ตอนที่ 887 ผู้สนับสนุนรายใหญ่?

ในสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงของหัวหน้าระดับกลางคนนี้ เย่เฉิน พลันหยิบการ์ดสีดำพิเศษใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้ววางลงบนโต๊ะด้วยท่าทีสบายๆ

แน่นอนว่าการ์ดสีดำใบนี้ไม่ใช่บัตร ‘Coutts World Silk Card’ ระดับสูงสุดของธนาคาร Coutts หรือบัตร ‘First Royal MasterCard’ ของธนาคารแห่งแรกของประเทศน้ำมัน

บัตรใบนี้สำหรับ เย่เฉิน แล้ว ถือเป็นบัตรธรรมดาที่สุดในบรรดาบัตรแบล็คการ์ดทั้งหมดของเขา

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบัตรนี้จะดูธรรมดาสำหรับ เย่เฉิน แต่ในสายตาของคนอื่น โดยเฉพาะหัวหน้าระดับกลางคนนี้ มันกลับเป็นสิ่งที่น่าตกใจอย่างมาก!

หัวหน้าระดับกลางของ ‘ชีเซ่อกวง สตูดิโอ’ จ้องการ์ดสีดำที่อยู่บนโต๊ะด้วยดวงตาเบิกกว้าง และมองมันอย่างเหม่อลอย

ถ้าหากเขาดูไม่ผิด.. นี่ดูเหมือนจะเป็นแบล็คการ์ดระดับสูงสุดของธนาคารแห่งชาติในประเทศ

ตามปกติแล้ว ด้วยฐานะของเขา เขาไม่ควรจะรู้จักบัตรระดับนี้ได้ แต่บังเอิญว่าเจ้าของสตูดิโอของเขาเองก็มีแบล็คการ์ดลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ระดับของบัตรนั้นต่ำกว่าบัตรใบนี้อยู่หลายขั้น

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในตอนนั้น เขาเคยค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และจึงจำได้ในทันทีว่าบัตรใบนี้ของผู้ชายตรงหน้าคนนี้.. มีความหมายอย่างไร

“ตอนนี้คุณยังคิดว่าการที่ผมขอให้พวกคุณหยุดงานทุกอย่างเพื่อมาบริการผมคนเดียว เป็นเรื่องล้อเล่นอยู่หรือไม่?”

เย่เฉิน ถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไม่...ไม่เลย แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ”

หัวหน้าระดับกลางรีบส่ายหน้า ท่าทีของเขาที่มีต่อ เย่เฉิน เปลี่ยนไปเป็นความเคารพ และสุภาพมากยิ่งขึ้นในทันที

“ผมเชื่อว่าคุณมีความสามารถนั้น และเรายินดีที่จะร่วมมือกับคุณครับ แต่เรื่องนี้ผมคงตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องให้ผู้จัดการใหญ่เป็นคนพูดคุยกับคุณโดยตรง”

หัวหน้าระดับกลางกล่าว

หาก เย่เฉิน ต้องการเพียงแค่ร่วมมือกับ ชีเซ่อกวง สตูดิโอ แบบธรรมดา เขาสามารถตัดสินใจได้เอง แต่การจะหยุดงานทั้งหมดของสตูดิโอเพื่อให้บริการเพียงคนเดียวแบบนี้ ต้องรอการอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูง

“ผมจะรีบไปเชิญผู้จัดการใหญ่มาพบคุณทันทีครับ”

หัวหน้าระดับกลางรีบลุกขึ้นเพื่อไปตามผู้จัดการมา

“คุณไม่ต้องกังวลนะครับ สำหรับลูกค้าผู้มั่งคั่งขนาดนี้ ผู้จัดการใหญ่ของสตูดิโอเราย่อมต้องยินดีแน่นอน”

ก่อนจะออกจากห้อง หัวหน้าระดับกลางพูดด้วยความมั่นใจ เพราะเขารู้จักนิสัยของเจ้านายตัวเองเป็นอย่างดี

แต่ยังไม่ทันที่หัวหน้าระดับกลางจะเดินออกจากห้องรับรอง ประตูกลับถูกเปิดจากด้านนอก

“ท่านผู้จัดการ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ครับ?”

เมื่อมองดูคนที่เปิดประตู หัวหน้าระดับกลางถึงกับถามด้วยความสงสัย

“พอดีเลยครับ ผมกำลังจะไปตามคุณ…”

หัวหน้าระดับกลางเริ่มพูด แต่ผู้จัดการใหญ่ยกมือขึ้นขัดจังหวะก่อน

“เรื่องของคุณไว้ทีหลัง ฉันมีเรื่องสำคัญต้องแจ้ง ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ชีเซ่อกวง สตูดิโอ ของเราจะหยุดงานทั้งหมดกับลูกค้าคนอื่นๆ และทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างเอฟเฟกต์พิเศษให้กับบริษัท แอนิเมชัน หลิงเฟิง เท่านั้น”

ผู้จัดการใหญ่ประกาศ

การมาของผู้จัดการใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อบอกให้หัวหน้าระดับกลางยุติการเจรจากับ เย่เฉิน โดยเขาได้แจ้งเรื่องนี้กับห้องรับรองอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว และห้องนี้เป็นห้องสุดท้าย

“อะไรนะครับ?”

หัวหน้าระดับกลางถึงกับตกใจ รีบถามต่อว่า :

“แล้วเราต้องทำงานให้บริษัท แอนิเมชัน หลิงเฟิง นานแค่ไหน?”

“นานแค่ไหนเหรอ? ถ้าสั้นก็สักสามถึงสี่เดือน ถ้ายาวก็อาจจะเกินครึ่งปี”

ผู้จัดการใหญ่ตอบ

ครึ่งปี?

เย่เฉิน เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพราะอีกครึ่งปี เกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ ของเขาก็จะเปิดตัวแล้ว

“คือ...ท่านผู้จัดการใหญ่ คุณเย่ ท่านนี้เป็นลูกค้าที่สำคัญมากนะครับ เป็นเศรษฐีใหญ่ และเขาต้องการร่วมมือกับเราโดยเสนอราคาสูงด้วยครับ”

หัวหน้าระดับกลางรีบรายงาน

เศรษฐีใหญ่?

เมื่อได้ยินลูกน้องพูดแบบนั้น ผู้จัดการใหญ่ก็หันมามอง เย่เฉิน ทันที

“ไม่ว่าบริษัท แอนิเมชัน หลิงเฟิง จะจ่ายเท่าไร ผมยินดีจ่ายให้สองเท่า”

เย่เฉิน พูดออกมาอย่างช้าๆ

เขามาทั้งที จะให้เสียเที่ยวได้อย่างไร

สองเท่า?!

เมื่อ เย่เฉิน พูดออกมา ผู้จัดการใหญ่ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาแสดงความลังเล และความสนใจอย่างชัดเจน

“ไม่ว่าคุณจะจ่ายเท่าไหร่ ชีเซ่อกวง สตูดิโอของเราก็จะไม่ร่วมงานกับคุณ”

ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับหญิงสาววัยสามสิบกว่าปี แต่งตัวทันสมัย เดินเข้ามาในห้อง

เมื่อผู้หญิงหนึ่งในนั้นเดินเข้ามา เธอพูดกระซิบข้างหูผู้จัดการใหญ่ไม่กี่คำ

หลังจากฟังคำพูดของเธอ ผู้จัดการใหญ่ก็มีท่าทีตื่นเต้นทันที

“ใช่ครับ คุณผู้ชาย กรุณาออกไปได้เลย!”

ผู้จัดการใหญ่ไม่ลังเลที่จะออกคำสั่งไล่ เย่เฉิน ออกจากห้อง

“อยากจะแข่งกับบริษัท แอนิเมชัน หลิงเฟิง ของเรา คุณยังอ่อนนัก กลับไปเถอะ”

หญิงสาวโบกมือด้วยท่าทีดูแคลน ที่แท้เธอก็คือเจ้าของบริษัท แอนิเมชัน หลิงเฟิง

“ถ้าอย่างนั้น ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะใช้วิธีอื่นแทน”

เย่เฉิน เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา

แม้จะไม่รู้ว่าหญิงคนนี้พูดอะไรกับผู้จัดการใหญ่ แต่เขามั่นใจว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ไม่โปร่งใสแน่นอน

เมื่อการเพิ่มเงินเพื่อร่วมงานไม่ได้ผล เขาก็มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น

“วิธีอะไร?”

หญิงสาวถาม เย่เฉิน ด้วยความสงสัย

เธอเพิ่งเสนอผลประโยชน์ที่ผู้จัดการใหญ่ไม่อาจปฏิเสธได้ เธอไม่เชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะสามารถเปลี่ยนใจผู้จัดการใหญ่ได้

แต่คำตอบต่อไปของ เย่เฉิน กลับทำให้เธอถึงกับตกตะลึงทันที

“ผมตั้งใจจะซื้อชีเซ่อกวง สตูดิโอนี้”

เมื่อเพิ่มเงินไม่ได้ผล ก็จัดการแบบถอนรากถอนโคนไปเลย ซื้อทั้งบริษัทซะจะง่ายกว่า

“ซื้อทั้งบริษัท...”

หญิงสาวไม่คาดคิดเลยว่าวิธีของ เย่เฉิน จะตรงไปตรงมาขนาดนี้

การซื้อกิจการทั้งบริษัทเป็นวิธีที่เรียบง่าย และตรงไปตรงมา

ถ้าหาก เย่เฉิน ซื้อ ชีเซ่อกวง สตูดิโอ ได้ ข้อเสนอใดๆ ที่เธอให้ไว้กับผู้จัดการใหญ่ก็จะไม่มีความหมายอีกต่อไป

“ฮ่าๆๆ คุณนี่ทำให้ฉันขำจนจะตายแล้ว”

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น ผู้จัดการใหญ่หัวเราะจนเกือบจะงอตัว

“คุณลองออกไปถามดูเถอะ ตลอดหลายปีมานี้ มีคนอยากซื้อชีเซ่อกวง สตูดิโอของเราเป็นสิบๆ รายแล้ว บางคนเสนอราคามหาศาลด้วยซ้ำ”

ผู้จัดการใหญ่พูดพลางแนะนำ

“แม้จะเป็นราคามหาศาลแค่ไหน เจ้านายของเราก็ไม่ยอมขาย เพราะเจ้านายของเราไม่ได้ขาดเงิน และที่สำคัญ เจ้านายของเรามีผู้สนับสนุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง ต่อให้คุณจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์!!!”

ผู้จัดการใหญ่พูดด้วยความมั่นใจ

หัวหน้าระดับกลางที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มแหย่ๆ ให้ เย่เฉิน ด้วยความกระอักกระอ่วน

เขาไม่ได้ตั้งใจจะเยาะเย้ย เย่เฉิน แต่ความจริงมันเป็นแบบนี้ เจ้านายของชีเซ่อกวง สตูดิโอ มีผู้สนับสนุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะขายบริษัท

หลายคนที่เคยมีความคิดนี้ก็ต้องกลับไปแบบหมดหวังหลังจากพูดคุยกับเจ้านายของตน

“คุณแน่ใจเหรอว่าเหตุผลที่เจ้านายของคุณไม่ขายชีเซ่อกวง สตูดิโอ ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะยังไม่เคยเจอผม?”

เย่เฉิน ตอบกลับอย่างนิ่งๆ

ผู้สนับสนุนรายใหญ่? หึหึ ช่างน่าขันนัก..

ผู้จัดการใหญ่ไม่เชื่อในคำพูดของ เย่เฉิน แต่ก็ไม่รอให้ เย่เฉิน ไปหาความช่วยเหลือจากใคร เขากลับติดต่อเจ้านายของชีเซ่อกวง สตูดิโอให้ด้วยตนเอง

“คุณนี่มันไปไม่ถึง(แม่น้ำ)ฮวงโหไม่ยอมเลิกล้ม ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ดี.. งั้นฉันจะช่วยให้คุณได้เห็นเอง!!!”