บทที่ 103: ภัยคุกคามต่อโลก

วินเทอร์เฟล

อาร์ยา ลูกสาวคนที่สามของเน็ด ลูกคนแรกจากภรรยาใหม่ของเขา เด็กหญิงวัย 7 ขวบ กำลังสำรวจอุโมงค์ฝังศพตระกูลสตาร์ค

จู่ๆ เธอได้ยินเสียงใครบางคนเรียก เธอเดินตามเสียงนั้นลงไปถึงชั้นล่างสุดของอุโมงค์ แล้วเดินไปยืนอยู่หน้ากำแพง

"แตะที่กำแพงสิ" มีเสียงกระซิบ

เธอกำลังจะแตะกำแพง แต่แบรนดอนห้ามเธอไว้ทัน

"อาร์ยา หนูกำลังทำอะไร?" เขาถาม

"คุณลุงคะ มีคนอยู่ข้างใน เขาขอให้หนูแตะกำแพง" เธอตอบอย่างไร้เดียงสา

แบรนดอนมองกำแพงและรู้สึกถึงความเย็น มุมนั้นทั้งมุมเย็นจัด

ฉันควรบอกปู่เรื่องนี้ เขาคิด

...

หลายชั่วโมงต่อมา อเล็กซานเดอร์มาที่วินเทอร์เฟลเพื่อตรวจสอบสิ่งที่แบรนดอนบอก เขาตรงไปที่ชั้นล่างสุดของอุโมงค์ เขาก็ได้ยินเสียงบอกให้แตะกำแพงเช่นกัน

ลองดูก็คงไม่เป็นไร เขาวางมือบนกำแพง

ทันใดนั้นกำแพงก็เรืองแสง อิฐค่อยๆ เคลื่อนออก เกิดเป็นประตูใหญ่

เขาเดินเข้าไปและเห็นทางเดินลงไปข้างล่าง ยิ่งเดินลึกลงไป บริเวณรอบข้างก็ยิ่งเย็น หลังจากจุดหนึ่ง ขั้นบันไดและกำแพงกลายเป็นน้ำแข็ง

ในที่สุดเขาก็พบตัวเองในห้องโถงใหญ่ ทั้งหมดทำจากน้ำแข็ง แม้ว่าที่นี่จะอยู่ลึกใต้ดินแต่กลับมีแสงสว่าง ตรงกลางห้องมีที่นั่งคล้ายบัลลังก์ มีร่างผู้หญิงนั่งอยู่

ทันใดนั้นอเล็กซานเดอร์รู้สึกเหมือนความทรงจำผุดขึ้นมาในหัว ความทรงจำที่ทำให้เขารู้สึกครบถ้วนสมบูรณ์อีกครั้ง

[ความทรงจำ]

7500 ปีก่อนคริสตกาล ยุคแห่งวีรบุรุษ

ผู้บัญชาการนักรบรัตติกาลคนที่ 13

500 ปีหลังจากสร้างกำแพง ผู้คนค่อยๆ เริ่มลืมราตรียาวนานที่ผ่านมา แบรนดอน สตาร์ค ผู้บัญชาการนักรบรัตติกาลคนที่ 13 พบหญิงสาวคนหนึ่งเหนือกำแพง ผิวของเธอขาวดั่งดวงจันทร์ ดวงตาเป็นประกายสีฟ้าดั่งดวงดาว

ผู้บัญชาการตกหลุมรักเธออย่างรวดเร็วและแต่งงานกัน มันเป็นความรักจริงๆ แต่สำหรับคนอื่นมันเป็นเรื่องต้องห้าม

ต่อมาผู้บัญชาการพาภรรยามาที่ปราสาทไนท์ฟอร์ต ซึ่งเป็นปราสาทหลักของนักรบรัตติกาลในตอนนั้น และประกาศตนเป็นราชาและให้เธอเป็นราชินีแห่งกำแพง

เขาปกครองเป็นเวลา 13 ปี เมื่อแบรนดอน เดอะ เบรกเกอร์ ราชาแห่งฤดูหนาว และโจรามุน ราชาเหนือกำแพง รู้เรื่อง พวกเขาจับมือกันและทำลายการปกครองของราชาแห่งรัตติกาล

แบรนดอน สตาร์ค ราชาแห่งรัตติกาล ถูกสังหาร ภายหลังพบว่าเขาถวายเด็กกำพร้าให้กับไวท์วอล์คเกอร์ แต่ความจริงแล้วเขาแค่ช่วยไวท์วอล์คเกอร์รักษาประชากรของพวกเขาเท่านั้น

เมื่อแบรนดอน เดอะ เบรกเกอร์ พบว่าราชินีแห่งรัตติกาลกำลังตั้งครรภ์ทายาทตระกูลสตาร์ค เขาแอบพาเธอมาที่วินเทอร์เฟลและซ่อนเธอในส่วนลึกสุดของอุโมงค์ ที่ซึ่งต่อมาเธอให้กำเนิดเด็กชายที่แข็งแรงและมีพลังวิเศษ เด็กชายเป็นวาร์กและทนความหนาวได้สูงมาก แบรนดอน เดอะ เบรกเกอร์ ตั้งชื่อเด็กว่าสตาร์คและเลี้ยงดูเขาเสมือนลูกชาย ราชินีแห่งรัตติกาลเห็นว่าการมีชีวิตอยู่ของตนไม่จำเป็นอีกต่อไป จึงขังตัวเองไว้ในอุโมงค์

ต่อมาแบรนดอน เดอะ เบรกเกอร์ สิ้นชีวิตโดยไม่มีทายาทที่แท้จริง ตำแหน่งราชาแห่งฤดูหนาวจึงตกเป็นของบุตรชายของราชาแห่งรัตติกาลและราชินีแห่งรัตติกาล เขาได้รับสมญาว่าแบรนดอน เดอะ โคลด์

ตระกูลสตาร์คในปัจจุบันทั้งหมดเป็นลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากการแต่งงานระหว่างสตาร์คกับมนุษย์น้ำแข็ง/ไวท์วอล์คเกอร์

[จบความทรงจำ]

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมตระกูลสตาร์คถึงทนความหนาวได้ดีนัก เขาพึมพำและเดินเข้าไปหาราชินีแห่งรัตติกาล

"ราชาเทพ" เธอรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง

"เธอเรียกหาผู้คนมาตลอด อยากออกไปข้างนอกหรือ?" เขาถาม

"ขอบคุณที่มา ไม่ค่ะ ข้าไม่ได้วางแผนจะออกไป แต่ข้ารู้สึกถึงเขา เขากำลังจะมาโจมตี ข้าไม่สามารถรู้สึกถึงผู้คนของข้าได้อีก โลกนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย ราชาเทพ" เธอรีบพูดด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

"ใจเย็นๆ ผู้คนของเธอปลอดภัยดี ฉันส่งพวกเขาไปยังที่ที่พวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างอิสระ ตอนนี้บอกฉันสิว่าใครกำลังจะมาโจมตี?" อเล็กซานเดอร์ถาม

"อาร์ฮัลลอร์และสมุนของเขา มีตำนานเล่าว่าพวกเราชาวมนุษย์น้ำแข็งและปีศาจไฟเหล่านั้นเคยทำสงครามกันครั้งหนึ่ง ในที่สุดพวกเราชนะ แต่ทำได้เพียงไล่พวกเขากลับไปยังดวงจันทร์แห่งไฟ จากนั้นท่านก็ทำลายดวงจันทร์นั้นเมื่อพวกเขาพยายามโจมตี พวกเราคิดว่าพวกเขาตายแล้ว แต่ไม่ใช่ ข้ารู้สึกได้ เขากำลังมาพร้อมกองทัพ" เธออธิบาย

"หืม... อาร์ฮัลลอร์เป็นมนุษย์หรือปีศาจ?" อเล็กซานเดอร์ถาม ตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าอาร์ฮัลลอร์เป็นปีศาจดั้งเดิมจากนรกหรือมนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจ

"เขาเป็นปีศาจ แม้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นมนุษย์ แต่หลังจากฝึกฝนเวทมนตร์มืดมานาน เขาก็กลายเป็นปีศาจ พี่ชายของข้า เฮกอร์ และข้าได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ท่านต้องทำอะไรสักอย่าง ราชาเทพ" เธอวิงวอน

"ข้าจะปกป้องโลก ลูกเอ๋ย ไม่ต้องกังวล เธอควรกลับไปหาเฮกอร์ เขาจะดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้ง" อเล็กซานเดอร์ส่งเธอไปยังฟรอสต์ไฮม์

ไม่แปลกใจเลยที่ความบริสุทธิ์ของโลกติดอยู่ที่ 70% มา 5 ปีแล้ว เขาคิด

"ด็อบบี้ เรียกประชุมสงคราม ระดับภัยคุกคามแร็กนาร็อก" อเล็กซานเดอร์ส่งข้อความ

...

ที่คิงส์แลนดิ้ง

ผู้รับผิดชอบหลักในการบริหารสหพันธ์ทั้งหมดมาอยู่พร้อมหน้า

"เอาละ ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่าอาร์ฮัลลอร์ เจ้าแห่งแสงสว่าง เป็นปีศาจและอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ที่ถูกทำลายบนท้องฟ้า เขาได้รวบรวมกองทัพปีศาจไฟด้วย

พวกเขาจะมาโจมตีอาณาจักร ข้าจะสู้กับพวกเขา แต่พวกเจ้าต้องรักษาการป้องกันทั้งหมดไว้ด้วย เราไม่รู้ว่าสมุนของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร พวกมันอาจเริ่มโจมตีโลกตอนที่ข้ากำลังต่อสู้กับผู้นำของพวกมัน แม้ว่าข้าจะพยายามจัดการพวกมันก่อนที่จะเริ่มต่อสู้กับอาร์ฮัลลอร์ก็ตาม บอกข่าวให้ผู้คนทั้งหมดอยู่ในบ้านของตน บอกพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะมา บอกพวกเขาว่าบิดาแห่งสรรพสิ่งจะช่วยพวกเขา" อเล็กซานเดอร์สรุปให้ผู้คนฟัง

"พวกเขาจะมาเมื่อไหร่ บิดาแห่งสรรพสิ่ง?" ทีเรียนถาม

"ข้าไม่รู้ นั่นคือเหตุผลที่ข้าจะไปสู้กับพวกเขาถึงที่ ด็อบบี้ เจ้าอยู่ที่นี่ช่วยได้ บอกเอลฟ์ทั้ง 1000 ตนให้พร้อมรบ ข้าจะออกเดินทางในอีกหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ไปได้" เขาสั่ง

ผู้คนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน เหลือเพียงอเล็กซานเดอร์ ด็อบบี้ และทีเรียน

"โชคดีครับ บอส" ด็อบบี้พูด

"ฮ่าๆ... เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีวันตาย ด็อบบี้ มาดูกันว่าอาร์ฮัลลอร์นี่มีอะไร ข้าเคยบอกเขาให้อยู่ห่างจากอาณาจักร แต่เขาไม่ฟังคำแนะนำของข้า ตอนนี้ข้าจะจัดการเขาเหมือนปีศาจตนอื่นๆ" เขาตอบ

"ข้าจะสวดภาว..." ทีเรียนหยุดกลางคัน

"อา... ท่านเป็นเทพ ข้าไม่รู้จะสวดภาวนาถึงใคร"

"ฮ่าๆ... ไม่เป็นไร ข้ามีพรทั้งหมดที่ข้าต้องการแล้ว ตอนนี้ข้าต้องไปบอกภรรยาสุดที่รักด้วย ไม่งั้นเธอจะโกรธ" อเล็กซานเดอร์พูดและปรากฏตัวที่หอแห่งความรู้ โอลิเวียได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกการศึกษาด้านสุขภาพ นอกจากนี้ เธอเป็นแพทย์ทหาร

"เฮ้ โอลิ ฉันต้องคุยกับเธอหน่อย เป็นเรื่องฉุกเฉิน" เขาลากเธอออกมาจากห้องเรียน

"เกิดอะไรขึ้นคะ ที่รัก?" เธอถาม

"เธอรู้ไหม มีปีศาจชื่ออาร์ฮัลลอร์และเขาได้รวบรวมกองทัพและต้องการโจมตีดาวดวงนี้ ดังนั้นฉันต้องไปที่ดวงจันทร์และต่อสู้กับเขาก่อนที่เขาจะมาที่นี่" เขาอธิบายให้เธอฟังด้วยคำพูดที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"... อะไรนะ?"

"อา มีคนร้า..."

"ฉันรู้ว่าคุณพูดอะไร อเล็กซ์ คุณจะปลอดภัยใช่ไหม?" เธอถามด้วยความกังวล

"ใช่ ที่รัก ฉันไม่มีวันตาย ตามตัวอักษรเลย" เขาให้ความมั่นใจเธอ

"งั้นฉันขอให้คุณโชคดี คุณต้องการให้ฉันช่วยที่ไหนไหม?" เธอถาม ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ได้ช่วยเธอเรียนรู้เวทมนตร์และพาเธอขึ้นถึงระดับจอมเวทสูงสุด

"ฉันไม่รู้ ด็อบบี้และเอลฟ์อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมนะ ฉันยังสร้างก็อดรอยด์เพิ่มและวางไว้ในแต่ละเมืองด้วย" เขาพูด

"ดี งั้นฉันจะอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมด้วย ไปเอาชนะเขาสิ ที่รัก" เธอต่อยอกเขา

อเล็กซานเดอร์ยิ้มกว้างและหายตัวไป

เขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและมองหาดวงจันทร์ที่ถูกระเบิด เขาโคจรรอบดาวเคราะห์และไม่พบอะไร จากนั้นเขาจึงขยายพื้นที่การค้นหา หลังจากค้นหาหลายชั่วโมง ในที่สุดเขาก็พบมันอยู่นอกวงโคจร เขาเห็นว่าส่วนใหญ่ของมันหายไป มีที่ว่างทรงกลมขนาดใหญ่อยู่ด้วยซึ่งเขาเดาว่าเคยเป็นแกนกลาง

เขาบินไปที่นั่นพร้อมชุดเกราะรบ เขาไม่รู้ว่าอาร์ฮัลลอร์แข็งแกร่งแค่ไหนจึงยังคงระวังตัว

เขาพบว่าไม่มีอะไรบนพื้นผิว มีอุโมงค์ขนาดใหญ่นำไปข้างใน ซึ่งอาจเป็นที่ที่งานเลี้ยงอยู่ เขาเข้าไปและเดินลึกลงไปเรื่อยๆ

ทุกๆ เมตรที่ผ่านไป เขารู้สึกถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น หลังจากเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เขาก็เห็นแสง เมื่อเขาไปถึงปลายทาง เขาเข้ามาในห้องโถงเพลิงขนาดมหึมา

ตรงกลางมีบัลลังก์ไฟที่อาร์ฮัลลอร์นั่งอยู่ รอบๆ เขามีปีศาจไฟยืนอยู่นับพันนับหมื่นตน

"ยินดีต้อนรับ บุตรแห่งพระเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา" อาร์ฮัลลอร์พูดด้วยเสียงปีศาจของเขา

"ข้าไม่ค่อยดีใจที่ได้เห็นเจ้า ข้าบอกให้เจ้าอยู่ห่างจากอาณาจักร บอกข้าสิ แผนใหญ่ของเจ้าคืออะไร?" เขาเย้ยหยัน

"แผนของข้าง่ายนัก เจ้ามีบางสิ่งที่เป็นของข้า มอบมันมาและข้าจะไม่ปล่อยกองทัพของข้าไปยังอาณาจักรมนุษย์ ปฏิเสธและทุกคนจะตาย" อาร์ฮัลลอร์ขู่

บึ้ม