บทที่ 39 ผลึกน้ำแข็ง
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 39 ผลึกน้ำแข็ง
หน้าต่อไป
ดร.มิเชลสันอธิบายวิธีแก้ปัญหาการเกิดผลึกน้ำแข็งภายในเซลล์ในสภาวะอุณหภูมิต่ำ คือใช้ของเหลวที่มีออกซิเจนสูงอย่างที่เคยอ่านเจอในอินเทอร์เน็ต นั่นเองที่ทำให้เขาได้ชื่อว่า “บิดาแห่งการจำศีล”
องค์ประกอบโมเลกุลในของเหลวชนิดนี้จะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ไหลเวียนไปตามกระแสเลือด ซึมเข้าสู่เซลล์ และรวมตัวกับโมเลกุลของน้ำอย่างแนบแน่น
โมเลกุลของน้ำที่รวมตัวกันแล้ว แม้จะอยู่ในอุณหภูมิต่ำถึงลบสองร้อยองศาเซลเซียส ก็ยังคงอยู่ในสถานะของเหลว ทำให้เซลล์ทำงานได้ช้าลงอย่างรวดเร็วในอุณหภูมิต่ำ
โมเลกุลสารเคมีชนิดนี้แหละที่แก้ปัญหา “ผลึกน้ำแข็ง” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นความก้าวหน้าสำคัญในวงการการจำศีล
“สุดยอดไปเลย”
อ่านมาถึงตรงนี้เขาก็ยังพอเข้าใจอยู่
พลิกหน้าต่อไป
ในตอนต้นของหน้าถัดไป ดร.มิเชลสันเขียนไว้ว่า
การแก้ปัญหาผลึกน้ำแข็งได้แล้ว ก็เหลืออีกไม่ไกลที่จะประสบความสำเร็จในการคิดค้นแคปซูลจำศีล แต่การพัฒนาแคปซูลจำศีลให้สำเร็จ ก็ยังต้องใช้เวลาอีกนาน
“ไม่แปลกใจเลยที่ศาสตราจารย์สวี่หยุนบอกว่า แคปซูลจำศีล นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศเดียวหรือสถาบันวิจัยแห่งเดียวจะทำได้สำเร็จ”
“ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั่วโลก ลงทุนด้านบุคลากรและทรัพยากรอย่างมหาศาล จึงจะมีโอกาสสำเร็จภายในสิบกว่าปีหรือหลายสิบปี”
หลินเสวียนวางคางลงบนมือ มองออกไปนอกหน้าต่าง
การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ทันทีทันใด มันคือกระบวนการที่ต้องใช้เวลาสะสมและสั่งสมอย่างยาวนาน
และก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นไปได้ที่【หลงทาง】、【พัฒนาเทคโนโลยีผิดพลาด】
“โลกแห่งความฝัน ตลอด 600 ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีไม่มีความก้าวหน้าเลย…นี่มันไม่ใช่เพราะพัฒนาเทคโนโลยีผิดทางหรือไงกัน?”
หลินเสวียนไม่รู้จะตอบยังไง
……
ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่า หลินเสวียนจึงระบุขอบเขตสำคัญของกระบวนการผลิตของเหลวเติมแคปซูลจำศีลได้ในที่สุด
จริง ๆ แล้วเนื้อหาตรงนี้ หลินเสวียนอ่านไม่รู้เรื่องเลย
ลึกซึ้งเกินไป ลึกลับเกินไป
ตัวอักษรทุกตัว ตัวอักษรภาษาอังกฤษทุกตัว เขาอ่านออกหมด แต่พอมาเรียงรวมกัน กลับกลายเป็นเหมือนตำราสวรรค์
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่แรกหลินเสวียนก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำความเข้าใจอยู่แล้ว
เขาแค่ต้องการใช้ตา “สแกนคัดลอก” ลงมาเท่านั้น พอตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริง ค่อย “วางลง” แล้ววาดตามแบบ
“ส่วนศาสตราจารย์สวี่หยุนจะเข้าใจได้มากแค่ไหน จะอ่านออกได้มากแค่ไหน…ก็ขึ้นอยู่กับดวงของเขาแล้วกัน”
ขอโทษนะที่หลินเสวียนทำได้แค่นี้ เด็กเรียนไม่เก่งอย่างเขาก็ทำได้เพียงเท่านี้แหละ
หลินเสวียนอ่านหนังสือเตรียมสอบในห้องสมุดจนถึงหกโมงเย็น พนักงานห้องสมุดก็เริ่มไล่คน บอกว่าจะปิดแล้ว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ทันสังเกต หลินเสวียนก็ยัดหนังสือใส่เสื้อ แล้วแอบเอาออกมา
จากนั้นก็หาคาเฟ่ขายชาไข่มุกที่นั่งสบาย ๆ แล้วก็อ่านหนังสือต่อจนดึกดื่น
ครั้งล่าสุดที่ตั้งใจเรียนขนาดนี้…ก็ตอนก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนฝึกวาดภาพสเก็ตช์ ก็ที่ร้านชาไข่มุกนี่แหละ วาดภาพจนฝันถึงเลยทีเดียว
00:42
แสงสีขาวสว่างคุ้นตาปรากฏขึ้นตรงเวลาเช่นเคย หลินเสวียนลืมตาขึ้นในห้องนอนของตน
เขาใช้ช่วงเวลาที่ความทรงจำยังแจ่มชัด
รีบจดทฤษฎีต่าง ๆ สูตรต่าง ๆ และสูตรเคมีที่จำได้ลงบนกระดาษร่าง
ตลอดสี่วันที่ผ่านมา หลินเสวียนทำแบบเดียวกันซ้ำ ๆ ทุกวัน ค่อย ๆ ถ่ายทอดเนื้อหาสำคัญจากหนังสือ 《เทคโนโลยีการจำศีล วิเคราะห์และแนวโน้ม》 ในความฝันมาสู่โลกความจริง
สำหรับหลินเสวียนแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด
เพราะหลินเสวียนเรียนสายศิลป์ พื้นฐานฟิสิกส์และเคมีจึงอ่อนแอมาก
ดังนั้น สูตรเคมี ปฏิกิริยาเคมี และสารประกอบมากมายในหนังสือ 《เทคโนโลยีการจำศีล วิเคราะห์และแนวโน้ม》 หลินเสวียนแทบจะอ่านไม่ออก เขาก็เลยได้แต่ลอกแบบเหมือนวาดรูป ค่อย ๆ “วาด” ออกมาทีละอย่าง
ส่วนการจดบันทึกเนื้อหาที่เป็นตัวอักษรนั้น ง่ายกว่ามาก
……
เช้าวันถัดมาอีกสี่วัน
“เสร็จแล้ว น่าจะพอแล้วล่ะ”
หลินเสวียนจัดการเอกสารทั้งหมด รวมแล้วประมาณยี่สิบกว่าแผ่น เป็นผลจากความพยายามอย่างหนักที่เขาจดจำจากความฝัน แล้วค่อย ๆ เขียนออกมา
เขาไม่แน่ใจว่าจะเขียนถูกหมดทุกอย่างหรือเปล่า เพราะงานเยอะขนาดนี้ การจำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่เขาก็เชื่อว่า ศาสตราจารย์สวี่หยุนผู้เชี่ยวชาญ น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากสิ่งนี้
“รีบไปเลยดีกว่า ส่งให้ศาสตราจารย์สวี่หยุนเดี๋ยวนี้เลย”
หลินเสวียนเรียงต้นฉบับยี่สิบกว่าแผ่นเข้าด้วยกัน แล้วถือลงไปชั้นล่างเรียกรถแท็กซี่ตรงไปมหาวิทยาลัย
หลังจากเรียนจบมาครึ่งปี…
หลินเสวียนกลับมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยแค่ครั้งเดียว นี่เป็นครั้งที่สอง ครั้งก่อนมาเดือนกันยายน เพื่อขอเอกสารจากอาจารย์ที่ปรึกษา หลินเสวียนจำได้ว่าตอนนั้นนักศึกษาปีหนึ่งกำลังมีพิธีเปิดกิจกรรมฝึกทหาร เขาเลยแวะไปดูความคึกคักหน่อย
“ถึงแล้วครับหนุ่มน้อย”
คนขับแท็กซี่จอดรถตรงข้ามประตูมหาวิทยาลัยตงไห่ หลินเสวียนจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน
ลงจากรถแล้ว หลินเสวียนมองไปที่ประตูมหาวิทยาลัย——
ที่นั่นมีรถยนต์หรูสีดำจอดอยู่ถึงสามคัน และข้างแต่ละคันมีบอดี้การ์ดใส่สูทสีดำ สวมแว่นกันแดด ยืนอยู่คนละสองคน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ถ่ายหนังหรือไง?”
หลินเสวียนไม่ได้เข้าไปใกล้ ยืนอยู่บนทางเท้าฝั่งตรงข้ามถนน
รถสามคัน คันหน้าและคันหลังเป็นรถเอสยูวี Lexus สีดำสนิท ดูหรูหราอลังการมาก ส่วนคันกลางยิ่งใหญ่กว่า เป็นรถเมอร์เซเดส-ไมบัคสีดำสนิท
ถึงแม้หลินเสวียนจะไม่รู้รุ่นและรายละเอียด…แต่ไมบัคเป็นรถยนต์ที่มีเสน่ห์แปลก ๆ ดูภายนอกอาจดูเรียบง่าย แต่ยิ่งเรียบง่ายก็ยิ่งหรูหราอลังการ ความหรูหราของรถคันนี้เรียกได้ว่าไม่มีขีดจำกัดเลยเชียวล่ะ
นี่ลูกเจ้าสัวคนไหนมาเรียนเนี่ย?
ทำไมต้องจัดใหญ่โตขนาดนี้?
ขณะที่หลินเสวียนกำลังสงสัยอยู่นั้น ประตูหลังฝั่งซ้ายของรถไมบัค ก็เปิดออก
ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ดูแข็งแรง สายตาคมกริบ ลงมาจากรถ แล้วจัดเสื้อผ้าตัวเองเล็กน้อย
นี่...
หลินเสวียนจำได้แล้ว
นี่คือ คุณฉู่ซานเหอ ประธานสมาคมการค้าเมืองตงไห่ ที่เคยเจอในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ผู้บริจาคเงินให้มูลนิธิเพื่อการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ถึง 200 ล้านหยวน!
เขามาที่มหาวิทยาลัยตงไห่ทำไมกัน?
เขาหวนนึกถึงคำพูดของจ้าวอิงจวิ้น ในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการระดมทุนทางวิทยาศาสตร์ ที่ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ศาสตราจารย์สวี่หยุนถูกคนรอบข้างทอดทิ้ง มีเพียงฉู่ซานเหอเท่านั้นที่สนับสนุนการวิจัยของเขา
แล้วก็คิดถึงสายตาของสวี่หยุนที่มองฉู่ซานเหอในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยความเคารพและชื่นชม
หลินเสวียนสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ไม่ธรรมดา
หรือว่า...
คุณฉู่ซานเหอมาหาสวี่หยุนเช่นกัน?
ในชั่วพริบตา
หลินเสวียนนึกถึงก้อนขี้ผึ้งที่มีตราสัญลักษณ์ของสโมสรอัจฉริยะ...
นึกถึงมือขวาที่ชี้ตรงขึ้นฟ้า
นึกถึงตอนที่คุณฉู่ซานเหอเป็นผู้นำในการบริจาคเงิน 100 ล้านหยวนในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการระดมทุนทางวิทยาศาสตร์ แล้วชูมือขึ้นสูง!
เขาจึงแอบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
ถ้าอย่างนั้น… จ้าวอิงจวิ้นยังได้รับบัตรเชิญจากสโมสรอัจฉริยะเลย ฉู่ซานเหอที่เก่งกว่าเธอเป็นร้อยเท่า ก็ต้องได้รับบัตรเชิญไปแล้วแน่ ๆ !
หลินเสวียนกำกระดาษร่างที่เขียนเสร็จเรียบร้อยไว้แน่น หันข้างมองเงาสูงใหญ่สง่างามที่อยู่หน้ารถเมอร์เซเดส-เมย์แบ็ค
ทำไมกันนะ…
ถึงเพิ่งมารู้เรื่องสำคัญขนาดนี้ตอนนี้?
【ถ้าในเมืองตงไห่ทั้งเมือง มีใครสักคนที่คู่ควรที่สุดกับการเข้าร่วมสโมสรอัจฉริยะ… คนนั้นก็ต้องเป็นฉู่ซานเหอ!]
“ฉู่ซานเหอมาหาอาจารย์สวี่หยุนตอนนี้…”
หลินเสวียนดมกลิ่นอันตรายได้:
“เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook