บทที่ 604: สังหารเทพมังกรด้วยมือตนเอง
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 604: สังหารเทพมังกรด้วยมือตนเอง
คำพูดของโครโนอาทำให้สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนไป ราวกับสัมผัสได้ถึงเงาแห่งหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แล่นวาบเข้ามาในหัวของทุกคนพร้อมกัน
เทพเจ้ามังกรซูเปอร์กำลังทำให้เส้นเวลาต่าง ๆ ปะทะกันอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าเช่นนั้น ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้ อาจจะเป็น...
เทพเจ้ามังกรซารามะ!
“โครโนอา ท่านติดต่อคุณวิสและคนอื่น ๆ ได้ไหม? เส้นเวลากำลังจะถูกทำลาย เทพแห่งการทำลายล้างและท่านไคโอชินหยุดเทพเจ้ามังกรซูเปอร์ได้หรือเปล่า?” โกคูถาม
โครโนอาก้มหน้า กัดริมฝีปากเบา ๆ พลางส่ายศีรษะ “ไม่หรอก ตำแหน่งปัจจุบันของเทพเจ้ามังกรซูเปอร์อยู่นอกเหนือกาลเวลา วิสและคนอื่น ๆ ไม่อาจก้าวข้ามเส้นเวลาของตนเองได้ พวกเขาสามารถต่อสู้ได้เพียงในช่วงเวลาของตนเองเท่านั้น”
“ซารามะคงคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว จึงให้เทพเจ้ามังกรซูเปอร์หลบซ่อนตัวอยู่ในนี้”
หลินเฉินขมวดคิ้ว “ถ้าเช่นนั้น ผมจะเป็นคนจัดการกับเทพเจ้ามังกรซูเปอร์พวกนั้นเอง…”
“เป็นไปไม่ได้” โครโนอาอุทาน “นายเห็นแสงสีทองอร่ามรอบกายเทพเจ้ามังกรซูเปอร์เหล่านั้นไหม? นั่นคือพลังปาฏิหาริย์ที่ปรากฏเป็นรูปธรรม พลังนี้ไม่เพียงดึงดูดเส้นเวลาต่าง ๆ ให้มาบรรจบกัน แต่ยังขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไปอีกด้วย”
“ฉันเพิ่งคำนวณดู น่าหวั่นเกรงว่ามีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับทูตสวรรค์สูงสุดเท่านั้นที่จะเฉียดกรายเข้าใกล้ได้”
“หากเป็นหลินเฉิน นายอาจมีโอกาส... แต่เส้นเวลาหลักมีอยู่ถึง 36 เส้น และมีเทพเจ้ามังกรซูเปอร์ทั้งหมด 36 องค์”
“หากพวกนายย่างกรายเข้าไปในถิ่นพำนักของเทพเจ้ามังกรซูเปอร์ เพียงแค่เฉียดใกล้ พลังของพวกนายก็จะถูกดูดกลืนไปจนแทบไม่เหลือ และหลังจากการต่อสู้ กว่าจะจัดการกับเทพเจ้ามังกรซูเปอร์ทั้งสามสิบหกตนได้ โลกทั้งใบอาจแหลกสลายไปมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว!”
หลินเฉินเอ่ยอย่างสิ้นหวัง “แล้วพวกเราควรทำเช่นไร? นั่งรอความตายอย่างนั้นเหรอ?”
“ซารามะ… หากพวกเราพบซารามะ พวกเราอาจหยุดยั้งหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเส้นเวลาได้!” โครโนอาเสนอความคิด
“แต่พวกเราไม่รู้แม้กระทั่งว่าซารามะอยู่ที่ใด” เบจิต้ากล่าว
ณ เวลานั้น โครโนอาเองก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน
นับแต่ซารามะและโปโป้หายไปในอาณาจักรปีศาจทมิฬ ร่องรอยของทั้งสองก็ยังคงเป็นปริศนา แม้เธอจะค้นหาทุกเส้นเวลามาแล้วก็ยังไม่พบพยานหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา
แต่ทว่าในวินาทีนั้นเอง หลินเฉินเอ่ยขึ้น “ผมอาจจะหาตำแหน่งของซารามะได้!”
“จริงเหรอ?” โครโนอาเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ
หลินเฉินพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “ท่านโครโนอา ผมจำเป็นต้องกลับไปยังเส้นเวลาของผมก่อน เมื่อยืนยันตำแหน่งของซารามะได้แล้ว ผมจะกลับมารับเอง”
เมื่อได้ยินว่าหลินเฉินจะกลับ หลินลั่วและคนอื่น ๆ ก็ร้องขึ้นทันที “พ่อ พวกเราอยากกลับด้วย!”
“ผมอยากเจอแม่!”
“หลินเฉิน ฉันคงช่วยอะไรตรงนี้ไม่ได้มากนัก แต่ฉันน่าจะช่วยเหลือทุกคนที่นั่นได้” ลาซูลิกล่าวเสริม
โกฮังและคนอื่น ๆ ได้แต่หันกลับไปมองสถานการณ์เบื้องหลังด้วยความกังวล
หลินเฉินจึงตัดสินใจพาทุกคนย้อนกลับไปยังห้วงเวลาของพวกเขา
เมื่อผ่านอุโมงค์กาลเวลา ร่างของทุกคนก็ปรากฏขึ้น ณ วังพระเจ้าบนโลกมนุษย์
แม้จะอยู่สูงเหนือพื้นพิภพ แต่ท้องฟ้าเหนือวังพระเจ้ากลับมืดครึ้ม กระแสลมรอบกายพัดผ่านราวกับคมมีด สร้างความรู้สึกหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ
ทันทีที่พวกเขาก้าวเท้าถึง ความรู้สึกอึดอัดก็แล่นริ้วไปทั่วร่าง
ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัว ลานกว้างของวังพระเจ้ายามนี้กลับว่างเปล่า ไร้ผู้คนสัญจร แต่ภายในโถงหลัก พวกเขากลับพบไทต์และคนอื่น ๆ รออยู่ก่อนแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้คนธรรมดาอีกจำนวนมากอยู่ภายในโถงนั้นด้วย
ปรากฏว่าเมื่อภัยพิบัติมาถึง ภรรยาของหลินเฉิน ซึ่งก็คือไทต์ ได้ใช้เคลื่อนย้ายพริบตาช่วยเหลือญาติมิตรของเหล่านักรบ Z และชาวเมืองตะวันตกมากมาย พาพวกเขามายังวังพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม ไทต์มีเพียงตัวคนเดียว จึงทำให้หลายชีวิตต้องดับสูญไปตั้งแต่ช่วงแรกของหายนะ
“หลินเฉิน เกิดอะไรขึ้น?” ไทต์แทบขาดใจเมื่อเห็นผู้คนล้มตายมากมาย พอเห็นหลินเฉินปรากฏตัว น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูราวกับเขื่อนแตก เธอกอดเขาแน่น ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและเสียใจ
หลินเฉินโอบกอดเธอไว้แนบอก ปลอบประโลมอยู่นานจนกระทั่งความโศกเศร้าในใจเธอเริ่มคลี่คลายลง
เมื่อมองไปรอบ ๆ หลินเฉินก็ไม่พบวิสและบิลส์ซึ่งควรจะอยู่บนโลก
หลังจากสอบถามบูลม่าแล้ว เขาจึงได้ทราบว่าไม่นานหลังจากที่โกคูและคนอื่น ๆ เข้าร่วมกับหน่วยลาดตระเวนกาลเวลา วิสและบิลส์ก็จากโลกนี้ไป
ก่อนจากไป ทั้งสองบอกไว้ว่าถูกเซ็นโอเรียกตัวไปด้วยธุระบางอย่าง
“เซ็นโอ?”
หลินเฉินขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็ไม่ได้ติดใจสืบสาวเรื่องราวให้ลึกซึ้งไปกว่านั้น
ถัดมา หลินเฉินเดินทางไปยังโลกมนุษย์ ปรากฏกายเบื้องหน้าเทพเจ้ามังกร
ในยามนั้น เทพเจ้ามังกรยังคงแผ่พลังศักดิ์สิทธิ์ควบคุมสภาพอากาศอยู่
“เทพเจ้ามังกร! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เมื่อได้ยินเสียงของหลินเฉิน มังกรยักษ์ก็หันกลับมา ดวงตาสีแดงก่ำฉายแววเกรี้ยวกราดผิดจากที่เคยเป็น
“หลินเฉิน? ข้าหยุดไม่ได้หรอก การทำลายล้างโลกใบนี้คือคำสั่งของท่านซารามะ!”
เป็นเช่นนี้นี่เอง...
หลินเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นปลดปล่อยพลังโจมตีเทพเจ้ามังกร จนอีกฝ่ายส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดทรมาน
ภายใต้พลังทำลายล้างของหลินเฉิน เทพเจ้ามังกรของโลกพลันสลายหายไปดุจควันลอยละล่อง ทิ้งไว้เพียงสายลมกระโชกแรงที่พัดกระหน่ำไปทั่วโลก
ไม่นานนัก แสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็สาดส่องทะลุผ่านม่านเมฆลงมายังผืนพิภพอีกครั้ง
หลินเฉินไม่รอช้า รีบเหยียบย่างมายังดาวเคราะห์เบจิต้า
ภาพเบื้องหน้าราวกับวันโลกาวินาศ ไม่ต่างจากโลกที่เขาเพิ่งจากมา
ต้นเหตุแห่งความวิบัติทั้งหมดนี้คือเทพเจ้ามังกรสายพันธุ์ไซย่า ที่หลินเฉินสร้างขึ้นด้วยสองมือของเขาเองเมื่อหลายปีก่อน
ทันทีที่หลินเฉินปรากฏกาย มังกรไซย่าก็สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอันคุ้นเคยของอดีตนายเหนือหัว มันหันมาเผชิญหน้ากับเขา
“นายท่าน ท่านมาแล้วหรือ?”
“ทำไมนายถึงทำลายดาวเคราะห์เบจิต้า” หลินเฉินถามเสียงเรียบ
ดวงตาของมังกรทองคำห้ากรงเล็บฉายแววสีเลือดแดงฉาน มันกล่าวว่า “ขออภัย นายท่าน นี่เป็นคำสั่งของซารามะ”
“ซารามะ… เขาอยู่ที่ไหน” หลินเฉินถามต่อ น้ำเสียงแฝงแววสงสัย
มังกรทองคำห้ากรงเล็บไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับคำรามลั่น ร่างกายเปล่งประกายเจิดจรัสราวกับดวงตะวัน
ในชั่วพริบตา ไซย่าเทพเจ้ามังกรก็แปลงร่างเป็นร่างมนุษย์ พุ่งตรงเข้าใส่หลินเฉินราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากแล่ง
หลินเฉินถอนหายใจแผ่วเบา ยกมือขวาขึ้นเรียกเคียวกระชากวิญญาณสีม่วงดำทะมึนออกมาจากความว่างเปล่า ราวกับดึงมันออกมาจากห้วงมิติลี้ลับ
เพียงสะบัดข้อมือเบา ๆ ร่างมังกรก็ถูกผ่าออกเป็นสองซีก ราวกับผ่ากลางสายลม
“ขอบพระคุณ นายท่าน…” เสียงแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากร่างที่ขาดสะบั้น
เทพมังกรของชาวไซย่ากระซิบเบาแผ่วประโยคสุดท้ายเบื้องหน้าหลินเฉิน ก่อนร่างกายจะสลายกลายเป็นแสงระยิบระยับราวดวงดาวน้อยใหญ่แล้วเลือนหายไปในความเวิ้งว้างไร้ขอบเขต
เช่นเดียวกับโลกที่บอบช้ำ หลังจากเทพมังกรไซย่าอันตรธานหายไป มหาวิบัติที่กระหน่ำซัดดาวเคราะห์เบจิต้าก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับเป็นเพียงภาพมายาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ม่านเมฆาหนาทึบเหนือดาวเคราะห์ค่อย ๆ เลือนราง เผยให้เห็นผืนฟ้ากว้างที่พร่างพราวไปด้วยแสงดาวระยิบระยับนับพันล้านดวง
และแล้วก็ถึงเวลาออกตามหาซารามะ
หลินเฉินสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะใช้พลังเคลื่อนย้ายพริบตา มุ่งหน้าสู่จุดหมายถัดไป
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_