ตอนที่แล้วบทที่ 2  อำนาจของคัมภีร์จักรพรรดิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4  กู่อวี่หานผู้โหดเหี้ยม

บทที่ 3  เรื่องเข้าใจผิดครั้งใหญ่ของนิกายเซียวเหยา


บทที่ 3  เรื่องเข้าใจผิดครั้งใหญ่ของนิกายเซียวเหยา

กู่เสวียนเฉินพากู่อวี่หานกลับมาที่ห้องของนาง

"พี่ชาย  เมื่อกี้..." กู่อวี่หานยังคงหวาดกลัวจากการฆ่าฟันในห้องโถงใหญ่

อั๊ก...

ในตอนนี้เอง  กู่เสวียนเฉินก็กระอักเลือดออกมา ใบหน้าซีดเผือด

"พี่ชาย ท่านเป็นอะไรไป ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม..." กู่อวี่หานร้องด้วยความตกใจ

กู่เสวียนเฉินยิ้ม "เบาๆ หน่อย  ถ้าคนข้างนอกรู้ว่าข้าบาดเจ็บ พวกเราจะยิ่งอันตราย!"

ตอนอยู่ในห้องโถงใหญ่  พลังปราณที่ปั่นป่วนในร่างกายทำให้กู่เสวียนเฉินพูดไม่ได้

วิถียุทธ์ เริ่มจากการฝึกฝนร่างกาย จากนั้นฝึกพลังปราณ ต่อมาสัมผัสได้ถึงปราณวิญญาณสวรรค์และปฐพี  นำเข้าสู่ร่างกาย หลอมรวมเป็นพลังวิญญาณ แล้วจึงจะก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณได้

ระดับวิญญาณ แบ่งออกเป็น ขอบเขตแดนวิญญาณ ขอบเขตวิญญาณปฐพี ขอบเขตวิญญาณสวรรค์ และวิญญาณราชันย์

เมื่อกี้แม้จะใช้เจตจำนงแห่งกระบี่ฆ่าผู้อาวุโสใหญ่ แต่ด้วยความต่างชั้นของขอบเขต กู่เสวียนเฉินก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส

"แต่พี่ชาย..."

กู่อวี่หานที่เป็นห่วงรีบพูด "จริงสิ ข้าเก็บเงินไว้บ้าง ข้าจะไปเชิญปรมาจารย์จากโถงโอสถมาดูอาการให้พี่ชาย!"

"ไม่ต้อง ข้าปรับลมปราณเองก็หายแล้ว!"

กู่เสวียนเฉินยิ้ม "แต่ก่อนที่ข้าจะปรับลมปราณเสร็จ เจ้าห้ามออกจากห้องนี้"

กู่อวี่หานพยักหน้า หยิบมีดสั้นออกมาจากอก "พี่ชายวางใจปรับลมปราณเถอะ ข้าจะไม่ให้ใครมารบกวนพี่ชาย!"

เขามองมีดสั้นในมือของกู่อวี่หาน ดวงตาของกู่เสวียนเฉินก็เย็นเยียบ!

เรื่องวันนี้ กู่อวี่หานถึงกับพกมีดสั้นไว้ติดตัว คนโง่ก็รู้ว่านางจะทำอะไร!

ตระกูลหลิง  ตระกูลลั่ว... ในเมื่อพวกเจ้าเป็นคนกำกับเรื่องนี้ งั้นก็หวังว่าพวกเจ้าจะรับมือกับโทสะของข้า  กู่เสวียนเฉิน ได้!

แต่ถึงแม้ตนจะมีวิถียุทธ์มากมาย แต่ถ้าไม่มีพลังที่แข็งแกร่งพอ ทุกอย่างย่อมไร้ค่า กู่เสวียนเฉินนั่งขัดสมาธิ และเริ่มฝึกฝน

ระหว่างที่ปรับลมปราณ กู่เสวียนเฉินก็เริ่มลำบากใจ

ชาติที่แล้วแม้จะบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งในขอบเขตจักรพรรดิมากมาย แต่นั่นเป็นเพราะความเข้าใจในวิถีแห่งสวรรค์โดยกำเนิด เขาไม่มีเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์แบบเลย

กลับเป็นคัมภีร์จักรพรรดิที่พวกเขาเข้าใจ เมื่อยามบรรลุขอบเขตจักรพรรดิที่ค่อนข้างสมบูรณ์กว่า

อย่างไรก็ตาม  คัมภีร์จักรพรรดิเจิ้นอวี๋(ผนึกคุมขัง)  คัมภีร์จักรพรรดิหมิงตู๋(ข้ามยมโลก)  คัมภีร์จักรพรรดิเซียวเหยา(อิสระสุขสำราญ)...

คัมภีร์จักรพรรดิแต่ละเล่มที่นิกายต่างๆ ถือเป็นสมบัติล้ำค่า ตอนนี้กลับปรากฏอยู่ในหัวของกู่เสวียนเฉิน แต่ละเล่มล้วนมีเอกลักษณ์ ทำให้เขาเลือกไม่ถูก

"เอาเถอะ ตอนนั้นเพื่อดึงดูดวิบัติสวรรค์ ข้าได้สั่งสอนจักรพรรดิยุทธ์เซียวเหยาอย่างละเอียด งั้นก็เอาเคล็ดวิชาเซียวเหยาของเขาเป็นพื้นฐานก่อนก็แล้วกัน"

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดกู่เสวียนเฉินก็เลือกคัมภีร์จักรพรรดิเซียวเหยา

เมื่อเคล็ดวิชาเริ่มโคจร ตันเถียนที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยพลังปราณ พลังปราณมากมายเกิดขึ้น  ไหลเวียนไปตามเส้นลมปราณหนึ่งรอบ พลังที่ปั่นป่วนในร่างกายก็สงบลง ไม่นาน ตันเถียนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณ ในขณะเดียวกัน กู่เสวียนเฉินก็รู้สึกได้ถึงพลังแปลกๆ ไหลเข้าสู่ร่างกาย

พลัง... พลังปราณวิญญาณ...

สำหรับพลังนี้  แม้กู่เสวียนเฉินจะไม่เคยสัมผัส  แต่ก็คุ้นเคย!

นี่คือพลังปราณวิญญาณที่เขาใฝ่ฝันอยากจะนำเข้าสู่ร่างกายในความฝัน!

ความตื่นเต้นทำให้มุมตาของกู่เสวียนเฉินเปียกชื้น

ในขณะเดียวกัน ในขณะที่กู่เสวียนเฉินฝึกเคล็ดวิชาเซียวเหยา ณ โถงเซียวเหยาของนิกายเซียวเหยาที่อยู่ห่างออกไปพันลี้!

ประมุขนิกายหูไห่เฉวียนเห็นปากของรูปปั้นบรรพชนขยับ ได้ยินเสียงเลือนลาง "ตะวันตก  เมืองอันหยาง อัจฉริยะ เชิญเข้าสู่นิกาย..."

"นี่... นี่คือคำแนะนำของบรรพชน?"

ผู้ก่อตั้งนิกายเซียวเหยาคือจักรพรรดิยุทธ์เซียวเหยาผู้โด่งดังในทวีปชิงอวิ๋น หูไห่เฉวียนในฐานะประมุขย่อมรู้ดีว่า นี่คือการส่งข้อความข้ามมิติของบรรพชนที่ขึ้นไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์!

อัจฉริยะแบบไหนกัน ที่ทำให้บรรพชนให้ความสำคัญเช่นนี้!?

คิดได้ดังนั้น หูไห่เฉวียนจึงไม่กล้าชะล่าใจ รีบเรียกผู้อาวุโสในนิกาย เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

ผู้อาวุโสเถาเชียนได้ยิน ก็คิดขึ้นได้ "ข้ารู้แล้ว ได้ยินมาว่าผู้อาวุโสโม่เหอรับศิษย์คนหนึ่งในเมืองอันหยาง  แสดงว่าที่บรรพชนแนะนำก็คือนางใช่ไหม?"

"น่าจะใช่ ปกติผู้อาวุโสโม่เหอไม่เคยรับศิษย์ นอกจากอัจฉริยะที่บรรพชนแนะนำ ใครจะมีคุณสมบัติเป็นศิษย์ของเขา?"

หูไห่เฉวียนรีบพูด "ศิษย์บ้าบออะไร อัจฉริยะที่บรรพชนแนะนำ โม่เหอกล้ารับเป็นศิษย์?  แม้แต่ข้าก็ยังไม่กล้า!"

"ตอนนี้ต้องรีบส่งข้อความไปบอกผู้อาวุโสโม่เหอ ให้รีบพาอัจฉริยะที่บรรพชนแนะนำกลับมานิกาย  ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ  ส่วนเรื่องอื่นๆ รอให้คนกลับมาแล้วค่อยปรึกษาหารือกัน!"

หลังจากพลังปราณวิญญาณในห้องสงบลง กู่เสวียนเฉินที่ทะลวงไปยังขอบเขตแดนวิญญาณลืมตาขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่พลุ่งพล่านในร่างกาย  แม้จะผ่านมาสองชาติ  กู่เสวียนเฉินก็ยังตื่นเต้น

ขอบเขตแดนวิญญาณ!

ชาติที่แล้วแสวงหามานับหมื่นปีก็ไม่ได้  ใครจะคิดว่าชาตินี้จะง่ายดายเช่นนี้?

"พี่ชาย ท่านไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม!" กู่อวี่หานรีบเข้ามา

"ไม่เป็นไร  ดูนี่สิ..."

กู่เสวียนเฉินพูดพลางพลิกมือ  ในมือปรากฏพลังสีเทาขาว!

"ระดับวิญญาณ?  พี่ชายก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณ ท่านทะลวงไปยังขอบเขตแดนวิญญาณแล้ว?"

กู่อวี่หานเบิกตากว้าง จ้องมองมือของกู่เสวียนเฉิน แม้จะถูกมองว่าเป็นคนไร้พรสวรรค์ตั้งแต่เด็ก  แต่เกิดในตระกูลนักยุทธ์ กู่อวี่หานย่อมรู้ว่าขอบเขตแดนวิญญาณหมายถึงอะไร

ลั่วเซิ่งเสวี่ยก็เพราะทะลวงไปยังขอบเขตแดนวิญญาณตอนอายุสิบแปด นางจึงถูกผู้อาวุโสโม่เหอของนิกายเซียวเหยามองเห็นพรสวรรค์ และรับเป็นศิษย์

แต่พี่ชายอายุแค่ยี่สิบ เขาก็ทะลวงไปยังขอบเขตแดนวิญญาณเหมือนกัน  และพี่ชายสองปีมานี้... ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วเซิ่งเสวี่ย  บางทีพี่ชายก็อาจจะได้เข้าสู่นิกายเซียวเหยา คิดได้ดังนั้น ในดวงตาของกู่อวี่หานก็เปี่ยใไปด้วยความเย็นชา

"ท่านประมุข  มีเรื่องจะปรึกษา!"

"พี่ชาย..." ได้ยินเสียงของท่านผู้อาวุโสสาม  กู่อวี่หานก็รู้สึกกังวลอีกครั้ง

กู่เสวียนเฉินยืนขึ้น "ไม่เป็นไร รอข้าอยู่ที่นี่"

ข้างนอก ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสอีกหลายคนคำนับพร้อมกัน "คารวะท่านประมุข!"

กู่เสวียนเฉินพูดอย่างเฉยเมย "มีอะไรก็รีบพูดมา"

ผู้อาวุโสสามก้าวไปข้างหน้า  และพูดอย่างรวดเร็ว "ท่านประมุข ขออนุญาตถาม ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับคุณหนูลั่ว..."

กู่เสวียนเฉินหัวเราะเยาะ "ยังไง? ผู้อาวุโสสามจะไปทวงความยุติธรรมให้ข้าที่ตระกูลลั่วหรือ?"

"ท่านประมุขโปรดระวังคำพูด!" ท่านผู้อาวุโสสามรีบพูด "เมื่อกี้คุณหนูลั่วถูกผู้อาวุโสโม่เหอพาไปนิกายเซียวเหยาแล้ว  และ... ผู้อาวุโสโม่เหอยังปักป้ายเซียวเหยาไว้บนหลังคาคฤหาสน์ตระกูลลั่ว!"

"นางไปแล้ว?"

กู่เสวียนเฉินขมวดคิ้ว  ยังไม่ได้ชำระแค้นที่ถูกทรมานสองปี  ลั่วเซิ่งเสวี่ยกลับหนีไปแล้ว?

ท่านผู้อาวุโสสามมองกู่เสวียนเฉิน และพูดว่า "ท่านประมุข ตอนนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คุณหนูลั่วไปหรือไม่ แต่อยู่ที่ป้ายเซียวเหยา!  นั่นคือสัญลักษณ์คุ้มครองของนิกายเซียวเหยา แม้แต่ราชวงศ์ไปที่ตระกูลลั่ว ก็ต้องคำนับก่อนถึงจะเข้าไปได้!"

กู่เสวียนเฉินย่อมรู้ความหมายของป้ายเซียวเหยา แต่เขาไม่สนใจ "แล้วไง?"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด