ตอนที่แล้วบทที่ 36  ข่าวของบิดา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 คุณชายกู่คือจักรพรรดิยุทธ์เซียวเหยา?

บทที่ 37 กลับมายังนิกาย


บทที่ 37 กลับมายังนิกาย

"นี่... นี่คือสมบัติบินงั้นหรือ?"

มองยานพาหนะขนาดใหญ่ที่อยู่ในลานบ้าน คนของตระกูลกู่ก็นั่งลงด้วยความอยากรู้อยากเห็น กู่เสวียนเฉินทำมุทรา สมบัติบินก็ลอยขึ้น บินไปที่เทือกเขาเฉียนตั้งอย่างรวดเร็ว

การกระทำแบบนี้ ทำให้ทุกคนในเมืองอันหยางต้องจ้องมอง!

เถาไห่ที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างกู่เสวียนเฉินกับนิกายเซียวเหยา เขาเพิ่งกวาดล้างศิษย์ของลัทธิเพลิงพิโรธที่อยู่ในเมืองอันหยางเสร็จ ก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

"ท่านประธานฉี ท่านดูสิ ข้าบอกแล้วว่าคุณชายกู่เป็นคนตาต่อตาฟันต่อฟัน ท่านไปแบบนี้ คนของลัทธิเพลิงพิโรธที่อยู่บนเทือกเขาเฉียนตั้งคงไม่รอด!"

ฉีหมิงพยักหน้าเห็นด้วย "ถูกต้อง ครั้งนี้โชคดีที่มีท่าน มิเช่นนั้นคุณชายกู่อาจจะคิดว่าพวกเราทำงานไม่เป็น!"

จากนั้นฉีหมิงก็พูดต่อ "ตอนนี้พวกเราก็พาคนไปที่เทือกเขาเฉียนตั้ง ถึงด้วยวิชาของคุณชายกู่จะไม่ต้องให้พวกเราลงมือ แต่พวกเราต้องแสดงท่าที"

"ได้" เถาไห่พยักหน้า

แต่การไปที่เทือกเขาเฉียนตั้ง ไม่เหมือนกับการกวาดล้างศิษย์ของลัทธิเพลิงพิโรธที่อยู่ในเมืองอันหยาง ตอนนี้พวกเขาต้องรีบกลับไปที่โถงโอสถ เพื่อเรียกระดมผู้คนมาใหม่

ตูม... ตูม...

กู่เสวียนเฉินขับสมบัติบิน พอเข้าไปในเทือกเขาเฉียนตั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาพร้อมกับเสียงตะโกนรางๆ

เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นแสงสว่างและไฟพุ่งออกมาจากที่ตั้งของนิกายเซียวเหยา!

นิกายเซียวเหยาซ่อนตัวไม่สำเร็จงั้นหรือ?

กู่เสวียนเฉินขมวดคิ้ว รีบกระโดดลงจากสมบัติบิน "เสี่ยวเหมิง ดูแลพวกเขา หาที่หลบซ่อนก่อน!"

พูดจบ กู่เสวียนเฉินก็พุ่งไปทางนิกายเซียวเหยา

"พี่ชาย..." กู่อวี่หานเห็นดังนั้นก็จะตามไป

แต่เสี่ยวเหมิงดึงนางไว้ "คุณหนู ฟังคำสั่งของท่านอาจารย์เถอะ"

"แต่..."

เสี่ยวเหมิงขัดจังหวะความกังวลของกู่อวี่หาน "ไม่ต้องห่วง คนพวกนั้นยังไม่พอให้ท่านอาจารย์ตบเล่นหรอก!"

ถึงเสี่ยวเหมิงจะจำวิญญาณของกู่เสวียนเฉินได้ด้วยสัญชาตญาณ แต่นางก็ไม่รู้ประสบการณ์การเกิดใหม่ของกู่เสวียนเฉิน ดังนั้นตอนนี้นางจึงมั่นใจในกู่เสวียนเฉินมาก

"หืม? ขอบเขตราชันย์มนุษย์?"

ยังไม่ทันเข้าใกล้นิกายเซียวเหยา กู่เสวียนเฉินก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของขอบเขตราชันย์มนุษย์ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมมากขึ้น

กู่เสวียนเฉินเร่งความเร็วถึงขีดสุด แต่กลับพบว่ามีหลายคนวิ่งหนีมาจากทางนั้นด้วยความหวาดกลัว ไม่เพียงแต่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตถ้ำสวรรค์ ยังมีผู้แข็งแกร่งขอบเขตรวมเป็นหนึ่งอีกมากมาย!

ถึงจะไม่ใช่คนของนิกายเซียวเหยา แต่กู่เสวียนเฉินก็รู้ว่า ต้องมีคนที่แข็งแกร่งมากอยู่ที่นั่น มิเช่นนั้นคงไม่ทำให้พวกเขาหนีอย่างทุลักทุเลแบบนี้!

กู่เสวียนเฉินดึงชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสไว้ ถาม "พี่ชาย รบกวนถามหน่อย..."

"น้องชาย ด้วยพลังแค่นี้ของเจ้า ก็อย่าไปคิดจะยุ่งกับนิกายเซียวเหยาเลย พวกเขา... พวกเขา..."

เห็นท่าทางหวาดกลัวของอีกฝ่าย กู่เสวียนเฉินก็เปลี่ยนสีหน้าอีกครั้ง "พวกเขาเป็นยังไง?"

คนนั้นพูดด้วยความหวาดกลัว "พวกเขา... แข็งแกร่งเกินไป หลายปีมานี้นิกายเซียวเหยาแสร้งทำเป็นอ่อนแอ วันนี้ข้าถึงได้เห็นว่ามรดกของนิกายจักรพรรดิเป็นยังไง!"

"ลัทธิเพลิงพิโรธส่งผู้อาวุโสขอบเขตรวมเป็นหนึ่งมามากกว่าสามสิบคน แถมยังมีบรรพชนขอบเขตราชันย์มนุษย์อีกหนึ่งคน แค่ปะทะกันครั้งเดียว ก็ถูกนิกายเซียวเหยาฆ่าตายหมด!"

"นิกายเซียวเหยาต้องมีสมบัติวิเศษปรากฏขึ้นจริงๆ แต่น้องชาย ชีวิตสำคัญกว่า ข้าแนะนำให้เจ้าอย่าไปเลย"

คนนั้นพูดจบ ก็ไม่สนใจปฏิกิริยาของกู่เสวียนเฉิน รีบวิ่งหนีไป ราวกับว่ากลัวว่าถ้าช้าไปก้าวหนึ่ง จะถูกนิกายเซียวเหยาตามทัน

แต่กู่เสวียนเฉินกลับงุนงง เขาเหลือผลหงเหมิงไว้ที่นิกายเซียวเหยาสิบลูก แต่ถึงหูไห่เฉวียนและคนอื่นๆ ที่อยู่ขอบเขตรวมเป็นหนึ่งจะทานเข้าไป ก็ไม่น่าจะทะลวงไปยังขอบเขตราชันย์มนุษย์ได้ในเวลาสั้นๆ นี่นา?

ด้วยความสงสัยมากมาย เมื่อกู่เสวียนเฉินมาถึงนิกายเซียวเหยา ก็เห็นว่านิกายยังเหมือนเดิมตอนที่เขาจากไป ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกของมิติ

แม้แต่หน้าประตูนิกายก็ไม่มีค่ายกล แม้แต่คนที่ไม่ใช่คนของนิกายก็สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ!

และหน้าประตูนิกายก็มีศพเกลื่อนกลาด ดูจากเสื้อผ้า ส่วนใหญ่เป็นคนของลัทธิเพลิงพิโรธ แถมสมบัติวิเศษ อาวุธ และกระบี่ของศพเหล่านี้ก็หายไปจนหมด

กู่เสวียนเฉินหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดินเข้าไปในนิกายเซียวเหยา

พอเข้าไปในนิกาย ภาพเบื้องหน้าก็เปลี่ยนไป เห็นฉื่อหั่วยืนอยู่กับผู้อาวุโสคนอื่นๆ กำลังนับกำไลมิติ

"คารวะท่านบรรพชน..."

ไม่รู้ว่าใครตะโกนก่อน คนอื่นๆ ก็รีบคุกเข่าลงด้วยความตื่นเต้น

กวาดสายตามองไปรอบๆ กู่เสวียนเฉินก็ตกใจเล็กน้อย "ประมุขนิกาย หานคง และก็โม่เฉียนเหยียน พวกเขาอยู่ไหน?"

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คนทั้งสามกลับไม่อยู่ที่นี่ หรือว่าพวกเขา...

ฉื่อหั่วรีบพูด "เรียนท่านบรรพชน ตามคำสั่งของท่าน หลังจากที่พวกเขาทานผลหงเหมิงแล้ว ก็ยังคงเก็บตัวบ่มเพาะอยู่!"

ได้ยินเช่นนั้น กู่เสวียนเฉินก็โล่งใจ "ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง?"

ฉื่อหั่วพูด "กลิ่นอายของวิบัติสายฟ้าสวรรค์ที่แดนสุขาวดีหงเหมิงแผ่ออกไป หลายคนคิดว่านิกายเซียวเหยามีสมบัติวิเศษปรากฏขึ้น พวกสารเลวนี่จึงรีบมา!"

"ลัทธิเพลิงพิโรธยังส่งราชันย์มนุษย์จื้อหยาน และผู้อาวุโสขอบเขตรวมเป็นหนึ่งมามากกว่าสามสิบคน พวกเขาบอกว่าพวกเราฆ่าคนของสามกองกำลัง ทำลายกฎที่ลัทธิเพลิงพิโรธตั้งไว้ เลยจะทำลายพวกเรา!"

"เพื่อไม่ให้รบกวนการบำเพ็ญเพียรของท่านประมุขและคนอื่นๆ เหอไห่หลงหัวหน้าโถงค่ายกลจึงใช้เคล็ดวิชาสังหารพันมายาของค่ายกลพันมายา ฆ่าพวกเขาทั้งหมด!"

เคล็ดวิชาสังหารพันมายา!

นี่คือเคล็ดวิชาสังหารหลักในค่ายกลพันมายา ไม่เพียงแต่ต้องมีความสามารถในการควบคุมค่ายกลที่แข็งแกร่ง ยังต้องใช้หินวิญญาณจำนวนมาก

แต่กู่เสวียนเฉินก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

ตนเองเคยสอนเคล็ดวิชาค่ายกลว่างเปล่าให้เหอไห่หลงเพื่อหลอมอาวุธวิญญาณ เขาสามารถเรียนรู้วิชาควบคุมค่ายกลพันมายาจากเคล็ดวิชาค่ายกลว่างเปล่าได้ มันย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

ส่วนหินวิญญาณ นิกายเซียวเหยาที่เพิ่งกวาดล้างสามกองกำลัง หินวิญญาณก็น่าจะเพียงพอสำหรับการโจมตีครั้งนี้

แต่กู่เสวียนเฉินก็ยังส่ายหน้าทันที "พวกเจ้าทำอะไรไร้ความคิดมากเกินไป!"

"ขอท่านบรรพชนชี้แนะ!"

ฉื่อหั่วก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย คิดในใจ หรือว่าเมื่อกี้ตนเองไม่ได้เข้าใจความคิดของท่านบรรพชนจริงๆ?

กู่เสวียนเฉินพูด "เพื่อฆ่าราชันย์มนุษย์คนเดียว พวกเจ้าใช้หินวิญญาณไปมากขนาดนั้น ต่อไปจะทำยังไง?"

"ลัทธิเพลิงพิโรธสามารถครองพื้นที่นี้ได้ พวกเขาคงไม่ได้มีราชันย์มนุษย์แค่คนเดียวใช่ไหม?  นิกายเซียวเหยามีหินวิญญาณมากพอที่จะใช้เคล็ดวิชาสังหารพันมายาอีกหรือ?"

ฉื่อหั่วขมวดคิ้ว ถูกต้อง!

ตอนนั้นเขาคิดแค่ว่าท่านบรรพชนอยากให้พวกเขาทำลายลัทธิเพลิงพิโรธ แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องการใช้หินวิญญาณ

เห็นฉื่อหั่วรู้สึกผิด กู่เสวียนเฉินก็รู้สึกสงสาร อาจเพราะฉื่อหั่วไม่ใช่ประมุขนิกาย มีหลายเรื่องที่เขาตัดสินใจเองไม่ได้สินะ?

และในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว แทนที่จะพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นหมดกำลังใจ สู้ให้กำลังใจพวกเขาดีกว่า "ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว อย่างน้อยพวกเจ้าก็ยังมีเลือดนักสู้ นี่เป็นเรื่องที่ดี!"

"ข้าออกไปข้างนอกก่อน เดี๋ยวจะกลับมา!"

ในเมื่อที่นี่ไม่มีอันตราย และไม่ต้องกังวลว่าคนในตระกูลจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ กู่เสวียนเฉินก็ต้องพาพวกเขามาก่อน

"ท่านรองประมุข ท่านบรรพชนหมายความว่ายังไง?"

ตอนนั้น ฉื่อหั่วที่ถูกล้อมรอบด้วยผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ขมวดคิ้วถาม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด