บทที่28 อาณาจักรลับธาตุไฟ
เมื่อรถยนต์สีดำจอดสนิทบริเวณหน้าทางเข้าของอาณาจักรลับธาตุไฟ ริวและอากิก็ลงจากรถ สายตาของพวกเขาถูกดึงดูดไปยังบริเวณรอบข้างที่เต็มไปผู้คนจำนวนมาก
บริเวณทางเข้ามี เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยในชุดเกราะสีดำเข้มพร้อมตราสัญลักษณ์ของสหพันธ์ พวกเขาติดอาวุธครบมือและกระจายตัวกันอยู่ทั่วบริเวณ ดวงตาคมกริบของพวกเขาสอดส่องตรวจสอบทุกคนที่ผ่านเข้าออก แสดงให้เห็นถึงมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด
ริวเหลือบมองกลุ่มคนที่กำลังต่อแถวรอเข้าไปในอาณาจักรลับ กลุ่มเหล่านี้มีทั้งผู้ฝึกสัตว์อสูรในชุดคลุมหลากสี บางคนยืนเคียงข้างสัตว์อสูรธาตุไฟของตนเอง
สัตว์อสูรเหล่านั้นเปล่งกลิ่นอายร้อนแรงทำให้บริเวณโดยรอบดูเหมือนจะร้อนกว่าเดิม
"ดูเหมือนที่นี่จะดึงดูดผู้ฝึกสัตว์อสูรธาตุไฟจำนวนมากจริงๆ" ริวคิดในใจ เมื่อมองเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่นของผู้คน
อาณาจักรลับธาตุไฟไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ธรรมดา แต่เปรียบเสมือนสวรรค์ของผู้ฝึกสัตว์อสูรธาตุไฟ เนื่องจากหากสัตว์อสูรธาตุไฟฝึกฝนที่นี่จะพัฒนาได้เร็วมากกว่าเดิมหลายเท่า
กระแสพลังงานที่แผ่ซ่านออกมาจากบริเวณนั้นทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูร้อนแรงและมีชีวิตชีวาอย่างประหลาด
อากิสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดของพลังงานธาตุไฟที่เข้มข้น แม้จะยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ภายในก็ตาม แต่พลังงานนั้นก็ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนถูกเติมเต็ม
“สมกับเป็นสถานที่ฝึกฝนระดับสูงจริงๆ หากผู้ฝึกสัตว์อสูรธาตุไฟไม่มีโอกาสมาสถานที่แห่งนี้ มันคงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายมากสำหรับพวกเขามาก”
อากิพึมพำเสียงเบา ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังสิ่งที่เป็น จุดเด่นที่สุดของสถานที่แห่งนี้ทันที
กระแสน้ำวนสีส้มขนาดมหึมาตั้งอยู่กลางลานกว้าง มันหมุนวนอย่างเชื่องช้าแต่เปี่ยมไปด้วยพลังที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ คล้ายกับประตูมิติที่ทอดสู่มิติอื่น แสงสีส้มที่เปล่งประกายจากน้ำวนสะท้อนอยู่ในดวงตาของริว
มันมีความคล้ายคลึงกับกระแสน้ำวนที่อาณาจักรลับธาตุไม้ที่เมืองเพลิงตะวัน แต่กลับใหญ่กว่ามากทั้งขนาดและพลังงานธาตุไฟที่ปล่อยออกมา
กระแสน้ำวนสีส้มนี้ดูเหมือนมีชีวิต ทุกการหมุนของมันปลดปล่อยคลื่นความร้อนที่กระจายออกมารอบบริเวณ ริวรู้สึกได้ว่ามันเป็นจุดศูนย์กลางของพลังงานทั้งหมดในที่นี้
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ฝึกสัตว์อสูรถึงอยากมาที่นี่กันนัก” ริวพูดขึ้น ดวงตาเปล่งประกายด้วยความทึ่ง
นอกจากจะเป็นสถานที่ฝึกสัตว์อสูรธาตุไฟแล้ว พลังงานที่เข้มข้นนี้ยังช่วยพัฒนาพื้นที่จิตวิญญาณของผู้ฝึกสัตว์อสูรด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีพรสวรรค์ธาตุไฟแบบอากิ ประสิทธิภาพของการฝึกฝนในที่แห่งนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว
กาเบรียลที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม “อาณาจักรลับแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทรงพลังที่สุดของสหพันธ์”
“ถึงสถานที่นี่จะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าไปฝึกฝนแต่ละครั้งสูงมาก แต่ก็มีคนจำนวนมากเต็มใจที่จะจ่ายมัน”
“ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานธาตุไฟที่ล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรของฉันหรือฉันเองก็จะได้รับประโยชน์มากมายจากที่นี่” อากิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“พวกเราจะเข้าสู่อาณาจักรลับกันเลยนะครับ” กาเบรียลพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ครับ!” อากิและริวพยักหน้าตอบ พร้อมมองไปยังกระแสน้ำวนสีส้มที่หมุนวนอยู่เบื้องหน้าด้วยความตื่นเต้นและคาดหวังถึงสิ่งที่จะได้พบในอาณาจักรลับแห่งนี้
“ถ้างั้นเราไปกันเถอะ!” กาเบรียลกล่าวและเดินนำทางไป
ริวและอากิเดินตามกาเบรียลไปยังจุดเข้าสู่อาณาจักรลับธาตุไฟ
กระแสน้ำวนสีส้มขนาดมหึมาหมุนวนอย่างช้าๆ แต่เปี่ยมไปด้วยพลังอันมหาศาล ทุกย่างก้าวใกล้ประตูมิติยิ่งทำให้พลังงานร้อนระอาที่แผ่ออกมาจากน้ำวนสัมผัสถึงผิวกายได้ชัดเจน
ริวยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาบนหน้าผาก ในขณะที่อากิดูสงบนิ่งแต่ภายในใจเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“นี่มันน่าทึ่งมาก!” อากิพึมพำเบาๆ สายตาของเขาจับจ้องไปที่กระแสน้ำวนที่ดูราวกับจะกลืนกินทุกสิ่งที่เข้าใกล้
ผู้คนที่กำลังต่อคิวเพื่อเข้าไปในอาณาจักรลับหันมามองด้วยความสงสัยเมื่อพวกเขาเห็น กาเบรียลและพวกริวเดินตรงไปที่กระแสน้ำวนโดยไม่มีทีท่าจะหยุดเพื่อตรวจเอกสารหรือผ่านกระบวนการใดๆ เหมือนคนทั่วไป
"พวกเขาเป็นใครกัน?" ใครบางคนในกลุ่มคนรอเข้าอาณาจักรลับพึมพำออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย
ในขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆ ซึ่งดูเข้มงวดกับผู้ฝึกสัตว์อสูรคนอื่นกลับเพียงแค่พยักหน้าให้กาเบรียล ราวกับพวกเขาคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี
กาเบรียลก้าวนำริวและอากิเข้าสู่กระแสน้ำวนโดยไม่ลังเล ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่มองตามความเคารพ
ความสง่างามของกาเบรียลและบรรยากาศอำนาจที่แผ่ออกมาโดยไม่ต้องพูดอะไรทำให้ผู้คนรอบข้างรับรู้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ทั้งริวและอากิสงสัยแต่ยังไม่ทันได้ถาม กาเบรียลก็หยุดเดินตรงหน้าประตูมิติ
"พร้อมหรือยังครับ?" กาเบรียลหันมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม
อากิและริวพยักหน้าอย่างมั่นใจ "ครับ!"
เมื่อกาเบรียลเดินนำเข้าไปในกระแสน้ำวน ร่างของเขาหายไปในพริบตา ริวสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวตามไป
ในเสี้ยววินาทีที่ร่างของเขาสัมผัสกับกระแสน้ำวน ความรู้สึกราวกับถูกกระแสพลังงานดึงร่างหมุนวนไปมา ความร้อนที่โอบล้อมไม่ใช่ความร้อนธรรมดา มันเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่คล้ายเปลวเพลิงแห่งชีวิต
แสงสีส้มสาดเข้ามาในดวงตา ก่อนทุกอย่างจะเปลี่ยนไป…
เมื่อพวกเขาก้าวออกจากอีกด้านหนึ่ง สิ่งแรกที่ริวเห็นคือ ท้องฟ้าสีแดงอมส้มที่ปกคลุมด้วยแสงจากเปลวเพลิงที่ดูเหมือนจะลอยอยู่ในอากาศ
พระอาทิตย์สามดวงสีส้มแดงที่สว่างจ้าและพื้นดินใต้เท้าสีดำที่ราวกับถูกหลอมละลาย แต่แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตจากความร้อนที่แผ่ซ่าน
"นี่มัน…สวยงามมาก!" ริวอุทานออกมา ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังภูมิทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกใจ
ทันทีที่เข้ามาอากิก็สัมผัสได้ถึงพลังงานธาตุไฟมหาศาลที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย คล้ายกับว่าพลังของเขาได้รับการเติมเต็มทันทีที่เหยียบลงบนแผ่นดินสีดำแห่งนี้
“ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักรลับธาตุไฟ” กาเบรียลกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ขณะหันกลับมามองทั้งสองคน
เสียงลมร้อนพัดผ่านราวกับเปลวไฟที่เต้นระบำในอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาจักรนี้แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งธาตุไฟที่ไม่มีที่สิ้นสุด
กาเบรียลพูดต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบแต่แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจในบ้านเกิดของเขา
"ตอนนี้เรากำลังอยู่ในเมืองอรุณสุริยะ เมืองแห่งเดียวในอาณาจักรลับธาตุไฟ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างถึงสี่ในสิบของอาณาจักรลับทั้งหมด เมืองนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญของอาณาจักรลับธาตุไฟที่มีประวัติยาวนานและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว"
“ต่อจากนี้ฉันจะพาพวกคุณไปที่ศูนย์วิจัยเพาะพันธุ์ไข่อสูร”
หลังจากนั้นกาเบรียลก็พาพวกเขาขึ้นรถหรูสีดำเหมือนเดิม
ระหว่างที่รถเคลื่อนผ่านถนนสายหลัก อากิและริวมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่พวกเขาเห็นทำให้หัวใจเต้นแรงด้วยความประหลาดใจ
สิ่งก่อสร้างสูงตระหง่านเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งอาคารทรงทันสมัยและสิ่งปลูกสร้างที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมดั้งเดิม ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน
ผู้คนจำนวนมากกำลังเดินราวกับเดินตามเมืองปกติ แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยคือชุดของพวกเขาต่างดูหรูหราและแพงมาก ดูเหมือนที่นี่จะมีแต่คนรวยราวกับเป็นเมืองแห่งความมั่งคั่ง
แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดของริวไม่ใช่สถาปัตยกรรมหรือผู้คน แต่เป็นบรรยากาศโดยรอบของเมืองนี้
ท้องฟ้าเหนือเมืองเปล่งประกายด้วยสีแดงอมส้มราวกับเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับ พระอาทิตย์สามดวงลอยอยู่บนฟากฟ้า แต่ละดวงส่องแสงอบอุ่นแต่มิได้แผดเผาจนร้อนเกินไป มันช่างเป็นภาพที่เหนือธรรมชาติจนยากจะละสายตา
พื้นดินใต้เท้าเป็นสีดำสนิท ดูเหมือนจะเป็นผลมาจากพลังธาตุไฟที่แผ่กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ แต่พื้นผิวกลับเรียบเนียนและอุ่นเล็กน้อยเท่านั้น
ริวเหลือบมองรอบตัวอย่างตื่นเต้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
"ถึงที่นี่จะดูเหมือนเมืองธรรมดาตามปกติ แต่สิ่งต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ทำให้มันดูแตกต่างออกไปมาก"
กาเบรียลยิ้มอย่างเข้าใจ ก่อนจะตอบ
“ใช่ครับ! แม้จะมีสิ่งก่อสร้างที่ดูคุ้นตาเหมือนเมืองปกติ แต่เมืองอรุณสุริยะก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลายอย่าง”
" เนื่องจากพลังของธาตุไฟที่ได้แทรกซึมอยู่ในทุกสิ่ง ทั้งอากาศที่คุณสูดเข้าไป ทั้งดินที่คุณยืนอยู่ หรือท้องฟ้าที่อยู่เบื้องบน... มันคือสิ่งที่ทำให้เมืองนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว"
รถแล่นต่อไปบนถนนที่ทอดยาว กาเบรียลชี้ให้ดูจุดต่างๆ ของเมืองพลางอธิบายรายละเอียด “เมืองอรุณสุริยะนั้นแบ่งออกเป็นหลายโซนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย”
“เรามีโซนฝึกฝนที่จัดไว้สำหรับผู้ฝึกฝนสัตว์อสูรซึ่งเต็มไปด้วยห้องหรือสนามฝึกขนาดใหญ่จำนวนมากและอุปกรณ์ล้ำสมัยเพื่อฝึกฝนเพิ่มศักยภาพของสัตว์อสูรธาตุไฟโดยเฉพาะ”
“ถัดไปคือ โซนศูนย์วิจัย ที่นักวิจัยสัตว์อสูรและผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรศึกษาเกี่ยวกับพลังธาตุไฟและการพัฒนาสัตว์อสูรธาตุไฟ นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางต่างๆมากมายด้วย โซนนี้เปรียบเสมือนสมองของเมือง”
“อีกโซนหนึ่งคือ โซนที่อยู่อาศัย ที่เป็นศูนย์รวมของครอบครัวทั่วไปและผู้ทำงานในเมืองนี้ ส่วน โซนสำหรับเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ เป็นเขตพิเศษที่เข้มงวด เพราะเป็นสถานที่ที่มีเอกสารสำคัญและการประชุมในระดับสูงเกิดขึ้น”
“นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโซนมากมายไม่ว่าจะเป็น โซนศูนย์การค้า โซนท่องเที่ยว โซน……”
กาเบรียลอธิบายข้อมูลคร่าวๆในเมืองนี้ให้ฟังเรื่อยๆในระหว่างการเดินทาง แม้ข้อมูลจะค่อนข้างเยอะแต่ก็เต็มไปด้วยความน่าสนใจ ริวยังคงนิ่งฟังและเก็บภาพบรรยากาศรอบตัวไว้ในใจ
"คุณกาเบรียลครับ ถ้าเราต้องการตั้งถิ่นฐานหรืออาศัยอยู่ที่นี่ เราจำเป็นต้องใช้เงินเท่าไหร่?"
ริวเอ่ยถามด้วยความสงสัย หลังจากที่เขาเฝ้าสังเกตเห็นผู้คนรอบข้างต่างแต่งกายด้วยชุดหรูหรา แสดงถึงฐานะและรสนิยมที่สูงส่ง ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่เช่นนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายมหาศาลแค่ไหนกัน
คำถามดังกล่าวทำให้กาเบรียลยิ้มบางๆ ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายและท่าทางที่ดูสบายใจ
"อย่างน้อยก็เกือบร้อยล้านเหรียญต่อปี"
“(☉_☉)” อากิและริว