บทที่ 124 : ชัยชนะ!
บทที่ 124 : ชัยชนะ! (ตอนฟรี)
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซี่ยเหลียนก็ถอยหลังไปอีกก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากเซียวซิงหยู
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ, แต่ที่มากกว่านั้นคือความหวาดกลัวและหวั่นเกรง
“เดี๋ยวฉันจะซัดเธอให้กระเด็นเลย” คำพูดนี้ยังคงก้องอยู่ในหัวของเซี่ยเหลียน เเละมันทำให้จิตใจของเธอสั่นสะท้านอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ พี่ชายผู้เก่งกาจของเธอก็ได้พ่ายแพ้ให้กับเซียวซิงหยูไปเเล้ว…ดอกบัวเพลิงนรกสามดอกสามารถจัดการปีศาจเปลวเพลิงสีน้ำเงินที่อยู่ในร่างสัตว์ร้ายได้ในพริบตา
เซี่ยเหลียนรู้ดีว่าความสามารถของเธอยังห่างไกลจากพี่ชาย ถ้าแม้แต่พี่ชายยังแพ้ เธอก็ยิ่งไม่มีทางชนะเซียวซิงหยูได้เลย
“ฝ่ายรับคือเซียวซิงหยู จากวิทยาลัยชิงหลง”
“ฝ่ายบุกคือเซี่ยเหลียน จากวิทยาลัยจูเชว่”
“เริ่มการแข่งขันได้!”
กรรมการเป่านกหวีด เป็นสัญญาณเริ่มต้นการต่อสู้อีกครั้ง
เซี่ยเหลียนเปิดใช้ตราอสูร เเล้วเรียกนกยูงที่สง่างามออกมา
“อสูรที่เซี่ยเหลียนเรียกออกมาคือ นกยูงวารีคลั่ง…มันคืออสูรธาตุน้ำที่เธอใช้บ่อยที่สุดครับ” ผู้บรรยายเริ่มบรรยาย
“เเละอย่างที่ทุกคนทราบกันดี นกยูงวารีคลั่งมีความสามารถในการควบคุมธาตุน้ำที่แข็งแกร่งมาก…ส่วนหมาป่าปีศาจแห่งนรกของเซียวซิงหยูเป็นธาตุไฟ”
“อสูรธาตุน้ำมีข้อได้เปรียบเหนืออสูรธาตุไฟ นี่ถือเป็นข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของเซี่ยเหลียน”
ไม่ต้องเป็นถึงปรมาจารย์อสูร แม้แต่คนธรรมดาก็รู้ว่าน้ำสามารถเอาชนะไฟได้ตามกฎของธรรมชาติ
บนเวที เซียวซิงหยูยังคงยืนนิ่ง สีหน้าของเขาเรียบเฉยราวกับสายลมที่ไม่สนใจสิ่งใด
ส่วนหมาป่าปีศาจแห่งนรกก็ยังคงนั่งอยู่ข้างๆเซียวซิงหยู มันดูเฉยเมยเหมือนกับเจ้านายของมัน ไม่มีท่าทีว่าจะเปิดการโจมตีใส่อีกฝ่ายก่อนเลย
“ดูเหมือนว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ กลยุทธ์ของเซียวซิงหยูจะเป็นการรอให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเข้ามาก่อนนะครับ” ผู้บรรยายพูดติดตลก
การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่เซียวซิงหยูกลับไม่ขยับ เเละสถานการณ์นี้มันทำให้เซี่ยเหลียนที่ตึงเครียดอยู่แล้ว ยิ่งเครียดมากขึ้นไปอีกขั้น
“ทำไมหมอนี่ไม่บุกเข้ามาโจมตีเหมือนตอนสู้กับพี่ชายฉัน?”
“หรือว่าเขากลัวอิทธิพลของตระกูลเซี่ย เลยจะยอมแพ้เพื่อเอาใจฉัน?”
“ไม่หรอก! เมื่อกี้เขาพูดว่าจะซัดฉันให้กระเด็น เเถมน้ำเสียงเขาดูจริงจังมาก...”
เมื่ออยู่บนเวที การกระทำของฝ่ายที่แข็งแกร่ง ล้วนส่งผลต่อสภาวะจิตใจของฝ่ายที่อ่อนแอกว่า
เซี่ยเหลียนคือฝ่ายที่อ่อนกว่า แม้แต่การกระพริบตาหรือการเลิกคิ้วของเซียวซิงหยู ก็ทำให้เธอหวั่นไหวและตีความไปต่างๆนานาได้เลย
“ไม่! ฉันจะมัวเสียเวลแบบนี้ไม่ได้”
“ถึงจะแพ้ ฉันก็ต้องแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี”
“อสูรธาตุน้ำได้เปรียบธาตุไฟอยู่แล้ว ถ้าฉันสามารถต้านทานได้สามรอบ ฉันก็ถือว่าไม่ได้ทำให้ตระกูลเซี่ยและวิทยาลัยจูเชว่เสียหน้าเเล้ว”
เซี่ยเหลียนลดความคาดหวังของตัวเองลง เหลือเพียงแค่การยืนหยัดบนเวทีให้ได้นานที่สุดก็พอ
“ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายได้เผชิญหน้ากันมานานกว่าห้านาทีแล้ว…เเต่เซียวซิงหยูยังคงไม่เคลื่อนไหวเลย”
“แต่ดูจากสีหน้าของเซี่ยเหลียนแล้ว เหมือนเธอจะเริ่มทนไม่ไหวมากกว่า...”
“ผมทายถูกจริงๆด้วยครับท่านผู้ชม เซี่ยเหลียนเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนเเล้ว!” ผู้บรรยายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ณ เวลานี้…สายตาของผู้ชมทุกคนจับจ้องไปที่เซี่ยเหลียน
ดวงตาของเซี่ยเหลียนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นเธอก็ได้รวบรวมพลังวิญญาณอย่างเต็มที่
นกยูงวารีคลั่งส่งเสียงร้องแหลม กางปีกออก เเล้วสร้างกระแสน้ำที่รุนแรงพุ่งเข้าใส่หมาป่าปีศาจแห่งนรก
กระแสน้ำหมุนวนกลางอากาศ ราวกับน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสวรรค์
ทันใดนั้น เซียวซิงหยูที่หลับตาอยู่ ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“กรงเล็บเพลิงนรก”
หมาป่าปีศาจแห่งนรกที่ดูเฉยเมยในตอนแรก เปลี่ยนเป็นจริงจังในทันที มันยกกรงเล็บขวาขึ้น แล้วฟาดไปข้างหน้าอย่างรุนแรง
ฟูมมมมมม!!!!
กรงเล็บที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงนรก พร้อมกับพลังปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว ได้ฉีกกระชากม่านน้ำที่นกยูงวารีคลั่งสร้างขึ้นอย่างง่ายดาย
ฉัวะะะะะ!!!!
เสียงกรงเล็บฉีกเนื้อ ทำให้ผู้ชมโดยรอบรู้สึกขนลุก
ภาพจากกล้องจับไปที่นกยูงวารีคลั่งที่ร่วงลงสู่พื้น ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลฉีกขาดเป็นรอยกรงเล็บ เเละขนนกที่เปื้อนเลือดก็เริ่มปลิวว่อนไปทั่วสนาม
ฉากนี้ทำให้ผู้คนทั่วทั้งสนามเงียบกริบ
ผู้บรรยายนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“จัดการได้ด้วยการโจมตีเดียวเลยหรือ?”
“แค่การโจมตีเดียว ก็สามารถจัดการนกยูงวารีคลั่งได้อย่างง่ายดาย แถมยังไม่สนใจเรื่องการแพ้ทางธาตุอีก”
“เหลือเชื่อจริงๆ….นี่มันน่าเหลือเชื่อสุดๆไปเลยครับ!”
ณ เวลานี้…ผู้บรรยายแทบจะไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย
ต้องรู้ว่าในการต่อสู้ระหว่างเซียวซิงหยูกับเซี่ยเว่ยอันครั้งนี้มันเป็นเพียงยกที่สอง, ดังนั้นเซียวซิงหยูจึงยังไม่ได้รับยาฟื้นพลังเเละหมาป่าปีศาจแห่งนรกก็เสียพลังไปมาก
บวกกับเรื่องการแพ้ทางธาตุ นกยูงวารีคลั่งน่าจะสามารถต้านทานได้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองรอบ
แต่ ณ เวลานี้…เเค่กรงเล็บเพลิงนรกเพียงการโจมตีเดียว ก็สามารถจัดการอสูรที่เซี่ยเหลียนฝึกฝนมานานหลายปีได้
เซี่ยเหลียนยืนนิ่งอยู่บนเวที มองไปที่นกยูงวารีคลั่งที่นอนสลบอยู่บนพื้นเเละปากของเธอก็เริ่มสั่นเทา
“มะ...มันเป็นไปได้ยังไง”
“ฉัน...ฉันยืนหยัดไม่ได้แม้แต่รอบเดียว”
ฉากที่ดูเหมือนเสียสตินี้ทำให้ผู้บรรยายต้องเอ่ยเตือน “เซี่ยเหลียน ตามกฎของการแข่งขัน เธอยังสามารถเรียกอสูรตัวที่สองออกมาได้”
กฎของการแข่งขันรอบนี้ไม่ได้จำกัดจำนวนอสูรที่สามารถเรียกออกมาได้
อย่างไรก็ตาม, เซี่ยเหลียนยิ้มอย่างขมขื่นเเล้วตอบด้วยความสิ้นหวัง “ฉันยอมแพ้”
“จบการแข่งขัน”
“เซียวซิงหยู จากวิทยาลัยชิงหลง เป็นฝ่ายชนะ!” กรรมการเป่านกหวีดเเล้วประกาศผลทันที
ทันใดนั้น, เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามอีกครั้ง
ก่อนลงจากเวที เซี่ยเหลียนหันมองไปที่เซียวซิงหยูอีกรอบ
“เเกนี่มัน...เป็นตัวประหลาดจริงๆ”
ถึงแม้คำพูดนี้จะไม่ค่อยสุภาพนัก แต่มันก็เป็นคำนิยามที่เหมาะสมกับเซียวซิงหยูเเล้ว
เเละเซี่ยเหลียนก็รู้ว่าการยอมแพ้แม้จะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอขี้ขลาด
แต่ถ้าเธอเรียกอสูรตัวที่สองหรือตัวที่สามออกมา แล้วถูกเซียวซิงหยูจัดการได้ในการโจมตีเดียว เธอก็คงจะขายหน้ามากกว่านี้อีกมาก
……
“เชิญผู้ท้าชิงคนต่อไปขึ้นเวที!”
สิ้นเสียงกรรมการ ตงฟางฉิงก็ก้าวขึ้นเวทีด้วยท่าทางลังเล
นี่เป็นผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายของวิทยาลัยจูเชว่แล้ว
ดังนั้น, ใครที่สามารถชนะได้ในรอบนี้ ก็จะเป็นตัวแทนวิทยาลัยที่คว้าแชมป์การแข่งขันซูเปอร์โนว่า
แต่สำหรับผู้ชมแล้ว ผลการแข่งขันไม่ได้มีความน่าตื่นเต้นอีกต่อไปเเล้ว
ด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งที่เซียวซิงหยูแสดงให้เห็นในการเอาชนะเซี่ยเว่ยอันและจัดการเซี่ยเหลียนได้ในการโจมตีเดียว การเอาชนะตงฟางฉิงก็คงจะเป็นเรื่องง่ายๆ
แม้การแข่งขันนัดสุดท้ายจะยังไม่เริ่มขึ้น แต่ผู้ชมก็เริ่มตะโกนชื่อผู้ชนะอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เซียวซิงหยู!”
“เซียวซิงหยู!”
“เซียวซิงหยู!”
เสียงตะโกนของผู้ชมทำให้ตงฟางฉิงรู้สึกเหมือนอยู่ในนรก
ขาของเขาที่อ่อนแรงอยู่เเล้วยิ่งอ่อนเเรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ถึงจะชนะไม่ได้ เเต่ฉันก็ไม่ควรยอมแพ้ก่อนเริ่มการต่อสู้”
“เพื่อศักดิ์ศรีของวิทยาลัยจูเชว่ ฉันจะไม่ยอมแพ้!” ตงฟางฉิงพยายามปลุกใจตัวเอง
ปรี๊ดดด!!!
กรรมการเป่านกหวีด เป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน
ตงฟางฉิงกัดฟัน เปิดใช้ตราอสูร…เเล้วเรียกอสูรออกมาพร้อมกันสามตัว
จากตรงนี้ก็พอจะเดาได้ว่า ตงฟางฉิงไม่ได้หวังจะชนะ แต่เขาแค่อยากจะแพ้อย่างมีศักดิ์ศรีเท่านั้น
เเละเมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมือ, เซียวซิงหยูก็รวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างกาย
หมาป่าปีศาจแห่งนรกส่งเสียงคำรามลั่น ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกราะสุริยะ พลังปีศาจแผ่ออกมาพร้อมกับลมหายใจที่หนักหน่วง
ตงฟางฉิงตกใจสุดขีด เขาได้เห็นประตูสีดำที่ทำจากเปลวเพลิงปรากฏขึ้นด้านหลังหมาป่าปีศาจแห่งนรก
นี่คือประตูนรก และทันใดนั้นมันก็มีมือโครงกระดูกจำนวนมากยื่นออกมาจากประตู...
อย่างไรก็ตาม, แท้จริงแล้วทั้งหมดเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากพลังปีศาจเท่านั้น
ตุบ!
ตงฟางฉิงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พร้อมเหงื่อที่ไหลท่วมตัว
“ฉะ...ฉัน...”
ตงฟางฉิงพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ฉันยอมแพ้”
……………………