ตอนที่แล้วตอน 11 ยันต์ปราณกระบี่เต็มพิกัด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอน 13 จำแลงกายเข้าเมืองเทียนเซี่ยงอีกครั้ง

ตอน 12 ข้าจะไม่ให้คนอื่นมาตัดสินชะตา


โอกาสนั้นมีมากมาย การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเองก็เป็นไปได้

เฉินหยวนไม่ยั้งมือเลย เขาใช้ยันต์ปราณกระบี่ไปครึ่งส่วน

เขาเองก็ไไม่รู้ว่ายันต์ปราณกระบี่นั้นมีพลังเท่าไหร่ แต่การใช้หนึ่งครั้งคือการเสียร้อยคะแนน ดังนั้นมันไม่น่าจะพลังน้อยเกินไป

ตู้ม

พลังปราณกระบี่อันยิ่งใหญ่หล่นลงมา พลังอันน่าสะพรึงทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ต้มไม้ใหญ่ล้มลงระเนระนาด ฝุ่นควันเคลื่อนคล้อยกระจายเหลือไว้เพียงหลุมยักษ์ราวกับมีสิ่งที่น่ากลัวทิ้งร่องรอยระหว่างฟ้าดินเอาไว้

“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณทำตามคำแนะนำสำเร็จและได้รับพลังบ่มเพาะสามปี”

“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณทำตามคำแนะนำสำเร็จและได้รับอาวุธแสงจันทร์พิเศษระดับสี่”

เมื่อข้อความระบบดังขึ้นเฉินหยวนจึงค่อย ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

คำแนะนำเสร็จเรียบร้อย นั่นหมายความว่าหลินชางเหอตายไปแล้ว

ฟึ่บ

เฉินหยวนยืนนิ่งอยู่ไม่นานก็รีบเข้าไปค้นตัวหลินชางเหอและเก็บกวาดสนามรบ

เพราะเขาเป็นขอบเขตแก่นแท้ บางทีอาจจะมีของมีค่าติดตัวมาก็ได้

ไม่นานเขาก็เห็นศพสภาพไม่สู้ดีอยู่ไกลออกไป ทั้งร่างไหม้เกรียมและเหลือซากเพียงเล็กน้อย มีร่างกายพัง ๆ ที่ส่งกลิ่นคาวออกมา

เฉินหยวนบีบจมูกตัวเองและเดินไปและเห็นแหวนอยู่ใต้ตัวเขา

“แหวนเก็บของเหรอ?”

โดยรวมแล้วมันก็คือของที่จะอยู่ในโลกจอมยุทธระดับสูง

เฉินหยวนหยิบแหวนขึ้นมาและส่งพลังลงไป ทันใดนั้นเองก็มีพลังปริศนาเชื่อมต่อพวกเขาเข้าด้วยกันทำให้เฉินหยวนมองดูข้างในแหวนได้

มันคือแหวนเก็บของอย่างที่เขาคิดจริง ๆ

มันไม่ใหญ่นัก มีพื้นที่เพียงแค่สองตารางเมตรเท่านั้น

ถึงมันจะเล็กไปหน่อย แต่มันก็ดีพอสำหรับเขา

“ได้อะไรมาบ้างแล้ว”

เฉินหยวนกวาดสายตามองและเห็นว่าหลินชางเหอนั้นร่ำรวยไม่เลว

มีโอสถหลายสิบเม็ด ศิลาจิตหลายพันก้อน และยังมีแผ่นหยกสี่แผ่นกับอาวุธวิเศษ

นี่คือทรัพย์สมบัติของหลินชางเหอ มูลค่าของข้างในย่อมไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็นโอสถหรือศิลาจิต

หลังจากเก็บแหวนแล้วเฉินหยวนไม่ไปไหนไกล เขาคิดครู่หนึ่งและรีบไปซ่อนในพุ่มไม้ต้นไม้ใหญ่

ในการตามล่าเขานั้น ตระกูลหลินจะต้องไม่ส่งหลินชางเหอมาคนเดียว จะต้องมีคนอื่นมากับเขาด้วยแน่

เขากำลังรอโอกาสหวังว่าจะได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดผ่านคนตระกูลหลิน

ใครกันที่ใส่ความเขา?

เขารออยู่ครึ่งชั่วโมง

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด มีหลายคนเข้ามาในสายตาเฉินหยวน

พวกเขาแต่งกายเหมือนกับคนตระกูลหลินในอดีต

พวกเขาขมวดคิ้วเมื่อได้พบที่เกิดเหตุ พวกเขามองศพที่อยู่ไม่ไกลออกไป

“นี่เป็นศพใคร?”

“หัวหน้าเราหรือว่าไอ้โจรชั่วนั่น?”

ศพนั้นสภาพเละตุ้มเป๊ะจนบ่งบอกไม่ได้ว่าเป็นร่างของใคร

“เป็นไปไม่ได้ หัวหน้าเราแข็งแกร่ง ไอ้ชั่วนั้นมีพลังแค่ขอบเขตบ่มเพาะร่างกาย มันจะมาสู้กับหัวหน้าได้หรือ?”

มีคนบอกได้ทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงที่คนในขอบเขตบ่มเพาะร่างกายจะสังหารคนในขอบเขตแก่นแท้ระดับเจ็ดได้

คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย

ในขณะนี้

เฉินหยวนหยิบดีเสิทอีเกิลขึ้นมาและลั่นไก

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

เสียงดังลั่น หลายคนล้มลงทันที เหลือเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่

กายหยาบของพวกเขาย่อมทนรับความรุนแรงของกระสุนปืนไม่ไหว และเฉินหยวนเองก็ลอบโจมตีโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวด้วย

“ใครน่ะ?”

การโจมตีอย่างรวดเร็วทำให้คนเดียวที่เหลืออยู่ของตระกูลหลินตกใจ

แต่สิ่งที่เขาได้รับแทนคำตอบก็คือเสียงกระสุนปืน

มีเสียงปืนดังอีกหลายครั้ง แขนขาของชายคนนั้นโดนกระสุนทะลวง เขานอนแผ่กายไร้กำลังอยู่บนพื้น

แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในขอบเขตบ่มเพาะร่างกายเหมือนกัน แต่ขอบเขตของพวกเขาต่างกัน

เพราะเฉินหยวนนั้นเพิ่งจะบ่มเพาะพลังได้ไม่กี่วัน ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นอยู่ในขอบเขตนี้มานานแรมปี ประสบการณ์ในการต่อสู้ย่อมแตกต่าง

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยทัณฑ์สวรรค์ที่เขากำลังเผชิญ เฉินหยวนไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสชนะมากนัก

ต่อให้เขาชนะ เขาก็ต้องเจ็บตัวในที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีวิธีรับมือศัตรูอยู่แล้ว ในจะต้องเผชิญหน้าตรง ๆ เล่า?

ปัญหานั้นได้ไม่คุ้มเสีย

ฟึ่บ

เฉินหยวนรีบลงมาจากต้นไม้และก้มมองคนตระกูลหลินที่นอนอยู่กับพื้น เขาจงใจเหลือคนผู้นี้เอาไว้

“ทำไมเจ้าถึงไล่ล่าข้า!”

“ถามอะไรของเจ้า? เจ้าฆ่าคนเองกับมือ ยังจะถามอะไรอีก?”

คนตระกูลหลินถอนหายใจแรงและอดทนกับความเจ็บปวด

เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายจงใจเหยียดหยามเขา

“ข้าฆ่าคนก็จริง แต่ข้าฆ่าคนในป่า ไม่มีคนภายนอกพบเห็น แล้วก็ไม่ใช่คนตระกูลหลินของเจ้าด้วย”

เฉินหยวนเมินท่าทีของอีกฝ่าย เขาเพียงแค่ต้องการอยากรู้ความจริงในเรื่องนี้

“เป็นไปไม่ได้ มีหลายคนเห็นเจ้าฆ่าคนตระกูลหลินในเมืองเทียนเซี่ยงกับตา แล้วเจ้าก็ใช้อาวุธลับแบบนี้ด้วย”

“ถ้าไม่ใช่เจ้า แล้วเจ้าจะหนีเพื่อสิ่งใด?”

คนตระกูลหลินไม่เชื่อเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าไม่ใช่ฝีมือหลินหยวน แล้วเขาจะหนีในตอนที่เจอตระกูลหลินทำไม?

ถ้าหากเขาไม่มีอะไรปิดบัง เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้

“ข้าจะไม่ให้คนอื่นมาตัดสินชะตาของข้า”

น้ำเสียงเฉินหยวนสงบ ดวงตาของเขาแสดงความเยือกเย็น เขาพูดเบา ๆ

“ถ้าหากข้าบอกว่าไม่ใช่ฝีมือข้า เจ้าจะเชื่อหรือ?”

ได้ยินแบบนี้แล้ว

คนตระกูลหลินเงียบกริบ

“ไม่มีเหตุผลให้เจ้าฆ่าพวกเรา”

“ไม่ นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ข้าฆ่าพวกเจ้า ข้าเพียงแค่จะไม่มอบชีวิตตัวเองให้ผู้ใด”

“ถ้าเจ้าหาฆาตกรเจอ ข้าอาจจะมีโอกาสรอดชีวิต แต่ถ้าเจ้าหาไม่เจอ ข้าก็ตายอยู่ดี”

“แล้วพวกเจ้าก็ยังหาฆาตกรตัวจริงไม่เจอ ข้ามีชะตาต้องตายจากพวกเจ้าอยู่แล้ว”

นี่คือโลกที่ผู้แข็งแกร่งข่มเหงผู้อ่อนแอ เฉินหยวนไม่คิดว่ามันมีความยุติธรรมอยู่ที่นี่

และไม่ว่าจะเป็นโลกใบไหน มันก็มีเรื่องเข้าใจผิดมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องมีแพะรับบาป

ยิ่งไปกว่านั้น ในโลกใบนี้ ชีวิตมนุษย์มีค่าเพียงแค่ใบหญ้า ถ้าหากเขาต้องสงสัย เขาจะโดนสังหารทันที

ต่อให้พวกเขาเจอฆาตกรตัวจริงภายหลัง มันก็ไม่มีใครทวงคืนความยุติธรรมให้กับเขา ต่อให้มี แล้วมันจะอย่างไรหรือ?

เพราะเขาตายไปแล้ว

ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะถูกหรือผิด เขาก็จะไม่มีทางปล่อยให้ชีวิตของเขาตกอยู่ในมือของผู้อื่น

“เจ้าพูดถูก เจ้ามีพลัง”

“เพียงแต่ว่าตระกูลหลินแข็งแกร่งกว่าเจ้ามากนัก ตอนนี้เจ้าฆ่าคนตระกูลหลินไปมากมายแม้กระทั่งหัวหน้า ตระกูลหลินจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”

“ในระยะพันลี้นี้ ตระกูลหลินคือผู้ปกครอง ไม่มีทางให้เจ้าหนีหรอก”

ปั้ง

เฉินหยวนยังคงสงบและบดขยี้หัวของอีกฝ่ายด้วยเท้า

“ข้าจะหนีรอดหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

เฉินหยวนรู้ว่าชายคนนี้ไม่รู้เรื่องราวอย่างแท้จริง แม้กระทั่งตระกูลหลินเองก็ไม่รู้ว่าฆาตกรตัวจริงคือใคร

แต่เขายืนยันได้แล้วว่าเขามีภัย

“ใครกัน?”

“หรือว่าจะเป็นฝีมือพวกสามตระกูลใหญ่?”

เฉินหยวนเดินช้า ๆ เข้าไปในป่าลึกอย่างเคร่งขรึม

ตอนนี้เขาฆ่าคนตระกูลหลินมามากเกินไปแล้ว การกลับเมืองเทียนเซี่ยงนั้นคือกับดักของเขา

ไม่มีเมืองอื่นในระยะพันลี้นี้ และพื้นที่ทั้งหมดล้วนเป็นที่ราบ หากตระกูลหลินเริ่มแกะรอยเขา พวกตระกูลหลินย่อมหาเขาเจอได้ไม่ยาก

แทนที่จะกลับเมือง เขาซ่อนในป่าดีกว่า

ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาต้องสืบเรื่องราวทั้งหมดอย่างถ่องแท้และหาคนที่ใส่ร้ายเขาให้ได้

นอกจากนั้น เหตุผลที่เขาอยู่ในป่าต่อก็เพื่อเตรียมการสำหรับสองกล่องสมบัติ

กล่องสมบัติระดับทองเพื่อการสืบเรื่องราว และกล่องสมบัติแพลทตินัมจากการสังหารศัตรู

เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะได้รับสมบัติแพลทตินัมหลังจากสังหารหลินชางเหอ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่มากพอ

ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องฆ่าล้างบางตระกูลหลินให้สิ้นสกุล

“สมกับเป็นสมบัติระดับแพลทตินัม”

เฉินหยวนพึมพำกับตัวเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด