ตอนที่แล้วตอนที่ 7 เสียงสะท้อนแห่งเกียรติยศ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 งานเก็บกวาด

ตอนที่ 8 โอกาสใหม่


ตอนที่ 8 โอกาสใหม่

 

หลังจากส่งบทความไปแล้ว ก็ต้องรอการตรวจสอบจากทางนั้น ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว พวกหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นอย่างเหลียงเอินนั้นยากที่จะได้รับการพิจารณาและตีพิมพ์ในวารสารที่มีชื่อเสียงแบบนี้

แต่เนื่องจากบทความนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการถอดรหัสอักษรอียิปต์โบราณ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะให้โอกาสกับมือใหม่เช่นเขา

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ายังไงบทความนี้จะได้รับการตีพิมพ์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้ตรวจทานและกองบรรณาธิการ ดังนั้นสำหรับเหลียงเอิน งานนี้จึงถือว่าเสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อส่งบทความไป

เมื่อรู้ว่าวันนี้เป็นวันจัดงานประมูล เหลียงเอินจึงรีบขับรถไปยังร้านขายของเก่าเพื่อสอบถามผลการประมูล

“นายมาเร็วมาก ฉันกำลังจะโทรหานายเพื่อจ่ายเงินให้อยู่พอดี” เพียร์ซแสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นเหลียงเอินเข้ามาในร้านและกำลังถอดเสื้อโค้ตอยู่

“ฉันเพิ่งเขียนบทความเสร็จแล้วส่งไปเมื่อชั่วโมงกว่าๆ ที่แล้ว กินข้าวเช้าเสร็จก็รีบมาเลย” เหลียงเอินเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วถาม “งานประมูลวันนี้เป็นไงบ้าง?”

“เยี่ยมไปเลย สินค้าทั้งสี่ชิ้นที่ฉันนำไปประมูลได้รับความนิยมมาก” เพียร์ซพูดพลางเดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ ล็อกประตูร้าน แล้วส่งกระเป๋าใบหนึ่งให้เหลียงเอิน

“เงินของนายอยู่ข้างใน นับดูนะ”

พวกเขาต่างจากคนทั่วไปที่ใช้บัตรเครดิตในการทำธุรกรรมที่ใช้เงินจำนวนมาก พ่อค้าของเก่าหรือนักล่าสมบัติหลายคนมักจะใช้เงินสดในการทำธุรกรรม เหลียงเอินจึงรับกระเป๋าใบนั้นและเริ่มนับเงิน

“ทำไมเป็นแบงก์ 50 ปอนด์หมดเลยล่ะ?” เหลียงเอินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นธนบัตรสีแดงใหม่เอี่ยมนอนอยู่ในนั้นหลายมัด

เพราะปกติแล้วในอังกฤษ พฤติกรรมการใช้เงินสดโดยเฉลี่ยมักจะไม่เกิน 20 ปอนด์ ธนบัตร 50 ปอนด์ใหม่เอี่ยมเหล่านี้จึงดูโดดเด่นเกินไป

“เราเลือกมากไม่ได้หรอก พวกชนชั้นสูงเหล่านั้นคำนึงถึงนิสัยชอบใช้เงินสดของเรา แต่ก็แค่รู้ผิวเผิน ฉันเองก็ไม่ควรพูดอะไรมาก” เพียร์ซยักไหล่

“18,200 ปอนด์ นายให้เงินมากเกินไปหรือเปล่า? ฉันจำได้ว่านายค้างเงินฉันแค่ 15,000 ปอนด์เองนะ” เหลียงเอินถามด้วยความสงสัยหลังจากนับเงินสองรอบ

“ไม่มากเกินไปหรอก สร้อยลูกปัดของนายขายได้ 3,200 ปอนด์ แถมปืนขายได้ราคาดีเป็นบ้า ฉันเลยไม่หักค่าคอมมิชชั่น”

“3,200 ปอนด์? แต่ฉันจำได้ว่าลูกปัดตากระแตนั้นสภาพไม่ค่อยดีนี่ ราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 800-900 ปอนด์เอง บวกกับที่มันเคยเป็นลูกปัดการค้า น่าจะขายได้ประมาณ 1,500 ปอนด์”

“นั่นเป็นราคาเวลาขายลูกปัดทีละเม็ด แต่สร้อยคอลูกปัดของนายในสภาพแบบเดิมแสดงให้เห็นถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ชั้นดี เพราะงั้นราคาเลยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในงานประมูล ถือเป็นเรื่องปกติ”

หลังจากที่เหลียงเอินเก็บเงินสดใส่กระเป๋าแล้ว เขาก็ถามเกี่ยวกับรายละเอียดของงานประมูล “นายบอกว่านายขายสินค้าทั้งสี่ชิ้นได้สำเร็จ งั้นแปลว่านายเข้าไปอยู่ในแวดวงของพวกเขาได้แล้วเหรอ?”

“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ตอนนี้ฉันแค่ยื่นนิ้วเท้าเล็กๆ เข้าไปในแวดวงนั้นเท่านั้น” เพียร์ซพูดแล้วก็ทำหน้าตื่นเต้นขึ้นมา

“แต่ถึงจะเป็นแค่นิ้วเท้าเล็กๆ ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรา เหมือนครั้งนี้...”

แน่นอนว่าในแต่ละแวดวงจะมีข้อมูลที่แตกต่างกัน สำหรับเพียร์ซแล้ว นอกจากจะได้กำไรจากการประมูล สิ่งที่ได้มาคือโอกาสต่างๆ ที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

เช่นในครั้งนี้ เขาได้รู้ว่าเศรษฐีชาวรัสเซียคนหนึ่งต้องการขายคฤหาสน์ในเมืองคาร์ไลล์เนื่องจากปัญหาเรื่องเงินทุน จึงต้องการผู้เชี่ยวชาญในการจัดการ

“เงื่อนไขมีอะไรบ้าง?” เหลียงเอินถามอย่างจริงจัง เพราะเศรษฐีที่มีอำนาจเหล่านั้นมักมีกฎระเบียบมากมาย การจ่ายเงินก็อาจเหนียวประมาณหนึ่ง ดังนั้นจึงควรสอบถามให้ชัดเจน

“ฉันไปทำความรู้จักกับผู้จัดการงานประมูลมาแล้ว เราได้รับค่าจ้างวันละ 600 ปอนด์โดยไม่ผ่านคนกลาง และสิ่งของทั้งหมดที่รื้อเจอจะตกเป็นของเราทั้งหมด”

“เป็นของเราทั้งหมดเนี่ยนะ?” เหลียงเอินแสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเพียร์ซพูดจบ เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อทำงานเสร็จ พวกเขาต้องส่งมอบสิ่งของที่มีมูลค่าสูงและสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับนายจ้างให้กับผู้รับผิดชอบ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจึงสามารถนำออกไปได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งของที่นำออกไปนั้นมักจะทำให้คนรื้อได้กำไร และนั่นคือสิ่งที่ดึงดูดคนส่วนใหญ่

ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้ยินว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีข้อกำหนดในเรื่องนี้ เหลียงเอินจึงรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์ที่ผิดปกติดังกล่าว

“สบายใจได้ เรื่องความปลอดภัยไม่มีปัญหา” เพียร์ซตบหน้าอกรับประกันเมื่อเห็นสีหน้าของเหลียงเอิน

“อย่างน้อยช่องทางนี้ก็เชื่อถือได้ ส่วนเหตุผลที่เป็นแบบนี้ ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้อธิบายรายละเอียด และฉันก็ไม่ควรถามละลาบละล้วง”

“นั่นหมายความว่า ในห้องนั้นอาจมีแต่ขยะ” เหลียงเอินเลิกคิ้ว “ไม่งั้นฝ่ายนั้นคงไม่ยอมให้เราเอาสิ่งของทั้งหมดไปง่ายๆ หรอก”

“นายพูดถูก แต่ประเด็นคือพวกเขาจ่ายค่าจ้างให้เราเยอะมาก” เพียร์ซส่ายหัว

“ไม่ต้องพูดถึงค่าจ้างทำงานวันละ 600 ปอนด์เป็นเวลาสามวัน เฉพาะของที่คนรวยไม่ต้องการก็ทำให้เราได้กำไรอื้อแล้ว”

เช้าวันรุ่งขึ้น เหลียงเอินขับรถตู้คันเล็กตามหลังรถบรรทุกขนาดกลางของเพียร์ซ มุ่งหน้าไปยังเมืองคาร์ไลล์ทางตอนเหนือสุดของอังกฤษ

อย่างที่เพียร์ซพูด แม้ว่างานนี้จะค่อนข้างเหนื่อยสักหน่อย แต่เงินที่ได้ก็เพียงพอจะทำให้เหลียงเอินที่ไม่รีบร้อนอะไรยอมไปทำงานนี้

ระยะทางจากลอนดอนไปคาร์ไลล์นั้นไกลถึง 400 กิโลเมตร เกือบจะข้ามทั้งอังกฤษ

โชคดีที่ถนนระหว่างสองเมืองเป็นทางหลวงที่มีสภาพดี ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางมาถึงที่นั่นในเวลาสี่โมงเย็น หลังจากออกเดินทางเวลาแปดโมงเช้า

หลังจากเข้าเช็คอินโรงแรมเล็กๆ ที่ปลอดภัยในคืนนั้น พวกเขาก็ไปที่คฤหาสน์ของเศรษฐีชาวรัสเซียในวันรุ่งขึ้น

คฤหาสน์หลังนี้อยู่ในเขตชานเมืองของคาร์ไลล์ เป็นคฤหาสน์ขนาดกลางที่สร้างขึ้นในสมัยวิคตอเรีย แค่ลานบ้านที่มีพื้นที่อย่างน้อยหนึ่งเฮกตาร์(1)ก็แสดงให้เห็นถึงความหรูหราของคฤหาสน์หลังนี้แล้ว

หลังจากเข้าไปในตัวอาคารหลักที่มีผนังสีเหลืองอ่อนและหลังคาสีดำ เหลียงเอินและเพียร์ซก็เข้าไปในห้องนั่งเล่นกับคนงานอีกสิบกว่าคน รอฟังคำสั่งจากชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ทรงเหมือนโจรมากกว่าผู้จัดการ

เนื่องจากเป็นมือใหม่ เหลียงเอินและเพียร์ซจึงได้รับมอบหมายให้ทำงานในครัวของคนใช้และห้องคนใช้สามห้อง

“เอาเปรียบมือใหม่ชัดๆ” เหลียงเอินบ่นเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ เพียร์ซก็มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

เป็นที่รู้กันดีว่า ในสถานที่แบบนี้ ห้องของเจ้าของบ้านและโกดังเป็นสถานที่ที่ง่ายที่สุดในการค้นพบสิ่งของที่มีมูลค่า ส่วนห้องของคนใช้นั้นมีสิ่งของที่พอจะขายได้กำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

แต่หลังจากบ่นกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็ต้องทำงานต่อไป เพราะฝ่ายตรงข้ามจ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่งล่วงหน้า ดังนั้นเหลียงเอินจึงยอมทำงานต่อไปเพราะเงิน 1,800 ปอนด์

หลังลงมาจากชั้นสอง เหลียงเอินและเพียร์ซก็บอกลากันตรงทางขึ้นบันได แล้วไปยังห้องที่ได้รับมอบหมายเพื่อเริ่มทำงานของตัวเอง

…………………………………………………

• เฮกเตอร์ คือชื่อหน่วยพื้นที่ตามมาตราเมตริก 1 เฮกตาร์ เท่ากับ 1 หมื่นตารางเมตร หรือประมาณ 6 ไร่ 1 งาน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด