ตอนที่แล้วบทที่ 896 ทุกสิ่งนี้ล้วนเป็นความจริง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 898 เกาะอิทธิฤทธิ์เทพปั่นป่วน 

บทที่ 897 พืชวิญญาณระดับเจ็ด ต้นไม้แปลงร่างโบราณ 


แม้เฉินโม่จะพยายามพูดโน้มน้าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่อี้ถิงเซิงกลับยิ่งแสดงอาการคลุ้มคลั่งหนักขึ้น

เขาสลับกันร้องไห้และหัวเราะก่อนจะเดินไปยังตำแหน่งที่ชี้ไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยสีหน้าที่สับสนและพูดเสียงดังต่อหน้าทางเดินที่ว่างเปล่า

“เจ้าหลอกข้า ทำไมเจ้าต้องหลอกข้าด้วย?”

สักพัก เขาก็พูดอีกว่า

“ในเมื่อเจ้าบอกว่าโลกนี้คือเรื่องจริง เจ้าก็พิสูจน์ให้ข้าดูสิ”

“ข้ารู้แล้ว เจ้าไม่มีทางพิสูจน์ได้! ทุกสิ่งนี้มันปลอม! ปลอมทั้งหมด!”

เฉินโม่เห็นเช่นนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แล้วถ้ามันปลอมล่ะ? โลกที่เจ้าเคยอยู่นั้น เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือของจริง? ไม่ว่ามันจะงดงามเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ก็มอดดับ เมื่อความตายมาถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเราจะสูญสลายไป... แล้ว ‘จริง’ หรือ ‘ปลอม’ จะต่างกันตรงไหน?”

อี้ถิงเซิงหันมามองเขาด้วยสีหน้าครุ่นคิด แต่ไม่พูดอะไร

เฉินโม่พูดต่อ

“สำหรับผู้ฝึกตนหากยังไม่บรรลุ ความเป็นอมตะ โลกทั้งใบก็เป็นเพียงมายา แต่ในมุมมองของข้า เส้นทางที่เราไล่ตามความเป็นอมตะ อย่างน้อยที่สุดมันก็คือเรื่องจริง”

“ความเป็นอมตะ...ความเป็นอมตะ…” อี้ถิงเซิงพึมพำซ้ำไปมาและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเขาก็ค่อยๆสงบลง

ผ่านไปนานพอสมควรในที่สุดเขาก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

“เจ้าพูดถูก เรื่องจริงกับเรื่องปลอมไม่ได้ต่างกันเลย โลกจริงมี ‘กฎของโลกจริง’ โลกมายาก็มี ‘กฎของโลกมายา’ ต่อให้มันจะเป็นโลกปลอม ข้าก็ไม่สามารถบรรลุเซียนในพริบตาได้!”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะเดินไปบนเส้นทางแห่งความเป็นอมตะนี้ร่วมกับผู้อื่น”

อี้ถิงเซิงตัดสินใจได้แล้ว เขาเลิกยึดติดว่าโลกนี้เป็นเรื่องจริงหรือปลอม

ดังที่เขาพูดไว้ ต่อให้โลกนี้เป็นมายาเขาก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎของมัน

ดังนั้นเขาจะค่อยๆก้าวเดินไปทีละก้าว!

“เจ้าเห็นพืชวิญญาณต้นนั้นหรือไม่?”

เฉินโม่มองตามนิ้วชี้ของอีกฝ่ายและสายตาก็หยุดลงที่ต้นกล้าเล็กๆต้นหนึ่งที่กำลังเปล่งแสง

ต้นกล้านั้นหนาเท่าแขนคน มีลำต้นและกิ่งก้านสาขาที่ไขว้กันไปมา ใบที่ขึ้นอยู่ประปรายมีลักษณะเหมือนเกล็ดผลึก

จากรูปลักษณ์ภายนอกมันดูเหมือนต้นกล้าธรรมดาทั่วไป

แต่ในฐานะผู้ฝึกตนระดับเปลี่ยนจิต เฉินโม่สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณเฉพาะตัวของสมบัติล้ำค่าธรรมชาติที่ไหลเวียนอยู่

แม้ใน สารานุกรมพืชวิญญาณ เขาจะไม่เคยเห็นพืชวิญญาณชนิดนี้ แต่ประสบการณ์ของผู้ปลูกพืชวิญญาณทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าต้นนี้ไม่ธรรมดา!

เมื่อเห็นเฉินโม่พยักหน้า อี้ถิงเซิงก็หัวเราะด้วยความยินดี

“โชคดีที่เจ้ามองเห็นต้นนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงดีใจเก้อ”

“นี่คือต้นอะไร? คนที่เจ้าพูดถึงบอกเจ้าหรือไม่?”

“เขาบอกข้า” อี้ถิงเซิงหันไปมองคนที่เฉินโม่มองไม่เห็น

“เขาบอกข้าว่า นี่คือต้น ไม้แปลงร่างโบราณ เป็นพืชวิญญาณระดับเจ็ด แม้จะเป็นระดับเจ็ด แต่สำหรับผู้ฝึกตนต่ำกว่าขั้นรวมเต๋า มันกลับมีค่ามากกว่าพืชวิญญาณระดับแปดหรือเก้าด้วยซ้ำ”

“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ?”

“ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว”

“แปลงร่าง?”

“ใช่!” อี้ถิงเซิงอธิบายต่อ

“เขาบอกข้าว่า ไม้แปลงร่างโบราณนี้จะออกผลที่เรียกว่า ผลแปลงร่าง ทุกๆร้อยปีจะออกผลหนึ่งถึงสองผล ผลนี้กินไม่ได้โดยตรง แต่สามารถนำไปหลอมรวมกับผู้ฝึกตนเพื่อสร้าง ร่างแปลง ขึ้นมา

ร่างแปลงนี้จะมีพลังใกล้เคียงกับร่างจริงและยังสามารถใช้คาถาและพลังวิเศษที่ฝึกฝนไว้ได้อีกด้วย”

“จริงหรือ?”

“เขาบอกข้ามา” อี้ถิงเซิงชี้ไปยังบุคคลที่เฉินโม่มองไม่เห็นอีกครั้ง

“แต่ผลที่เกิดจากต้นไม้แปลงร่างนี้มีข้อจำกัด ร่างแปลงที่สร้างขึ้นจะมีขีดจำกัดสูงสุดเพียงขั้นรวมเต๋า ไม่สามารถพัฒนาไปไกลกว่านี้ได้”

เฉินโม่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน

“ที่เจ้าพูดว่าขีดจำกัดเพียงขั้นรวมเต๋าเนี่ยนะ?”

ขั้นรวมเต๋าเป็นระดับที่สูงกว่าขั้นหลอมรวม ซึ่งถือว่าอยู่ในสามขั้นสูงสุดของการฝึกตน

ทั้งแคว้นอู๋ฉือ ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดพึ่งถึงขั้นหลอมรวม จะไปถึงขั้นรวมเต๋าได้หรือไม่ก็ยังเป็นคำถาม

“นี่คือต้นไม้แปลงร่างโบราณที่เพิ่งเติบโตใช่หรือไม่?” เฉินโม่ถามด้วยความสงสัย

มันดูเหมือนยังอ่อนวัยเกินไป

“ไม่ใช่หรอก” อี้ถิงเซิงตอบ

“เขาบอกข้าว่า ต้นไม้โบราณนี้ทุกครั้งที่ออกผล มันจะเริ่มต้นเติบโตใหม่จากต้นกล้าเล็กๆและต้องใช้เวลาอีกหนึ่งร้อยปีจึงจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ วนเวียนเช่นนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”

เฉินโม่พยักหน้าเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายอธิบาย

“เจ้าคิดจะให้ข้าขุดมันออกไปหรือ?”

“แน่นอน! จะปล่อยมันไว้ที่นี่ทำไม?” อี้ถิงเซิงพูดอย่างตื่นเต้น

“เราขุดมันไปปลูกที่สวนหลังบ้านเราเอง คอยดูมันเติบโตทีละนิดทุกวัน แล้วเราสองคนก็ได้คนละผลดีจะตาย!”

ต่างจากความตื่นเต้นของอี้ถิงเซิง เฉินโม่กลับครุ่นคิดถึงปัญหาเกี่ยวกับการเพาะปลูก

หากต้นไม้นี้เป็นพืชวิญญาณระดับเจ็ดจริง อย่างน้อยมันต้องการไร่วิญญาณระดับเจ็ดเพื่อที่จะอยู่รอดได้

แต่ด้วยสภาพของแผ่นดินผิงตูโจวในปัจจุบัน กว่าที่ตราพลิกผืนดินจะช่วยสร้างไร่วิญญาณระดับหกในพื้นที่โดยรอบได้ต้องใช้เวลาประมาณสามปี

และหากต้องการเปลี่ยนจากไร่วิญญาณระดับหกไปเป็นระดับเจ็ด จะต้องใช้พลังพรสวรรค์ รวบรวมพลังวิญญาณ

นั่นหมายความว่า เฉินโม่จะต้องบรรลุขั้นหลอมรวมและสามารถตั้งค่ายกลระดับหกได้สำเร็จ!

ข้อกำหนดเช่นนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าง่ายเลย

ดังนั้นการจะปลูกมันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

“ทั้งแผ่นดินจงโจวอาจมีเพียงที่นี่ที่มีไร่วิญญาณระดับเจ็ด หากย้ายมันออกไปอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้” เฉินโม่อธิบาย

เขาเองก็รู้สึกขัดแย้งในใจ

สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้หากปล่อยไว้เฉยๆเขาคงรู้สึกเสียใจ แต่ถ้าย้ายมันไปแล้วทำให้มันตาย เขาคงเสียใจยิ่งกว่า

“เจ้ามีจอบเซียนอยู่ไม่ใช่หรือ? อย่างมากก็รอจนเจ้าสามารถปลูกมันได้ก่อนแล้วค่อยย้ายออกมา”

“แต่ว่า...”

อี้ถิงเซิงเดินไปยังต้นไม้แปลงร่างโบราณอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหักกิ่งไม้กิ่งหนึ่งออกมาอย่างง่ายดาย

“ไม่ต้องสนใจมันมากหรอกจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยไป ถ้าตายก็ช่างมัน ตายแล้วเราก็ไปหาอย่างอื่นที่ดีกว่าแทน”

ท่าทีของเขากลับดูปล่อยวางและไม่ยึดติด

เมื่อคิดดูแล้วก็ไม่แปลก เพราะคนที่มองเห็นความจริงมักไม่จมอยู่ในความกลัวและลังเล

เฉินโม่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆราวกับยอมรับความจริง

สมบัติที่ดีเพียงใดหากไม่ได้อยู่ในมือเราก็ไร้ค่า

วันนี้หากเขาปล่อยโอกาสนี้ไปและไม่เอาต้นไม้แปลงร่างโบราณติดตัวไปด้วย วันหนึ่งในอีกหลายสิบปีหรือร้อยปีข้างหน้า หากเขาไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีก เขาอาจรู้สึกเสียใจยิ่งกว่าการที่ต้นไม้นี้ตายไปต่อหน้าเขา

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เฉินโม่ก็หยุดลังเล เดินตรงไปยังต้นไม้แปลงร่างโบราณ

เขาสำรวจต้นไม้อย่างละเอียดจากบนลงล่าง ก่อนจะเดินวนรอบต้นไม้นั้นหลายรอบ

จากนั้นเขาก็ย่อตัวลง วางมือบนพื้นดิน พยายามสัมผัสและรับรู้รากของต้นไม้ใต้ดิน

ไม่นานนักเขาก็เข้าใจว่าทำไมต้นไม้นี้ถึงต้องใช้เวลาร้อยปีในการเติบโตเป็นวัฏจักร

ส่วนของต้นไม้เหนือพื้นดินอาจดูเล็กเพียงสูงระดับคน แต่รากของมันใต้ดินกลับแผ่ขยายไปถึงเกือบสามร้อยเมตร!

เพียงแค่รากของมันส่วนเดียวก็กว้างใหญ่จนแทบจะจินตนาการไม่ได้

“อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย” เฉินโม่อธิบาย จากนั้นจึงหยิบจอบเซียนออกมาและเริ่มขุดดินรอบๆ ต้นไม้

เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป เฉินโม่ก็ค่อยๆ ขุดรากขนาดมหึมาใต้ดินของต้นไม้ออกมาได้ทีละน้อย

อี้ถิงเซิงที่ยืนดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความอลังการนี้

ในที่สุดหลังจากใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วยาม เฉินโม่ก็สามารถขุดต้นไม้แปลงร่างโบราณออกมาได้สำเร็จ

ทันทีที่ต้นไม้ระดับเจ็ดนี้ถูกย้ายเข้ามาในพื้นที่วิเศษของจอบเซียน มันก็ยืนนิ่งเหมือนตัวอย่างพืชวิญญาณที่ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์

แต่ในขณะนั้นเองเกาะอิทธิฤทธิ์เทพทั้งเกาะกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!

(จบบท)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด