บทที่ 840 ความคิด (ฟรี)
บทที่ 840 ความคิด
"ฮึ!" หนิงลี่โหย่วถอนหายใจด้วยความรู้สึกสับสน เมื่อได้ยินหนิงเสวียบอกว่ามีเงินใช้จ่าย 1,000 ล้าน
แน่นอนว่าหนิงเสวียฉลาดพอที่จะไม่บอกว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการพนัน เพียงแค่บอกว่ามีเงิน 1,000 ล้านให้ใช้จ่ายตามใจชอบ
1,000 ล้านเชียวนะ!
แม้ตระกูลหนิงจะมีทรัพย์สินรวมกันกว่าหมื่นล้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจต่างๆ เงินสดหมุนเวียนยังไม่ถึงพันล้านด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลหนิงไม่ได้มีแค่ครอบครัวเดียว แม้แต่ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวตัวเองก็ยังไม่มากขนาดนั้น
"ไม่นึกว่าบาร์ตจะใจกว้างขนาดนี้" หนิงลี่โหย่วเอ่ยขึ้น
หนิงเสวียพยักหน้า ในใจคิด: นี่มันเงินที่ฉันหามาเองทั้งนั้น แม้ว่าบาร์ตจะเป็นคนสั่งให้ทำก็เถอะ
คืนนั้นหนิงเสวียไม่ได้กลับไปที่เขตปกครองของบาร์ต ทุกคนต่างคิดไม่เหมือนกัน
ปรมาจารย์ดาบหนิงเมื่อรู้เรื่องนี้ก็ถอนหายใจ เรื่องมันเป็นไปแล้ว อีกอย่างตนก็สู้บาร์ตไม่ได้
แม้วิชาดาบของตนจะร้ายกาจ แต่ก็ไม่เร็วเท่าพลังพิเศษของอีกฝ่าย
ตอนนี้แค่ปวดหัวว่าจะซ่อมแซมความสัมพันธ์กับราชสำนักอย่างไร ในบ้านยังมีเด็กอายุใกล้เคียงกันอีกคน คือหนิงอวี่ แต่เจ้าหนูนั่นดื้อมาก ไม่ฟังคำผู้ใหญ่เลย
หยางป๋อตอนนี้สนใจเกมโลกที่สอง ที่จริงหยางป๋อหวังว่าจะเกิดความขัดแย้งใหญ่ในเกมโลกที่สอง จะได้ฝึกทักษะเพิ่มขึ้น
แน่นอนว่าหยางป๋อจะไม่ผลักดันเรื่องนี้โดยตรง เพราะมีคนคอยจับตาดูเกมโลกที่สองอยู่
เมืองกรีนยังคงจับกุมสายลับต่อไป และปิดเมืองอย่างเข้มงวด
ตอนนี้ในเมืองกรีนจับคนได้กว่า 200 คน รวมถึงขุนนาง 4 คน และสมาชิกแก๊งโจรที่แฝงตัว
นอกเมืองกรีนก็พบร่องรอยของสายสืบจากแก๊งโจร จากข้อมูลบ่งชี้ว่าสายลับที่จับได้ในเมืองบางคนเป็นทหารจากเมืองข้างเคียง
แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ เพราะการฝึกของทหารต่างจากแก๊งโจร โดยเฉพาะทหารส่วนใหญ่ใช้หอก
ส่วนคนของแก๊งโจรแทบไม่ใช้หอกเลย
บนยานที่มุ่งหน้าสู่ดาวเดอเวนของจักรวรรดิสุ่ยหลาน รองหัวหน้าหน่วยพิเศษหุ่นรบแห่งกองอัศวินองครักษ์ราชวงศ์ อากาเธ่ รู้สึกกดดันอย่างมาก
ก่อนที่บาร์ตจะแสดงคุณสมบัติของผู้แข็งแกร่งระดับสูงสุด อากาเธ่มั่นใจเต็มเปี่ยม
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ในฐานะผู้มีพลังพิเศษ เขาย่อมรู้ดีว่าการตอบสนองของคนระดับบาร์ตเร็วแค่ไหน
การตอบสนองของระบบประสาทและความเร็วในการเคลื่อนไหวของบาร์ตอยู่ในระดับน่าสะพรึงกลัว แค่ไม่แย่เกินไป การควบคุมหุ่นรบก็ง่ายดายสำหรับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น หลายสิ่งบ่งชี้ว่าบาร์ตเจ้าเล่ห์และเฉลียวฉลาด อาจจะแกล้งทำเป็นห่วยแตกเพื่อชนะพนันก็ได้
อากาเธ่ไม่ได้เป็นตัวแทนแค่ตัวเอง แต่ยังเป็นตัวแทนของสถาบันทหารราชวงศ์ กองพลพิเศษหุ่นรบแห่งกองอัศวินราชวงศ์ และอาจารย์ของเขา เฟิงเต๋อหวัง!
ถ้าแพ้ ยังต้องไปทำงานให้อีกฝ่ายอีก
อากาเธ่รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง ถ้ารู้แต่แรกก็คงไม่มายุ่งกับเรื่องยุ่งยากนี้
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นกรรมตามสนอง จุดประสงค์ที่อากาเธ่ท้าประลองกับบาร์ตไม่ได้บริสุทธิ์ใจนัก เพราะถ้าชนะบาร์ตได้ ผลประโยชน์จะมหาศาลเกินคาดคิด
ราชสำนัก ขุนนางใหม่ อาจารย์ของเขา ตัวเขาเอง รวมถึงในกองทัพ!
แค่ชนะบาร์ต สถานะของเขาในวงการนี้ก็จะพุ่งสูงขึ้นทันที
อากาเธ่อยู่ในสังคมมาหลายสิบปี ย่อมไม่มองความขัดแย้งระหว่างขุนนางเก่าใหม่แบบง่ายๆ เหมือนพวกคนหนุ่มสาว เพียงแต่อากาเธ่ไม่เพียงอยู่ฝ่ายราชสำนัก แต่ยังอยู่ในค่ายขุนนางใหม่ด้วย จึงหวังจะใช้โอกาสนี้สร้างชื่อ
แต่ตอนนี้เสียใจก็ไม่มีประโยชน์ มองท่าอากาศยานดาวเดอเวนที่ใกล้เข้ามาทุกที อากาเธ่ได้แต่ทำใจให้เข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะรองหัวหน้าหน่วยพิเศษหุ่นรบแห่งกองอัศวินราชวงศ์ สภาพจิตใจของเขาก็ยังดีอยู่
แต่คนในโลกออนไลน์ต่างตื่นเต้นกับการแสดงของบาร์ต ไม่รู้ว่าความสามารถในการขับหุ่นรบของบาร์ตจะแข็งแกร่งเหมือนพลังพิเศษของเขาหรือไม่
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่บาร์ตกับอากาเธ่ต้องแสดงหุ่นรบที่จะใช้ในการประลอง
หุ่นรบของบาร์ตเป็นหุ่นรบรุ่นที่ 13 ติดตั้งชุดจรวดขนาดเล็ก 24 กระบอก ปืนพลังงานแบบมาตรฐาน ระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้า 4 ลูก และอาวุธเย็นสำหรับหุ่นรบหนึ่งชิ้น!
หุ่นรบของอากาเธ่เป็นหุ่นรบรุ่นที่ 14 ภาคอากาศ นั่นหมายความว่ามีความสามารถในการบิน
ติดตั้งปืนเลเซอร์พิเศษสำหรับหุ่นรบหนึ่งกระบอก ปืนพลังงานขนาดเล็กสำหรับหุ่นรบหนึ่งกระบอก และอาวุธเย็นสำหรับหุ่นรบหนึ่งชิ้น
ทุกคนเห็นทันทีว่าอากาเธ่วางแผนจะใช้หุ่นรบเหมือนเครื่องบินรบ
แน่นอนว่าหุ่นรบไม่มีทางเร็วเท่าเครื่องบินรบ แต่การต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับหุ่นรบที่บินไม่ได้ก็ไม่มีปัญหามากนัก
อากาเธ่ติดตั้งปืนเลเซอร์พิเศษสำหรับหุ่นรบ จึงไม่สามารถติดตั้งอาวุธอื่นได้มากนัก
หุ่นรบแต่ละตัวมีข้อจำกัดในการบรรทุกน้ำหนัก น้ำหนักมากเกินไปจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของหุ่นรบ
โดยเฉพาะระบบควบคุมแรงโน้มถ่วงของหุ่นรบ ไม่อย่างนั้นสิ่งมหึมาหนักกว่า 100 ตันจะจมลงไปในพื้นดินทันที
ระบบควบคุมแรงโน้มถ่วงจะช่วยไม่ให้หุ่นรบจมดิน ทำให้หุ่นรบสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้
"ฉันว่าบาร์ตต้องแพ้แน่ๆ ครั้งนี้!"
"อากาเธ่เป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยพิเศษหุ่นรบแห่งกองอัศวินราชวงศ์ ฝีมือไม่ต้องพูดถึง ยิ่งครั้งนี้เลือกหุ่นรบภาคอากาศ สามารถกดดันหุ่นรบของบาร์ตได้!"
"ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกว่าบาร์ตคนนี้เจ้าเล่ห์มาก"
"คนเราไม่ได้เก่งไปหมดทุกด้าน พลังพิเศษของบาร์ตน่ากลัวจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าฝีมือขับหุ่นรบจะเก่งด้วย"
"ฉันก็คิดแบบเดียวกัน โดยเฉพาะในสงครามหุ่นรบ เมื่อเผชิญกับอาวุธและวิธีการรบที่แตกต่างกัน แต่ละแบบก็ต้องมีวิธีรับมือไม่เหมือนกัน อากาเธ่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ และต้องมีผลงานโดดเด่นแน่ ไม่งั้นคงเข้าไม่ถึงกองอัศวินองครักษ์ราชวงศ์"
"แต่ก็ไม่แน่นะ บาร์ตคนนี้เจ้าเล่ห์จะตาย ดูคราวก่อนสิ เล่นงานอัจฉริยะตระกูลอู๋จนแทบบ้า"
"อัจฉริยะตระกูลอู๋น่ะเหรอ? แค่เอาทรัพยากรมากองให้ เอาแค่ไม่ใช่หมูก็ทำธุรกิจได้ทั้งนั้น!"
"อัจฉริยะตระกูลอู๋ตายไปแล้ว ทำไมไม่มีเรื่องราวต่อ? นี่ไม่เหมือนสไตล์ขุนนางเก่าเลยนะ"
"ต้องมีเรื่องต่อแน่ ตระกูลฉันไม่เพียงเสียทายาทสายตรงที่เป็นอัจฉริยะ ยังเสียเงินไปตั้ง 120,000 ล้าน"
"ถึงบาร์ตจะบริจาคเงินให้สภาขุนนาง แต่ถ้าไม่มีหลักฐานถูกคนฆ่าก็แค่ตายไปแล้ว"
"จริงๆ แล้วในยุคอวกาศนี้ พลังส่วนบุคคลจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็สู้เทคโนโลยีไม่ได้ ดูบาร์ตสิ แม้จะแข็งแกร่งขนาดนั้น แค่จรวดลูกเดียว ระเบิดลูกเดียวก็จบ"
"คงไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง นั่นเท่ากับประกาศสงครามกับตระกูลอัลเทอร์นาทั้งตระกูล"
"ตระกูลอัลเทอร์นาทิ้งบาร์ตแล้ว ถ้าคนตายแล้วมีค่าชดเชียมากพอ ใครจะไปพูดถึงเรื่องนี้อีก?"
การถกเถียงออนไลน์สุดท้ายก็ไม่เกี่ยวกับการประลองเท่าไหร่
ทุกคนสนใจว่าบาร์ตจะถูกตระกูลอู๋แก้แค้นหรือไม่
วันนี้การแสดงหุ่นรบเสร็จสิ้น พรุ่งนี้จะเป็นวันประลองอย่างเป็นทางการ
ตอนแสดงหุ่นรบไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง แค่รายงานทางออนไลน์
พรุ่งนี้ในการประลองอย่างเป็นทางการ ทางการจะตรวจสอบหุ่นรบของทั้งสองฝ่าย
ส่วนหยางป๋อตอนนี้กำลังเตรียมเรื่องที่จะประกาศพรุ่งนี้ นั่นคือเรื่องวัสดุทนความร้อนสูงพิเศษ
เขตปกครองจะพัฒนาได้ต้องมีสินค้าเด่นสักอย่าง
แต่ของดีไม่ได้หมายความว่าจะมีตลาดเสมอไป เพราะตลาดเดิมถูกแบ่งกันหมดแล้ว ผู้ได้ผลประโยชน์เดิมไม่อยากให้คนใหม่เข้ามา
หยางป๋อก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่า ได้แต่ค่อยๆ ดูไป ถ้าขายวัสดุไม่ดี ก็จะผลิตสินค้าสำเร็จรูปเอง
"เจ้านาย เราถอดรหัสปุ่มมิติของหุ่นรบมิติได้หนึ่งตัวแล้ว!" ไวท์นำข่าวดีมาบอกหยางป๋อ
"พวกนายสามคนรางวัล 100 ล้าน มีแต่มืออาชีพอย่างพวกนาย โดยเฉพาะพวกนายที่เคยร่วมวิจัยถึงจะถอดรหัสแบบนี้ได้" หยางป๋อให้รางวัลทั้งสามคนทันทีโดยไม่ลังเล พร้อมกับชม
"ฮ่าๆ คนอื่นก็อาจถอดรหัสได้ ถ้ามีอุปกรณ์เฉพาะทางและแบบจำลองข้อมูล แต่คงไม่เร็วเท่าพวกเรา ตอนนี้มีแต่ห้องทดลองของบริษัทมิติที่อาจถอดรหัสได้ แต่พวกเขาไม่กล้าถอดรหัสให้ใคร!" ไวท์หัวเราะคิกคัก รับคำชมของเจ้านายไปเต็มๆ
ไวท์ไม่รู้แน่นอนว่า เจ้านายของตนถอดรหัสได้นานแล้ว
หยางป๋อรู้ดีว่าไวท์หมายถึงอะไร เพราะบริษัทมิติประกาศว่าหุ่นรบมิติมีมาตรการเข้ารหัสระดับสูงสุด
ไม่มีใครถอดรหัสได้ รวมถึงบริษัทมิติเองก็ถอดรหัสไม่ได้
ถ้าบริษัทมิติสามารถถอดรหัสปุ่มมิติของหุ่นรบคนอื่นได้ สิ่งที่พวกเขาประกาศก็จะกลายเป็นการหลอกลวง
ไม่เพียงยอดขายสินค้าจะมีปัญหา ยังต้องเผชิญกับการเรียกร้องค่าเสียหายมหาศาล
"พยายามหน่อย ถอดรหัสได้หนึ่งตัว รางวัล 100 ล้าน" หยางป๋อให้คำมั่นอีกครั้ง
"เจ้านายครับ รอดูได้เลย รับรองไม่มีปัญหา!" เมื่อได้ยินเจ้านายใจกว้างขนาดนี้ ทั้งสามคนก็ดีใจ เพราะนี่เป็นงานส่วนตัวไม่ได้อยู่ในข้อตกลงความร่วมมือ
"หลังประกาศผลงานครั้งนี้แล้ว จะพาพวกนายไปเที่ยวเกาะสวรรค์ ตอนนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันจ่ายเอง" หยางป๋อเห็นว่าสามคนนี้คงเหงาที่นี่ จึงวางแผนจะพาไปสนุกสนานสักหน่อย
"ขอบคุณนายครับ!" ทั้งสามคนไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเกาะสวรรค์บนดาวเดอเวนขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลาญเงิน
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางป๋อเดินทางจากดาวซันเหยว่มาที่ดาวเดอเวนอีกครั้ง
(จบบท)