ตอนที่แล้วบทที่ 591: เมจิคาบูร่าที่ฟื้นคืนชีพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 593: หลินเฉินปะทะเมจิคาบูร่า (ตอนต้น)

บทที่ 592: นับถอยหลังการปลดผนึก


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 592: นับถอยหลังการปลดผนึก

“โครโนอา นานแสนนานที่เราไม่ได้พบหน้ากัน เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือเปล่า? ตกใจล่ะสิที่เห็นข้าในสภาพนี้? ฮ่า ๆ ! หลังจากพลังชีวิตของข้าถูกผนึกไว้โดยทูตสวรรค์สูงสุด บัดนี้ข้าได้พลังกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว! อีกไม่นาน ข้าจะชำระแค้นกับพวกมันให้สาสม!”

“ในฐานะไคโอชินแห่งกาลเวลา เจ้าจะเลือกเส้นทางใด? จะยอมศิโรราบ สวามิภักดิ์ต่อข้า ร่วมมือกับข้า หรือจะยืนเคียงข้างทูตสวรรค์สูงสุด แล้วถูกข้าปลิดชีพลง?!”

“เมจิคาบูร่า!”

เมื่อได้ยินถ้อยคำข่มขู่ของเมจิคาบูร่า โครโนอาตวาดก้อง “ฉันไม่มีวันยอมศิโรราบให้กับแกเด็ดขาด! ตรงกันข้าม ในฐานะไคโอชินแห่งกาลเวลา ฉันจะลงทัณฑ์พวกแก เหล่าปีศาจจากดินแดนทมิฬที่บังอาจมารบกวนเส้นเวลาอันศักดิ์สิทธิ์!”

“ฮ่า ๆ ! ลงโทษพวกเราเหรอ? แค่พวกเจ้าเนี่ยนะ?”

สายตาของเมจิคาบูร่าจ้องเขม็งไปยังทั้งสาม กล้ามเนื้อทั่วร่างปูดโปนขึ้นอย่างน่าสะพรึง ขณะที่พลังอำนาจมหาศาลเริ่มก่อตัวขึ้นรอบกาย

สำหรับหลินเฉิน พลังของเมจิคาบูร่าดูเหมือนจะเทียบเท่ากับพลังของทูตสวรรค์สูงสุดถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านอกจากเทพเจ้ามังกรซารามะแล้ว เมจิคาบูร่าคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญหน้ามาตลอดชีวิต

หลินเฉินประเมินสถานการณ์เบื้องหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตระหนักถึงความยากลำบากของสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ

แม้พลังในตอนนี้จะก้าวล้ำถึงขั้นเทพเจ้าที่แท้จริงแล้ว แต่เขาก็ยังคงด้อยกว่าเมจิคาบูร่าอยู่เล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซารามะเลย

อย่างไรก็ตาม บางสิ่งบางอย่างก็ต้องลงมือทำ แม้พลังจะยังไม่เพียงพอก็ตาม

ณ บัดนั้น หลินเฉินก็ได้ยินเสียงของมิสเตอร์โปโป้ดังขึ้น

แม้มิสเตอร์โปโป้ไม่ได้เอื้อนเอ่ย แต่เสียงนั้นกลับก้องกังวานอยู่ในห้วงความคิดของหลินเฉิน

“หลินเฉิน ผมต้องไปหยุดซารามะ ผมฝากเมจิคาบูร่าไว้กับคุณและโครโนอาด้วย”

“มิสเตอร์โปโป้ เชิญคุณไปเถอะ ผมจะไม่ยอมให้เมจิคาบูร่ารบกวนคุณแน่”

ถัดมา มิสเตอร์โปโป้ก็พุ่งตัวออกไปทันที

ความเร็วของเขาระเบิดออก พุ่งตรงไปยังซารามะ ผู้ซึ่งอยู่ภายใต้อาณัติของเทพเจ้ามังกรแห่งความมืด

เมื่อเห็นดังนั้น เมจิคาบูร่าก็พุ่งตัวเข้าขัดขวางโดยสัญชาตญาณ

คลื่นพลังงานสีดำพุ่งออกไป แต่หลินเฉินสกัดมันไว้กลางคัน สะบัดมือเบี่ยงเบนพลังงานนั้นออกไป

“เหอะ ๆ จะถ่วงเวลาอย่างนั้นเหรอ? ได้! ข้ากลับเป็นหนุ่มได้แล้ว ชะตากรรมของซารามะจะเป็นเช่นไร ข้าไม่สนใจอีกต่อไป” เมจิคาบูร่าไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ยอมเลิกขัดขวางมิสเตอร์โปโป้ในทันที เพียงแค่มองตามร่างที่พุ่งตรงไปหาซารามะ

จากนั้นก็หันกลับมาหาหลินเฉินพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก “มันจะไปหาซารามะ ข้าอนุญาต แต่เจ้า...ข้าไม่ปล่อยไปแน่”

เมจิคาบูร่ายิ้มเยาะเย้ย ดวงตาฉายแวววาวโรจน์ขึ้นในฉับพลัน

ชั่วพริบตา ความมืดมิดก็แผ่ปกคลุมพื้นที่โดยรอบ กลืนกินร่างของโครโนอาและหลินเฉินเข้าไปด้วย

เมื่อหลินเฉินและคนอื่น ๆ รู้สึกตัวอีกครั้ง พวกเขาก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดสนิท พื้นที่รอบกายถูกปิดตายโดยสมบูรณ์แล้ว

หลินเฉินลองทดสอบดู แต่กลับพบว่ากฎเกณฑ์ของมิติใด ๆ ก็ใช้การไม่ได้ในสถานที่แห่งนี้

แม้แต่การเคลื่อนย้ายพริบตาก็ยังไร้ผล

“เขาไม่คิดจะให้โอกาสพวกเราหลบหนีเลย…” โครโนอา กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “หลินเฉิน เมจิคาบูร่าต้องการสังหารพวกเราให้สิ้นซาก ณ ที่แห่งนี้!”

“ใครจะเป็นฝ่ายสังหารใครยังไม่แน่นอน!” หลินเฉินตอบกลับอย่างเยือกเย็น

ในขณะเดียวกัน ด้านนอก มิสเตอร์โปโป้ก็มาถึงเทพเจ้ามังกรซารามะเสียที

ซารามะหันกลับมา มองมิสเตอร์โปโป้ช้า ๆ ก่อนจะแสยะยิ้มเยาะ “โปโป้ เจ้ามาสายไปเสียแล้ว ข้าได้ขอพรจากเทพเจ้ามังกรแห่งความมืดเรียบร้อย อีกไม่นานพันธนาการทั้งหมดก็จะถูกทำลาย!”

มิสเตอร์โปโป้มองซารามะและเทพเจ้ามังกรมืด ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวที่หาได้ยากยิ่ง

“ท่านซารามะ…”

ผ่านทางสายตาของโปโป้อีกตนในเส้นเวลาที่แตกต่าง มิสเตอร์โปโป้มองเห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่กำลังอุบัติขึ้นบนโลกมากมายในหลากหลายเส้นเวลาได้อย่างแจ่มชัด

ในเส้นเวลาเหล่านั้นที่ถูกพลังปาฏิหาริย์จากเทพเจ้ามังกรมืดรุกราน ท้องฟ้าของทุกโลกต่างแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทในฉับพลัน ราวกับยามอัญเชิญเทพเจ้ามังกร

และบนโลกเหล่านี้ แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงก็เริ่มปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ฐานของหอคอยคารินเบื้องล่างวังพระเจ้า

ในหลายเส้นเวลา หอคอยคารินอันสูงเสียดฟ้าพังทลายลงภายใต้แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอันร้ายกาจเหล่านั้น

หอคอยสูงใหญ่พังทลายลง เผยให้เห็นหลุมมหึมาไร้ก้นบึ้ง ณ ตำแหน่งเดิม

บนโลกใบหนึ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง พระเจ้าเดนเด้เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นหลุมที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน

“มิสเตอร์โปโป้ นั่นมันอะไรน่ะ? ทำไมถึงมีหลุมใหญ่ขนาดนั้นอยู่ใต้หอคอยคาริน?”

โปโป้ที่ยืนอยู่เคียงข้างพระเจ้าเดนเด้เหงื่อตกราวกับฝนไหลริน

แท้จริงแล้ว หลุมขนาดมหึมาใต้หอคอยคารินนั้นคือทางเข้าผนึกเทพเจ้ามังกรซารามะ!

หอคอยคารินที่เห็นอยู่นั้น แท้ที่จริงแล้วคือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อปกปิดทางเข้าผนึก

บัดนี้ เมื่อหอคอยคารินพังทลายลง ทางเข้าผนึกจึงเปิดออก เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการหลุดพ้นพันธนาการของเทพเจ้ามังกรซารามะ

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปในอดีตกาล เทพมังกรซารามะถูกจองจำไว้ในห้วงเวลาแตกต่างกันนับร้อยนับพัน

การทำลายผนึกเพียงหนึ่งเดียวไม่อาจปลดปล่อยซารามะให้คืนชีพได้ ฉะนั้นสถานที่ผนึกจึงยังคงเงียบสงบไร้การเคลื่อนไหวใด ๆ

แต่โปโป้รู้ดี หากพวกเขาไม่ยับยั้งเรื่องนี้ไว้แต่โดยเร็ว เมื่อผนึกในทุกห้วงเวลาถูกเปิดออก ซารามะจะกลับมาอย่างเต็มกำลัง!

ณ อาณาจักรปีศาจทมิฬ

หลังจากร่างแยกของมิสเตอร์โปโป้ยืนยันสถานการณ์ปัจจุบัน เขากางแขนออก

“ท่านซารามะ เพื่อปกป้องผนึก ผมจำต้องขออภัยที่ต้องโจมตีท่านอีกครา!”

“โจมตีเหรอ? โปโป้ อย่าพูดเหลวไหลไปหน่อยเลย วันนี้ข้าเตรียมการมาอย่างดี พลังปาฏิหาริย์จากเทพมังกรแห่งรัตติกาลนี่เทียบเท่ากับพลังสูงสุดของข้าเลยนะ เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า!”

“ถึงจะไม่มีทางชนะ ผมก็ต้องหยุดท่านให้ได้!” มิสเตอร์โปโป้กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

สิ้นคำ มิสเตอร์โปโป้ก็ชี้นิ้วปลดปล่อยคลื่นพลังที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยพลังอำนาจมหาศาลพุ่งตรงไปยังเทพมังกรแห่งรัตติกาล

มิสเตอร์โปโป้มุ่งหมายจะปลิดชีพเทพมังกรแห่งความมืด!

ทว่า เมื่อเห็นการโจมตีของมิสเตอร์โปโป้ ใบหน้าของเทพมังกรแห่งรัตติกาลกลับบิดเบี้ยวเป็นรอยยิ้มเยาะหยันราวกับมนุษย์

ตูม! เสียงระเบิดดังกึกก้องสะท้านฟ้า ปกคลุมทั่วผืนนภา กลืนกินเทพมังกรแห่งรัตติกาลและซารามะไปในชั่วพริบตา

ผลลัพธ์จากความพยายามครั้งสุดท้ายของมิสเตอร์โปโป้ยังคงเป็นปริศนา

ในอีกฟากหนึ่ง หลินเฉินและโครโนอาก็กำลังเผชิญกับภยันตรายที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

“ท่านโครโนอา ฝากเมจิคาบูร่าไว้กับผมเอง!” หลินเฉินเอ่ยเสียงเข้ม

“ฉันก็สู้ได้เหมือนกัน หลินเฉิน ฉันจะสนับสนุนนายด้วยพลังแห่งกาลเวลา!” โครโนอาตอบรับ

หลินเฉินไม่ได้ปฏิเสธแม้แต่น้อย

การเผชิญหน้ากับจอมเวทผู้ทรงอำนาจแห่งอาณาจักรปีศาจทมิฬ เขาจำเป็นต้องระดมพลังทั้งหมดที่มี

หลังจากปรึกษาหารือกับโครโนอาแล้ว หลินเฉินจึงเบนสายตาคมกริบไปยังเมจิคาบูร่า

“พร้อมแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันเลย!”

เมจิคาบูร่ากล่าวด้วยท่วงท่าสง่างามราวกับมั่นใจในชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม

เสียงกล้ามเนื้อขยับหวืดดังก้องออกมาจากร่างกาย ตามมาด้วยเสียงกระดูกคอถูกบิดกร็อบ

พลังอำนาจมืดที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด