บทที่ 21 มันเทศไม่ใช่อาหารวิเศษเสมอไป!
เจียอินกำลังเล่นกับขนนกไก่ฟ้าสีสวยสดใส ปลายขนนกแตะโดนใบหน้าของนางจนรู้สึกจั๊กจี้ เจียอินหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างสนุกสนาน
ย่าหลี่มองหลานสาวตัวน้อยแล้วหัวใจเต้นแรง รีบอุ้มหลานขึ้นมากอดแน่น ก่อนจะจูบแก้มฟอดใหญ่
“อย่าไปพูดอะไรกับคนนอกล่ะ ฟู่หนิวเออร์นำโชคดีมาให้เราแท้ ๆ ไป จัดการกระต่ายทั้งหมดเสีย ต้มหนึ่งตัวไว้กินเย็นนี้ ส่วนที่เหลือรมควันเก็บไว้สำหรับฤดูหนาว”
ย่าหลี่กระซิบสั่งลูกชาย “ไข่พวกนี้ให้เก็บไว้ให้หงอิงกิน อย่าให้ใครแตะต้องเด็ดขาด ฟู่หนิวเออร์ต้องไม่อดอยาก”
หลี่เหล่าซือรับคำ ก่อนจะเตรียมตัวไปทำตามคำสั่ง แต่ย่าหลี่ก็เอ่ยขึ้นมาอีก
“ว่าแต่...อู๋เออร์โกวไปไหน? สองวันนี้ข้าไม่เห็นหน้าเลย หาเหตุผลไล่เขาออกไปให้พ้น ๆ เถอะ”
“ท่านแม่ พี่สะใภ้รองไม่ได้บอกหรือ? อู๋เออร์โกวได้งานที่บ่อนในตัวเมือง เช้านี้เขาออกเดินทางแต่เช้าแล้ว” เถาหงอิงตอบ ขณะกำลังตากเห็ดอยู่
ย่าหลี่ขมวดคิ้ว บ่อนไม่ใช่ที่ที่ดีนัก แต่ไม่นานนางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ดีแล้ว อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนในครอบครัวเรา ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก”
พูดจบ นางอุ้มเจียอินขึ้นมาแนบอก ลูบหลังเบา ๆ ด้วยความรักใคร่
“มีเวลาเมื่อไรก็มาเล่นกับหลานสาวนำโชคของเรานี่แหละ”
เจียอินหัวเราะคิกคัก พลางพยายามมองไปรอบ ๆ ลานบ้านของตัวเอง แต่คอของนางยังอ่อนเกินไป ทำได้แค่นอนซบอยู่บนบ่าของย่า พลางสร้าง “แผนที่น้ำลาย” ไว้บนเสื้อนาง
เช้าวันถัดมา เมื่อหลี่เหล่าซือเตรียมตัวออกไปข้างนอก เจียอินก็ใช้กลยุทธ์เดิมอีกครั้ง
ทันทีที่พ่อวางตัวนางลง เจียอินก็ร้องไห้ แต่พอถูกอุ้มขึ้นมาก็หัวเราะร่า น้ำลายใส ๆ เปื้อนหน้าเขาเต็มไปหมด
หลี่เหล่าซือทั้งจนใจและดีใจ “ท่านแม่ ดูสิ ลูกสาวข้าจูบข้าแล้ว!”
“เรื่องเล็กน้อย หลานข้าจูบข้าทุกวันอยู่แล้ว”
ย่าหลี่กลอกตาใส่ลูกชายด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ท่านแม่ ข้าจะพาฟู่หนิวเออร์กับท่านพี่ขึ้นเขาไปดูว่าเก็บเห็ดได้บ้างหรือไม่” เถาหงอิงกล่าว พลางช่วยจ้าวอวี้หรูเก็บจานอาหารเช้า
เมื่อวานเถาหงอิงเพิ่งทำตะกร้าหวายใบใหม่ นางขัดหนามทุกจุดจนเรียบลื่น และปูผ้าห่มนุ่ม ๆ ไว้ข้างใน เพื่อให้เจียอินนอนสบายและมือของนางยังว่างสำหรับทำงาน
“ข้าจะไปด้วย!”
“ข้าด้วย ๆ!”
พี่น้องตระกูลเจียต่างกระโดดโลดเต้นอยากไปด้วยกันหมด
ย่าหลี่มองหลานชายสองคนที่ดูตื่นเต้น พลางยิ้มและตอบตกลง
“ได้สิ แต่อย่าวิ่งเล่นจนพลัดหลงล่ะ ดูแลฟู่หนิวเออร์ให้ดีด้วย”
เจียอินนอนอยู่ในตะกร้าหวายที่มีหลังคาผ้าเล็ก ๆ กันแดด นางถูกเถาหงอิงหิ้วขึ้นเขาไป
ระหว่างทาง เจียอินครุ่นคิดวิธีเอามันเทศออกจากมิติ โดยเลือกใช้ภูเขาเป็นที่ซ่อน
เมื่อเถาหงอิงเริ่มยุ่ง นางก็ฝากตะกร้าให้เจียอันเจียซีช่วยดู
เจียอัน เจียซี พากันนั่งเล่นใกล้ ๆ ตะกร้า หยอกล้อกับน้องสาว เสียงหัวเราะของพี่ชายสองคนทำให้เจียอินยิ้มออกมาเช่นกัน
ไม่นาน เจียอันหยิบตะกร้าหวายขึ้นมา แขวนสายผ้าสองเส้นไว้บนไหล่ แล้วแบกตะกร้าไว้แนบอก หันหน้ามองน้องสาวที่อยู่ในตะกร้าได้ถนัด
เจียอันเดินเรื่อยเปื่อยไปทั่วป่า เปิดโอกาสให้เจียอินอย่างเหมาะเจาะ
นางคำนวณตำแหน่งอย่างแม่นยำ ย้ายมันเทศครึ่งไร่จากมิติ ไปวางซ่อนไว้ในพุ่มไม้
ไม่นานนัก เถาหงอิงที่กำลังเก็บเห็ดก็เดินมาพอดี นางแหวกพุ่มไม้และต้องตกตะลึงเมื่อเห็นเถามันเทศแน่นขนัด
นางมองไปรอบ ๆ เห็นเพียงรอยเท้าของคนในครอบครัว ไม่มีร่องรอยคนอื่นเลย นี่คงไม่ใช่ของที่ใครแอบปลูกไว้แน่ ๆ
เถาหงอิงรีบย่อตัวลงขุดมันเทศทันที
ดินนุ่มมาก เพียงไม่นาน นางก็ขุดได้มันเทศสองหัวใหญ่ ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเสียอีก!
เถาหงอิงดีใจจนกลั้นไว้ไม่อยู่ รีบเรียกหลี่เหล่าซือให้มาช่วย
เมื่อหลี่เหล่าซือเห็นเขาก็ยิ้มกว้าง ทั้งสองคนช่วยกันขุดมันเทศจนเต็มตะกร้าที่เตรียมมา
แม้จะอยากกลับบ้าน แต่หลี่เหล่าซือก็กลัวว่าภรรยาและลูก ๆ จะไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ในป่าเพียงลำพัง จึงเรียกเจียอันเจียซีมาสมทบ...
“พวกเจ้ารีบกลับบ้านไปให้ไว อย่ามัวเล่นซนระหว่างทาง บอกย่าของพวกเจ้าให้เตรียมถุงผ้าทั้งหมดในบ้าน จากนั้นบอกคนในครอบครัวให้ขึ้นมาขนมันเทศอย่างเงียบ ๆ จำไว้ว่าห้ามบอกใครเด็ดขาด! พอถึงหน้าหนาว ข้าจะอบมันเทศให้ มันหอมและหวานฉ่ำ”
เจียอันและเจียซีได้ยินก็ถึงกับน้ำลายสอ รีบพยักหน้ารับ “พวกเราจะไม่บอกใครแน่นอน!”
สองพี่น้องรีบวิ่งกลับบ้านไปทันที เมื่อถึงบ้าน พวกเขารีบเล่าเรื่องมันเทศให้ย่าหลี่ฟัง
ย่าหลี่นึกถึงหลานสาวที่ตามขึ้นเขาไปด้วย และรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างชัดเจนอยู่ในใจ
นางรีบเรียกจ้าวอวี้หรูให้นำถุงและตะกร้าทั้งหมดออกมา จากนั้นจึงเรียกหลี่เหล่าเออร์กับหลี่เหล่าซาน สองพี่น้องที่ไว้ใจได้ในเรื่องความซื่อสัตย์และรักครอบครัว ให้ไปช่วยขนของ
นางไม่ลืมกำชับให้จ้าวอวี้หรูหาเหตุผลส่งอู๋ชุ่ยฮวาออกไปนอกบ้านแต่เช้า
ใกล้เวลามื้อเที่ยง อู๋ชุ่ยฮวาที่ขี้เกียจทำงานนักหนากลับออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี
ครอบครัวจึงแอบขึ้นเขาไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครสังเกต
เมื่อเห็นเถามันเทศและมันเทศกองโตที่หลี่เหล่าซือและเถาหงอิงขุดออกมา ทุกคนก็ถึงกับอึ้ง
“นี่คงมีน้ำหนักถึง 700 หรือ 800 ชั่ง พอให้ครอบครัวเรามีอาหารกินได้ครึ่งฤดูหนาวเลยทีเดียว”
“แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ รีบเก็บใส่ถุงเถอะ ระวังอย่าให้ใครมาเห็น!” หลี่เหล่าซือรีบเปิดถุงออกมาแล้วเริ่มบรรจุ พร้อมกับกระตุ้นให้ทุกคนเร่งมือ
ทุกคนได้สติกลับมา ไม่มีเวลายินดีมากนัก ใครถือถุงก็คอยจับถุงให้มั่น ส่วนใครเก็บมันเทศก็เร่งมือทำงานอย่างเต็มที่
ในที่สุดมันเทศทั้งหมดก็ถูกขุดขึ้นมาและบรรจุใส่ถุงกับตะกร้ากว่า 20 ใบ
ทั้งครอบครัวต้องขนไปกลับถึงสองรอบกว่าจะขนมันเทศทั้งหมดกลับมาถึงบ้านได้
ย่าหลี่มองกองมันเทศที่วางอยู่ในโรงเก็บของแล้วอดยิ้มกว้างจนถึงหูไม่ได้
“ด้วยมันเทศพวกนี้ ครอบครัวเราคงไม่ต้องกลัวอดในหน้าหนาวอีกแล้ว แค่หั่นใส่ลงไปในหม้อโจ๊กสักสองหัวก็หอมอร่อย ช่วยให้อิ่มท้องได้ดีนัก!”
หลังจากโชคดีครั้งนี้ หลี่เหล่าซือกับเถาหงอิงก็พาลูกสาวขึ้นเขาทุกวัน พร้อมกับลุยลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อหาโชคเพิ่มเติม
พวกเขาเคยเจอต้นสนแดงหลายต้น และต้นวอลนัทอีกต้นหนึ่ง ทั้งคู่จึงตั้งใจจะเก็บผลไม้มาเป็นของว่างให้เด็ก ๆ ในบ้าน
หลี่เหล่าซือปีนขึ้นต้นไม้ไปเก็บลูกสน ส่วนเถาหงอิงก็ยืนรอข้างล่างด้วยความเป็นห่วง
ทันใดนั้นเอง เจียอินที่อยู่ในตะกร้าชี้ไปยังโพรงไม้ข้างหน้าแล้วส่งเสียงเล็ก ๆ อย่างตื่นเต้น เถาหงอิงสงสัยจึงเดินไปแหวกฟางที่ปิดปากโพรงออก
ในโพรงไม้นั้นเต็มไปด้วยเกาลัด!
นางลองหยิบเกาลัดขึ้นมาหนึ่งกำมือ แต่เกาลัดกลับไหลออกมาราวกับน้ำที่ไหลไม่หยุด
นางตักใส่ตะกร้าจนเต็มแล้วยังเหลือ นางจึงต้องใช้ถุงผ้าช่วยเก็บ
“ไม่รู้ว่าโพรงไม้เล็ก ๆ นี้ซ่อนเกาลัดไว้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร”
เจียอินนอนนิ่งในตะกร้าหวาย พลางเป่าฟองน้ำลายไปเรื่อย ๆ และใช้โอกาสนี้หาที่เหมาะ ๆ วางไข่อีกสองฟอง
ในมิติของนางมีไก่ไข่ประมาณ 14 ถึง 15 ตัว เก็บไข่ได้วันละสิบฟอง เพียงพอจะเก็บสะสมไว้ใช้ได้ทุกสามถึงห้าวัน
ไม่นานนัก เถาหงอิงก็เจอรังไข่อยู่หลังต้นไม้ ทำเอานางดีใจจนแทบคลั่ง
แต่เรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดยังมาไม่ถึง จนกระทั่งหลี่เหล่าซือตะโกนเรียกมาจากที่ไกล ๆ
“เมียจ๋า รีบมาดูเร็ว ข้าพบของดีเข้าแล้ว!”
เถาหงอิงรีบวิ่งไปหา และพบกองผลไม้สีแดงสด ทั้งแอปเปิล พุทรา และสับปะรดขนาดเท่ากำปั้นวางอยู่ตรงเท้าหลี่เหล่าซือ
ถึงแม้จะยังไม่ได้ชิม แต่กลิ่นหอมหวานที่ลอยมาเบา ๆ ก็บอกได้ทันทีว่าผลไม้เหล่านี้ต้องอร่อยมากแน่ ๆ
“ท่านไปเจอมาจากที่ไหน? นี่ดูดีเหลือเกิน!”
เถาหงอิงลูบคลำผลไม้แต่ละลูกอย่างหลงใหล