บทที่ 26 ศพ
ในความเงียบสงัดของสถานที่นั้น ความมืดค่อยๆ แผ่ปกคลุมทุกสิ่ง
อาเดียร์ยืนนิ่งอยู่กับที่ หัวใจของเขาเกิดความรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาจับใจ
ผ่านรอยแยกของประตูที่เขามองออกไป สายตาอันเฉียบคมทำให้เขาสามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของสิ่งที่อยู่อีกฝั่งได้อย่างชัดเจน
มันคือสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ทั่วทั้งตัวขาวซีด ราวกับศพเดินได้ ใบหน้าของมันเป็นใบหน้าของหญิงสาว แต่กลับซีดเผือดอย่างน่ากลัว
ในดวงตาของมันเต็มไปด้วยอารมณ์ด้านลบที่ไม่มีที่สิ้นสุด เสมือนต้องการจะกลืนกินอาเดียร์ให้หายไป
"ติ๊ง! ตรวจพบสนามพลังที่ไม่รู้จัก แนะนำให้ออกจากพื้นที่ทันที!"
เสียงเตือนอันคุ้นเคยดังขึ้นในหัวของอาเดียร์ตลอดเวลา ชิพบอกให้เขาออกไปจากที่นี่โดยเร็ว
แม้จะได้รับคำเตือน แต่อาเดียร์กลับไม่เคลื่อนไหว
ห้องนี้ถูกปิดผนึกไว้อย่างแน่นหนา โครงสร้างของมันแข็งแรงมั่นคง และที่ประตูด้านนอก สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ขาวซีดยืนนิ่งอยู่ขวางทางออก ไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้อาเดียร์จากไปได้ง่ายๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ออกไปข้างนอก เขาก็ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะปลอดภัยกว่าข้างในหรือไม่
อาเดียร์รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตั้งแต่เข้าสู่ช่วงกลางคืน โลกใบนี้ราวกับถูกเปลี่ยนไปเป็นอีกโลกหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาด และมาพร้อมกับความรู้สึกอันตรายที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อความหวาดหวั่นพุ่งทะลุหัวใจ เขายกมือขวาขึ้นช้าๆ ค่อยๆ ชักดาบยาวออกมาจากเอว ท่าทางระมัดระวังเต็มที่ สายตาจับจ้องไปที่ดวงตาคู่นั้นตรงหน้า
เขาไม่กล้าขยับ ไม่กล้าเปิดประตูออกไปโดยพลการ มีเพียงการยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและจ้องกลับไปยังสิ่งมีชีวิตนั้น
อีกฝั่ง สิ่งมีชีวิตที่เหมือนศพยังคงยืนนิ่งเช่นกัน ไม่ขยับเขยื้อนราวกับเป็นรูปปั้น
เวลาราวกับหยุดนิ่ง
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร เสียงเบาๆ ค่อยๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ความหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมบริเวณรอบตัว ทำให้ชายวัยกลางคนที่อยู่ในกลุ่มของอาเดียร์รู้สึกตัวขึ้นมา
ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนคนนี้จะมีความระมัดระวังตัวมากที่สุดในกลุ่ม เขาเพิ่งจะตื่นขึ้นมา และเมื่อเห็นอาเดียร์ที่ยืนอยู่หน้าประตู เขาก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติทันที
เมื่อดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สีหน้าของเขาแทบจะบิดเบี้ยวราวกับได้เห็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างที่สุด
มือขวาของเขายกขึ้นมาปิดปากของตัวเองทันที ร่างกายแข็งทื่อไม่ขยับ ราวกับกลัวว่าหากเผลอส่งเสียงออกมา สิ่งที่อยู่นอกนั้นจะตื่นขึ้น
ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด แต่สถานที่รอบตัวพลันเงียบลง เสียงเบาๆ ที่เคยดังมาจากภายนอกหายไปทีละน้อย บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดัน
ปึง! ปึง! ปึง!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก ในสถานที่อันเงียบสงัดนี้ เสียงดังกล่าวชัดเจนจนน่าขนลุก
อาเดียร์ที่ยืนอยู่หน้าประตู ยังคงจับจ้องไปที่บานประตู ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงลมหายใจที่อ่อนแอและกระชั้นชิดซึ่งดังมาจากอีกฝั่งของประตู
ในขณะที่ทุกอย่างยังคงเงียบงัน เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นถี่ขึ้นและหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ
บานประตูเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามันกำลังจะรับน้ำหนักของแรงเคาะไม่ไหว และอาจถูกสิ่งที่อยู่อีกฝั่งพังเข้ามา
รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป อาเดียร์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะถอยหลังสองก้าว มือของเขากระชับดาบยาวที่ทำจากเหล็กดำรีไว้อย่างแน่นหนา
ด้านหลังของเขา ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องต่างก็ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตัวแล้ว ทว่าพวกเขาทำได้เพียงมองไปที่ประตูที่กำลังสั่นไหวด้วยความตกใจ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"ทำไม... ทำไมถึงต้องมาเจออะไรเเปลกประหลาดแบบนี้ด้วย?"
หญิงสาวในกลุ่มกัดฟันพูด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ขณะจ้องมองไปที่ประตูที่กำลังสั่นสะเทือน
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันถอนหายใจออกมาเบาๆ คล้ายกับว่าเขาได้ยอมรับชะตากรรมแล้ว
"มันเป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ชั้นบน มันออกมาได้ยังไง..."
เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เจือปนไปด้วยความสิ้นหวัง
"เวลาผ่านไปตั้งสามปี เรานึกว่าศพนั้นมันตายไปนานแล้ว ใครจะคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจนสำเร็จ! และตอนนี้กลิ่นอายของพวกเราก็ไปกระตุ้นให้มันลงมาหาเรา!"
ในดวงตาของทั้งสามคนเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความกลัว เพราะพวกเขารู้ดีถึงความน่าสะพรึงกลัวของสิ่งที่อยู่นอกนั้น
ต่างจากสัตว์กลายพันธุ์ภายนอกที่ถึงจะแข็งแกร่งแต่ยังคงมีร่างกายเป็นเนื้อหนังเเละเลือด สิ่งนี้คือสิ่งลี้ลับที่แท้จริง และเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจเอาชนะได้...
ศพที่คืนชีพเช่นนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก และไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บอย่างไร มันก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ราวกับมีชีวิตที่ไม่มีวันตาย
ตามปกติ หากพบเจอกับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ ต่อให้เป็นชุมชนที่มีผู้คนอยู่รวมกันหลายร้อยคนก็ยากที่จะรอด มันสามารถค่อยๆ สังหารทุกคนจนหมดสิ้น
ในสถานการณ์ที่ติดอยู่ในห้องแคบๆ และประตูด้านนอกมีสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ ทั้งสามคนที่ยังคงมีสติไม่เสียขวัญจนล้มเหลว ถือว่าโชคดีมากแล้ว
"ยังไงก็นับว่าประมาทไปจริงๆ"
อาเดียร์คิดในใจพลางจ้องมองไปยังประตูที่เริ่มมีเสียงกระแทกดังขึ้นเรื่อยๆ
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแปลกประหลาดที่คุ้นเคย เขามั่นใจถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่า สัตว์ประหลาดที่อยู่ด้านนอกนี้คือสิ่งที่เคยถูกกักขังอยู่ในห้องชั้นบนมาก่อน
ก่อนหน้านี้ เขาเคยรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในบริเวณนั้น แต่เพราะมันถูกล็อกไว้ในห้องและไม่มีทีท่าว่าจะออกมา เขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจ
ไม่คาดคิดว่าในคืนนี้ มันกลับหลุดออกมาได้ และที่สำคัญ มันน่ากลัวกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้มาก
"ปัง!!!"
เสียงกระแทกดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง และทันใดนั้น แขนสีซีดขาวข้างหนึ่งก็พุ่งทะลุประตูเข้ามา ประตูทั้งบานกระเด็นออกไปทันที
เบื้องหน้าประตู ศพผู้หญิงสีขาวซีดยืนอยู่ ใบหน้าของมันราวกับแช่แข็ง ดวงตาสีเย็นเยียบกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะจับจ้องมาที่อาเดียร์
ความรู้สึกกดดันอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมจิตใจ ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน อาเดียร์รู้สึกเหมือนตัวเองถูกสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวจับจ้องเอาไว้
"พื้นที่รอบเป้าหมายถูกปกคลุมด้วยสนามพลังลึกลับ ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลร่างกายได้!"
เสียงกลไกจากชิปในสมองดังขึ้น
ในขณะที่เสียงของชิปดังขึ้น แขนสีซีดข้างหนึ่งก็พุ่งมาที่อาเดียร์
"แคร้ง!!!"
ดาบยาวสีดำที่อยู่ในมือของอาเดียร์ส่องประกายพร้อมกับพุ่งเข้าปะทะกับแขนของศพหญิงตรงหน้า เสียงที่เกิดขึ้นดังราวกับโลหะกระทบกัน
ดาบยาวที่ทำจากเหล็กดำรีฟันเข้าไปในแขนของมัน แต่แขนกลับแข็งแกร่งจนแม้แต่ดาบที่ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่สามารถตัดขาดได้
"ถอยหลังสองก้าว!"
เสียงเตือนของชิปดังขึ้นอีกครั้งในสมองของอาเดียร์
อาเดียร์กระโดดถอยหลังด้วยความรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการโจมตีของศพได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนที่จะพุ่งตัวกลับไปข้างหน้าทันที
ครั้งนี้เขาไม่คิดลังเล ใช้ความเร็วที่สูงที่สุดพุ่งตรงไปหาเป้าหมาย ดาบยาวในมือฟันลงอย่างรุนแรง ตรงไปยังลำคอของศพ
ปัง!
แรงสะท้อนอันมหาศาลส่งตัวเขากระเด็นออกไป
ในขณะเดียวกัน หัวของศพถูกดาบยาวฟันจนขาดเกือบหมด เหลือเพียงเศษเนื้อบางส่วนที่ยังเชื่อมติดกันอยู่
จากรอยแผลที่ถูกฟัน เนื้อเยื่อเล็กๆ ค่อยๆ งอกออกมา เชื่อมต่อทั้งสองฝั่งของเนื้อและหนังที่ฉีกขาด เพียงแค่ชั่วพริบตา แผลที่คอนั้นกลับฟื้นฟูจนสมานสนิทเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
ในจังหวะนั้นเอง ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาในพื้นที่ พร้อมกับใช้เท้าถีบศพนั้นจนกระเด็นไปชนกำแพง เสียงกระแทกดังสนั่น พร้อมกับกำแพงที่เกิดรอยบุ๋มขนาดใหญ่
"กรร..."
เสียงคำรามต่ำแหบพร่าดังออกมาจากปากของศพ ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น แม้จะได้รับการโจมตีรุนแรง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
เพียงแค่เสี้ยววินาที ศพนั้นก็พุ่งกลับมาอีกครั้ง ราวกับสัตว์ป่าที่ไร้ความรู้สึกเจ็บปวด จ้องตรงมาทางอาเดียร์อย่างดุดัน