ตอนที่ 6 ลูกปัดและสกิลพิเศษ
ตอนที่ 6 ลูกปัดและสกิลพิเศษ
อาจเพราะเคยติดต่อกับร้านขายของเก่าของครอบครัวเพียร์ซมาตลอด เหลียงเอินจึงสังเกตเห็นว่าสไตล์ของร้านนี้คล้ายกับร้านของเพียร์ซ แต่ระดับสินค้าดูแพงกว่ามาก
ต่างจากเพียร์ซ เจ้าของร้านคนนี้สวมแว่นตาข้างเดียว ดูเหมือนเป็นผู้จัดการมากกว่าเจ้าของเสียเอง ไม่ได้ทักทายลูกค้า แต่รออยู่หลังเคาน์เตอร์เงียบๆ
บบนี้ก็ดี อย่างน้อยสำหรับเหลียงเอิน เขาก็ต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบเพื่อทดสอบสกิลของตัวเอง
ในร้านนี้ ของที่อยู่ในตู้กระจกต้องให้ทางร้านหยิบให้ ส่วนของที่วางอยู่นอกตู้ ลูกค้าสามารถหยิบเองได้
แต่หลังจากสัมผัสของส่วนใหญ่ที่วางอยู่นอกตู้แล้ว เหลียงเอินก็พบว่าการ์ดในจิตสำนึกของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“เพราะระดับของมันไม่สูงพอ เพราะมันไม่ใช่ของฉัน หรือฉันกำลังหาผิดทาง?” หลังจากที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหลียงเอินก็ขมวดคิ้วและเริ่มครุ่นคิด
ไม่นานเขาก็คิดว่าควรเปลี่ยนวิธี เลือกซื้อของสักหนึ่งหรือสองชิ้นเพื่อตรวจสอบในสิ่งที่ตัวเองคิด
เงินสดกว่าห้าพันปอนด์ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ สำหรับคนทั่วไป แต่เมื่อมาที่นี่แล้วจับจ่ายจนหมดได้ง่ายๆ เพื่อเก็บตัวอย่างประเภทต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เขาจึงไปที่ชั้นวางของด้านนอกสุด
ชั้นวางนี้มีของที่สภาพไม่ค่อยดี หลายชิ้นมีร่องรอยความเสียหาย
“สินค้าบนชั้นวางนี้เหมาะสำหรับนักสะสมมือใหม่” เมื่อเห็นเหลียงเอินเดินไปที่ชั้นวางนั้น เจ้าของร้านก็พูดขึ้น
“ส่วนใหญ่เป็นของโบราณที่มีสภาพไม่ค่อยดี มูลค่าต่ำ นอกจากนี้ยังมีงานฝีมือสมัยใหม่ด้วย ถึงจะไม่ใช่ของดีเท่าไหร่ แต่ก็เพียงพอสำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นเรียนรู้ด้านนี้”
อาจเป็นเพราะอายุของเหลียงเอิน บวกกับการที่เขาเงียบมาตลอด แต่ก็ยังคงหยิบของที่ร้านอนุญาตให้สัมผัสได้ ทำให้เจ้าของร้านคิดว่าเขาเป็นคนรักการสะสมแต่มีกำลังทรัพย์ไม่มาก
“ขอบคุณครับ!” เหลียงเอินพยักหน้าเล็กน้อย แสดงความขอบคุณที่เจ้าของร้านช่วยอธิบาย แล้วหันไปดูของโบราณที่วางอยู่บนชั้นอย่างละเอียด ไม่นานเขาก็พบลูกปัดแก้วสีเทาๆ ที่ดูน่าสนใจ
ทดลูกปัดชุดนี้ไว้ในใจก่อน แล้วเขาก็เริ่มค้นหาต่อไป จนกระทั่งครึ่งชั่วโมงต่อมา เหลียงเอินหยิบของห้าอย่างรวมทั้งลูกปัดชุดนั้นไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน
“เหรียญเงินแอเธนส์ 1 เดรคมา 107 ปอนด์ บัตรยืมหนังสือห้องสมุดมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ยุค 1880 20 ปอนด์ หัวหอกยุคกลางขึ้นสนิม 15 ปอนด์ สร้อยคอลูกปัดแบบแอฟริกัน 600 ปอนด์ รูปปั้นพิธีกรรมคองโก 120 ปอนด์”
หลังจากตรวจสอบของทั้งห้าอย่างแล้ว เจ้าของร้านก็หยิบเครื่องคิดเลขมากด แล้วเงยหน้าขึ้นพูด
“รวมแล้ว 862 ปอนด์ เห็นแก่นายมาซื้อครั้งแรกและซื้อเยอะ ลดให้เหลือ 850 ปอนด์ก็พอ”
หลังจากจ่ายเงินให้เจ้าของร้านแล้ว เหลียงเอินก็เอาของที่ทางร้านบรรจุลงกล่องกลับไป แล้วขับรถกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์เล็กๆ ที่เขาเช่าอยู่
ต่อไปก็คือการทดสอบ แต่ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ บัตรยืมหนังสือ หัวหอก หรือรูปปั้นคองโก ล้วนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับสกิลพิเศษ
ในที่สุดก็ถึงคิวลูกปัด ทันทีที่หยิบลูกปัดขึ้นมา เหลียงเอินก็ให้ความสนใจกับจุดที่เขาคิดว่าผิดปกติของสร้อยคอลูกปัดแบบแอฟริกันนี้
ลูกปัดการค้า เป็นลูกปัดแก้วที่ผลิตในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 17-19 แล้วนำไปขายในแอฟริกา เพื่อแลกกับทองคำ งาช้าง และทาส เป็นสินค้าอุตสาหกรรมใหม่ล่าสุดของยุโรป ในหลายๆ แห่งของแอฟริกา มันเป็นทั้งเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเป็นสกุลเงินที่สามารถใช้งานได้ อันเดียวกันกับลูกปัดที่คนยุโรปใช้หลอกลวงโกงทรัพย์สินจากชาวพื้นเมืองตามที่กล่าวไว้ในหนังสือหลายเล่ม
ความเป็นจริงแล้ว การค้าแบบนี้เป็นการค้าที่ไม่เท่าเทียมกัน ยุโรปใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เหมือนกับที่ลูกหลานของคนเหล่านั้นขายชิปที่ทำจากทรายในราคาแพงลิบลิ่วในยุคหลัง
เจ้าของร้านเป็นคนที่มีประสบการณ์ จึงคุ้นเคยกับของโบราณทั่วไป ไม่น่าจะตีราคาผิดพลาดในเรื่องใหญ่ๆ
เมื่อพิจารณาว่าสร้อยคอลูกปัดนี้ยังมีสภาพดี แต่ไม่ใช่ลูกปัดที่ราคาแพง จึงขายให้เหลียงเอินในราคาเม็ดละ 20 ปอนด์ตามราคาตลาด
“แหงล่ะ แม้แต่นักวิชาการที่รอบรู้มากที่สุดก็ยังมีสิ่งที่ไม่รู้จัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าของร้านขายของเก่า”
เหลียงเอินนึกถึงหนังสือบางเล่มที่เคยอ่านตอนเรียนมหาวิทยาลัย แล้วหยิบแว่นขยายขึ้นมาสังเกตลูกปัดแก้วสีฟ้าอ่อนเม็ดหนึ่งอย่างละเอียด
ลูกปัดเม็ดนี้คล้ายกับลูกปัดอื่นๆ แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าแกนกลมอยู่ด้านล่าง ไม่ใช่แบบหล่อขึ้นรูปเหมือนกันกับลูกปัดเม็ดอื่นๆ
“ใช่แล้ว นี่น่าจะเป็นลูกปัดแก้วตากระแตสมัยจีนโบราณ สภาพดี” หลังจากตรวจสอบหลายรอบ เหลียงเอินก็ยืนยันประเภทของลูกปัดเม็ดนี้
สร้อยคอลูกปัดแบบแอฟริกันนี้มีความพิเศษ เพราะมีทั้งลูกปัดแก้วจากยุคจีนโบราณ และลูกปัดแก้วจากยุโรปในศตวรรษที่ 17
เมื่อเขาตัดสินใจระบุประเภทเกี่ยวกับสร้อยคอลูกปัดแบบแอฟริกัน ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น มีแสงวาบที่มองเห็นได้เฉพาะเหลียงเอิน แล้วการ์ดสีดำสองใบก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา
การ์ดใบหนึ่งคือการ์ด [ตรวจจับ (N)] ที่เขาเคยมี ส่วนอีกใบหนึ่งเป็นการ์ดใหม่ [ประเมิน (N)]
[ประเมิน (N): ไม่มีใครรู้ไปซะทุกอย่าง แม้แต่นักวิชาการที่รอบรู้มากที่สุดก็ยังมีสิ่งที่ไม่รู้จัก เมื่อถึงเวลาคุณอาจจะต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย
การ์ดสกิล (ใช้ครั้งเดียว) ใช้การ์ดนี้ จะทำให้ได้รับข้อมูลเฉพาะของสิ่งของที่ผู้ถือการ์ดระบุ]
หลังจากดูการ์ดใหม่ทั้งสองใบแล้ว เหลียงเอินก็เอนหลังพิงเก้าอี้ ถอนหายใจ แล้วก็ยิ้ม เพราะการทดลองครั้งนี้ ทำให้เขาเข้าใจกฎบางส่วนของสกิลพิเศษนี้แล้ว
ประการแรก สกิลพิเศษนี้ใช้ได้กับของที่เป็นของเหลียงเอินเท่านั้น เพราะก่อนจ่ายเงินเขาก็เคยสัมผัสสร้อยคอลูกปัดนี้ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นรายละเอียดเกี่ยวกับมันยังต้องศึกษาต่อไป
ประการที่สอง เขาต้องรู้เสียก่อนว่าของสิ่งนั้นคืออะไร เช่นครั้งนี้ หลังจากที่ยืนยันประเภทลูกปัดได้แล้ว สกิลพิเศษถึงจะแสดงปฏิกิริยา
ประการที่สาม เนื่องจากสกิลพิเศษนี้สืบทอดมาจากนักสำรวจประวัติศาสตร์ จึงสามารถสร้างความสั่นสะเทือนได้เฉพาะกับสิ่งของที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นราคาสิ่งของเหล่านี้กับความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกันมากนัก
ยกตัวอย่างเช่น สร้อยคอลูกปัดนี้สามารถถือเป็นภาพสะท้อนของเครือข่ายการค้าขนาดใหญ่ข้ามทวีป และดำรงอยู่มาหลายพันปี จึงได้รับการยอมรับจากสกิลพิเศษ
ประการสุดท้าย ถึงแม้สกิลพิเศษนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งลึกลับ แต่สิ่งของที่ต้องการไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับศาสตร์ลึกลับเสมอไป อย่างน้อยรูปปั้นที่เคยใช้ในพิธีกรรมของคองโกก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น