางๆ
“เรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า?” เอลซ่าพึมพำก่อนจะถามต่อ “นายหมายถึงอะไร?”
ริวอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เธอควรรู้ว่าเรายังเป็นเด็กอายุแค่ 15 ปี เท่านั้น แม้เราจะหาความรู้จากหนังสือหรืออินเทอร์เน็ตได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีประสบการณ์จริงที่ผ่านโลกมามากมาย พวกเขาย่อมรู้มากกว่าเรา”
"ฉันเองก็มีอาจารย์ที่เก่งมากคนหนึ่ง เขาสอนฉันทุกอย่าง ทั้งความรู้และประสบการณ์ ดังนั้นฉันจึงได้รับความรู้มากมายและประสบการณ์จากเขา ”
แน่นอนว่าริวไม่ได้โกหก! เพราะเขามีอาจารย์ที่คอยสอนเขาเกี่ยวกับการวิจัยสัตว์อสูรจริงๆ และเขาก็ได้รับประโยชน์จากอาจารย์ของเขามาก
เอลซ่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “งั้นนายช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหม?”
คำถามของเอลซ่าทำให้ริวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะชี้มาที่ตัวเองด้วยความงุนงง “ฉันเหรอ?”
“ใช่ นายบอกเองว่าต้องเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า นายเก่งกว่าฉันไม่ใช่เหรอ?” เอลซ่าตอบด้วยน้ำเสียงตรงไปตรงมา
ริวหัวเราะเบาๆ “ขอโทษที ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้น”
คำปฏิเสธตรงๆ ของริวทำให้เอลซ่าชะงักไปเล็กน้อยซึ่งไม่อาจหลบสายตาริวของได้
“เธอคงไม่คิดว่าถ้าเธอขอให้ผู้ชายคนไหนในโรงเรียนช่วย ทุกคนจะต้องตอบตกลงหมดใช่ไหม?” ริวพูดพร้อมยิ้มมุมปาก
เอลซ่าไม่ตอบกลับ เธอจ้องเขาเขม็ง ริวจึงพูดด้วยรอยยิ้มหยอกล้ออีกครั้ง “ไม่อยากเชื่อเลยว่านางฟ้าประจำโรงเรียนจะมีมุมแบบนี้ด้วย เป็นเรื่องไม่คาดคิดจริงๆ”
เอลซ่าที่ได้ยินคำพูดของริวก็เต็มไปด้วยความหงุดหงิด เธอหมุนตัวเดินกลับไปทันที แต่ก่อนที่เธอจะเดินออกไป เธอหันกลับมาทิ้งคำพูดที่ทำให้ริวต้องชะงัก
“ฉันคิดว่าจะแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่อยู่อาศัยของสัตว์อสูรรูปแบบราชาที่ฉันเคยพบซะหน่อย”
“เฮ้อ…น่าเสียดายจริงๆ”
คำพูดของเอลซ่าทำให้ริวลุกขึ้นมาและรีบถามทันที
“เธอจริงจังหรือเปล่า!?”
เอลซ่าไม่ได้ตอบกลับและเดินต่อไปราวกับไม่ได้ยิน เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการแก้แค้นเขา
“เดี๋ยวก่อน!”
เอลซ่าหันมาก่อนที่จะพบกับริวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
“อ่ะแฮ่ม… ฉันคิดว่าเราสามารถพวกคุยกันได้” ริวพูดด้วยรอยยิ้มเบิกกว้างที่เป็นมิตรมาก
“(¬_¬メ) ” เอลซ่า
“ (≧◡≦) ” ริว