บทที่ 36 ตราประทับ
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 36 ตราประทับ
ตึก ตึก ตึก ตึก……
จ้าวอิงจวิ้นพูดจบก็หันหลังเดินจากไปทันที
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดัง “ตึก ตึก” กดดันจนหายใจแทบไม่ออก ราวกับถูกเหยียบย่ำอยู่บนซี่โครง
จนกระทั่งจ้าวอิงจวิ้นเข้าไปในลิฟต์ ลิฟต์ปิดลง… พนักงานในห้องประชุมถึงได้โล่งอก
“ฮือ… แค่แววตาของเจ๊จ้าวเมื่อกี้ก็ทำฉันตกใจจนตัวชาแล้ว พี่หวัง พี่เป็นคนเดียวในบริษัทที่กล้าพูดกับเจ๊จ้าวแบบนั้นเลยนะ สุดยอด!”
“ใช่แล้วพี่หวัง พี่พูดออกมาแทนใจพวกเราเลย ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน…ทำไมถึงได้ทิ้งแผนที่ดี ๆ แบบนั้นไปได้ ศาสตราจารย์สวี่หยุนยังไม่ได้ตกลงกับบริษัทไหนเลยนี่นา เรายังมีโอกาสอยู่นะ!”
“ตอนนี้มันก็สายไปแล้ว ใกล้ถึงงานเปิดตัวแบรนด์ไรน์เข้ามาทุกที จะมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว แผนงานทั้งหมดของเราก็วางไว้ตามสูตรครีมบำรุงผิวของศาสตราจารย์สวี่หยุนทั้งนั้น”
“เอ่อ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากศาสตราจารย์สวี่หยุน ผลิตครีมบำรุงผิวชนิดใหม่ที่ล้ำยุคแบบนั้นไม่ได้ ฉันว่าครั้งนี้แบรนด์ใหม่ของไรน์อาจจะพังไม่เป็นท่าจริง ๆ เสียดายแมวไรน์น่ารัก ๆ ตัวนั้นจัง…”
บรรยากาศในห้องประชุมนั้นหดหู่และหนักอึ้ง
เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างรู้สึกผิดหวัง งงงวย และหมดหนทาง
กำลังใจลดฮวบลง
ต่างพากันถอนหายใจแล้วเดินจากไป
……
หลังจากที่พนักงานทุกคนที่เข้าร่วมประชุมออกไปแล้ว
หลินเสวียนเก็บตุ๊กตาแมวไรน์บนโต๊ะทำงานทีละตัว แล้วนำไปเก็บไว้ในห้องทำงานของตนเอง
จากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ กดชั้น 22
ลิฟต์ค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นสู่ชั้นบน
หลินเสวียนไม่รู้ว่าจ้าวอิงจวิ้นเรียกตนเองมาทำไม……
น่าจะเป็นเรื่องงานมากกว่า
ชั้น 22
เขาหยุดยืนอยู่หน้าประตูรหัสสองชั้นที่คุ้นเคย
“เชิญเข้ามาค่ะ”
เสียงเหนื่อยอ่อนของจ้าวอิงจวิ้นดังมาจากวีดีโอคอลประตู
เสียง “คลิก” เบา ๆ ประตูรหัสหนาหนักก็เปิดออก
หลินเสวียนเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วปิดประตูลง
ห้องทำงานขนาดใหญ่ เกือบจะเหมือนทุกครั้งที่เคยมา……หลินเสวียนรู้สึกราวกับกำลังอยู่ในฝันที่วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เดินผ่านโซฟาและโต๊ะกลาง หลินเสวียนสังเกตเห็นฝุ่นบาง ๆ ปรากฏอยู่บนผิวกระจก
เห็นได้ชัดว่า……จ้าวอิงจวิ้นเป็นคนทำงานหนักจริง ๆ นอกจากโต๊ะทำงานแล้ว สิ่งของอื่น ๆ ในห้องนี้สำหรับเธอก็เหมือนภาพวาด เป็นเพียงของตกแต่งเท่านั้น
จ้าวอิงจวิ้นกำลังเซ็นเอกสารอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลินเสวียนเดินไปที่โต๊ะทำงาน
“คุณจ้าวครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?”
จ้าวอิงจวิ้นเซ็นเอกสารเสร็จแล้ว
เธอมองหน้าหลินเสวียน แล้วพยักมือให้เขานั่งลง
“หลินเสวียน คุณเคยออกแบบภาพแมวไรน์ 3 มิติที่ฉันดูไปแล้วนั้น ไม่มีปัญหาอะไร”
“แต่เรื่องการกำหนดบุคลิก เสียงพูด คำพูดติดปาก และบทพูด...ฉันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันดูเด็กเกินไป เหมือนภาพประกอบในหนังสือเด็กเลย”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลินเสวียนก็อมยิ้มอย่างจนใจในใจ ที่จริงแล้วมันก็ลอกมาจากหนังสือภาพสำหรับเด็กนี่นา...จะไม่ให้ดูเด็กได้ยังไงล่ะ? แมวไรน์ในโลกแห่งความฝันนั้น ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเป็นของเล่นเด็กโดยเฉพาะ หนังสือเกี่ยวกับแมวไรน์ทั้งหมดในร้านหนังสือ เล่มไหน ๆ ก็เป็นหนังสือเด็กหรือหนังสือภาพสำหรับเด็กทั้งนั้น ส่วนแบรนด์ไรน์ และบริษัท MX นั้น ถูกกลบฝังไปกับกาลเวลาแล้ว หาข้อมูลอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งกว่านั้น เรื่องที่หลินเสวียนเป็นผู้ก่อตั้งแมวไรน์นั้น ยังหาข้อมูลไม่ได้เลยทั้งในหนังสือรวมข้อมูลแมวไรน์และบนอินเตอร์เน็ต...เรื่องนี้หลินเสวียนค่อนข้างไม่พอใจมาก
“ฉันไม่ได้บอกว่าความรู้สึกแบบเด็ก ๆ นั้นไม่ดีนะ” จ้าวอิงจวิ้นพูดพลางพลิกดูเอกสารไปด้วย “แค่ว่าเราไม่ได้ขายตุ๊กตาแมวไรน์นี่นา จุดหลักของเราคือการให้แมวไรน์เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเครื่องสำอางไรน์ และเป็นมาสคอตในการโฆษณา ดังนั้น...ในเรื่องกลุ่มเป้าหมายของแมวไรน์ เราควรออกแบบบุคลิกและบทพูดให้ดูเป็นสาวรุ่น สดใส ร่าเริง และสวยงามมากกว่านี้”
“เรื่องนี้คุณต้องแยกแยะให้ดีนะคะ เหมือนแมวคิตตี้ ลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ไรน์ คือกลุ่มผู้หญิงอายุ 18-28 ปี ฉะนั้นเรื่องบุคลิกภาพและบทพูด อาจจะดูเป็นเด็ก ๆ ได้บ้าง แต่ห้ามดูเด็กเกินไปเด็ดขาด”
“คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหมคะ?”
หลินเสวียนพยักหน้าเบา ๆ :
“เข้าใจแล้วครับ”
จ้าวอิงจวิ้นหาเอกสารที่ต้องการไม่เจอ เลยไปค้นในกองเอกสารอีกกอง:
“ฉันจำได้ว่า…ฉันวางแบบร่างการออกแบบของคุณไว้ที่นี่นี่นา…ฉันติดป้ายไว้ด้านบนด้วยนะ…”
ฉับ! ฉับ! ฉับ!
กระดาษเอกสารมากมายปลิวลงมา
เอกสารบนโต๊ะทำงานของจ้าวอิงจวิ้นเยอะและรกมากจริง ๆ ขณะที่เธอกำลังค้นหา เผลอไปโดนกองเอกสารอีกกองที่อยู่ข้าง ๆ ทำให้เอกสารทั้งหมดพังครืนลงมา กระจายเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้น
หลินเสวียนคุกเข่าลง เก็บเอกสารบนพื้นขึ้นมาทีละใบ แล้วเรียงไว้บนแขน จู่ ๆ …
เขามองเห็นของเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งที่ทำให้หัวใจเต้นแรง! เขาอึ้งไปประมาณ 0.5 วินาที หลินเสวียนเก็บของชิ้นนั้นไว้ในมือซ้ายอย่างแนบเนียน แล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ช่วยเก็บเอกสารที่ตกอยู่บนพื้นต่อ
หลังจากเรียบเรียงเอกสารบนพื้นให้เป็นระเบียบแล้ว เขาก็เก็บกลับไปไว้ที่โต๊ะ จากนั้นก็ล้วงมือซ้ายลงไปในกระเป๋ากางเกง ซ่อน “ของที่แอบเอา” ไว้ในกระเป๋า
จ้าวอิงจวิ้นผลักเอกสารเข้าไปด้านใน ยิ้มอย่างขอโทษ:
“ขอโทษนะคะ โต๊ะฉันรกมาก ยังไม่มีเวลาเก็บเลย”
หลินเสวียนส่ายหัว:
“คุณจ้าว จริง ๆ แล้วงานพวกนี้คุณสามารถจ้างเลขาฯ มาช่วยทำได้นะครับ”
จ้าวอิงจวิ้นสะบัดผมยาวที่อยู่บนต้นคอไปด้านหลัง แล้วส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมสีหน้าบอกความหมาย:
“ช่างเถอะ ฉันทำเองได้”
“อ้าว คุณหลินเสวียน เจอแล้ว เอานี่”
จ้าวอิงจวิ้นส่งแบบร่างการออกแบบที่เต็มไปด้วยคำอธิบาย คำแก้ไข และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ให้หลินเสวียน เป็นแบบร่างชุดเดิมที่หลินเสวียนให้เธอไปก่อนหน้านี้ เต็มไปด้วยข้อคิดเห็นและคำแนะนำต่าง ๆ เขียนอย่างละเอียดรอบคอบมาก
หลินเสวียนรับมาพร้อมกับการพยักหน้า:
“ครับ ผมจะกลับไปแก้ไขใหม่นะครับ”
ปัง!
ประตูรหัสหนาหนักปิดลงด้านหลัง หลินเสวียนยืนอยู่หน้าประตู รู้สึกเหมือนตัวเองกับจ้าวอิงจวิ้นอยู่คนละโลกกันเลย แต่ตอนนี้…
หลินเสวียนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้านซ้าย ลูบคลำวัตถุแข็งกลม ๆ นี่มันของดีชิ้นใหญ่เลยนะ! เขามองกลับไปยังประตูรหัสสองชั้นหนาหนัก ก่อนจะหันไปทางลิฟต์ เดินเข้าลิฟต์ กดปุ่มชั้นของตัวเอง ลิฟต์ค่อย ๆ ลงอย่างช้า ๆ เสียง ‘ซี่ด ๆ ’ ดังเบา ๆ หลินเสวียนลูบคลำของที่ ‘ขโมย’ มา หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าในฝันการขโมยของจะเป็นเรื่องปกติที่ทำแทบทุกวัน แต่ในความเป็นจริงนี่เป็นครั้งแรก ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง
ติ้ง——
ประตูลิฟต์เปิดออก หลินเสวียนรีบเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง คลิก ล็อกประตู แล้วก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก:
“ครั้งแรกที่ขโมยของในชีวิตจริง มันตื่นเต้นจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ขโมยมาได้ มันยังเป็นของที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย…”
เขาล้วงมือซ้ายลงไปในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย แล้วหยิบก้อนขี้ผึ้งสีแดงกลมแบนออกมา
เขาใช้ปลายนิ้วชี้บีบก้อนขี้ผึ้งสีแดง หมุนไปมาเบา ๆ บนปลายนิ้ว
ก้อนขี้ผึ้งสีแดงนี้ใหญ่กว่าเหรียญหยวนหนึ่งนิดหน่อย หนากว่าด้วย รูปทรงไม่ใช่ทรงกลมที่สมบูรณ์แบบนัก
หลินเสวียนเคยเห็นมันมาก่อน
นี่คือก้อนขี้ผึ้งที่ใช้ปิดผนึกหน้าซองจดหมายเชิญจากสโมสรอัจฉริยะนั่นเอง
ตอนนั้นจดหมายเชิญฉบับนั้นอยู่ในมือหลินเสวียนเพียงไม่กี่วินาที จ้าวอิงจวิ้นก็เอาไปแล้ว แต่รายละเอียดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หลินเสวียนจำได้แม่นยำ
“ไม่ผิดแน่…ตอนนั้นหน้าซองจดหมายเชิญนั้นถูกปิดผนึกด้วยก้อนขี้ผึ้งนี่แหละ”
ขี้ผึ้งชนิดนี้เรียกว่า “ตราประทับด้วยขี้ผึ้ง” โดยทั่วไปทำจากยางสนและขี้ผึ้งผสมสี เมื่อให้ความร้อนจะละลายและมีกาวเหนียว ใช้สำหรับปิดผนึกจดหมายและบัตรเชิญ
วิธีใช้คือ ให้ความร้อนก่อน แล้วหยดลงบนซองจดหมาย จากนั้นจึงประทับตรา
ด้านที่หลินเสวียนมองอยู่ คือด้านที่ติดกับกระดาษแข็ง เรียบเนียนอย่างยิ่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่งของก้อนขี้ผึ้งนั้น…ไม่ต้องพูดก็รู้…
【นั่นคือตราประทับของสโมสรอัจฉริยะ】
หัวใจหลินเสวียนเต้นแรง
บางทีถ้าพลิกดูอีกด้าน…อาจจะเปิดเผยอีกโลกหนึ่งที่ลึกลับและมืดมน อาจจะเปิดเผยเงื้อมมือมืดมนขนาดมหึมาที่ซ่อนตัวอยู่ในม่านหมอกแห่งประวัติศาสตร์
การดูอีกด้านนี้…อาจหมายถึงการก้าวลงสู่เหวลึก เดินเข้าไปในป่ามืดที่ไม่มีทางกลับ
หลินเสวียนกลั้นหายใจ
ภาพคำพูดของพี่แมวอ้วนผุดขึ้นในหัว
เรื่ิองราวที่ภาพรถบรรทุกทับคนแก่และเด็กเล็กจนเละเป็นโจ๊กก็ปรากฏขึ้นในหัวเขาเช่นกัน
เขาพยายามหลบหลีกเงามืดทึบของกลุ่มเมฆดำสนิทที่บดบังฟ้า
เขาหลบเลี่ยงคำเชิญนั้น ที่ด้านหลังมีตัวอักษรทองคำหนักอึ้งห้าตัวอยู่
เขากัดฟันแน่น ก่อนจะพลิกก้อนขี้ผึ้งทั้งก้อนกลับด้าน!
……
ด้านหน้าของก้อนขี้ผึ้ง ปรากฏตราประทับกลมมาตรฐาน
ภายในวงกลม เป็นรูปมือขวาชูเฉพาะนิ้วชี้ชี้ตรงขึ้นไปบนฟ้า
และใต้รูปวงกลมนั้น มีตัวอักษรภาษาอังกฤษสองคำเรียงกันอย่างสวยงาม——
สโมสรอัจฉริยะ
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook