ตอนที่แล้วบทที่44 กำจัดโกเล็มผู้พิทักษ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่46 การแข่งขันนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรระดับภูมิภาค

บทที่45 กลืนกินผลวิญญาณพฤกษา


“นี่มันคืออะไรกัน...?”

ริวขมวดคิ้ว เขาไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน ไม่ว่าจากตำราโบราณหรือจากความรู้ของเขา เขายื่นมือแตะมันเบาๆ ความเย็นจากอัญมณีทำให้รู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างไหลผ่านเข้าสู่ร่างกาย

แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าอัญมณีนี้คืออะไร แต่มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

ริวตัดสินใจเก็บมันลงในแหวนมิติของเขาอย่างระมัดระวัง ความเงางามของอัญมณียังคงฉายแสงภายในแหวนมิติราวกับมันยังคงเฝ้ารอการค้นพบ

จากนั้นเขาก็เบนสายตากลับไปที่ผลวิญญาณพฤกษาบนต้นไม้ใหญ่ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ ผลสีเขียวอ่อนทั้งหกผลเปล่งแสงราวกับหยาดน้ำค้างบนยอดไม้

ริวปีนขึ้นไปเก็บผลวิญญาณพฤกษาอย่างระมัดระวัง เขาสังเกตเห็นว่าแต่ละผลนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังที่บริสุทธิ์และหนาแน่น

“หกผล… เพียงพอแล้วสำหรับความพยายามครั้งนี้”

“ดูเหมือนมันจะต้องใช้เวลาเดือนหรือสองเดือนถึงจะสร้างผลใหม่ได้”

ริวคิดในใจ เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยพัฒนาทั้งตัวเขาเองและสัตว์อสูรของเขาได้

หลังจากนั้นเขาก็เก็บผลวิญญาณพฤกษาเหล่านี้ไว้ในแหวนมิติอย่างระมัดระวัง และตัดสินใจว่าเขาจะมาเก็บเกี่ยวผลเหล่านี้อีกในอนาคต

นอกจากผลวิญญาณพฤกษาแล้ว ริวยังเก็บสมุนไพรหายากบางชนิดในดันเจี้ยน  สมุนไพรเหล่านี้มีสีสันและกลิ่นหอมเฉพาะตัว พวกมันเติบโตอยู่ในที่ๆพลังธรรมชาติหนาแน่นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เขาเลือกเก็บเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ดันเจี้ยนสูญเสียสมดุลหรือธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่มีอยู่

เขาคิดว่าที่นี่อาจเป็นหนึ่งในสถานที่ๆบ่มเพราะแหล่งทรัพยากรของเขา

“โกเล็มผู้พิทักษ์พฤกษาคงเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในดันเจี้ยนแห่งนี้แล้ว”

"เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาสำหรับฉันที่จะมาที่นี่อีกรอบ”

ริวเอ่ยกับตัวเองพลางเก็บทุกอย่างไว้ในแหวนมิติ หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เขาก็ออกจากดันเจี้ยนและมุ่งหน้ากลับไปยัง ต้นไม้แห่งชีวิตซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรลับแห่งนี้

…..

ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ริวก็กลับมาถึงต้นไม้แห่งชีวิต เขาเงยหน้ามองต้นไม้มหึมาที่แผ่กิ่งก้านกว้างใหญ่ปกคลุมทั่วบริเวณ  เปล่งแสงเรืองรองราวกับหล่อเลี้ยงพลังชีวิตให้กับทุกสิ่งในอาณาจักรลับแห่งนี้

ที่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิต มีบ้านหลังใหญ่ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา บ้านหลังนี้เป็นสิ่งที่ริวนำเข้ามาจากโลกภายนอก แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบๆ

บ้านของริวเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนบ้านปกติ แต่สิ่งที่พิเศษคือบรรยากาศรอบตัวที่สงบเงียบและเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตจากต้นไม้แห่งชีวิต ริวมักใช้เวลาอยู่ที่นี่ในช่วงพักผ่อน ฝึกฝน หรือแม้กระทั่งตอนนอน

พลังแห่งชีวิตจากต้นไม้ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและบำรุงร่างกายและจิตใจของเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ พลังเหล่านี้ยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่จิตวิญญาณของเขาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เขาถือว่าที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของเขาโดยไม่รู้ตัว!

นอกจากนี่เขายังให้สัตว์ของเขาอยู่ที่นี่มากกว่าพื้นที่จิตวิญญาณของเขาซะอีก เนื่องจากพวกเขาได้รับประโยชน์จากการอาศัยอยู่ที่นี่มากเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะอารอนที่เป็นสัตว์อสูรธาตุพืช

ริวเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของเขา บรรยากาศภายในเงียบสงบ แต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายแต่ดูหรูหรา สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดของเจ้าของบ้าน

ขณะเดียวกัน แสงแดดอ่อนๆ ยามบ่ายที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้บ้านดูน่าอยู่ยิ่งขึ้น

ทว่า... เสียงก๊อบแก๊บเล็กๆ ที่ดังมาจากห้องนั่งเล่นดึงความสนใจของริวไปทันที

“เสียงอะไรน่ะ?” เขาขมวดคิ้วเดินตรงไปยังต้นเสียง

เมื่อเปิดประตูห้องนั่งเล่นเข้าไป ภาพที่ปรากฏทำให้ริวชะงักไปครู่หนึ่ง บนโซฟาสีครีมมีร่างของหญิงสาวผมสีเขียวอ่อนที่เปล่งประกายความงดงามนั่งอยู่

ใบหน้าของเธอแม้จะดูผ่อนคลายและเรียบง่าย แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าดึงดูด ดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับอัญมณีที่สะท้อนแสง

เธอคือ เฟลิน่า วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้แห่งชีวิต

เฟลิน่าดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นริวในทันที เพราะสายตาของเธอจับจ้องไปที่ทีวีตรงหน้า บนหน้าจอมีภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องหนึ่งกำลังเล่นอยู่ พร้อมเสียงระเบิดดังสนั่นเป็นฉากหลัง

มือข้างหนึ่งของเธอถือห่อขนมไว้แน่น ส่วนโต๊ะตรงหน้าเต็มไปด้วยขนมและน้ำอัดลมที่จัดเรียงอย่างไร้ระเบียบ

ทันทีที่เธอรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของริว เฟลิน่าก็หันกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูสดใสและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

“กลับมาแล้วเหรอ!?”

ริวยืนค้างไปชั่วอึดใจ เขาระงับความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นจากภาพตรงหน้า เธอดูเหมือนเทพธิดาแห่งพฤกษาผู้สง่างาม หากแต่ในขณะนี้เธอกำลังใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาที่กำลังดูทีวีและกินขนมแบบสบายใจ

“เธอกำลังทำอะไรอยู่?” เขาถามพลางเดินเข้ามาใกล้

“แน่นอนว่าฉันกำลังศึกษาโลกมนุษย์อยู่” เฟลิน่าตอบทันทีด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่การตอบคำถามแบบไม่เต็มปากเต็มคำของเธอทำให้ริวคิดในใจว่า

“เหรอ!? ฉันคิดว่าเธอแค่หาอะไรแก้เบื่อมากกว่า”

หลังจากที่ริวย้ายบ้านหลังนี้มาอยู่ในอาณาจักรลับพืช เฟลิน่าก็มักจะแวะมาที่นี่บ่อยครั้ง เธอให้เหตุผลว่าเธอต้องการศึกษาโลกมนุษย์

แต่ริวรู้ดีว่าเธอแค่ต้องการหาอะไรแก้เบื่อมากกว่า อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดใจเธอ เพราะเฟลิน่าเคยช่วยเขาไว้มากมาย

“การไปดันเจี้ยนในครั้งนี้ทำให้ฉันเหนื่อยมาก” ริวกล่าวพลางถอนหายใจ “เลยคิดว่าจะทำอาหารกินสักหน่อย แล้วก็นอนพักผ่อน”

ทันทีที่เฟลิน่าได้ยินคำว่า “ทำอาหาร” ดวงตาของเธอเปล่งประกาย เธอเคยได้ลิ้มรสอาหารฝีมือของริวมาก่อน และมันเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบมาก

“เร็วสิ! ฉันอยากกินด้วย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

ริวเดินไปที่ห้องครัว เตรียมวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว ไม่นานกลิ่นหอมของอาหารก็อบอวลไปทั่วบ้าน เขายกจานอาหารที่เต็มไปด้วยเมนูน่ากินออกมาวางบนโต๊ะ โดยมีเฟลิน่านั่งรออยู่พร้อมหมอนใบเล็กในมือ

พวกเขารับประทานอาหารด้วยความเพลิดเพลิน ใบหน้าของเฟลิน่าเต็มไปด้วยความพึงพอใจหลังจากลิ้มรสอาหารจานสุดท้าย

“ว่าแต่ว่า…” เฟลิน่าถามขึ้นหลังจากกินอิ่ม “นายได้อะไรกลับมาจากดันเจี้ยนบ้าง?”

ริวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เขาพบเจอในดันเจี้ยน รวมถึงการต่อสู้กับโกเล็มผู้พิทักษ์พฤกษา และสิ่งที่เขาเก็บมาได้จากดันเจี้ยน

จากนั้นเขานำอัญมณีสีเขียวออกมาจากแหวนมิติวางลงบนโต๊ะ

แสงสีเขียวอ่อนที่เปล่งออกมาจากอัญมณีทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบลง เฟลิน่าจ้องมองมันด้วยสายตาสงสัย

“เธอรู้ไหมว่า… นี่คืออัญมณีอะไร?” ริวถาม

เฟลิน่าหยิบอัญมณีขึ้นมา แสงสีเขียวส่องสะท้อนในดวงตาของเธอ เธอเพ่งพินิจมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“นี่มัน…”

ริวเบิกตากว้างด้วยความหวัง “เธอรู้จักมันใช่ไหม?”

เฟลิน่าส่ายหน้าเล็กน้อยและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความประหลาดใจ

“ไม่ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันมีพลังที่ลึกลับ… และทรงพลังมาก ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ในนี้”

คำตอบของเฟลิน่าทำให้ริวรู้สึกทั้งผิดหวังและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน อัญมณีชิ้นนี้ยังคงเป็นปริศนา แต่เขามั่นใจว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมากจนแม้แต่เฟลิน่าก็ยังไม่สามารถมองผ่านได้

หลังจากนั้นเฟลิน่าก็กลับไปนอนบนโซฟา กินขนมและดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบ ซึ่งทำให้ริวคิ้วกระตุกเล็กน้อย

เธอคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอหรือไง!?

ริวเลิกสนใจและกลับไปห้องนอนของเขาและนอนบนเตียงที่นุ่มนวล วันนี้เขาเหนื่อยมากจากการต่อสู้กับสัตว์อสูรต่างๆ

แต่ในขณะเดียวกันประสบการณ์เหล่านั้นก็ช่วยให้เขาก็พัฒนาขึ้นมาไม่น้อย

ดวงตาของริวค่อยๆปิดลงด้วยความเหนื่อยล้าและเข้าสู่ห้วงนิทรา

…………

ณ ยามเช้า อากาศที่สดชื่น ลมพัดเบาๆ ผ่านลานฝึกด้านหลังบ้านของริว เสียงใบไม้เสียดสีกันดังก้องเหมือนบทเพลงของธรรมชาติ

ที่ลานฝึก ร่างของริวขยับไปมาด้วยความมั่นคง ขณะที่เขาแกว่งดาบอย่างช้าๆ และมั่นคง แม้การเคลื่อนไหวของเขาจะดูธรรมดา แต่ทุกจังหวะกลับเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นและความละเอียดอ่อน

“ฟุ่บ!” เสียงดาบแหวกผ่านอากาศในจังหวะสุดท้าย ริวหยุดยืนนิ่ง เหงื่อที่เกาะใบหน้าสะท้อนแสงแดดอ่อนๆ ของเช้าวันใหม่ เขาเก็บดาบเข้าฝัก หายใจเข้าลึกเพื่อปรับสมดุลร่างกาย

“ถึงเวลาแล้ว...” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหยิบ ผลวิญญาณพฤกษา ออกมาจากแหวนมิติ

ผลวิญญาณพฤกษาเปล่งแสงสีเขียวอ่อนราวกับหยดน้ำค้างที่รวบรวมพลังแห่งธรรมชาติเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของมันทำให้จิตใจของริวสงบและร่างกายผ่อนคลายอย่างประหลาด

เขามองผลไม้นั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกัดลงไปโดยไม่ลังเล

“ฟึบ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด