บทที่ 5 เดิมพันโอสถ
บทที่ 5 เดิมพันโอสถ
กู่เสวียนเฉินพูด "ข้าจะขายตำรับโอสถ!"
ถึงโถงโอสถจะขายเม็ดยาต่างๆ แต่ตอนนี้กู่เสวียนเฉินไม่มีเงินติดตัว โชคดีที่โถงโอสถก็รับซื้อทรัพยากรฝึกฝนต่างๆ
ความกระตือรือร้นของพนักงานสาวเปลี่ยนเป็นดูถูก พูดอย่างเย็นชา "ตามข้ามา!"
ทั้งสองคนเดินไปที่โซนรับซื้อของโถงโอสถ เห็นหญิงสาวในชุดขาวนั่งอยู่ ใบหน้านางสวยงาม แต่กลับมีสีหน้าเย็นชาเหมือนเทพธิดาที่ไม่ลงมากินดื่มอาหารของมนุษย์
รอบๆ ตัวนาง มีชายหนุ่มแต่งตัวหรูหราหลายคนนั่งเขียนอยู่ แต่ทุกคนเหม่อมองไปที่นาง
"ไปหาที่นั่งเองนะ วันนี้คุณหนูชิงเยว่เป็นคนดูแล พวกเขาก็มาขายตำรับโอสถา สองชั่วยามแล้ว แต่ยังเขียนไม่เสร็จ!"
พนักงานสาวพูดจบก็เดินจากไป ตอนนี้กู่เสวียนเฉินก็เข้าใจความหมายของสายตาดูถูกของนางแล้ว
"นี่มันกู่เสวียนเฉินนี่ เพิ่งถูกคุณหนูลั่วเซิ่งเสวี่ยไล่ออกมา ยังจะมาประจบคุณหนูชิงเยว่อีก? คิดว่าคุณหนูชิงเยว่ตาบอดหรือไง?"
กู่เสวียนเฉินเพิ่งมาถึง ก็ถูกชายหนุ่มผู้หนึ่งจำได้
ชิงเยว่เงยหน้าขึ้น มองกู่เสวียนเฉินที่เดินเข้ามา ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
กู่เสวียนเฉินไม่สนใจพวกเขา เดินไปที่โต๊ะ เขียนตำรับโอสถอย่างรวดเร็ว ยื่นให้ชิงเยว่ "คุณหนูชิงเยว่ ช่วยประเมินราคาให้หน่อย!"
ชิงเยว่มองผ่านๆ ตำรับยาในมือก็กลายเป็นขี้เถ้า ตะโกน "ประเมินราคา? เจ้ามีคุณสมบัติหรือ? ไสหัวไปซะ!"
กู่เสวียนเฉินขมวดคิ้ว "เจ้าหมายความว่ายังไง?"
ชิงเยว่แค่นเสียง "นี่เรียกว่าตำรับโอสถหรือ? ชื่อสมุนไพรพวกนี้ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ถูกคุณหนูลั่วเซิ่งเสวี่ยไล่ออกมาแล้ว ยังจะมาหลอกข้าอีก? ใครให้ความกล้ากับเจ้า?"
ท่าทางของชิงเยว่ทำให้กู่เสวียนเฉินขมวดคิ้ว "ไม่เคยได้ยิน แสดงว่าเจ้าความรู้น้อยเท่านั้น!"
ถึงจะฟื้นความทรงจำชาติที่แล้ว แต่เวลานับหมื่นปี กู่เสวียนเฉินจำได้แค่เรื่องสำคัญๆ
เมื่อกี้กลัวว่าชิงเยว่จะดูไม่ออก เขาจึงเอาตำรับโอสถระดับต่ำที่สุดออกมาแล้ว!
การโดนดูถูกเช่นนี้ ชิงเยว่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะด้านโอสถอันดับหนึ่งของเมืองอันหยางจะทนได้อย่างไร นางตะโกน "ในเมื่อเจ้ามั่นใจขนาดนั้น กล้าแข่งปรุงยากับข้าไหมล่ะ?"
กู่เสวียนเฉินแค่นเสียงตอยรับน "แข่งปรุงยา ได้สิ ชีวิตเจ้า ข้ารับเอาไว้เอง!"
การแข่งปรุงยาคือการประลองระหว่างนักปรุงยา ทั้งสองฝ่ายเลือกยาชนิดเดียวกัน ปรุงยาพร้อมกัน ตัดสินแพ้ชนะจากปริมาณ คุณภาพ เวลา ผู้ชนะสามารถตัดสินชีวิตของผู้แพ้ได้!
"ดีมาก วันนี้ข้าจะกำจัดคนชั่วที่หวังพึ่งผู้หญิงอย่างเจ้าให้เมืองอันหยาง!"
ชิงเยว่ตะโกน หยิบสัญญาการแข่งขันออกมา เขียนชื่อตัวเองลงไป "มา จะแข่งปรุงยาอะไร เจ้าเลือกเลย!"
ในสัญญาการแข่งขัน ทั้งสองฝ่ายแค่เขียนชื่อตัวเองและโอสถที่จะแข่งก็พอ
กู่เสวียนเฉินรับปากกา เขียนชื่อโอสถทะลวงวิญญาณ และชื่อตัวเองลงไปอย่างรวดเร็ว!
โอสถทะลวงวิญญาณ โอสถระดับสอง เหมือนชื่อของมัน นักยุทธ์ขอบเขตแดนวิญญาณกินยานี้เข้าไป พวกเขาสามารถทะลวงขอบเขตได้หนึ่งขั้นย่อย!
หมายความว่าถ้าปรุงยาสำเร็จ กู่เสวียนเฉินกินเข้าไป เขาก็สามารถทะลวงจากขอบเขตแดนวิญญาณขั้นต้นไปยังขั้นกลางได้!
"เริ่มกันเถอะ!"
ชิงเยว่เก็บสัญญาการแข่งขัน เดินไปทางหลังร้าน กู่เสวียนเฉินเดินตามไป
"ไอ้ขยะนี่จะทำอะไร? จะประจบคุณหนูชิงเยว่ก็ไม่ต้องใช่วิธีนี้หรอก!"
"ช่างมันเถอะ ยังไงเดี๋ยวมันก็ตายแล้ว!"
ชายหนุ่มหลายคนที่อยู่ข้างๆ มองทั้งสองคนเดินหายไป ไม่มีใครเดาความคิดของกู่เสวียนเฉินออก
เดินมาถึงหน้าห้องปรุงยา ชิงเยว่หยิบสมุนไพรออกมาจากถุงเก็บของ "ในเมื่อข้าเป็นคนเสนอแข่งปรุงยา สมุนไพรก็ออกโดยข้า เจ้าตรวจดูได้!"
กู่เสวียนเฉินรับสมุนไพรมา มองผ่านๆ จากนั้นก็เดินไปที่ห้องปรุงยาที่ว่างอยู่
ในห้องปรุงยามีเตาปรุงยา ถึงจะไม่ใช่ระดับสูง แต่ก็เพียงพอสำหรับการปรุงยาระดับสอง ใต้เตาปรุงยาเป็นอักขระหกเหลี่ยม ใต้อักขระผนึกเปลวไฟใต้พิภพ!
นักปรุงยาระดับต่ำก่อนที่จะฝึกฝนเปลวไฟวิญญาณของตัวเอง ก็ได้แต่ใช้เปลวไฟใต้พิภพในการปรุงยา
กู่เสวียนเฉินเริ่มกระบวนการปรุงยา พลังวิญญาณกลายเป็นแสงพุ่งไปที่อักขระ เสียงคำรามดังขึ้น เปลวไฟใต้พิภพพวยพุ่ง ปกคลุมเตาปรุงยา
"เปลวไฟนี่อ่อนแอเกินไปไหม?"
เปลวไฟใต้พิภพก็มีระดับเช่นกัน กู่เสวียนเฉินไม่คิดว่าเปลวไฟใต้พิภพของโถงโอสถจะอ่อนแอขนาดนี้ เขาถอนหายใจ ขยับมือเล็กน้อย จากนั้นเปลวไฟที่ปกคลุมเตาปรุงยาเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วง อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น เตาปรุงยากลายเป็นสีแดง
"แบบนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย!"
หลังจากพยักหน้า กู่เสวียนเฉินโยนสมุนไพรลงในเตาปรุงยา!
"เกิดอะไรขึ้น?"
ในขณะเดียวกัน ชิงเยว่ที่เข้าไปในห้องปรุงยาอีกห้อง มองเปลวไฟใต้พิภพที่เล็กเท่าหัวแม่มือ นางก็ขมวดคิ้ว ไม่ว่านางจะขยับมือควบคุมไฟอย่างไร เปลวไฟก็ไม่ใหญ่ขึ้นเลย
ชิงเยว่จึงเดินออกมา ตัดสินใจเปลี่ยนห้องปรุงยา!
โครม... ในตอนนั้น ประตูห้องปรุงยาข้างๆ ถูกผลักเปิดออก ควันดำและกลิ่นเหม็นตลบอบอวล ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกระโดดออกมา
"ท่านอาจารย์ ท่าน..."
เถาไห่ ปรมาจารย์ผู้นำโถงโอสถ มองห้องปรุงยาที่เต็มไปด้วยควันดำด้วยความเสียดาย "แย่แล้ว... แย่แล้ว... กิ่งเทียนซิงของข้า ใบอู๋ซวงของข้า..."
"กิ่งเทียนซิง? ใบอู๋ซวง? มีสมุนไพรแบบนี้จริงๆ หรือ?"
ชิงเยว่เปลี่ยนสีหน้า เมื่อกี้ในตำรับยาที่กู่เสวียนเฉินจะขายให้นาง เหมือนจะมีชื่อสมุนไพรพวกนี้
เถาไห่ถอนหายใจ "ใช่ นั่นคือสมุนไพรระดับสี่ที่ข้าซื้อมาจากสำนักงานใหญ่ในเมืองหลวง แต่เมื่อกี้เปลวไฟใต้พิภพยังดีๆ อยู่ ทำไมถึงอ่อนแอลงได้กันนะ?"
สมุนไพรระดับสี่?
"ท่านอาจารย์ ดอกตี้หลัว หญ้าหว่อหลง พวกนี้เป็นสมุนไพรระดับไหน!"
ชิงเยว่ตกใจ รีบบอกชื่อสมุนไพรในตำรับยาของกู่เสวียนเฉินออกมา
"พวกนี้ล้วนเป็นสมุนไพรระดับสี่ เจ้าเห็นมาจากไหน เจ้าเป็นแค่นักปรุงยาระดับสอง ไม่น่าจะได้สัมผัสของพวกนี้นี่"
เถาไห่มองชิงเยว่อย่างประหลาดใจ "เจ้าเจอตำรับโอสถโบราณหรือ? ข้ารู้สึกว่าสมุนไพรพวกนี้รวมกัน น่าจะปรุงยาระดับสี่ขั้นสูงได้!"
ตำรับโอสถระดับสี่ขั้นสูง?
ชิงเยวนึกถึงตำรับโอสถ "ใช้เคล็ดปุงยาเสวียนตัน ใส่ดอกตี้หลัว ใช้เคล็ดปรุงยาชิงตัน ใส่กิ่งเทียนซิง ใช้เคล็ดปรุงยาว่านเซียงตัน เสริมด้วย... เสริมด้วย..."
เถาไห่ได้ยิน ดวงตาเป็นประกาย ลืมความเสียหายเมื่อกี้ไปสนิท เห็นชิงเยว่ไม่พูดต่อ เขาก็รีบถามทันที "เสริมด้วยอะไร..."
มองปฏิกิริยาของท่านอาจารย์ ชิงเยว่เปลี่ยนสีหน้า พูดเบาๆ "ข้า... ข้าลืม!"
เถาไห่ยิ้ม "ลืมก็ไม่เป็นไร เจ้าเห็นตำรับโอสถที่ไหน พาข้าไปดูหน่อยสิ!"
"ตำรับโอสถ..."
ชิงเยว่ร้อนรน ลังเลครู่หนึ่ง ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องโถงใหญ่ให้เถาไห่ฟัง
มองชิงเยว่ที่หน้าซีด เถาไห่ถอนหายใจ "อาจารย์เคยบอกเจ้าแล้ว เหนือภูเขายังมีภูเขาที่สูงกว่า แต่เจ้ากลับถือว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะด้านโอสถอันดับหนึ่งของเมืองอันหยาง ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา!"
"โชคดีที่กู่เสวียนเฉินถูกขังอยู่ในตระกูลลั่วสองปี คงไม่รู้เรื่องปรุงยา เขาน่าจะเก็บตำรับโอสถโบราณได้โดยบังเอิญ"
"แต่เรื่องนี้เจ้าก็ต้องจำไว้เป็นบทเรียน มิเช่นนั้นถ้าไปยั่วยุนักปรุงยาที่แท้จริง อาจารย์ก็ปกป้องเจ้าไม่ได้!"