ตอนที่แล้ว(อ่านฟรีชั่วคราว) บทที่ 1299 การเริ่มสร้างค่ายกลป้องกันนภาสวรรค์!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป(อ่านฟรีชั่วคราว) บทที่ 1301 เว่ยเฉิงซิงอวี่กับเป้าหมายใหม่

(อ่านฟรีชั่วคราว) บทที่ 1300 อันตรายจากภายนอกช่องเขาเฉาเทียน (ครบ)


[ตรวจพบว่าบริเวณรอบ ๆ มีความอันตรายอย่างมาก ขอให้โฮสต์ระมัดระวัง จากข้อมูลที่ระบบเก็บรวบรวมในปัจจุบัน สามารถยืนยันได้ว่า โลกหยวนหยางแต่ละแห่งล้วนมีความต้องการในการปล้นชิงอย่างรุนแรง และยังมีแก๊งปล้นชิงที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน พวกเขาจะปล้นชิงทุกสิ่งที่พบจากโลกหยวนหยางที่อ่อนแอ]

คำเตือนนี้ไม่ได้ทำให้เหวินผิงประหลาดใจนัก เพราะโลกนี้เดิมทีก็เป็นโลกของผู้แข็งแกร่งอยู่รอดอยู่แล้ว เพียงแต่นอกช่องเขาเฉาเทียนดูเหมือนจะโหดร้ายกว่ามาก

ช่องเขาเฉาเทียนเองก็ไม่ได้รอดพ้นจากหายนะเช่นนี้ เมื่อครั้งที่ศาลาจรัสผกายซึ่งเคยปกครองช่องเขาเฉาเทียนถูกทำลายล้างในหายนะเช่นเดียวกัน

เหวินผิงเอ่ยถามทันที [ระบบ มีข้อมูลรายละเอียดของฉีหยุนเทียนและโลกหยวนหยางรอบ ๆ หรือไม่?]

เหวินผิงคาดการณ์ว่าหากสวรรค์ไร้ใจทำลายค่ายกลปิดบังช่องเขาเฉาเทียน ช่องเขาเฉาเทียนน่าจะถูกค้นพบโดยฉีหยุนเทียนซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่คนอื่นจะค้นพบก่อน แต่ความเป็นไปได้นี้ย่อมน้อยกว่า

ระบบตอบสนอง [มี]

“เริ่มจากข้อมูลของฉีหยุนเทียนก่อน มีผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงขึ้นไปกี่คน?”

[ตรวจพบว่าภายในฉีหยุนเทียนมีผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูง 756 คน ระดับกึ่งหยวนหยาง 111 คน และหยวนหยางแท้จริงเพียงหนึ่งคน]

“ใคร?”

[จ้าวแห่งฉีหยุนเทียน หยุนฉี]

เมื่อทราบว่าภายในฉีหยุนเทียนมีผู้ฝึกตนระดับหยวนหยางอยู่ เหวินผิงก็เข้าสู่ภวังค์ความคิด เพราะแม้ฉีหยุนเทียนจะมีผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงมากกว่าช่องเขาเฉาเทียนสิบเท่า และระดับกึ่งหยวนหยางมากกว่าสิบเท่า แต่เขายังไม่รู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงมากนัก

อย่างไรก็ตาม การที่ฉีหยุนเทียนมีผู้ฝึกตนระดับหยวนหยางนั้นแตกต่างออกไป ค่ายกลป้องกันนภาสวรรค์ที่เพิ่งสร้างขึ้นสามารถต้านทานการโจมตีจากผู้ฝึกตนระดับหยวนหยางได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น หากค่ายกลป้องกันถูกทำลายลง เหล่าผู้ฝึกตนระดับสูงและระดับกึ่งหยวนหยางที่กรูกันเข้ามาจะนำหายนะครั้งใหญ่

“ดูเหมือนว่าตราบใดที่ยังไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างปิดบังระดับโลกาได้ ข้าคงยังไม่อาจลงมือกับสวรรค์ไร้ใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาโต้กลับจนทุกสิ่งพินาศ”

หลังจากพึมพำ เหวินผิงจึงเอ่ยถามต่อ “เช่นนั้นโลกหยวนหยางอื่น ๆ รอบ ๆ เป็นเช่นไร?”

[จากหนึ่งร้อยโลกหยวนหยางระดับหกดาวรอบช่องเขาเฉาเทียน มีสิบเจ็ดโลกหยวนหยางที่มีจ้าวปกครอง หรือก็คือมีผู้ฝึกตนระดับหยวนหยางอยู่]

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหวินผิงก็สังเกตเห็นจุดสำคัญที่น่าประหลาดใจและกล่าวกับตนเอง “ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทุกโลกหยวนหยางจะมีผู้ฝึกตนระดับหยวนหยางประจำอยู่”

[ใช่แล้ว แม้ว่าโลกหยวนหยางจะถูกสร้างขึ้นโดยผู้ฝึกตนระดับหยวนหยาง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกโลกจะมีผู้ฝึกตนระดับนี้ประจำอยู่ ทว่าโลกหยวนหยางที่ไม่มีผู้ฝึกตนระดับหยวนหยางมักจะตกเป็นเป้าหมายของการปล้นชิง จากข้อมูลที่รวบรวมมา มีแปดสิบสามโลกหยวนหยางที่ไม่มีจ้าวปกครอง โดยในจำนวนนี้หกสิบโลกหยวนหยางถูกปล้นชิงอย่างต่อเนื่อง ผู้ฝึกตนระดับกึ่งหยวนหยางและระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงถูกสังหารจนหมด ผู้ที่เหลืออยู่ทำได้เพียงเอาชีวิตรอดอย่างลำบาก บางโลกหยวนหยางถูกปล้นจนสิ้นเนื้อประดาตัว และผู้ฝึกตนที่เหลืออยู่ถูกจับไปเป็นสินค้าเพื่อขายหรือใช้ประโยชน์อื่น ๆ]

“โหดร้ายถึงเพียงนี้?” แม้ว่าเหวินผิงจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เขาก็ยังคงตกตะลึงกับความโหดร้ายนอกช่องเขาเฉาเทียน

ในตอนนี้ เหวินผิงรู้สึกว่าหายนะที่ช่องเขาเฉาเทียนประสบเมื่อหลายร้อยปีก่อนนั้นยังถือว่าโชคดีเมื่อเทียบกับสิ่งที่โลกหยวนหยางเหล่านี้ต้องเผชิญ

แม้ว่าช่องเขาเฉาเทียนจะล่มสลายและซบเซามานานหลายร้อยปี แต่ก็ยังดีกว่าการถูกปล้นชิงและกดขี่อย่างต่อเนื่อง

“เช่นนี้ข้าคงต้องหลบซ่อนตัวไปก่อนใช่หรือไม่?”

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของสำนักอมตะ หากช่องเขาเฉาเทียนถูกเปิดเผยต่อสายตาของเหล่าผู้ปล้นชิง โลกหยวนหยางที่เพิ่งผ่านศึกใหญ่มาย่อมตกเป็นเหยื่อได้ง่าย สำนักอมตะของเขาอาจสามารถต้านทานได้ในระยะสั้น แต่ไม่อาจทนอยู่ได้ตลอดไป และหากตกเป็นเป้าหมายของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยาง สำนักก็จะตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง เพราะค่ายกลป้องกันในปัจจุบันไม่สามารถต้านทานการโจมตีระดับนั้นได้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เหวินผิงก็ถอนหายใจ “เดิมทีศาลาจื่อฉีถูกขยาย ข้าคิดว่าในอนาคตค่าชื่อเสียงจะไม่ขาดแคลน ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะยิ่งจนกว่าเดิมเสียอีก”

ถึงแม้ว่าในตอนนี้เหวินผิงจะยังไม่พร้อม แต่เขาก็ยังมีเวลาในการสะสมค่าชื่อเสียง ตราบใดที่สวรรค์ไร้ใจยังไม่คลุ้มคลั่งและค่ายกลปิดบังช่องเขาเฉาเทียนยังทำงานอยู่ ช่องเขาเฉาเทียน สำนักอมตะ และตัวเขาเองก็ยังปลอดภัย

หลังจากนั้น เหวินผิงก็เริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่นอกช่องเขาเฉาเทียนและโลกหยวนหยางรอบ ๆ อย่างลึกซึ้ง เมื่อทราบข้อมูล เขาก็เปิดหน้าต่างระบบเพื่อค้นหาสิ่งปลูกสร้าง

สิ่งปลูกสร้างปิดบังระดับโลกา

“หากสามารถหลบได้ ข้าก็ควรหลบ”

เพียงแค่หลบซ่อนจนกว่าจะทะลวงสู่ระดับหยวนหยาง โลกหยวนหยางของช่องเขาเฉาเทียนก็จะปลอดภัยไปได้ชั่วคราว อย่างน้อยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโลกหยวนหยางที่ไม่มีจ้าวปกครอง

หลังจากค้นหาอย่างละเอียด เหวินผิงพบสิ่งปลูกสร้างปิดบังระดับโลกาสามรายการ แต่ราคาการก่อสร้างในตอนนี้ล้วนสูงเกินกำลังของเขาไปมาก

สิ่งปลูกสร้างที่ถูกที่สุดต้องใช้ค่าชื่อเสียงหนึ่งล้าน

【หอปิดฟ้า】

【ระดับ: สิ่งปลูกสร้างปิดบังอำพรางระดับโลกา】

【ราคาการก่อสร้าง: ค่าชื่อเสียงหนึ่งล้าน】

【ผลลัพธ์: บดบังการตรวจจับระยะไกลทุกชนิด】

“บดบังการตรวจจับระยะไกลเท่านั้น แล้วการตรวจจับระยะใกล้เล่า?”

ระบบตอบสนองทันที [หากมีผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงขึ้นไปปรากฏตัวภายในระยะหนึ่งแสนลี้จากช่องเขาเฉาเทียน หอปิดฟ้าจะไร้ผลทันที]

“ก็ดีกว่าไม่มีเลย” เหวินผิงรู้ดีว่าหอปิดฟ้าไม่สมบูรณ์แบบ แต่ในตอนนี้เขายังห่างไกลจากการทะลวงสู่ระดับหยวนหยางมาก จะพึ่งพาค่ายกลปิดบังของสวรรค์ไร้ใจไปตลอดย่อมไม่ได้

นอกจากนี้ ช่องเขาเฉาเทียนตั้งอยู่ที่มุมของแผนที่ โอกาสที่ใครจะผ่านมาถึงนั้นก็น้อยมาก เว้นเสียแต่จะมีใครว่างมากจนเดินทางมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล

“เดี๋ยวก่อน!” เหวินผิงหยุดคิด เขาเริ่มตระหนักถึงปัญหา

เขาไม่เคยตรวจสอบว่า ค่ายกลปิดบังของสวรรค์ไร้ใจมีประสิทธิภาพเพียงใด และในตอนนี้ หลังจากผ่านไปหลายร้อยปี สภาพของมันยังดีอยู่หรือไม่

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เพราะไม่ทราบถึงความโหดร้ายของโลกนอกช่องเขาเฉาเทียน และยังไม่ได้ปลดล็อกฟังก์ชันสิ่งปลูกสร้างระดับโลกา แต่เมื่อทราบข้อมูลในตอนนี้ เขาก็เริ่มกังวลว่าค่ายกลปิดบังอาจเสื่อมสภาพลงมากแล้ว

“ระบบ!” เหวินผิงเรียก

ระบบตอบสนองทันที [ไม่มีข้อมูลใดๆ ระบบไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดหรือสถานะได้ เว้นเสียแต่ว่าโฮสต์จะเข้าไปตรวจสอบใกล้ ๆ ด้วยตนเอง]

“คงไม่เป็นเช่นนั้นกระมัง” เหวินผิงพึมพำกับตัวเอง “นี่ไม่ใช่นิยาย จะมีอะไรบังเอิญเช่นนั้นได้?”

เขาพยายามสงบใจ และเชื่อว่าในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่เขาจำเป็นต้องสะสมค่าชื่อเสียงให้ครบหนึ่งล้านเพื่อสร้างหอปิดฟ้า คงไม่มีเรื่องเลวร้ายใดเกิดขึ้น

หลังจากปิดหน้าต่างระบบ เหวินผิงกลับไปหลอมรวมพลังหยวนหยางต่อ โดยไม่เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว ขณะเดียวกันก็คอยเฝ้ารอค่ายกลป้องกันนภาสวรรค์ที่กำลังสร้างให้เสร็จสิ้น

...

...

...

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเพียงสามวัน ภายใต้การนำของผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงเจ็ดถึงแปดคน กองทัพหอปกฟ้าก็บุกคืบหน้าไปได้วันละพันลี้

ผู้ที่ต่อต้านล้วนถูกสังหาร ยอดฝีมือระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตที่ล้มลงใต้ฝ่าเท้ากองทัพหอปกฟ้ามีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ความตั้งใจที่จะต่อต้านของผู้คนก็ยิ่งลดน้อยลง

แม้จะไม่เต็มใจ แต่พวกเขาจำต้องละทิ้งบ้านเกิดและถอยลึกเข้าสู่เขตแดนกลางอันศักดิ์สิทธิ์

เมื่อขุมกำลังเริ่มถอนตัวมากขึ้น วงจรอุบาทว์ก็เริ่มขึ้น ผู้ที่เต็มใจต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น หอปกฟ้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงเข้าร่วมมากมาย ในขณะที่อาณาจักรเกิ้นมีเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนหยัดป้องกัน

ในที่สุด ซือไห่เสียนจึงสั่งให้สร้างแนวป้องกันที่พรมแดนระหว่างเขตเป๋ยเจ๋อและเขตแดนกลางอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งสั่งการให้กองทัพเสิ่นโหยวที่เหลืออยู่ในเขตเป๋ยเจ๋อถอยกลับเข้าสู่เขตแดนกลาง เพื่อลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น

เนื่องจากสงครามเพิ่งเริ่มต้น การสูญเสียแผ่นดินอาจหาโอกาสทวงคืนได้ในอนาคต แต่หากกองทัพเสิ่นโหยวเสียกำลังพลชั้นยอดมากเกินไป การต่อสู้ในอนาคตจะยิ่งลำบากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนั้น ซือไห่เสียนได้สั่งย้ายค่ายใหญ่ไปยังชายแดนระหว่างเขตเป๋ยเจ๋อและเขตแดนกลางอันศักดิ์สิทธิ์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นว่าจะสู้จนถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบัน ทุกคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลต่างมองออกว่า ตราบใดที่สำนักอมตะยังไม่ออกโรง กองทัพหอปกฟ้าก็ยากจะหยุดยั้ง

แม้แต่ซือไห่เสียนเพียงคนเดียวก็ไม่อาจทำอะไรได้ แม้เพิ่มซือไห่เสียนอีกสิบคนก็ไร้ประโยชน์

ในเวลาเดียวกัน เว่ยเฉิงซิงอวี่ที่พักฟื้นในเขตหอพักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ได้ลืมตาขึ้นพร้อมพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม จากนั้นรีบหยิบหินส่งเสียงออกมา

“ผู้อาวุโสเฉิน ช่วยข้าตามหาคนคนหนึ่ง ข้าต้องการทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี”

เวลานี้สำนักอมตะกำลังยุ่งมาก เฉินเซี่ยในฐานะเจ้าหอจิ้นจือย่อมมีภารกิจมากมาย ดังนั้น เว่ยเฉิงซิงอวี่ไม่อยากรบกวนมากนักด้วยการขอให้ช่วยหาของที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลและผลลัพธ์

เฉินเซี่ยถามกลับ “รักษาแผลหายแล้วหรือ?”

“อืม”

“แน่ใจหรือ?”

“ข้าแน่ใจ!”

“ข้าไม่เชื่อ เว้นเสียแต่เจ้าจะมาหาข้าด้วยตัวเองที่หอจิ้นจือ ให้ข้าตรวจดูสักหน่อย เจ้าน่ะเหมือนสมบัติของสำนักเรา หากเกิดอะไรขึ้น เจ้าสำนักคงเสียใจแย่” เฉินเซี่ยกล่าวต่อ “รีบมาที่นี่ ข้าก็มีเรื่องต้องการให้เจ้าช่วยดูดวงชะตาให้ด้วย ว่าจะดีหรือร้าย”

“แน่ใจหรือ?”

“แน่ใจ!”

หลังพูดจบ เฉินเซี่ยก็ปิดการติดต่อผ่านหินส่งเสียงไปทันที จากนั้นเขาพึมพำกับตัวเองว่า “จะดวงชะตามหามงคลหรือหายนะใหญ่ก็เถอะ หากเจ้าบอกว่าดวงดี ข้าก็จะมองว่าคือหายนะใหญ่ และหากเจ้าบอกว่าคือหายนะใหญ่ ข้าก็จะถือว่าเป็นดวงมงคลอันยิ่งใหญ่!”

เมื่อเว่ยเฉิงซิงอวี่มาถึงหอจิ้นจือ เฉินเซี่ยก็มองสำรวจเขาขึ้นลงหลายรอบ จนมั่นใจว่าร่างกายไม่มีปัญหาใด ๆ แล้วจึงเอ่ยถาม

“เจ้าเป็นคนฆ่าเจิงฉีหรือ?”

“อืม เขาเป็นหนึ่งในนั้น”

“ข้ารู้ ตอนที่เจ้าจะเข้าสู่เขตต้องห้ามสุดท้าย เจ้าส่งรายชื่อมาให้ข้าก็มีชื่อเขาด้วย ข้าอยากรู้ว่าเจ้าฆ่าเขาด้วยวิธีใด เคล็ดวิชาโชคชะตาหรือ?”

“คำสาป มันต่างจากเคล็ดวิชาโชคชะตา เคล็ดวิชาโชคชะตาใช้ช่วยชีวิต ส่วนคำสาปใช้เพื่อฆ่า”

“คำสาป…สังหารโดยไร้ร่องรอย!” เฉินเซี่ยพึมพำสองครั้ง ดวงตาสว่างวาบ ก่อนเปลี่ยนคำเรียกเป็น “พี่เว่ย เจ้าคือคนที่หอจิ้นจือของเราต้องการ มาเถิด ช่วยข้า ข้าจะช่วยเจ้าล้างแค้น กำจัดพวกที่ทำร้ายเจ้าและบุตรสาวของเจ้าให้สิ้นซาก”

หอจิ้นจือมักทำงานอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร หากหอจิ้นจือลงมือ ย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ

หากตามหาไม่พบ นั่นแสดงว่าฝ่ายตรงข้ามไร้ความสามารถ

แต่ก็ยังมีผู้ที่เก่งกาจพอจะค้นพบว่าเหตุการณ์นั้นเป็นฝีมือของหอจิ้นจือ ทำให้เฉินเซี่ยต้องกำจัดผู้เกี่ยวข้องทุกครั้ง แต่การส่งคนไปกำจัดนั้นเพิ่มความเสี่ยงที่ร่องรอยจะถูกพบเจอ หากไม่ใช่คนที่ไว้วางใจได้อย่างแท้จริง การหลีกเลี่ยงการเปิดเผยก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

จากนั้น เฉินเซี่ยไม่เปิดโอกาสให้เว่ยเฉิงซิงอวี่ปฏิเสธ รีบกล่าวว่า “ต่อไปเจ้าต้องการฆ่าใคร บอกข้ามาในรายชื่อที่เจ้าให้ไว้ ยกเว้นระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงและกึ่งหยวนหยาง คนอื่น ๆ ข้าส่งเงามืดไปติดตามไว้หมดแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่หายไป หากเจ้าอยากรู้ตำแหน่งใคร ข้าสามารถบอกได้ทันที”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เว่ยเฉิงซิงอวี่ชะงักไปชั่วขณะ เพราะในตอนแรกที่เขามอบบัญชีขาวที่คัดลอกไว้ให้เฉินเซี่ย เขาเพียงต้องการให้เฉินเซี่ยช่วยตรวจสอบข้อมูลของบุคคลเหล่านั้นเท่านั้น

เพียงแค่นั้นจริง ๆ

ไม่คาดคิดว่าเฉินเซี่ยจะช่วยติดตามทุกคนในบัญชีนี้

“ดี หากมีอะไรที่ต้องการให้ข้าช่วย เจ้าบอกมาได้เลย” เว่ยเฉิงซิงอวี่ไม่ใช่คนที่ลืมบุญคุณ ใครทำดีกับเขา เขาย่อมตอบแทน

เฉินเซี่ยยินดียิ่งนัก “พี่เว่ย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าคือสหายของข้า! อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องใดที่ต้องการให้เจ้าช่วย แต่เมื่อถึงเวลาข้าจะบอกแน่นอน ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนคือช่วยข้าดูดวงชะตาหน่อยว่าการวางแผนบุกรุกของหอจิ้นจือในครั้งต่อไปจะสำเร็จหรือไม่?”

หอปกฟ้ากำลังรุกรานอาณาจักรเกิ้นอย่างใหญ่หลวง นี่เป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับหอจิ้นจือในการแทรกแซง แต่ครั้งนี้เฉินเซี่ยไม่ต้องการใช้วิธีโจมตีอย่างโจ่งแจ้ง เพราะสวรรค์ไร้ใจและน่าหลานมู่หงร่วมมือกันแล้ว

ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้วิธีลอบเร้น เช่นการลอบสังหาร แน่นอน เขาไม่ได้วางแผนจะสังหารผู้นำของขุมกำลังหกดาวทุกคน แต่เพียงบางส่วนเท่านั้น

อธิบายง่าย ๆ คือฆ่าครึ่งหนึ่งและปล่อยอีกครึ่งหนึ่งเพื่อทำให้กองหลังของหอปกฟ้าวุ่นวาย แผนการที่เขาวางไว้รอบคอบมาก แต่แผนก็ไม่อาจเหนือกว่าการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ดังนั้นเขาจึงต้องการเคล็ดวิชาโชคชะตามาช่วยทำนาย

เว่ยเฉิงซิงอวี่ไม่ปฏิเสธ เพราะเมื่อเฉินเซี่ยเชื่อในตัวเขา เขาก็พร้อมช่วย

ไม่นานนัก ดวงชะตาก็ถูกกำหนด

หายนะใหญ่!

“หายนะใหญ่ พี่เฉิน เกรงว่าท่านต้องระวัง...” เว่ยเฉิงซิงอวี่พยายามจะเตือนสองสามคำ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นเฉินเซี่ยยิ้มอย่างเบิกบาน

“ฮ่าฮ่าฮ่า…พี่เว่ย ขอบคุณมาก!”

หายนะใหญ่…มั่นคงแล้ว!

เมื่อเว่ยเฉิงซิงอวี่ได้สติ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในทันที

นี่มองข้าเป็นอะไร?

ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูด เฉินเซี่ยก็แย่งพูดก่อนว่า “พี่เว่ย บอกข้ามาเถิด เจ้าต้องการฆ่าใคร ข้าจะบอกตำแหน่งของเขาให้เดี๋ยวนี้เลย”

“เฉินเซี่ย!”

“เฉินเซี่ยอะไร? เขาอยู่...”

รอยยิ้มของเฉินเซี่ยเริ่มจางหายไป

หลังจากนั้นไม่นาน เว่ยเฉิงซิงอวี่ก็เดินออกจากหอจิ้นจือด้วยใบหน้าบึ้งตึง และมุ่งตรงไปยังวงเวทย์เคลื่อนย้ายมิติ เพื่อเดินทางกลับไปยังสนามรบในเขตเป๋ยเจ๋อ

สองวันต่อมา ผู้ฝึกตนระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นกลาง เยว่หลง ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 108 ของรายนามสวรรค์แห่งหอปกฟ้า เสียชีวิตอย่างปริศนาในแนวหน้าของสงคราม แม้ว่าจะมียอดฝีมือระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตขั้นสูงสามคนอยู่ในเหตุการณ์ ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเยว่หลงได้

ข่าวการเสียชีวิตของเยว่หลงแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เกิดข่าวลือมากมายในสนามรบ เพราะการตายของเยว่หลงนั้นเกินกว่าจะเข้าใจได้

ความกลัวเริ่มก่อตัวในใจของยอดฝีมือระดับสวรรค์ไร้ขอบเขต เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการไม่รู้ว่าตนเองจะตายอย่างไร

จากเจิงฉี มาจนถึงเยว่หลง ใครจะรู้ว่าคนต่อไปอาจเป็นตัวเองหรือไม่?

(จบตอน)

.

.

.

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า!

ลงครบ 1300 ตอนแล้ว เหลืออีกสี่สิบกว่าตอนก็จะจบองก์สองของเรื่อง

องก์แรกคือทะเลสาบเทียนตี้

องก์สองคือช่องเขาเฉาเทียน

องก์สามคือโลกหยวนหยาง

หลังจากจบองก์สอง ผู้เขียนจีนได้หยุดพักเรื่องไว้เพื่อเขียนเรื่องใหม่ ดังนั้นอาจจะต้องรอกันยาว ๆ (ผู้แปลก็รอจนท้อ จนต้องมาแปลให้คนอื่นอ่านเพื่อให้นักอ่านทรมานไปด้วยกัน ฮิฮิ)

.

ขอย้ำอีกครั้ง

ตั้งแต่ตอนที่ 1201 - 1300 สามารถอ่านฟรีตลอดปีนี้จนถึงวันปีใหม่ และจะกลับมาติดเหรียญ 2 ม.ค. 2568

เรื่องที่สอง หลังลงครบ 1300 ตอนจะพักการลงตอนใหม่จนถึงหลังวันปีใหม่ (2 ม.ค. 2568) และจะกลับมาลงอีกครั้งตามปกติ

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด