ตอนที่แล้วบทที่ 225 ใครในเผ่ามังกรไม่อยากนอนกับเทพมังกรบ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 227 สงครามปะทุอีกครั้ง

บทที่ 226 เจ็ดตระกูลใหญ่


เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา เหล่ามังกรสาวทั้งหลายต่างหน้าแดงซ่านกันเป็นแถบๆ แถมยังแอบมองใบหน้าด้านข้างของเทพมังกรหลงจ้านด้วยสายตาเขินอายและตื่นเต้น ราวกับแทบรอไม่ไหว!

“แน่นอนอยู่แล้ว! ท่านเทพมังกรคือเทพเจ้าของเผ่ามังกรทั้งหมด! ถ้าท่านตกลงล่ะก็ คืนนี้ข้ายอมทันที…”

หญิงสาวคนหนึ่งที่มีผมสีแดงเพลิง รูปร่างเซ็กซี่ พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่กลับไม่มีท่าทีขวยเขินเลยแม้แต่น้อย นางพูดอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย!

เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเทพมังกรที่นิ่งเงียบมาตลอดก็แข็งทื่อเล็กน้อย สีหน้าที่ซับซ้อนก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะตึงเครียดขึ้นทันที จนยากจะบอกได้ว่าเขากำลังโกรธหรือแค่รู้สึกอึดอัด!

จินเป่าเอ๋อไม่แปลกใจเลยแม้แต่นิด ถึงนางจะไม่ได้รู้จักเผ่ามังกรดีนัก แต่ก็เคยได้ยินถึงนิสัยตรงไปตรงมาของเผ่ามังกรแดงมาก่อน เช่นมังกรแดงผู้นี้ ไม่ใช่แค่กล้าหาญ แต่ยังพูดจาโผงผางและกล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดอีกด้วย...

ส่วนหลินหลางหลิวลี่กลับมีสีหน้ามืดครึ้มทันที! นางไม่คาดคิดเลยว่าเหล่ามังกรสาวของเผ่ามังกรจะตรงไปตรงมาและกล้าพูดขนาดนี้

จนถึงตอนนี้ สายตาของทุกคนที่มองหลินหลางหลิวลี่ก็เต็มไปด้วยความดูถูกและเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด รอบนี้ จินเป่าเอ๋อชนะไป!


ขณะเดียวกัน นอกสนามประลอง ณ โลกเบื้องบน

ในคฤหาสน์ของตระกูลใหญ่ต่างๆ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่แท่นหินสูงตระหง่านซึ่งพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมชื่อที่ปรากฏบนแท่นนั้นอย่างกะทันหัน…

“จินเป่าเอ๋อหรือ ทำไมชื่อถึงฟังดูคุ้นๆ ยังไงไม่รู้...”

“สกุล ‘จิน’ ก็ไม่ได้เคยมีอัจฉริยะอะไรโผล่มาเลยนี่”

“ก่อนหน้านี้ไม่มีแม้แต่ในลำดับ แต่กลับพุ่งขึ้นมาติดอันดับเจ็ดในรายชื่อเทพได้ในทันที ความเร็วนี้มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”

“...”

หัวหน้าตระกูลกงเจวี๋ย ผู้ครองตำแหน่งปัจจุบัน นั่งมองหน้าจอสีเรืองแสงตรงหน้า ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาสะท้อนถึงภาพเงาสีขาวบริสุทธิ์ที่งดงามและเยือกเย็นในความทรงจำ...

“ไป… เรียกทายาทของข้ามาพบเดี๋ยวนี้!”

หากการคาดเดาไม่ผิด เด็กสาวที่ชื่อ จินเป่าเอ๋อคนนั้น ก็คือหญิงสาวในชุดขาวที่มากับเผ่ามังกรในวันนั้น! กล่าวอีกนัยหนึ่ง... นางเพิ่งทะยานสู่สวรรค์มาเพียงไม่นาน แต่กลับเข้าสู่สนามประลองและได้รับการจัดอันดับที่ เจ็ด บนบัญชีรายชื่อเทพ!

ต้องรู้ไว้ว่าปกติอันดับของผู้บำเพ็ญเพียรที่อายุต่ำกว่าร้อยปี มักจะเริ่มจากระดับล่างแล้วค่อยๆไต่ขึ้นมา แต่จินเป่าเอ๋อกลับกระโดดข้ามไปถึง 93 อันดัในครั้งเดียว!

แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์และศักยภาพที่น่าตื่นตระหนกอย่างยิ่ง!


ในตระกูลฝานหยิน

ชายวัยกลางคนยืนอยู่ต่อหน้าเฒ่าชรา สีหน้าไม่สู้ดีนัก!

“ท่านบอกว่า... ม้ามืดที่จู่ๆ ปรากฏบนบัญชีรายชื่อเทพนั้น เคยพักอยู่ที่ตระกูลฝานหยินของเราสองสามวันหรือ”

ดวงตาของเฒ่าชราเป็นประกายวูบหนึ่ง ท่าทีเริ่มแฝงไปด้วยความคิดลึกซึ้ง

ในขณะนี้ เจ็ดตระกูลใหญ่อยู่ในสถานะต่างคนต่างรักษาผลประโยชน์ของตนไว้ การสงบศึกที่ดูเหมือนมั่นคงนั้นแท้จริงอาจพังทลายได้ทุกเมื่อ!

การมีพันธมิตรเพิ่มสักคนย่อมดีกว่าไม่มีเลย เด็กสาวคนนั้นที่มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา อาจมีความลับบางอย่างอยู่เบื้องหลังก็เป็นได้!

“เก็บนางไว้! ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!”

เฒ่าชรากล่าวหนักแน่น ตั้งใจจะรีบดำเนินการขณะที่นางยังอยู่ในขั้นหลุดพ้น และเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็กๆ จะได้ไม่ต้องแย่งตัวกับตระกูลอื่น!

เพราะใครๆก็รู้ดีว่า คนที่ติดบัญชีราชื่อเทพได้ หากไม่ทำตัวประมาทจนตกตายเสียก่อน อนาคตย่อมไร้ขีดจำกัด!

เขาวาดฝันไว้สวยงาม ทว่าชายวัยกลางคน ซึ่งก็คือหัวหน้าตระกูลฝานหยินอินในปัจจุบัน กลับมีสีหน้าอึดอัดลังเล ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงติดขัด

“ท่านพ่อ... เด็กคนนั้น... ได้จากไปแล้ว!”

และยิ่งกว่านั้น นางยังจากไปพร้อมกับทายาทของตระกูลกงเจวี๋ย! ทั้งสองอาจมีความสัมพันธ์บางอย่างอยู่ การจะรั้งตัวนางไว้คงไม่ง่ายนัก

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เฒ่าชราถึงกับลุกพรวดขึ้นด้วยความโกรธ สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ!

“อะไรนะ! เจ้า... เจ้านี่มันโง่สิ้นดี! ข้าบอกเจ้ามากี่ครั้งแล้วว่า ตอนนี้ตระกูลอื่นจ้องเขมือบเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หากมีโอกาสดึงคนเข้าสังกัดได้ต้องรีบทำ! แต่เจ้ากลับปล่อยนางไปได้! เจ้ามัน...”

เมื่อเห็นบิดาโกรธจัด หัวหน้าตระกูลฝานหยินรีบยกมือห้ามด้วยความตระหนก ก่อนจะฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างได้

“ท่านพ่อ ใจเย็นก่อน! เด็กสาวคนนั้นดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับ อิ๋งเสวี่ยน้องสาวของเราเป็นพิเศษ ตราบใดที่นางยังอยู่ นางต้องกลับมาหาแน่นอน!”

เมื่อได้ยินดังนั้น เฒ่าชราก็สงบลงเล็กน้อย หัวหน้าตระกูลฝานหยินยังไม่ทันถอนหายใจอย่างโล่งอก เฒ่าชรากลับปรายตามองด้วยความหงุดหงิดก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ก็ยังดีที่อิงเสวี่ยฉลาด! เจ้าน่ะเป็นหัวหน้าตระกูลมาหลายปีแล้ว แต่ดูสิ ข้าต้องมานั่งเสียดายทุกทีที่เจ้าคิดไม่ได้เหมือนอิงเสวี่ย!”

เฒ่าชราโบกมือไล่ทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความรำคาญ โดยไม่สนใจสีหน้าของหัวหน้าตระกูลที่เต็มไปด้วยความอับอายและโกรธแค้น

อิงเสวี่ยฝานหยิน! ทำไมทุกคนต้องเอาเขาไปเปรียบเทียบกับนางตลอด ทั้งที่นางเป็นแค่ผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้ง ใครก็ไม่ยอมแต่งงานด้วย มีอะไรให้น่าอิจฉา!

ในอีกมุมหนึ่งของตระกูลหมิงเฉวียน

ตระกูลหมิงเฉียนก็ได้รับข่าวสารเช่นกัน จากที่ก่อนหน้านี้ หลงหลี่ซิงมาตำหนิพวกเขาด้วยตนเอง และพวกเขาได้ตรวจสอบผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กับเผ่ามังกรอย่างละเอียดแล้ว

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าจินเป่าเอ๋อกระโดดไปอยู่อันดับเจ็ด ก็เพียงแค่แปลกใจเล็กน้อย

เพราะผู้หญิงที่สามารถดึงดูดความสนใจของเผ่ามังกรได้ จะให้เป็นคนไร้ความสามารถได้อย่างไรกัน

ทว่าการได้อันดับเจ็ดตั้งแต่เข้าสนามประลองครั้งแรก พรสวรรค์และพลังที่แสดงออกมาย่อมไม่ธรรมดา คนเช่นนี้ตระกูลหมิงเฉียนไม่มีวันกล้าแตะต้องเด็ดขาด!

ในตระกูลหลินหลาง

ภายในห้องโถงใหญ่ของตระกูลหลินหลาง ผู้อาวุโสและสมาชิกระดับสูงต่างพากันมาชุมนุม สีหน้าของพวกเขาเคร่งเครียดเมื่อมองไปยังภาพแท่นศิลาที่ฉายบนจอ ดวงตาเต็มไปด้วยความคิดซับซ้อน

ในช่วงเวลาอันเปราะบางนี้ การปรากฏตัวของบุคคลที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ อาจสร้างความปั่นป่วนในความสัมพันธ์ระหว่างเจ็ดตระกูลได้!

อันดับเจ็ดใน บัญชีรายชื่อเทพย่อมเป็นคนที่สมควรดึงตัวเข้าร่วม!

มุมหนึ่งในห้องโถง หลินหลางชิงซิน แค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจ

“อันดับเจ็ดอะไรกัน ในความคิดข้า ก็แค่อาศัยกลิ่นอายของเผ่ามังกรคุ้มกัน หรือใช้สมบัติพิเศษบางอย่างเท่านั้น! นางก็แค่ลูกมังกรป่าขั้นหลุดพ้นเท่านั้น!”

ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ถูกจินเป่าเอ๋อเตะจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมานางก็โกรธจนแทบระเบิด!

ทั้งๆที่อยู่ในระดับหลุดพ้นเท่ากัน แต่กลับพ่ายแพ้อย่างย่อยยับเช่นนี้ แน่นอนว่าในใจย่อมไม่ยอมรับ!

นางจึงตั้งใจสืบเรื่องราวของอีกฝ่าย และก็พบว่าจินเป่าเอ๋อเป็นแค่เด็กสาวจากดินแดนชนบทเล็กๆ ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ทะยานขึ้นมายังแดนสวรรค์…

ที่ครั้งก่อนนางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น ต้องเป็นเพราะมังกรหลงหลี่ซิงช่วยเหลือแน่นอน!

ไม่เช่นนั้น ผู้บำเพ็ญเพียรระดับหลุดพ้นที่ต่ำกว่านางสองขั้น จะสามารถเตะนางจนสลบได้อย่างไร!

หัวหน้าตระกูลหลินหลางเป็นชายวัยกลางคนที่มีอำนาจและความสุขุม เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาเพียงเหลือบตามองนางครั้งหนึ่ง แววตาเผยความไม่พอใจอย่างชัดเจน!

“เจ้าไม่เคยไปสนามประลองหรือไร ที่นั่นจะมีใครกล้าโกงได้หรือ พูดจาให้มีสติเสียบ้าง! แล้วเรื่องคราวก่อน ใครอนุญาตให้เจ้าไปงานประมูลของตระกูลฝานหยิน ข้าบอกเจ้ามาแล้วกี่ครั้ง ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ็ดตระกูลใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีนี้ยิ่งเปราะบางกว่าเดิม ห้ามใครก่อเรื่องในเวลาแบบนี้เด็ดขาด!”

ขณะที่เขาพูด น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจชัดเจน ราวกับกลัวว่าลูกสาวโง่ๆ คนนี้จะสร้างปัญหาให้มากกว่าเดิม!

หลินหลางชิงซินสะดุ้งเฮือก ใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด นางหันไปมองมารดาของตนอย่างลนลานโดยไม่รู้ตัว…

“ท่านหัวหน้า โปรดอย่าโทษชิงซินเลย นางมิได้ตั้งใจ อีกทั้งค่ายกลป้องกันที่ตระกูลฝานหยินนำออกมานั้นมีประสิทธิภาพดีมากจริงๆ!”

ก่อนที่หัวหน้าตระกูลหลินหลางจะได้ตอบอะไร ผู้อาวุโสคนหนึ่งในตระกูลก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูก

“ผู้ชายพูดกัน เรื่องอะไรที่ผู้หญิงในห้องในจะมาสอดปากหรือ อีกทั้งค่ายกลป้องกันของพวกฝานหยิน ข้าก็ได้ยินมาว่ามันเป็นเพียงของเหลือที่พวกเขาใช้ไม่ได้เท่านั้น ตระกูลหลินหลางของเราจะไปเก็บของเหลือไร้ค่าจากคนอื่นมาใช้ทำไม”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด