ตอน 13 จำแลงกายเข้าเมืองเทียนเซี่ยงอีกครั้ง
หลังจากจัดการพวกคนตระกูลหลินแล้ว เฉินหยวนสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย
เขาเริ่มคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้แล้ว
นี่คือโลกที่ผู้แกร่งล่าผู้อ่อนแอ กำปั้นคือสิ่งเดียวในการกำชัยชนะ
สิ่งที่เรียกว่าความจริงนั้นจะใช้ได้กับคนระดับเดียวกันเท่านั้น ถ้าหากพลังไม่เทียบเท่ากัน ความจริงก็ไม่มีค่าอันใด
ในตอนที่เฉินหยวนอยู่ในเมืองเทียนเซี่ยง เขามักจะได้ยินเรื่องราวของสามตระกูลใหญ่จากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา
หลายคนตายอย่างน่าอนาถด้วยมือของสามตระกูลใหญ่ แม้กระทั่งคนที่ถูกใส่ร้ายอย่างไร้ซึ่งความจริง
เหตุผลก็คือทั้งเมืองเทียนเซี่ยงนั้น สามตระกูลใหญ่คือกฎเกณฑ์ และพวกเขาคือเจ้าของกฎเกณฑ์
พวกเขาย่อมไม่ต้องสนใจสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา แต่ผู้อื่นนั้นต้องทำตามพวกเขา
นี่ยังเป็นเหตุผลที่เฉินหยวนหนีออกมาทันที ประการแรก เขาไม่รู้ว่าสองคนที่เขาฆ่าในวันนั้นเป็นคนตระกูลหลินหรือไม่
ประการที่สอง เขาไม่อยากจะถูกควบคุมตัวโดยตระกูลหลินที่หมายมั่นเอาชีวิตเขา
ด้วยสองเหตุนี้ เฉินหยวนจึงต้องต่อสู้กับตระกูลหลิน
….
เฉินหยวน
“ช่วงเริ่มต้นนี่มันยากจริง ๆ ผมเพิ่งจะรอดจากอันตรายมาได้แล้วก็ต้องเจอศัตรูอีก ไม่รู้ว่าพวกมันหาผมเจอได้ยังไง”
“ตอนนี้ต้องรับมือกับคนบางกลุ่ม แต่ชีวิตตอนนี้ก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายกับอีกฝั่งและเข้าเมืองไม่ได้ แต่ก็อยากเข้าเมืองไปสืบดูว่าใครที่ใส่ร้าย”
นอกเหนือจากการได้รับสมบัติจากคำแนะนำ เฉินหยวนเองก็คิดถึงเรื่องคนที่ใส่ร้ายเขา
ในขณะเดียวกัน เขาก็อยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อหาเบาะแสและหาคำแนะนำเพิ่ม
หวังหู่
“บอสเฉินหยวนโดนทำร้ายเหรอ?”
เย่เฉิน
“จากที่นายพูดมา ดูเหมือนว่านายก็เจอปัญหาเหมือนกันสินะ”
บนโลกแห่งความตาย
ดูจากเสียงคำรามที่ดังรอบตัวเขา เขาอดบ่นไม่ได้
“รู้สึกเหมือนโดนเทพเคราะห์ร้ายเข้าสิงเลย หนีไปที่ไหนก็เจอ เพิ่งจะโดนพวกมันตบเนี่ย ถ้าไม่โชคดีคงตายไปปแล้ว”
หวังหู่รู้สึกสิ้นหวังอย่างมากเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดในร่างกาย
เขาแตกต่างจากเฉินหยวน เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา และของขวัญผู้เริ่มต้นที่เขาได้มาก็เป็นเพียงแค่กิ่งไม้ไร้ค่า
เฉินเฉียนเฉียน
“อดทนไว้ หลังจากพ้นสามเดือนนี้ไปนายจะเป็นอิสระ ถึงตอนนั้นอาจจะเจอกับโชคดีก็ได้ นี่คือรางวัลของกลุ่มแชทนี้ ผ่านช่วงนี้ไปแล้วจะเหมือนบุตรแห่งสวรรค์ที่ทุกอย่างจะราบรื่นเชียวล่ะ แต่ช่วงเวลานั้นอยู่ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์นะ”
เย่เฉิน
“บัดซบ อาทิตย์เดียวเองเหรอ ทรมานสามเดือนแลกกับอาทิตย์เดียว นี่มันบ้าไปแล้ว”
เฉินห่าว
“แค่นี้ก็ดีอยู่แล้ว คิดว่าพวกเราเป็นนักท่องเวลาในนิยายรึไง? ทุกคนในระบบ และเราก็ไม่ได้ถูกสวรรค์ปฏิเสธ”
เฉินหยวนอ่านแชทและนึกถึงระบบคำแนะนำของตัวเอง
โชคดีที่เขาได้ของดีมาเหมือนกับดัชนีทองคำ
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้แน่
แต่ว่าช่วงคืนกำไรที่เฉินเฉียนเฉียนพูดถึงก็ดูดีทีเดียว
แม้ว่าจะเป็นเพียงสัปดาห์เดียว แต่อย่างน้อยมันก็มีเรื่องชดเชยให้เขาบ้าง
หวังหู่
“ยังคิดถึงเรื่องช่วงเวลาชดเชยอีกรึไง? คิดเรื่องหาทางเอาตัวรอดดีกว่า ไม่ต้องพูดถึงสามเดือนหรอก แค่เจ็ดวันก็ยากแล้ว”
นี่มันไม่เกินจริงเลย เพียงแค่มองข้อความผู้เสียชีวิตที่โผล่ขึ้นมาเป็นระยะก็รับรู้ได้แล้ว
ต้องมีคนตายหนึ่งหรือสองคนอยู่ร่ำไป
พวกเขามาใหม่กัน 500 คน แต่ตอนนี้เหลือคนเพียงแค่ครึ่งเดียว
ซึ่งเวลาผ่านไปเพียงแค่สองวัน
ไป่เย่
“เฉินหยวน แนะนำว่าอย่าไปที่รังเสืออีก ตอนนี้นายมีเรื่องกับอีกฝ่ายแล้ว ถ้าเข้าเมืองไปอีกจะต้องเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดแน่ เพราะนายเจอกับทัณฑ์สวรรค์ อะไรที่เหนือความคาดหมายมันเกิดขึ้นได้ตลอดนะ”
เฉินเฉียนเฉียน
“ฉันก็ไม่แนะนำเหมือนกัน ศัตรูในช่วงเริ่มต้นมันเหมือนกับมีเนตรสวรรค์เลยล่ะ ถ้าเข้าใกล้เมื่อไหร่มันก็รู้ตัว”
“ติ๊ง คุณได้รับคำแนะนำ (เลี่ยงจากอันตรายชั่วคราว) จะได้รับสมบัติระดับทองแดงเมื่อทำสำเร็จ”
เขามองคำแนะนำของทั้งสอง เฉินหยวนครุ่นคิดและพูด
“เข้าใจแล้ว ผมเองก็รู้ว่าถ้าลงลึกกว่านี้จะต้องเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน แต่ผมก็ไม่รู้ว่าใครที่ใส่ร้ายผม ผมใจเย็นอยู่ไม่ได้หรอก”
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“ถ้ายืนกรานจะทำแบบนั้นก็แลกคะแนนกับหน้ากากจำแลงในร้านค้าสิ จำได้ว่าพี่ใหญ่สร้างเอาไว้ มันอำพรางตัวได้ ต่อให้เป็นผู้บ่มเพาะพลังก็ไม่รู้ตัว แต่ในช่วงเริ่มต้น พวกคนในโลกของนายอาจจะเจอตัวตนของนายได้ ถ้าหากอยากจะใช้หน้ากากจำแลงจริง ๆ ก็ยังต้องระวังตัวอยู่”
“ติ๊ง คุณได้รับคำแนะนำ (ใช้หน้ากากจำแลงเข้าเมืองเทียนเซี่ยง) จะได้รับสมบัติระดับเงินเมื่อทำสำเร็จ”
เฉินหยวนเปิดร้านค้าคะแนนและหาหน้ากากจำแลงทันที
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันแพง
ต้องใช้ถึงห้าร้อยคะแนนในการซื้อ
เทียบได้กับยันต์ปราณกระบี่ห้าแผ่น
เขาไม่มีอะไรในตอนนี้ แต่เฉินหยวนไม่ตกใจ
คนที่เขาฆ่าไปเมื่อครู่นั้นมีวิชาลับอยู่
เขาเขียนทั้งหมดและอัพโหลด
“ติ๊ง เฉินหยวนอัพโหลดผนึกหยกสลายและได้รับ 200 คะแนน”
“ติ๊ง เฉินหยวนอัพโหลดหมัดมังกรเถื่อนและได้รับ 500 คะแนน”
“......”
เมื่อเขาอัพโหลดวิชาลับทั้งหมดคะแนนที่เดิมทีมีศูนย์ก็กลายเป็นหนึ่งพันสองร้อยทันที
การได้เห็นเฉินหยวนอัพโหลดวิชาลับอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้ทั้งสมาชิกเก่าและใหม่ปากกระตุก
โดยเฉพาะพวกหน้าใหม่ ระยะห่างระหว่างพวกเขามันกว้างใหญ่เหลือเกิน
พวกเขายังไม่ได้สัมผัสกับวิชาลับในโลกของพวกเขาอยู่เลย ส่วนคนอื่นได้วิชาลับมาแล้วมากมาย
และส่วนใหญ่พวกเขายังมีระดับการบ่มเพาะพลังมาแล้วอีก
หวังหู่
“อิจฉาบอสเฉินหยวนจังเลย โลกแฟนตาซีมันเท่สุด ๆ วิชาลับอะไรก็ขายได้คะแนนตั้งเยอะ แต่โลกของฉันมันไม่มีของมีค่าเท่าไหร่”
เย่เฉิน
“ฉันไม่อิจฉาหรอก เพราะฉันอาจจะตายตั้งแต่เริ่มก็ได้ ต่อให้มีดีเสิทอีเกิลก็ไม่รู้ว่าจะยิงศัตรูโดนไหม”
เย่เฉินยังคงมีความรู้ของตัวเอง แม้ว่าเฉินหยวนจะดูเหมือนได้อะไรมามากมาย แต่ทุกย่างก้าวของเขามีแต่อันตราย
โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น เขาเจอสองคนโจมตีในขอบเขตบ่มเพาะร่างกาย ถ้าหากเป็นคนธรรมดา เขาคงจะตายไปนานแล้ว
ถ้าหากเฉินหยวนไม่ใช่ผู้บ่มเพาะพลัง เขาก็ต้องฝึกฝนร่างกายในทุกด้านเพื่อเล็งศัตรูให้แม่นยำ
เพราะถึงแม้ว่าดีเสิทอีเกิลจะมีพลังทำลายล้าง แต่มันก็ต้องยิงให้โดน
เฉินหยวนไม่สนใจความคิดของคนอื่น ๆ และแลกหน้ากากจำแลงทันที เพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้วเขาต้องจ่ายอีก 500 คะแนนเพื่อแลกระฆังทองมา ซึ่งมันคือยันต์พิเศษที่จะสร้างเกราะคุ้มกันเพื่อหลบการโจมตีในตอนที่เจอกับอันตรายได้
สองร้อยแต้มที่เหลือนั้นเขาซื้อยันต์ปราณกระบี่
หลังจากซื้อของเสร็จแล้วเฉินหยวนก็มุ่งหน้าไปที่เมืองเทียนเซี่ยง
เขาต้องหาคนตระกูลหลินให้เจอและหาตัวตนกับฐานะของอีกฝ่ายให้เจอ โดยเฉพาะข่าวคราวเรื่องตระกูลหลิน
หลังจากทำเรื่องทั้งหมดเสร็จแล้ว เขาจัดการศัตรูและจำแลงตัวเขาเป็นศัตรูด้วยหน้ากากจำแลง
และเขาจะเข้าได้ทั้งเมืองเทียนเซี่ยงและตระกูลหลิน!
บอกได้เลยว่าผลของหน้ากากจำแลงนั้นยอดเยี่ยมมาก ไม่มีใครรู้สึกถึงเขาเลยตลอดทาง