บทที่32 infinity Nexus Company
ริวหันไปมองกาเบรียลที่กำลังก้าวเข้ามาใกล้พอดีและพูดว่า
“คุณกาเบรียล… ผมต้องการไข่ใบนี้” เสียงแผ่วเบาของริวดังขึ้นแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น
กาเบรียลหยุดก้าวเท้าและหรี่ตามองไปที่ไข่ใบที่ริวชี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไข่ใบนี้ดูผิดปกติกว่าไข่ใบอื่น มันปราศจากออร่าพลังชีวิตใดๆ ราวกับมันตายไปแล้ว
กาเบรียลเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แน่ใจหรือว่าจะเอาเป็นไข่ใบนี้? มันแทบไม่มีพลังชีวิตหลงเหลืออยู่เลย”
ริวพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ใช่ครับ!”
กาเบรียลหันไปเรียกพนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีแดงเข้มที่ยืนอยู่ไม่ไกล พนักงานเหล่านั้นมีท่าทางคล่องแคล่วและมีความเชี่ยวชาญ พวกเขารีบเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้ายไข่สัตว์อสูร
อุปกรณ์นี้คือ "ฝาครอบควบคุมอุณหภูมิ" ทำจากคริสตัลโปร่งแสงที่สามารถเก็บรักษาอุณหภูมิและพลังงานในระดับที่เหมาะสมสำหรับไข่สัตว์อสูรทุกชนิด
ริวมองดูขณะที่พนักงานสองคนวางไข่ลงในฝาครอบอย่างระมัดระวัง ภายในฝาครอบมีไออุ่นเล็กน้อยที่แผ่กระจายจากแสงสีอำพันอ่อนๆ บริเวณฐาน
“ฝาครอบนี้จะช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่” กาเบรียลอธิบาย “มันออกแบบมาเพื่อไข่สัตว์อสูรที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ มันไม่เพียงแค่รักษาอุณหภูมิ แต่ยังช่วยกระตุ้นพลังชีวิตที่อ่อนแอในไข่ด้วย”
ริวพยักหน้าขอบคุณ เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้
หลังจากนั้นไข่สัตว์อสูรของอากิก็ถูกพนักงานนำออกมาซึ่งมันถูกปกคลุมด้วยฝาครอบควบคุมอุณหภูมิเช่นกัน
เมื่อไข่ทั้งสองได้ถูกเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว อากิก็หยิบแหวนมิติที่สวมอยู่บนมือขวาของตนขึ้นมา มันเป็นแหวนที่ดูธรรมดา แต่เต็มไปด้วยพลังที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แหวนมิติเป็นเครื่องมือที่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่เล็กได้ๆ เพื่อเก็บรักษาสิ่งของหรือพาเข้าสู่มิติที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการจัดเก็บ
นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังสามารถป้องกันสิ่งของจากการถูกทำลายโดยสิ่งแวดล้อมภายนอกได้อย่างดี
แหวนมิติมีราคาที่แพงมาก ราคาขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ด้านในแหวน ราคาต่ำสุดของแหวนมิติก็สูงถึง 1ล้านเหรียญแล้ว
อากิกำแหวนมิติในมือและใช้พลังจากมันเพื่อเก็บไข่ทั้งสองใบเข้ามิติในทันที ฝาครอบโปร่งแสงและไข่ที่อยู่ด้านในหายไปในพริบตาเหมือนถูกดูดซึมเข้าไปในมิติที่แหวนได้เชื่อมต่อไว้
“เรียบร้อยแล้ว” อากิกล่าวเบาๆ ดวงตาของเขาส่องประกายจากความพึงพอใจ
“ดูเหมือนว่าคุณจะเตรียมตัวมาดี”กาเบรียลที่ยืนมองอยู่เงียบๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อากิและริวไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ศูนย์วิจัยเพาะพันธุ์ไข่อสูรอีกต่อไป พวกเขาขึ้นรถหรูคันเดิมและออกจากศูนย์วิจัยเพาะพันธุ์ไข่อสูรไปยังเมืองอรุณสุริยะ
ระหว่างทางอากิและริวก็ไม่พลาดที่จะชมความงามตามธรรมชาติของพื้นที่นอกเมืองด้วย
เมื่อพวกเขามาถึงเมืองอรุณสุริยะ กาเบรียลก็พาพวกไปเขาไปเที่ยวชมสถานที่และโซนต่างๆในเมืองราวกับไกด์ด้วยความภาคภูมิใจในเมืองบ้านเกิดตัวเอง
มันเต็มไปด้วยสิ่งที่ทั้งทันสมัยและน่าทึ่ง ความสวยงามของอาคารที่มีลักษณะคล้ายป้อมปราการสูงตระหง่านและสะพานเหล็กที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำสีดำ ทำให้ทั้งอากิและริวรู้สึกว่าเมืองนี้เต็มไปด้วยพลังและความมั่นคง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดกาเบรียลก็พาพวกเขากลับไปยังสถานีการบินของเมืองสุริยะเหมือนที่พวกเขามาในตอนแรก
“ขอบคุณมากๆคุณกาเบรียลสำหรับวันนี้” อากิและริวกล่าวอย่างจริงใจขณะที่เปิดประตูรถออกจากรถไปยืนที่สถานี
กาเบรียลยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน “ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ถ้าเกิดปัญหาอะไรกับไข่สัตว์อสูรก็ติดต่อเข้ามาได้เลยนะครับ”
หลังจากนั้นไม่นาน รถหรูคันนั้นก็ขับออกไป ทิ้งให้ทั้งอากิและริวยืนอยู่ที่สถานีการบิน เตรียมตัวกลับบ้านของพวกเขา
แม้ทั้งคู่จะอยากฝึกฝนที่อาณาจักรลับไฟต่อ แต่พวกเขาต่างมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องกลับไปทำอยู่มากมาย
อากิในฐานะหัวหน้ายิมต้องกลับไปทำงานรวมถึงการเตรียมงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึง ส่วนริวเองก็ต้องกลับไปเรียนตามปกติ
เรียกได้ว่าการมาอาณาจักรลับไฟในครั้งนี้ ริวได้รับอะไรไปหลายอย่างมาก ผลประโยชน์ที่เขาได้รับมากที่สุดแน่นอนว่าเป็นไข่ของมังกรจักรพรรดิเพลิงหิมะ
และอีกอย่างหนึ่งคือการตระหนักความกว้างใหญ่ของโลกภายนอกที่แตกต่างจากความเข้าใจที่ถูกจำกัดในเมืองเล็กๆของเขาอย่างแท้จริง
หลังกลับบ้านริวมีเรื่องหลายอย่างให้คิด ไม่ว่าจะเป็นภารกิจจากระบบ การหาข้อมูลของวัสดุต่างๆในการฟื้นฟูไข่ การวางแผนการฝึก การสร้างแบรนด์อาหาร และอื่นๆอีกมากมาย
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็ว
ตลอดสัปดาห์เรียกได้ริวยุ่งมากเพราะเขาต้องวางแผนหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึงมีเรื่องมากมายที่เขาต้องทำ
หนึ่งในนั้นเลยคือผลิตภัณฑ์อาหารของเขาที่วางแผนมานาน
บริษัทและโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารของเขาได้ถูกก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ริวใช้เวลาไม่น้อยในการเตรียมงานเอกสาร การลงทะเบียนบริษัท และตรวจสอบโรงงาน
เขาลงทุนลงแรงทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบโลโก้ที่ดูทรงพลังสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายของเขา ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบชั้นยอดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์อสูรครั้งแรกของบริษัท
โรงงานของเขาตั้งอยู่บริเวณชานเมืองมันเคยเป็นอาคารเก่าทรุดโทรมมาก่อน แต่ตอนนี้มันได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่การผลิตที่ทันสมัย
แม้โรงงานจะไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่ทุกเครื่องจักรด้านในล้วนเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่ริวคัดสรรมาอย่างดีในงบประมาณที่จำกัด
หลังจากยุ่งอยู่หลายวัน ตอนนี้บริษัทและโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์อสูรของเขาได้ถูกก่อตั้งและจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในชื่อ Infinity Nexus Company
ซึ่งเป็นชื่อที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่ความเป็นไปได้ที่ไร้ขอบเขต แม้ในตอนนี้จะเป็นบริษัทเล็กๆ ในเมืองบ้านเกิด แต่เขาก็หวังว่ามันจะเติบโตจนกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ริวมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของเขาจะสามารถสร้างชื่อเสียงและดึงดูดลูกค้าได้ภายในเวลาไม่นาน
ในช่วงหลายวันมานี้ เขาใช้เวลาอยู่กับการคิดค้นสูตรอาหารและทำผลิตภัณฑ์อาหารตัวแรกของบริษัทขึ้นมา
ถึงแม้สูตรอาหารที่เขาได้รับมาจากระบบจะมีประสิทธิสูงเพียงพออยู่แล้ว แต่เขาก็ยังอยากเพิ่มความพิเศษหรือเอกลักษณ์ลงไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ที่เขาทำ
ผลิตภัณฑ์อาหารแรกของเขาชื่อว่า “Life Grain” เป็นอาหารสำหรับสัตว์อสูรที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พร้อมจุดเด่นในการฟื้นฟูร่างกายและบำรุงพลังอย่างมหาศาล
สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ริวมีแรงบันดาลใจจาก ต้นไม้แห่งชีวิต
ต้นไม้แห่งชีวิตเต็มไปด้วยพลังฟื้นฟูและบำรุงร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้มันยังทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายเพียงแค่ได้ดมกลิ่น เหมือนครั้งที่ริวเคยสัมผัสในอาณาจักรลับ
ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะนำคุณสมบัติอันโดดเด่นเหล่านี้มาผสมผสานในผลิตภัณฑ์ของเขา
ต้นไม้แห่งชีวิตมีสารสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ในเวลาที่รวดเร็ว เช่น พลังจาก สารฟื้นฟูที่สกัดจากราก และ น้ำค้างจากใบไม้ที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต ซึ่งช่วยเสริมพลังชีวิตและฟื้นฟูร่างกายของสัตว์อสูรได้อย่างน่าทึ่ง
รวมถึงยังมีวัตถุดิบอื่นๆเช่น เกสรดอกไม้แห่งการฟื้นฟู ใบไม้แสงจันทร์ ดอก….
ริวจึงได้นำสารเหล่านี้มาผสมผสานในสูตรอาหารของเขา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ยังช่วยในการฟื้นฟูและบำรุงร่างกายให้สัตว์อสูรพร้อมรับการฝึกฝนอย่างรวดเร็ว
ริวมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์อสูรที่ต้องการทั้งพลังงานและการฟื้นฟูที่รวดเร็วในเวลาเดียวกัน
สำหรับบรรจุภัณฑ์เขาออกแบบให้มีสีเขียวทองเพื่อสะท้อนถึงพลังธรรมชาติและความลึกลับซึ่งจะดึงดูดลูกค้าทุกคนที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
ริวเชื่อว่าหาก "Life Grain" ถูกปล่อยออกไปเมื่อไหร่มันจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และสร้างชื่อเสียงได้อย่างรวดเร็วในตลาด
นอกจากนี้ริวยังตั้งเป้าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกเดือน ใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อขยายตลาดไปยังเมืองใหญ่เพื่อจะสร้างรายได้ให้มากที่สุด
และแน่นอนว่าเมื่อธุรกิจเริ่มมีผลกำไร เขาก็พร้อมที่จะขยายโรงงานและบริษัทเพื่อสร้างกำไรมากขึ้นในอนาคต
การก่อตั้งบริษัทไม่ใช่จุดสิ้นสุดสำหรับริว แต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจใหม่จากการสัมผัสกับอาณาจักรลับไฟ มันปลุกความทะเยอทะยานในตัวเขาให้ลุกโชน
ริวไม่ต้องการถูกจำกัดอยู่ในเมืองเล็กๆ อีกต่อไป เขาเปรียบเสมือนนกที่ต้องการกางปีกออกบินสู่ฟากฟ้าอันกว้างใหญ่
เขาจึงวางแผนอย่างจริงจังที่จะจบการศึกษาล่วงหน้าเมื่อคลาสพิเศษสิ้นสุดลงในอีกสามเดือนข้างหน้า และมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรลับเพื่อฝึกฝนตัวเอง
แน่นอนว่าการฝึกฝนที่นั่นอาจจะเต็มไปยากลำบาก แต่เขาเชื่อว่ามันคือเส้นทางที่ทำให้เขาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต
ริวรู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้จะเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งในด้านชีวิตประจำวัน อุปกรณ์ฝึกฝน และทรัพยากรต่างๆ
ดังนั้น ในช่วงเวลาสามเดือนที่เหลือ เขาตั้งเป้าหมายอย่างหนักแน่นว่าจะหาเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต
ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยาน ริวพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกความท้าทายและเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างธุรกิจให้มั่นคงหรือการพัฒนาตัวเองในฐานะผู้ฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง
เขารู้ดีว่าหนทางข้างหน้านั้นยากลำบาก แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าความพยายามในวันนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า…