ตอนที่ 3 การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
ตอนที่ 3 การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
ทันทีที่ตระหนักถึงผลลัพธ์ของการ์ดเหล่านี้ เหลียงเอินก็รีบเปิดใช้งานการ์ด ‘ความเชี่ยวชาญด้านภาษา’ ที่เพิ่งได้มาหมาดๆ
เขารู้สึกได้ว่าความทรงจำในห้วงนิทรากำลังเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช้การ์ดใบนี้ ความรู้ล้ำค่าที่ได้รับมาอาจจะหายไปตลอดกาล
หลังจากเลือกการ์ดใบนั้น เหลียงเอินพบว่ามันสลายกลายเป็นผงสีบรอนซ์ก่อนจะหายเข้าไปในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นความรู้มากมายก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของเขา
เหลียงเอินรู้สึกมึนงงจากการถูกกระแทกด้วยความรู้จำนวนมหาศาล จึงต้องทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น รอให้กระบวนการทำงานของการ์ดสิ้นสุดลง
สิบนาทีต่อมา การถ่ายทอดความรู้ก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เหลียงเอินพบว่าเขาเชี่ยวชาญภาษาต่างๆ ที่ฌ็อง-ฟร็องซัว ช็องปอลียงรู้จักทั้งหมดแล้ว
ภาษาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นภาษาตะวันออก เช่น ภาษาฮีบรู ภาษาอาหรับ ภาษาซีเรียโบราณ ภาษาอัคคาเดียนโบราณ นอกจากนี้ยังมีภาษากรีก ภาษาละติน และภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นภาษาแม่ของฌ็อง-ฟร็องซัว ช็องปอลียงเอง
สิ่งที่ทำให้เหลียงเอินดีใจยิ่งกว่านั้นคือ ภาษาเยอรมันที่เขาเคยเรียนเป็นวิชาเลือกสมัยมหาวิทยาลัย และภาษาไอริชที่เป็นวิชาบังคับในระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย ก็ได้รับการพัฒนาจากการ์ดใบนี้เช่นกัน ทำให้เขาพูดจาได้อย่างคล่องแคล่ว
“สกิลพิเศษนี่มันสุดยอดไปเลย” เหลียงเอินยิ้มกว้างหลังจากสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง “ต่อให้ฉันไม่ทำอะไรเลย ความรู้พวกนี้ก็เพียงพอสำหรับที่ฉันจะหาเลี้ยงตัวเองไปทั้งชีวิตแล้ว”
อย่างไรก็ตาม การฝันกลางวันก็เป็นเพียงการฝันกลางวัน แม้ว่าเขาในชาติที่แล้วจะอิจฉางานที่ได้รับการยกย่องและมีรายได้ดีเช่นนี้ แต่ตอนนี้เขามีสกิลพิเศษอยู่ในมือ แน่นอนว่าเขาต้องใฝ่หาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
ดังนั้น เหลียงเอินจึงปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว แล้วค้นหาต่อไป อาจเป็นเพราะการสังเกตกระบวนการทำงานของการ์ดอย่างละเอียด ทำให้เขาค้นพบความผิดปกติบางอย่างบนชั้นหนังสือเมื่อครู่
อังกฤษเป็นประเทศที่มีการแบ่งชนชั้นทางสังคมที่ชัดเจน นั่นหมายความว่าครอบครัวแต่ละชนชั้นจะมีแบบแผนการอาศัยอยู่ในบ้านประเภทต่างๆ ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบต่างๆ รวมถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่สามารถตัดสินได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างเช่น ตึกแถวในย่านเสื่อมโทรมทางตะวันออกของลอนดอนแห่งนี้ มักจะเป็นที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือหรือพนักงานออฟฟิศที่มีรายได้น้อย
นั่นหมายความว่าเฟอร์นิเจอร์ที่นี่ควรเป็นเฟอร์นิเจอร์ราคาประหยัด เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้อัดและโซฟาผ้าที่เหลียงเอินเก็บกวาดจากชั้นล่างและส่งไปยังองค์กรการกุศลก่อนหน้านี้
แต่เห็นได้ชัดว่าชั้นหนังสือตรงหน้าไม่ใช่แบบนั้น หลังจากได้รับทักษะการสังเกตอย่างละเอียด เหลียงเอินก็มองเห็นรอยขีดข่วนบนชั้นหนังสืออย่างเฉียบคม ภายใต้ชั้นสีที่ซ่อมแซมมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนและซ่อนอยู่ใต้เนื้อไม้โอ๊ค
เมื่อตระหนักว่าตู้ใบนี้ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เขารีบนำสิ่งของทั้งหมดออกจากตู้ แล้วตรวจสอบอย่างละเอียด
และแล้ว หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด เหลียงเอินพบว่าแผ่นไม้หลังชั้นวางหนังสือชั้นที่สามดูจะหนากว่าชั้นวางหนังสือชั้นอื่นๆ ประมาณห้าเซนติเมตร แต่เนื่องจากภายในทั้งหมดทาด้วยสีน้ำตาลเข้ม หากไม่ได้ตรวจสอบอย่างตั้งใจก็จะไม่พบความแตกต่างนี้
“ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะได้เก็บเกี่ยวครั้งใหญ่” หลังจากค้นพบความผิดปกติของชั้นหนังสือแล้ว เหลียงเอินก็รีบสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นซึ่งแขวนคอไว้กลับเข้าที่
จากนั้นเขาก็หยิบชะแลงไททาเนียมจากยุโรปตะวันออกที่แข็งแรงออกมาจากกล่องเครื่องมือบนพื้น เขาได้มันมาจากการทำความสะอาดบ้านเก่าหลังหนึ่งเมื่อครั้งก่อน หลังจากออกแรงรื้อพอสมควร เขาก็สามารถถอดแผ่นไม้อัดที่ใช้ซ่อนช่องลับออกได้สำเร็จ เผยให้เห็นสิ่งของที่อยู่ภายใน
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ช่องลับนี้เต็มไปด้วยผงถ่านจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อเปิดออก ฝุ่นจึงฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง แต่หัวใจของเหลียงเอินกลับร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ
ปกติแล้ว สิ่งของที่ซ่อนอยู่ในช่องลับจะต้องไม่ธรรมดา จากประสบการณ์สองเดือนที่ผ่านมา เขารู้ว่าเพื่อนร่วมงานหลายคนค้นพบสมบัติที่ซ่อนอยู่ หรือแม้กระทั่งห้องลับต่างๆ มากมาย
เพื่อเป็นการระลึกถึงการเก็บเกี่ยวครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าสู่วงการ เหลียงเอินจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปช่องลับนี้หลายรูป จากนั้นจึงเริ่มลงมือทำความสะอาด
ในที่สุด หลังจากทำความสะอาดผงถ่านหนักประมาณหนึ่งถึงสองกิโลกรัมออกจากช่องลับแล้ว เหลียงเอินก็หยิบห่อเล็กๆ ออกมาจากกองถ่าน
อาศัยแสงจากนอกหน้าต่าง เขาพบว่าสิ่งของที่นำออกมาจากช่องลับของชั้นหนังสือถูกห่อด้วยผ้าลื่นๆ อีกชั้นหนึ่ง จากนั้นจึงมัดด้วยเชือกเส้นเล็ก มองจากภายนอกแล้วดูไม่ออกเลยว่าคืออะไร
“หวังว่าจะเป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน หรือเครื่องประดับอะไรทำนองนั้นนะ” เหลียงเอินอธิษฐานเบาๆ ขณะมองห่อผ้าลื่นๆ ที่ห่อหุ้มไว้อย่างดี
สำหรับนักล่าสมบัติอย่างพวกเขา หากหาสิ่งของที่ทำจากโลหะมีค่าได้ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ แต่น่าเสียดายที่ในความเป็นจริง โอกาสที่จะเจอของแบบนั้น ต่ำกว่าโอกาสที่เดินอยู่บนถนนแล้วถูกรถชนจนต้องเข้าโรงพยาบาลเสียอีก
“ดูหน่อยซิว่าคืออะไร” หลังจากวางห่อผ้าที่ใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อยลงบนโต๊ะข้างหน้าต่างอย่างเบามือ เหลียงเอินก็ใช้กรรไกรพับและมีดพกที่พกติดตัวตัดเชือกที่มัดห่อผ้าออก แล้วแกะออกอย่างเบามือ
ภายในห่อเป็นกล่องสองใบซ้อนกันอยู่ มีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น ใบหนึ่งหุ้มด้วยหนังสีแดง ดูเหมือนเป็นกล่องใส่เครื่องประดับ ส่วนอีกใบเป็นกล่องไม้ธรรมดาๆ
“โอ้ พระเจ้า...”
หลังจากเปิดกล่องเครื่องประดับออก สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเหลียงเอินคือปืนพกขนาดเล็ก
ปืนกระบอกนี้เป็นปืนพกขนาดเล็กที่ออกแบบโดยฟรานซ์ พฟานน์ล ช่างทำนาฬิกาชาวออสเตรีย เป็นปืนพกอัตโนมัติที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เนื่องจากถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ปืนโบราณอายุร้อยปีกระบอกนี้จึงไม่มีร่องรอยของสนิมเกรอะกรังแม้แต่น้อย
แม้ว่าปืนกระบอกนี้จะมีพลังงานปากกระบอกปืนเพียง 4 จูล หรูสุดคือเจาะเสื้อหนังได้เท่านั้น การใช้มันเพื่อป้องกันตัวยังสู้ใช้กำปั้นต่อยตรงๆ ไม่ได้ แต่ในฐานะที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ราคาของมันไม่ถือว่าต่ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ ปืนของเหลียงเอินนอกจากจะมีกล่องบรรจุปืนแบบดั้งเดิมแล้ว ภายในกล่องยังบุด้วยกำมะหยี่ ซองปืนหนังกลับ กระสุน 12 นัดในกล่องเหล็กขนาดเล็ก รวมถึงไม้ทำความสะอาดที่ส่วนปลายทำจากงาช้าง อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปืนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ส่วนกล่องไม้อีกใบ บรรจุสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับปืนกระบอกนี้ นอกจากแผ่นยึดด้ามจับมุกสองอันแล้ว ยังมีกล่องใส่กระสุนขนาดเล็กที่ปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งอีกหกกล่อง
แม้ว่าเหลียงเอินจะเป็นมือใหม่ ไม่ค่อยรู้ราคาของประเภทนี้ แต่จากบรรจุภัณฑ์ของมันก็พอจะเดาได้ว่ามันต้องมีราคาแพงมาก
หลังจากเก็บของล้ำค่านี้ไว้กับตัวแล้ว เหลียงเอินก็เคาะและตรวจสอบชั้นหนังสือทั้งหลังอีกครั้ง จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างในแล้วจึงยอมวางมือ
ในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขายังคงทำงานทำความสะอาดต่อไป ในที่สุดก็เคลียร์เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในบ้านออกไปได้ก่อนฟ้ามืด
หลังจากเจ้าของบ้านเข้ามาตรวจสอบและจ่ายค่าแรง 150 ปอนด์แล้ว เหลียงเอินก็ขับรถตู้เก่าๆ ที่ซื้อต่อมาอีกทีหนึ่ง ขนของทั้งหมดที่ได้กลับไปที่พัก ตั้งใจว่าจะตรวจสอบสกิลพิเศษและของที่ได้มาอย่างละเอียด