บทที่40 เซเวียร์

“หมอนั่นไม่เคยใช้ดาบจริงๆ หรือ?” โอดะกระซิบกับชินที่อยู่ข้างๆ

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้” ชินตอบกลับด้วยน้ำเสียงชื่นชมในมือของเขาถือหอกเหล็กชิ้นหนึ่ง  ดูเหมือนเขาจะเลือกหอกเป็นอาวุธ

นักเรียนหลายคนที่เห็นการต่อสู้ของอลันและริวต่างเลือดร้อนและพยายามฝึกฝนมากกว่าเดิม พวกเขาหวังว่าจะเเข็งแกร่งเหมือนอลันและริว

…

อลันยืนอยู่ใต้เงาไม้ใหญ่ เสียงลมพัดใบไม้สั่นไหวสร้างบรรยากาศสงบในสนามฝึก ในขณะที่ริวกำลังฝึกดาบและปราณอยู่โดยมีอลันคอยแนะนำจากด้านข้าง

“ดูเหมือนว่านายจะมีพรสวรรค์ด้านนี้มาก” อลันกล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชมพร้อมรอยยิ้มบาง

“หากในอนาคตเมื่อนายจบการศึกษาจากที่นี่ และอยากมุ่งเน้นไปที่การฝึกปราณ ฉันขอแนะนำให้นายเข้าหนึ่งในสถาบันชั้นนำของสถาบันเซเวียร์ มันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝึกปราณ”

ริวเอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยความสงสัย “สถาบันเซเวียร์คืออะไรเหรอครับ?”

อลันยืดตัวขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววมั่นคงและเต็มไปด้วยความเคารพเมื่อพูดถึง

“โลกนี้มีองค์กรหนึ่งที่ถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก นั่นคือ องค์กรอัศวินสีขาว หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า องค์กรเซเวียร์”

“องค์กรเซเวียร์...” ริวพูดชื่อออกมาช้าๆ ขณะทวนคำ

“ใช่! เซเวียร์หรืออัศวินเซเวียร์คือชื่อเรียกของกลุ่มที่เชี่ยวชาญด้านการใช้ปราณในการต่อสู้เป็นหลัก”

" องค์กรอัศวินสีขาวคือองค์กรที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมเซเวียร์ผู้มีความสามารถจากทั่วโลก” อลันกล่าวพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ ราวกับจะย้ำความยิ่งใหญ่ของมัน

“ทั้งสี่ทวีปต่างมีองค์กรอัศวินสีขาวตั้งอยู่ พวกเขาไม่ได้เป็นแค่องค์กรหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พึ่งของผู้คนในยามที่เผชิญกับภัยอันตรายต่างๆ” อลันหยุดเล็กน้อยก่อนเล่าต่อ

“และสำหรับสถาบันเซเวียร์ มันคือสถาบันฝึกฝนที่สร้างนักรบเซเวียร์ พวกเขาเน้นการฝึกฝนการใช้พลังปราณอย่างเข้มข้น นักเรียนที่เรียนที่นั่นต่างเชี่ยวชาญพลังปราณอย่างมากและสามารถเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรได้อย่างสูสี”

“แน่นอนว่ามันน่าสนใจมาก…แต่”  ริวส่ายหัวปฎิเสธและพูดต่อว่า

“ผมไม่ได้อยากมุ่งไปที่การฝึกปราณเพียงอย่างเดียว ผมอยากไปที่สถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรมากกว่า”

อลันหัวเราะเบาๆก่อนตอบกลับ “ฉันคาดไว้แล้วว่าเธอจะคิดแบบนั้น ดังนั้นฉันจึงมีอีกสถาบันหนึ่งที่อยากแนะนำ”

ริวเลิกคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“มันคือ สถาบันเซเรสเทีย” อลันกล่าวชื่อออกมาช้าๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“สถาบันเซเรสเทียเป็นหนึ่งในสถาบันที่ไม่เหมือนใคร มันผสานทั้งศาสตร์ของการฝึกปราณและการฝึกสัตว์อสูรเข้าด้วยกัน นักเรียนที่จบจากที่นั่นสามารถเป็นทั้งเซเวียร์และผู้ฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน”

ริวพึมพำชื่อสถาบันนั้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความคุ้นเคย “เซเรสเทีย... นั่นคือหนึ่งในห้าสถาบันที่ดีที่สุดในทวีปดาวประกายฟ้านี้ใช่ไหมครับ?”

“ถูกต้อง” อลันยืนยันพร้อมรอยยิ้ม “ฉันเคยเป็นศิษย์ที่นั่นมาก่อน ฉันจึงรู้เกี่ยวกับที่นั่นเป็นอย่างดี หากเธอต้องการเป็นนักรบที่เชี่ยวชาญทั้งสองศาสตร์ในเวลาเดียวกัน ที่นั่นคือคำตอบ”

“ไม่น่าแปลกใจที่ครูฝึกอลันจะเป็นผู้ใช้ปราณและผู้ฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน เขาเป็นศิษย์เก่าของสถาบันเซเรสเทียนี่เอง” ริวคิดในใจอยู่ชั่วครู่

ริวมองอลันอย่างจริงจังก่อนจะพยักหน้า “ผมจะจำชื่อสถาบันนี้ไว้ในใจ  ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำครับ”

“ไม่เป็นไร” อลันตอบกลับ

…….

ณ  ช่วงเวลาตอนเย็นของวันนี้

แสงแดดยามเย็นส่องกระทบลานฝึกที่เต็มไปด้วยนักเรียนซึ่งยังคงตื่นเต้นจากการฝึกซ้อม  เสียงพูดคุยเบาๆ ดังทั่วบริเวณ บางคนจับกลุ่มพูดคุยถึงเทคนิคและปราณที่ตนกำลังฝึกฝน บางคนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับอาวุธที่พวกเขาเลือก

ในขณะนั้นเองอลันก็เดินมาในลานฝึก ทุกคนหยุดการพูดคุยและหันมามองเขาด้วยความสนใจ บรรยากาศรอบๆต่างเงียบลงทันที

“ฟังให้ดี!” เสียงของอลันทรงพลังและหนักแน่น “อีกสองสัปดาห์จากนี้ พวกเราจะไปอบรมนอกสถานที่”

คำพูดนี้เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางลานฝึก นักเรียนทุกคนหันมามองหน้ากัน บางคนมีสีหน้าตื่นเต้น บางคนกลับมีสีหน้ากังวลชัดเจน

“การฝึกอบรมนอกสถานที่จะใช้เวลาหนึ่งเดือนเต็ม” อลันกล่าวต่อ “และฉันจะพูดอีกครั้ง เหมือนที่เคยบอกไว้ตั้งแต่วันแรก... การฝึกนี้มีความเสี่ยง อาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือแม้แต่เสียชีวิต”

น้ำเสียงของอลันจริงจังจนทำให้นักเรียนบางคนกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า บางคนหลุบตามองพื้น ในขณะที่อีกหลายคนมองไปยังอลันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ

“ในสองสัปดาห์นี้ ฉันต้องการให้พวกเธอเตรียมตัวให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกาย จิตใจ หรืออาวุธของพวกเธอ” เขากวาดสายตามองนักเรียนแต่ละคนอย่างหนักแน่น

“จำไว้ การฝึกนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อฝึกฝนความสามารถของพวกเธออย่างเดียวเท่านั้น แต่เพื่อให้พวกเธอตระหนักถึงอันตรายของโลกนี้อย่างแท้จริง”

หลังจากกล่าวจบ อลันก็โบกมือให้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน นักเรียนทยอยออกจากลานฝึกด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย บางคนยิ้มด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่บางคนยังคงแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

……

เวลาได้ผ่านไปอีกสามวันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ ยังคงฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่อเตรียมตัวสำหรับการอบรมนอกสถานที่ ริวกลับยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ริวได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์อสูรตัวแรกของเขา Life Grain อย่างเป็นทางการ แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่าย แต่ริวก็มั่นใจอย่างมากว่าจะได้เสียงตอบรับทันที

ริวเลือกใช้ StarLink แอพโซเชียลมีเดียที่ทุกคนทั่วโลกใช้ เพื่อเป็นช่องทางในการโฆษณาและขายผลิตภัณฑ์ของเขา เขาโพสต์เกี่ยวกับคุณสมบัติของ Life Grain อย่างละเอียด

ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับสัตว์อสูรทุกสายพันธุ์ ไปจนถึงการทดลองและผลลัพธ์ที่พิสูจน์ว่ามันช่วยเพิ่มพลังและฟื้นฟูบำรุงร่างกายให้กับสัตว์อสูรได้จริง

ด้วยฐานผู้ติดตามจำนวนมากในบัญชีของริว การโฆษณานี้จึงเริ่มกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ในโลกที่ผู้ฝึกสัตว์อสูรต้องพึ่งพาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ StarLinkเป็นช่องทางที่ดีที่สุด

รวมถึงนักวิจัยสัตว์อสูรหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆที่ต้องการเผยแพร่ผลงานและสร้างรายได้ให้กับตัวเอง

"StarLink"  เป็นแอพโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก แอพนี้ถูกควบคุมและดูแลโดยสหพันธ์โลกอสูร

ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นที่ยอมรับสำหรับทุกคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร นักวิจัย สัตว์อสูร นักเรียน หรือแม้แต่คนธรรมดา

นอกจากจะมีไว้เพื่อพูดคุยสื่อสารหรือแบ่งปันข้อมูลในรูปแบบโพสต์ ข้อความ หรือวิดีโอ

ยังมี'ตลาดข้อมูล' ที่นักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญสามารถขายข้อมูล ความรู้ หรือผลการค้นคว้าของตัวเอง เช่น สูตรอาหารสัตว์อสูร เทคนิคการฝึกฝน หรือการรักษาโรคของสัตว์อสูร ได้อีกด้วย

เป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการโฆษณา

ซึ่งริวก็ทำแบบนั้นเช่นกันแต่เขาขายข้อมูลที่เขาค้นคว้าได้ในราคาถูกที่คนทั่วไปสามารถซื้อได้โดยไม่ลำบากอะไร

ถึงแม้จะไม่ได้กำไรนัก แต่เหตุผลที่ริวทำเช่นนี้เพราะเขาต้องการเน้นจำนวนมากกว่าราคา ซึ่งจุดประสงค์จริงๆของเขาก็คือชื่อเสียง

ริวรู้ดีว่า ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างธุรกิจ รวมถึงในฐานะนักวิจัยสัตว์อสูร

ชื่อเสียงเป็นตัวกำหนดว่า ผู้คนจะเชื่อถือในข้อมูลหรือผลิตภัณฑ์ของเขาหรือไม่ หากเขาเป็นที่รู้จักในวงการในฐานะนักวิจัยที่มีความสามารถ ผู้คนก็จะเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่เขาแนะนำหรือขายมากขึ้น

นอกจากนี้ในโลกที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์อสูรมากมาย การมีชื่อเสียงที่ดีจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของริวขายได้มากกว่าคู่แข่งการค้ามากมาย

อีกอย่างมันเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมโยงริวกับเครือข่ายคนที่มีความสนใจเดียวกัน  พวกเขาเหล่านี้อาจกลายเป็นลูกค้าประจำหรือพันธมิตรในอนาคต

แน่นอนว่าชื่อเสียงไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว

ริวจึงเริ่มสร้างชื่อเสียงตั้งแต่ที่เขาเริ่มเป็นนักวิจัยสัตว์อสูร โดยการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้

แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เพียงมุ่งหวังผลกำไร แต่ยังสนับสนุนชุมชนสัตว์อสูรในภาพรวม ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี

นอกจากนี้มันยังแสดงช่วยให้เห็นถึงความสามารถของเขาซึ่งช่วยในการสร้างความสัมพันธ์กับนักวิจัยสัตว์อสูรที่เก่งกาจได้มาก

ในเวลาไม่นาน บัญชีของริวก็เริ่มได้รับความสนใจจากผู้ติดตามเพิ่มขึ้น การที่เขาเปิดกว้างในการให้ความรู้และราคาที่เป็นมิตร ทำให้ผู้คนมองเขาในแง่ดีและเริ่มซื้อข้อมูลของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งริวยังคงต้องการรักษาเอกลักษณ์นี้ของเขาต่อไป!

ดังนั้นเขาจึงขายLife Grain ในราคาถูกเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้โดยหวังว่าจะได้รับชื่อเสียงอย่างกว้างขวางโดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นสะพานในการเติบโตของบริษัทของเขา

แน่นอนว่าริวไม่ได้ต้องการที่จะขายผลิตภัณฑ์ของเขาในราคาถูกตลอดไปเพราะเขาต้องการทรัพยาการจำนวนมากในการฝึกฝนของเขา

ดังนั้นเขาจึงทำ Life Grain ด้วยสูตรอาหาระดับต่ำที่ระบบให้มาเท่านั้น เมื่อเขาได้ชื่อเสียงมากมายจากLife Grainแล้ว เขาจะทำผลิตภัณฑฺ์อาหารสัตว์อสูรเกรดพรีเมี่ยมจากสูตรอาหารระดับกลางในราคาสูงเพื่อสร้างกำไรมากขึ้น

นี่คือสิ่งที่เขาวางแผนไว้!

และด้วยเหตุนี้เองในเวลาเพียงสามวัน ความนิยมของ Life Grain เริ่มกระจายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้คนที่เคยติดตามริวในฐานะนักวิจัยสัตว์อสูรเริ่มสนใจผลิตภัณฑ์นี้

รวมถึงมีนักวิจัยสัตว์อสูรหรือผู้เชี่ยวชาญ หลายคนที่มีชื่อเสียงซึ่งริวรู้จักและติดต่อด้วยช่วยโปรโมทอีกทีทำให้ความนิยมของ Life Grain พุ่งขึ้นอีกก้าวกระโดด

ผู้คนเริ่มแห่กันซื้อ Life Grain อย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากเปิดตัว ความนิยมของมันพุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงหลั่งไหลเข้าสู่ StarLink ทุกโพสต์ต่างพูดถึงประสิทธิภาพของอาหารสัตว์อสูรที่สามารถเพิ่มฟื้นฟูและบำรุงร่างกายสัตว์อสูรของพวกเขาได้จริง

หลายคนโพสต์ภาพสัตว์อสูรของตนที่ดูแข็งแรง สดใส พร้อมข้อความชื่นชมผลิตภัณฑ์นี้

“นี่มันน่าทึ่งมาก! หลังจากให้สัตว์อสูรของฉันกินสิ่งนี้ มันฟื้นฟูพลังได้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า! ที่สำคัญมันถูกมาก”

“สัตว์อสูรของฉันชอบอาหารนี้อย่างมากและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาหลังกินสิ่งนี้”

“คู่หูที่เป็นสัตว์อสูรธาตุพืชของฉันหลังจากกินสิ่งนี้ เขาก็ไม่แตะต้องอาหารยี่ห้ออื่นอีกเลย”

ความคิดเห็นเชิงบวกเหล่านี้ช่วยดันยอดขายขึ้นไปอีกขั้น ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน คลังสินค้าของ Life Grain ก็เริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ

หากเป็นอย่างนี้ต่อไปผลิตภัณฑ์ชุดแรกที่ผลิตอาจขายหมดภายในหนึ่งสัปดาห์

ริวที่ได้เห็นรีวิวในเชิงบวกต่างๆก็ดีใจมาก เพราะเขาตั้งใจทำผลิตภัณฑ์นี้อย่างมาก

แม้ธุรกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ริวไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองวุ่นวายกับงานบริหารมากเกินไป เขาเลือกขอความช่วยเหลือจากแม่ของเขา

แน่นอนว่าแม่ของเขาเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมาก  ไม่เพียงแต่เข้ามาช่วยจัดการเอกสารและการเงิน ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการจัดส่งอีก ทำให้ Life Grain สามารถกระจายไปถึงลูกค้าได้เร็วขึ้น

จากนั้นริวก็กลับไปยังอาณาจักรลับพืช

หลังจากที่ฝึกฝนมานาน เขาก็เตรียมพร้อมที่จะไปดันเจี้ยนพฤกษาพิศวง สถานที่เต็มไปด้วยความอันตรายและสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง

สาเหตุที่เขาต้องการไปเพราะนอกจากจะฝึกฝนสัตว์อสูรของเขาเองแล้ว

ที่นั่นยังมีภารกิจหีบสมบัติสีเงินให้เขาเข้าไปเก็บเกี่ยวอีกด้วย!