บทที่ 40 เจ้าหญิง
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 40 เจ้าหญิง
ตอนนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับสโมสรอัจฉริยะต่าง ๆ ยังคงคลุมเครือและสับสนวุ่นวายมากเหลือเกิน
สิ่งเดียวที่หลินเสวียนเคยเห็นของจริงก็คือ บัตรเชิญที่จ้าวอิงจวิ้นได้รับมา
การได้พบฉู่ซานเหอในสถานที่ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้…
หลินเสวียนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมดตัวเล็ก ๆ ที่ตกลงไปในกระแสน้ำวนมืดมน หมุนวนอย่างสับสน
“เอาเป็นว่าคอยดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า ลองดูว่าฉู่ซานเหอมาทำอะไรกันแน่”
เขาแอบอยู่หลังต้นไม้ ทำเป็นมองไปเรื่อยเปื่อย
รอบ ๆ มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยตงไห่ยืนอยู่กันมากมาย หลินเสวียนที่เรียนจบได้แค่ครึ่งปีก็สามารถกลมกลืนไปกับฝูงชนได้อย่างแนบเนียน
แต่ต่างจากหลินเสวียนที่แค่สังเกตการณ์ นักศึกษาคนอื่น ๆ …กลับไม่แปลกใจกับรถหรูสามคันและการปรากฏตัวของฉู่ซานเหอเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนจะคุ้นเคยเสียด้วยซ้ำ:
“ฉู่ซานเหอมาส่งลูกสาวไปเรียนด้วยตัวเองอีกแล้วเนี่ย เอาใจหลานสาวสุด ๆ ไปเลย”
“แล้วทำไมเขาไม่ขับรถเข้าไปในมหาวิทยาลัยเลยล่ะ? ด้วยฐานะและตำแหน่งของเขา ยามจะกล้าขวางได้ยังไง?”
“คงเป็นเพราะลูกสาวเขาคัดค้านแน่ ๆ ไม่งั้นถ้าตามนิสัยของฉู่ซานเหอที่เอาใจลูกสาวขนาดนี้…เขาคงอยากจะส่งถึงหน้าหอเลยล่ะ”
“โธ่ บางทีมีพ่อที่เอาแต่ใจขนาดนี้ก็กวนใจเหมือนกันนะ ถึงแม้เขาจะเป็นประธานบริษัทที่เด็ดขาดก็เถอะ”
“อำนาจและฐานะของฉู่ซานเหอ มันจะธรรมดาเหมือนประธานบริษัทจอมเผด็จการได้ยังไงกัน? บอกได้เลยว่า…ฟ้าลิขิตคู่กันเลยล่ะ ทั้งเมืองตงไห่จะมีใครเอาอยู่กับท่านประธานคนนี้ได้ ก็มีแต่เจ้าหญิงน้อยคนนี้คนเดียวเท่านั้น”
……
หลินเสวียนตั้งใจฟังอย่างเอาจริงเอาจัง ราวกับกำลังลิ้มรสแตงโมหวานฉ่ำ
ดูท่าทางเขาจะเข้าใจฉู่ซานเหอผิดไปแล้ว
เขาไม่ได้มาหาสวี่หยุน แต่เขามาส่งลูกสาวไปโรงเรียน
หลินเสวียนเคยได้ยินมาตั้งแต่หลายปีก่อนแล้วว่าฉู่ซานเหอรักลูกสาวมาก ตอนงานเลี้ยงครั้งก่อน จ้าวอิงจวิ้นก็บ่นเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด หลินเสวียนแทบไม่รู้จักลูกสาวของฉู่ซานเหอเลย และแน่นอนว่าก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษด้วย
จากคำบอกเล่าของเพื่อนนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนหญิง หลินเสวียนได้รู้ว่า “เจ้าหญิงน้อย” คนนี้เข้าเรียนเดือนกันยายน ปัจจุบันเรียนปีหนึ่ง
จากที่ได้ยินมา เจ้าหญิงน้อยคนนี้ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงดีในโรงเรียน เข้ากับคนง่าย และก็วางตัวดีด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่ซานเหอมาส่งอย่างยิ่งใหญ่แบบนี้…จนกระทั่งถึงวันจบการฝึกทหาร ทุกคนก็ไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลูกสาวของฉู่ซานเหอ
ก็อย่างที่เขาว่ากัน คนเรานี่แหละ ชอบสืบเรื่องชาวบ้าน
หลินเสวียนสงสัย จึงค่อย ๆ เดินไปข้าง ๆ เพื่อหาจุดที่มองเห็นชัด อยากดูหน้าตาของลูกสาวฉู่ซานเหอ
ฝั่งตรงข้ามถนน...
ฉากตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของฉู่ซานเหออย่างสิ้นเชิงกำลังเกิดขึ้น
เห็นได้ชัดว่าฉู่ซานเหอ ผู้ที่ปกติดูมีนิสัยหยิ่งทะนง และมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน ตอนนี้กลับยิ้มแย้มแจ่มใส ค่อย ๆ เดินอ้อมรถครึ่งรอบไปด้านขวาของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ แล้วลงมือเปิดประตูรถเอง
จากนั้นก็เร่งเร้าคนที่อยู่ในรถด้วยท่าทางไม่สนใจสิ่งใด แต่แววตาเต็มไปด้วยความรัก ไม่มีทีท่าจะบ่นเลย
เห็นฉากต่างกันอย่างสิ้นเชิงแบบนี้ หลินเสวียนอดหัวเราะไม่ได้ ส่ายหน้าเบา ๆ
ดูเหมือนข่าวลือไม่ผิด
ยิ่งกว่านั้น ข่าวลือยังพูดน้อยไปด้วยซ้ำ
ชายผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองตงไห่ ที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย ไม่ว่าจะลับหรือลวง ล้วนเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในเมืองตงไห่ ยิ่งกว่านั้น เขายังหยิ่งทะนง และไม่เคยก้มหัวให้ใคร
แต่กับลูกสาว การใช้คำว่าเอาใจใส่ ตามใจสุด ๆ ยังดูน้อยไปด้วยซ้ำ
...
ในที่สุด
“เจ้าหญิงน้อย” ในรถก็ดูเหมือนพร้อมแล้ว
ฉู่ซานเหอก้มตัวลงรับกระเป๋าเป้จากในรถ สะพายไว้ที่ไหล่ แล้วก็ยิ้มแย้มถอยหลังไปหนึ่งก้าว——
ผมทรงหางม้าสูงฟู ๆ โผล่ออกมาจากประตูรถก่อนสิ่งอื่นใด
เส้นผมนุ่มลื่น เป็นลอนธรรมชาติที่ดัดลอนเล็กน้อย ถูกมัดรวบสูงด้วยยางรัดผม ยิ่งทำให้ดูฟูและยืดหยุ่น พร้อมกับท่าทางที่สาวน้อยยืนเขย่งปลายเท้าก้าวลงจากรถ การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความเยาว์วัย
เธอสวมผ้าพันคอสีแดงเนื้อขนแกะ และเสื้อโค้ทสีขาวตัวยาว เนื่องจากมุมมองทำให้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์บังอยู่ จึงมองไม่เห็นชุดที่ใส่ข้างล่าง
หางม้าสูง ผ้าพันคอสีแดง เสื้อโค้ทสีขาว
สามสิ่งนั้นไม่ได้ทำให้หลินเสวียนรู้สึกตื่นเต้นหรือประทับใจอะไรมากมายอย่างที่เขาคิดไว้เลย มันเป็นแค่การแต่งตัวธรรมดามาก ๆ สำหรับมหาวิทยาลัย สมัยหลินเสวียนเรียนใหม่ ๆ สาว ๆ ก็แต่งตัวกันแบบนี้แหละ
โดยรวมแล้ว “เจ้าหญิงน้อย” คนนี้ให้ความรู้สึกธรรมดา ๆ กับหลินเสวียน ดูเหมือนนักศึกษาปีหนึ่งทั่วไป
“จริงด้วย ดูเรียบร้อย ไม่มีท่าทางโอ้อวดอะไรเลย เหมือนเด็กดี ๆ”
ก่อนหน้านี้หลินเสวียนนึกภาพลูกสาวของฉู่ซานเหอไว้หลายแบบ
ผลลัพธ์ที่ได้…ก็ถือว่าคาดไม่ถึง แต่ก็พอเข้าใจได้นะ
“ดูเหมือนฉู่ซานเหอจะเลี้ยงลูกสาวได้ดีทีเดียว แม้จะรักก็จริง แต่ก็ไม่ได้เลี้ยงจนกลายเป็นคุณหนูจอมเอาแต่ใจแบบในละคร”
……
พอข้ามถนนไป
หลินเสวียนเห็นเจ้าหญิงน้อยคนนี้รับกระเป๋าเป้จากมือฉู่ซานเหอ สะพายไว้บนไหล่ แล้วโบกมือลาพ่อก่อนวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปในประตูโรงเรียน…
เขาเฝ้ามองดูผมหางม้าฟู ๆ กระดกไปมาจนกระทั่งเธอหายเข้าไปในประตูโรงเรียนจริง ๆ มันช่าง…น่าหลงใหลเหลือเกิน
หลังจากเงาของเจ้าหญิงน้อยหายไป รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของฉู่ซานเหอก็หายไปทันที เปลี่ยนกลับมาเป็นใบหน้าเรียบเฉย ดูน่าเกรงขามอย่างที่เคยเป็น
เขาโบกมือให้เหล่าบอดี้การ์ด ทุกคนขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ รถหรูสามคันขับออกไปเป็นแถว สองคันนำ หนึ่งคันตามหลัง
ตอนนี้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของนักเรียนรอบ ๆ ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หนุ่ม ๆ หลายคนชอบแซวกันเล่น ๆ ว่าใครก็ตามที่เอาชนะใจเจ้าหญิงน้อยคนนี้ได้ ชีวิตนี้รุ่งแน่ ๆ แล้วก็ยุแหย่คนอื่นไม่เลิก
แต่เอาเข้าจริง พวกเขาก็แค่ล้อเล่น รู้จักกาละเทศะดี ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเกินเลยไปกว่านั้น
อย่างที่ว่าแหละนะ คงเพราะอิทธิพลที่ไม่มีใครเทียบได้ของฉู่ซานเหอในเมืองตงไห่ ใครกล้าล้อเล่นกับฉู่ซานเหอ เขาก็อาจจะหัวเราะแล้วจบ ไม่ถือโทษโกรธ แต่ถ้าดันไปล้อเล่นกับลูกสาวเขาเกินงาม…อันตรายแน่นอน
“พอแล้ว เสียเวลาเล่นพอแล้ว ถึงเวลาทำงานจริงจังเสียที”
หลินเสวียนบีบกระดาษร่างที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วไว้ในมือ แล้วเดินตามกลุ่มคนเข้าไปในประตูมหาวิทยาลัยตงไห่
……
พอรู้ว่าฉู่ซานเหอไม่ได้มาหาศาสตราจารย์สวี่หยุน หลินเสวียนก็โล่งใจขึ้นมาก
ส่วนปริศนาสโมสรอัจฉริยะ ค่อยมาสืบทีหลังก็ได้
ตอนนี้สำคัญที่สุดคือ รีบส่งข้อมูลการจำศีลที่คัดลอกมาให้ศาสตราจารย์สวี่หยุน เพื่อเปลี่ยนอนาคต และเปลี่ยนแปลงความฝันของเขาต่างหาก
หลินเสวียนปั่นจักรยานสีเหลืองของมหาวิทยาลัย ไม่นานก็ถึงตึกห้องปฏิบัติการ หลังจากถามทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว เขาก็ขึ้นไปชั้นสอง และไปยังห้องปฏิบัติการของศาสตราจารย์สวี่หยุนโดยตรง
เขามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นชายรูปร่างไม่ค่อยได้เรื่องคนนั้น กำลังขะมักเขม้นอยู่กับกล้องจุลทรรศน์
เขาใส่เสื้อกาวน์สีขาวตัวเดิมกับแว่นหนาเตอะเหมือนตอนที่เราเจอกันที่โรงพยาบาลเป๊ะ
ศาสตราจารย์สวี่หยุนกำลังตั้งใจทำงานวิจัยอย่างจริงจัง จนไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาถึง
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่ประตูห้องแล็บที่เปิดแง้มอยู่——
*ก๊อก ก๊อก!*
จากนั้นฉันก็เคาะประตูเบา ๆ ด้วยหลังมือ
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook