บทที่ 897 พืชวิญญาณระดับเจ็ด ต้นไม้แปลงร่างโบราณ
แม้เฉินโม่จะพยายามพูดโน้มน้าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่อี้ถิงเซิงกลับยิ่งแสดงอาการคลุ้มคลั่งหนักขึ้น
เขาสลับกันร้องไห้และหัวเราะก่อนจะเดินไปยังตำแหน่งที่ชี้ไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยสีหน้าที่สับสนและพูดเสียงดังต่อหน้าทางเดินที่ว่างเปล่า
“เจ้าหลอกข้า ทำไมเจ้าต้องหลอกข้าด้วย?”
สักพัก เขาก็พูดอีกว่า
“ในเมื่อเจ้าบอกว่าโลกนี้คือเรื่องจริง เจ้าก็พิสูจน์ให้ข้าดูสิ”
“ข้ารู้แล้ว เจ้าไม่มีทางพิสูจน์ได้! ทุกสิ่งนี้มันปลอม! ปลอมทั้งหมด!”
เฉินโม่เห็นเช่นนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วถ้ามันปลอมล่ะ? โลกที่เจ้าเคยอยู่นั้น เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือของจริง? ไม่ว่ามันจะงดงามเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ก็มอดดับ เมื่อความตายมาถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเราจะสูญสลายไป... แล้ว ‘จริง’ หรือ ‘ปลอม’ จะต่างกันตรงไหน?”
อี้ถิงเซิงหันมามองเขาด้วยสีหน้าครุ่นคิด แต่ไม่พูดอะไร
เฉินโม่พูดต่อ
“สำหรับผู้ฝึกตนหากยังไม่บรรลุ ความเป็นอมตะ โลกทั้งใบก็เป็นเพียงมายา แต่ในมุมมองของข้า เส้นทางที่เราไล่ตามความเป็นอมตะ อย่างน้อยที่สุดมันก็คือเรื่องจริง”
“ความเป็นอมตะ...ความเป็นอมตะ…” อี้ถิงเซิงพึมพำซ้ำไปมาและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเขาก็ค่อยๆสงบลง
ผ่านไปนานพอสมควรในที่สุดเขาก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“เจ้าพูดถูก เรื่องจริงกับเรื่องปลอมไม่ได้ต่างกันเลย โลกจริงมี ‘กฎของโลกจริง’ โลกมายาก็มี ‘กฎของโลกมายา’ ต่อให้มันจะเป็นโลกปลอม ข้าก็ไม่สามารถบรรลุเซียนในพริบตาได้!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะเดินไปบนเส้นทางแห่งความเป็นอมตะนี้ร่วมกับผู้อื่น”
อี้ถิงเซิงตัดสินใจได้แล้ว เขาเลิกยึดติดว่าโลกนี้เป็นเรื่องจริงหรือปลอม
ดังที่เขาพูดไว้ ต่อให้โลกนี้เป็นมายาเขาก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎของมัน
ดังนั้นเขาจะค่อยๆก้าวเดินไปทีละก้าว!
“เจ้าเห็นพืชวิญญาณต้นนั้นหรือไม่?”
เฉินโม่มองตามนิ้วชี้ของอีกฝ่ายและสายตาก็หยุดลงที่ต้นกล้าเล็กๆต้นหนึ่งที่กำลังเปล่งแสง
ต้นกล้านั้นหนาเท่าแขนคน มีลำต้นและกิ่งก้านสาขาที่ไขว้กันไปมา ใบที่ขึ้นอยู่ประปรายมีลักษณะเหมือนเกล็ดผลึก
จากรูปลักษณ์ภายนอกมันดูเหมือนต้นกล้าธรรมดาทั่วไป
แต่ในฐานะผู้ฝึกตนระดับเปลี่ยนจิต เฉินโม่สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณเฉพาะตัวของสมบัติล้ำค่าธรรมชาติที่ไหลเวียนอยู่
แม้ใน สารานุกรมพืชวิญญาณ เขาจะไม่เคยเห็นพืชวิญญาณชนิดนี้ แต่ประสบการณ์ของผู้ปลูกพืชวิญญาณทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าต้นนี้ไม่ธรรมดา!
เมื่อเห็นเฉินโม่พยักหน้า อี้ถิงเซิงก็หัวเราะด้วยความยินดี
“โชคดีที่เจ้ามองเห็นต้นนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงดีใจเก้อ”
“นี่คือต้นอะไร? คนที่เจ้าพูดถึงบอกเจ้าหรือไม่?”
“เขาบอกข้า” อี้ถิงเซิงหันไปมองคนที่เฉินโม่มองไม่เห็น
“เขาบอกข้าว่า นี่คือต้น ไม้แปลงร่างโบราณ เป็นพืชวิญญาณระดับเจ็ด แม้จะเป็นระดับเจ็ด แต่สำหรับผู้ฝึกตนต่ำกว่าขั้นรวมเต๋า มันกลับมีค่ามากกว่าพืชวิญญาณระดับแปดหรือเก้าด้วยซ้ำ”
“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ?”
“ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว”
“แปลงร่าง?”
“ใช่!” อี้ถิงเซิงอธิบายต่อ
“เขาบอกข้าว่า ไม้แปลงร่างโบราณนี้จะออกผลที่เรียกว่า ผลแปลงร่าง ทุกๆร้อยปีจะออกผลหนึ่งถึงสองผล ผลนี้กินไม่ได้โดยตรง แต่สามารถนำไปหลอมรวมกับผู้ฝึกตนเพื่อสร้าง ร่างแปลง ขึ้นมา
ร่างแปลงนี้จะมีพลังใกล้เคียงกับร่างจริงและยังสามารถใช้คาถาและพลังวิเศษที่ฝึกฝนไว้ได้อีกด้วย”
“จริงหรือ?”
“เขาบอกข้ามา” อี้ถิงเซิงชี้ไปยังบุคคลที่เฉินโม่มองไม่เห็นอีกครั้ง
“แต่ผลที่เกิดจากต้นไม้แปลงร่างนี้มีข้อจำกัด ร่างแปลงที่สร้างขึ้นจะมีขีดจำกัดสูงสุดเพียงขั้นรวมเต๋า ไม่สามารถพัฒนาไปไกลกว่านี้ได้”
เฉินโม่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
“ที่เจ้าพูดว่าขีดจำกัดเพียงขั้นรวมเต๋าเนี่ยนะ?”
ขั้นรวมเต๋าเป็นระดับที่สูงกว่าขั้นหลอมรวม ซึ่งถือว่าอยู่ในสามขั้นสูงสุดของการฝึกตน
ทั้งแคว้นอู๋ฉือ ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดพึ่งถึงขั้นหลอมรวม จะไปถึงขั้นรวมเต๋าได้หรือไม่ก็ยังเป็นคำถาม
“นี่คือต้นไม้แปลงร่างโบราณที่เพิ่งเติบโตใช่หรือไม่?” เฉินโม่ถามด้วยความสงสัย
มันดูเหมือนยังอ่อนวัยเกินไป
“ไม่ใช่หรอก” อี้ถิงเซิงตอบ
“เขาบอกข้าว่า ต้นไม้โบราณนี้ทุกครั้งที่ออกผล มันจะเริ่มต้นเติบโตใหม่จากต้นกล้าเล็กๆและต้องใช้เวลาอีกหนึ่งร้อยปีจึงจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ วนเวียนเช่นนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
เฉินโม่พยักหน้าเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายอธิบาย
“เจ้าคิดจะให้ข้าขุดมันออกไปหรือ?”
“แน่นอน! จะปล่อยมันไว้ที่นี่ทำไม?” อี้ถิงเซิงพูดอย่างตื่นเต้น
“เราขุดมันไปปลูกที่สวนหลังบ้านเราเอง คอยดูมันเติบโตทีละนิดทุกวัน แล้วเราสองคนก็ได้คนละผลดีจะตาย!”
ต่างจากความตื่นเต้นของอี้ถิงเซิง เฉินโม่กลับครุ่นคิดถึงปัญหาเกี่ยวกับการเพาะปลูก
หากต้นไม้นี้เป็นพืชวิญญาณระดับเจ็ดจริง อย่างน้อยมันต้องการไร่วิญญาณระดับเจ็ดเพื่อที่จะอยู่รอดได้
แต่ด้วยสภาพของแผ่นดินผิงตูโจวในปัจจุบัน กว่าที่ตราพลิกผืนดินจะช่วยสร้างไร่วิญญาณระดับหกในพื้นที่โดยรอบได้ต้องใช้เวลาประมาณสามปี
และหากต้องการเปลี่ยนจากไร่วิญญาณระดับหกไปเป็นระดับเจ็ด จะต้องใช้พลังพรสวรรค์ รวบรวมพลังวิญญาณ
นั่นหมายความว่า เฉินโม่จะต้องบรรลุขั้นหลอมรวมและสามารถตั้งค่ายกลระดับหกได้สำเร็จ!
ข้อกำหนดเช่นนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าง่ายเลย
ดังนั้นการจะปลูกมันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
“ทั้งแผ่นดินจงโจวอาจมีเพียงที่นี่ที่มีไร่วิญญาณระดับเจ็ด หากย้ายมันออกไปอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้” เฉินโม่อธิบาย
เขาเองก็รู้สึกขัดแย้งในใจ
สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้หากปล่อยไว้เฉยๆเขาคงรู้สึกเสียใจ แต่ถ้าย้ายมันไปแล้วทำให้มันตาย เขาคงเสียใจยิ่งกว่า
“เจ้ามีจอบเซียนอยู่ไม่ใช่หรือ? อย่างมากก็รอจนเจ้าสามารถปลูกมันได้ก่อนแล้วค่อยย้ายออกมา”
“แต่ว่า...”
อี้ถิงเซิงเดินไปยังต้นไม้แปลงร่างโบราณอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหักกิ่งไม้กิ่งหนึ่งออกมาอย่างง่ายดาย
“ไม่ต้องสนใจมันมากหรอกจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยไป ถ้าตายก็ช่างมัน ตายแล้วเราก็ไปหาอย่างอื่นที่ดีกว่าแทน”
ท่าทีของเขากลับดูปล่อยวางและไม่ยึดติด
เมื่อคิดดูแล้วก็ไม่แปลก เพราะคนที่มองเห็นความจริงมักไม่จมอยู่ในความกลัวและลังเล
เฉินโม่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆราวกับยอมรับความจริง
สมบัติที่ดีเพียงใดหากไม่ได้อยู่ในมือเราก็ไร้ค่า
วันนี้หากเขาปล่อยโอกาสนี้ไปและไม่เอาต้นไม้แปลงร่างโบราณติดตัวไปด้วย วันหนึ่งในอีกหลายสิบปีหรือร้อยปีข้างหน้า หากเขาไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีก เขาอาจรู้สึกเสียใจยิ่งกว่าการที่ต้นไม้นี้ตายไปต่อหน้าเขา
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เฉินโม่ก็หยุดลังเล เดินตรงไปยังต้นไม้แปลงร่างโบราณ
เขาสำรวจต้นไม้อย่างละเอียดจากบนลงล่าง ก่อนจะเดินวนรอบต้นไม้นั้นหลายรอบ
จากนั้นเขาก็ย่อตัวลง วางมือบนพื้นดิน พยายามสัมผัสและรับรู้รากของต้นไม้ใต้ดิน
ไม่นานนักเขาก็เข้าใจว่าทำไมต้นไม้นี้ถึงต้องใช้เวลาร้อยปีในการเติบโตเป็นวัฏจักร
ส่วนของต้นไม้เหนือพื้นดินอาจดูเล็กเพียงสูงระดับคน แต่รากของมันใต้ดินกลับแผ่ขยายไปถึงเกือบสามร้อยเมตร!
เพียงแค่รากของมันส่วนเดียวก็กว้างใหญ่จนแทบจะจินตนาการไม่ได้
“อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย” เฉินโม่อธิบาย จากนั้นจึงหยิบจอบเซียนออกมาและเริ่มขุดดินรอบๆ ต้นไม้
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป เฉินโม่ก็ค่อยๆ ขุดรากขนาดมหึมาใต้ดินของต้นไม้ออกมาได้ทีละน้อย
อี้ถิงเซิงที่ยืนดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความอลังการนี้
ในที่สุดหลังจากใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วยาม เฉินโม่ก็สามารถขุดต้นไม้แปลงร่างโบราณออกมาได้สำเร็จ
ทันทีที่ต้นไม้ระดับเจ็ดนี้ถูกย้ายเข้ามาในพื้นที่วิเศษของจอบเซียน มันก็ยืนนิ่งเหมือนตัวอย่างพืชวิญญาณที่ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
แต่ในขณะนั้นเองเกาะอิทธิฤทธิ์เทพทั้งเกาะกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
(จบบท)