ตอนที่แล้วบทที่ 229 ดึงเส้นเลือดมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 231 ถังซีเยว่โกรธเกรี้ยว

บทที่ 230 ภรรยาได้ดีเพราะสามี (ฟรี)


บทที่ 230 ภรรยาได้ดีเพราะสามี (ฟรี)

ขณะที่ฟางอวี่กำลังมุ่งหน้าไปยังราชวงศ์ต้าฉิน

ที่ดาวมนุษย์ ราชวงศ์ต้าเซี่ย

ณ สำนักงานใหญ่บริษัทอวี่ซีในเมืองหลินเจียง

ในห้องทำงานประธานบริษัท แสงไฟสว่างจ้าราวกับกลางวัน

สตรีงดงามสามนางมารวมตัวกัน กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่

ทั้งสามคือถังซีเยว่ หลี่อิ่งเออร์ และจี๋เมิ่งเฟย

จี๋เมิ่งเฟยในชุดกี่เพ้ายาวสีแดง งดงามยั่วยวน มองถังซีเยว่แล้วพูดขึ้นทันที "น้องซีเยว่ เพิ่งได้รับข่าวจากด่านเจินมอว่า เผ่ามารออกจากหุบเขามารแล้ว ดูท่าฉินปิงเอ๋อร์กำลังจะเริ่มลงมือแล้ว!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาถังซีเยว่วาบขึ้นด้วยแววเย็นชา กล่าวเสียงเคร่ง "ไม่รู้ว่าครั้งนี้ฉินปิงเอ๋อร์จะมาเองหรือไม่ ถ้านางมาเอง ก็พอดีจะได้ถือโอกาสถอนรากถอนโคน ไม่เช่นนั้น ปล่อยนางไว้ก็เป็นภัยแน่"

หลี่อิ่งเออร์พยักหน้า "พี่พูดถูก ฉินปิงเอ๋อร์ไม่เพียงเข้าร่วมกับเผ่ามาร แถมยังมีราชามารขั้นกายทิพย์คอยหนุนหลังอีก"

"ดูจากที่นางสามารถสั่งการแม่ทัพมารขั้นสร้างดวงแก่นได้ตามใจ ก็แสดงว่าราชามารผู้นั้นรักใคร่นางมาก หากราชามารผู้นั้นมาที่ดาวมนุษย์ได้ นางต้องให้เขามาสังหารพี่เขยกับพี่แน่ ปล่อยนางไว้เป็นภัยแน่นอน!"

หยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ "ราชวงศ์ต้าเซี่ยของเราดีทุกอย่าง เพียงแต่กฎหมายเข้มงวดเกินไป ถ้าเป็นในพิภพลับที่ไม่มีกฎหมายควบคุม ตอนนั้นพี่เขยคงจะกำจัดตระกูลฉินได้หมดแล้ว ก็จะไม่มีปัญหาเช่นทุกวันนี้"

ถังซีเยว่มองน้องสาวลูกพี่ลูกน้องข้างกาย กล่าวเสียงแผ่ว "บ้านเมืองไร้กฎหมายตั้งไม่ได้ ประชาไร้กฎหมายปกครองไม่ได้!"

"หากราชวงศ์ต้าเซี่ยของเราไม่มีกฎหมาย ก็จะไม่มีความสงบและความสามัคคี!"

"หากไม่มีกฎหมายควบคุมผู้คน ก็จะไม่สามารถอยู่เย็นเป็นสุข!"

"หากไม่มีกฎหมาย ทุกคนทำตามใจชอบ ราชวงศ์ต้าเซี่ยของเราคงวุ่นวายไปทั้งแผ่นดิน ถูกชนต่างเผ่ากวาดล้างไปนานแล้ว!"

หยุดครู่หนึ่ง ถังซีเยว่พูดต่อ "แต่ตอนนี้ฉินปิงเอ๋อร์เข้าร่วมกับเผ่ามาร ตระกูลฉินถูกทางการประทับตรา 'ทรยศแผ่นดิน' ทุกคนในราชวงศ์ต้าเซี่ยล้วนมีสิทธิ์สังหารพวกเขา ฆ่าพวกเขาไม่เพียงไม่ผิด ยังได้ความดีความชอบอีก!"

จี๋เมิ่งเฟยที่นั่งตรงข้ามถังซีเยว่ถอนหายใจกล่าว "โลกนี้ช่างไม่แน่นอนจริงๆ ฉินปิงเอ๋อร์เคยเป็นหนึ่งในสามงามแห่งเมืองหลวง ครั้งหนึ่งช่างรุ่งโรจน์เหลือเกิน ใครจะคิดว่าเพราะความเห็นแก่ตัว จะตกต่ำถึงเพียงนี้!"

จากนั้น ทั้งสามคนก็สนทนากันไปเรื่อยๆ

หัวข้อสนทนาล้วนเกี่ยวกับฟางอวี่และเซียวเหยียนที่เข้าไปในพิภพ

เวลาผ่านไปทีละน้อย

พริบตาเดียวก็ถึงสี่ทุ่มแล้ว

ถังซีเยว่จู่ๆ ก็หันไปมองจี๋เมิ่งเฟยและหลี่อิ่งเออร์ พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "พี่เมิ่งเฟย เฉินเม่ยเม่ยมาถึงแล้ว พวกเราเริ่มปฏิบัติการกันเถอะ!"

พูดจบ ก็หันไปพูดกับน้องสาวลูกพี่ลูกน้องข้างกาย "อิ่งเออร์ เจ้าแค่ขั้นรวมลมปราณ การต่อสู้ระดับนี้เจ้าช่วยอะไรไม่ได้ พี่จะรับเจ้าเข้าพิภพของพี่ก่อน"

หลี่อิ่งเออร์พยักหน้า "พี่ ระวังตัวด้วยนะ!"

นางยังไม่ถึงขั้นกลั่นลมปราณด้วยซ้ำ ย่อมรู้ว่าการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น นางช่วยอะไรไม่ได้

ดังนั้น นางจึงไม่ยืนกรานจะอยู่ข้างนอกให้เป็นภาระพี่สาว

ถังซีเยว่พยักหน้า จากนั้นก็ติดต่อตราประทับพิภพบนหน้าผาก รับน้องสาวที่ไม่ขัดขืนเข้าพิภพของตน

ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ถังซีเยว่ส่งสัญญาณตาให้จี๋เมิ่งเฟย ทั้งสองสาวลุกขึ้นเดินออกมา

ครู่ต่อมา ทั้งสองก็เดินออกจากตึกใหญ่ของบริษัท แยกกันขับรถแม่เหล็กไฟฟ้าสปอร์ตจากไป

หลังจากทั้งสองจากไปไม่นาน รถเก๋งแม่เหล็กไฟฟ้าคันหนึ่งก็แล่นตามห่างๆ

ยามดึกสงัด

ชาวเมืองหลินเจียงต่างอยู่ในพิภพของตนเพื่อบำเพ็ญเพียร ตอนกลางคืนจึงแทบไม่มีรถวิ่ง

ถังซีเยว่และจี๋เมิ่งเฟยขับรถสปอร์ตตรงไปยังทะเลสาบเทพธิดา

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองมาถึงหาดทรายแดงหน้าทะเลสาบเทพธิดา

ทั้งสองลงจากรถสปอร์ต จากนั้นก็เก็บรถเข้าพิภพ ยืนเคียงข้างกัน

แสงจันทร์ราวกับเงินยวงสาดส่องลงมาบนร่างพวกนาง เพิ่มเสน่ห์อันพิเศษ

ถังซีเยว่สวมชุดยาวสีขาว บุคลิกเย็นชา เลื่อนลอย ราวกับเซียนที่ไม่แตะต้องธุลีโลกีย์

จี๋เมิ่งเฟยสวมกี่เพ้าสีแดง งดงามยั่วยวน ทุกการเคลื่อนไหวแผ่กระจายเสน่ห์อันไม่สิ้นสุด

"พี่เมิ่งเฟย มาแล้ว!"

ถังซีเยว่กระซิบกับจี๋เมิ่งเฟย

พอถังซีเยว่พูดจบ ทั้งสองก็เห็นรถเก๋งสีดำเปิดไฟคันหนึ่งแล่นมาจากถนนไกลๆ อย่างรวดเร็ว

ไม่นาน รถคันนั้นก็จอดห่างจากทั้งสองสองร้องกว่าเมตร ตามด้วยคนสองคนก้าวออกมาจากรถเก๋งสีดำ

จากนั้นถังซีเยว่และจี๋เมิ่งเฟยก็เห็นร่างลึกลับสี่ร่างที่มีพลังมารสีดำปกคลุมทั่วร่างปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคนทั้งสอง

ถังซีเยว่และจี๋เมิ่งเฟยสบตากัน สีหน้าทั้งคู่เคร่งขรึมขึ้นมา

พวกนางรู้ว่าร่างลึกลับทั้งสี่ที่มีพลังมารสีดำปกคลุมนั้น คือแม่ทัพมารขั้นสร้างดวงแก่น

ในตอนนั้น ร่างหกร่างพุ่งเข้าหาถังซีเยว่และจี๋เมิ่งเฟย

เพียงชั่วพริบตาก็มาหยุดอยู่ห่างจากถังซีเยว่และจี๋เมิ่งเฟยราวยี่สิบกว่าเมตร

สตรีคนหนึ่งก้าวออกมาหนึ่งก้าว จ้องมองถังซีเยว่ พูดเสียงเย็นชา "อีตัวดี ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ลูกเติงของข้าก็คงไม่ตาย เดี๋ยวข้าจะให้ท่านแม่ทัพมารทำให้เจ้าเสียวสวรรค์เสียวสวาท!"

ถังซีเยว่มองสตรีชุดดำผู้นั้น ดวงตาวาบขึ้นด้วยแววเย็นยะเยือก

สตรีผู้นี้สวมชุดยาวสีดำ หน้ารูปไข่ ผิวขาวละเอียดนุ่มนวล ดวงตาคู่งามจ้องเขม็งมาที่นาง เต็มไปด้วยความเกลียดชังท่วมท้น

ถังซีเยว่จำได้ทันที สตรีชุดดำผู้นี้คือเฉินเม่ยเม่ย มารดาแท้ๆ ของอู๋ต้า!

ก่อนที่ถังซีเยว่จะพูด แม่ทัพมารคนหนึ่งก็พูดเสียงเย็นใส่เฉินเม่ยเม่ย "เฉินเม่ยเม่ย ที่นี่เจ้ามีสิทธิ์พูดด้วยหรือ?"

สีหน้าเฉินเม่ยเม่ยเปลี่ยนไป รีบหันไปมองแม่ทัพมารที่พูด ประจบประแจงว่า "ท่าน ทาสรู้ผิดแล้ว!"

เห็นดังนั้น ถังซีเยว่จึงเย้ยหยัน "แม่มดแก่ ลูกชายเจ้าอู๋ต้าสมควรตายแล้ว ตัวเจ้าก็ไม่ใช่คนดีอะไร ปลาน้อยของข้าไว้ชีวิตเจ้า เจ้าไม่รู้คุณก็ช่างเถอะ กลับมาเป็นสุนัขรับใช้พวกมาร น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เคยมองเจ้าเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ!"

แม่ทัพมารคนหนึ่งใช้ดวงตาสีเลือดกวาดมองร่างอ้อนแอ้นของถังซีเยว่และจี๋เมิ่งเฟย สายตาเต็มไปด้วยความโลภ "แค่ก ๆๆ นางงามทั้งสอง ขอเพียงพวกเจ้ายอมจำนน ข้าไม่เพียงจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า ยังจะพาพวกเจ้าขึ้นสวรรค์ลงสวรรค์!"

ถังซีเยว่พูดเสียงเย็น "ไอ้ขยะที่ไม่กล้าแม้แต่จะแสดงตัว อยากให้พวกเรายอมจำนน แค่พวกเจ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอ!"

หยุดครู่หนึ่ง นางยิ้มเยาะพลางกล่าว "แม่ทัพมารของพวกเจ้าสามสิบคนตายในมือสามีข้า พวกเจ้าไม่กลัวหรือว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ รอจังหวะสังหารพวกเจ้า?"

คำพูดนี้ทำให้แววตาของแม่ทัพมารทั้งสี่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

เห็นได้ชัดว่า พวกเขาล้วนรู้จักชื่อเสียงของฟางอวี่ และเกรงกลัวเขา

ฉินหมิงที่เงียบมาตลอดจู่ๆ ก็มองถังซีเยว่ พูดเสียงเย็น "ถังซีเยว่ เจ้าอย่าข่มขู่ไปเปล่าๆ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าไอ้สัตว์น้อยฟางอวี่นั่นเข้าพิภพลับไปแล้ว?"

"ข้าว่าเจ้ากำลังพยายามถ่วงเวลาอยู่สินะ!"

ถังซีเยว่มองฉินหมิง เย้ยหยันว่า "ฉินหมิง ตั้งแต่เจ้าส่งคนมาสะกดรอยข้า ข้าก็รู้ถึงการมีตัวตนของเจ้าแล้ว ที่ปล่อยเจ้าไว้ก็เพียงเพราะต้องการล่อคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าออกมาเท่านั้น"

"เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าคุยกับฉินปิงเอ๋อร์หรือ?"

"หรือเจ้าไม่เคยสงสัยเลยว่า ทำไมคืนนี้ข้าถึงกลับบ้านดึกนัก ทำไมถึงล่อพวกเจ้ามาที่นี่?"

ได้ยินคำพูดของถังซีเยว่ สีหน้าฉินหมิงเปลี่ยนไปอย่างมาก

ถังซีเยว่เรียกจี๋เมิ่งเฟย "พี่เมิ่งเฟย!"

จี๋เมิ่งเฟยโบกมือขวา ชายชราสี่คนก็ปรากฏตัวเบื้องหน้านางในทันที

แม่ทัพมารคนหนึ่งพูดน่ากลัว "ผู้ฝึกฝนมนุษย์ขั้นสร้างดวงแก่น!"

ชายชราคนหนึ่งมองแม่ทัพมารที่พูด กล่าวเสียงเย็น "ไม่ผิด! มารน้อย เจ้าช่างมีสายตาดี ถึงกับรู้ว่าพวกเราเป็นขั้นสร้างดวงแก่น!"

พูดถึงตรงนี้ เขาก็โบกมือเรียกแม่ทัพมารผู้นั้น ร่างแผ่พลังสู้รบอันน่าสะพรึง "มารน้อย ข้าเพิ่งทะลวงขั้นไม่นาน กำลังคันไม้คันมืออยู่พอดี คืนนี้จะลองฝีมือกับเจ้าสักหน่อย!"

แม่ทัพมารผู้นั้นพูดอย่างดุร้าย "มนุษย์ไร้ค่า แม้เจ้าจะเป็นขั้นสร้างดวงแก่นแล้วอย่างไร ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเผ่ามาร!"

ถังซีเยว่เห็นดังนั้น รีบกล่าว "ท่านผู้อาวุโส ขอให้ท่านคอยระวังหลังให้ข้าน้อยก็พอ ให้ข้าน้อยลองฝีมือกับแม่ทัพมารทั้งสี่ก่อน!"

ชายชราทั้งสี่ได้ยินเช่นนั้น พร้อมใจกันหันมามองถังซีเยว่

ในจำนวนนั้น ชายชราคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีเทา ใบหน้าเมตตา ยิ้มพลางกล่าว "ฮูหยินฟาง ท่านแน่ใจหรือว่าจะใช้แม่ทัพมารทั้งสี่เป็นคู่ซ้อมมือ?"

ชายชราแสดงท่าทีสุภาพต่อถังซีเยว่อย่างมาก ไม่ได้ถือตัวแม้วรยุทธ์จะสูงกว่า

ภรรยาได้ดีเพราะสามี!

เพียงแค่สถานะ "ว่าที่ภรรยาฟางอวี่" ก็ทำให้ถังซีเยว่สูงส่งเหลือคณานับ

อาจกล่าวได้ว่า แค่สถานะ "ว่าที่ภรรยาฟางอวี่" เพียงอย่างเดียว ตำแหน่งของถังซีเยว่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยก็ไม่มีใครเทียบได้ ไม่มีใครกล้ารังแก!

แม้แต่จักรพรรดินีเจียงเยว่หวงก็ยังมีสถานะด้อยกว่าถังซีเยว่

กลุ่มอำนาจอื่นอาจกล้ารังแกจักรพรรดินีเจียงเยว่หวง แต่ไม่มีใครกล้ารังแกถังซีเยว่

เพราะเบื้องหลังถังซีเยว่คือฟางอวี่

รังแกจักรพรรดินีเจียงเยว่หวง นางอาจต้องคำนึงถึงภาพรวม มีข้อจำกัดมากมาย

แต่รังแกถังซีเยว่ก็เท่ากับรังแกฟางอวี่ ฟางอวี่คืออัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ต้าเซี่ย พลังต่อสู้เหนือธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่สนใจข้อจำกัดใดๆ ตัดสินใจฆ่าอย่างเด็ดขาด!

นี่คือที่เรียกว่า "คนหนึ่งได้ดี แม้แต่ไก่สุนัขก็ขึ้นสวรรค์"!

อีกอย่าง ถังซีเยว่เองก็ไม่ธรรมดา อายุยังไม่ถึงสิบหกปี ก็มีวรยุทธ์ขั้นกลั่นลมปราณระดับเก้าแล้ว บางทีพรสวรรค์อาจน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า "อันดับหนึ่งราชวงศ์ต้าเซี่ย" ฉินอู๋เต้าในอดีตเสียอีก

ส่วนเขาอายุเลยห้าสิบแล้ว อีกทั้งยังต้องอาศัย "น้ำวิเศษแห่งชีวิต" ที่ถังซีเยว่ขายถึงได้ทะลวงถึงขั้นสร้างดวงแก่น

ดังนั้น ในใจเขาจึงรู้สึกซาบซึ้งต่อถังซีเยว่

เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่กล้าแสดงท่าทีถือตัวต่อหน้าถังซีเยว่

คำว่า "ฮูหยินฟาง" ทำให้ใบหน้างามของถังซีเยว่ผุดรอยยิ้มสดใสชวนหลงใหล นางพยักหน้าอย่างจริงจัง "อืม!"

เมื่อเทียบกับสถานะ "คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง" หรือ "ประธานบริษัทอวี่ซี" นางชอบที่สุดเมื่อผู้อื่นเรียกนางว่า "ฮูหยินฟาง"

เพราะ "ฮูหยินฟาง" คือคำย่อของภรรยาฟางอวี่

ตั้งแต่ตอนที่ฟางอวี่ช่วยชีวิตนางตอนเด็ก นางก็บอกเขาว่าโตขึ้นจะแต่งงานกับเขา

หลังจากเข้าใจความรู้สึกของตนเองที่มีต่อฟางอวี่ ในใจก็มั่นใจว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเขา

คู่ที่รักกันย่อมได้ครองคู่!

โชคดีที่สุดท้ายพวกเขาทั้งสองก็ได้มาอยู่ด้วยกัน

แต่ถังซีเยว่ไม่ได้ถือดีเพราะตนเป็นว่าที่ภรรยาฟางอวี่

นางเหมือนกับฟางอวี่ เป็นคนที่หากใครให้ความเคารพหนึ่งฉื่อ ก็จะตอบแทนหนึ่งจั้ง

(จบบทที่ 230)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด