บทที่ 588: บุก โจมตีโลกปีศาจ!
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 588: บุก โจมตีโลกปีศาจ!
“รสชาติของเครื่องสังเวยนี่ช่างเลิศล้ำนัก” สุรเสียงเย็นเยียบแผ่วพร่าเล็ดลอดออกมาจากปากของเทพมังกรแห่งความมืด ราวกับสายลมหนาวเหน็บพัดผ่านกลางราตรี
ดวงตาข้างหนึ่งบนหัวมังกรขนาดมหึมาเคลื่อนไหวเชื่องช้า หันไปจ้องมองเทพปีศาจตนอื่นที่ยืนอยู่ด้านหลังเมจิคาบูร่า แววตากร้าวแฝงไว้ด้วยอำนาจ ทำให้พวกมันสะดุ้งสุดตัว ถอยกรูดไปหลายก้าวด้วยความหวาดหวั่น
โชคดีที่เทพมังกรแห่งความมืดเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ความสนใจของมันถูกดึงไปยังเบื้องหน้าอีกครั้ง
“เอ่ยความปรารถนาของเจ้ามา” เทพมังกรแห่งความมืดจ้องมองลงมาที่ซารามะ แววตาไร้ซึ่งความเคารพนับถือ แม้ในฐานะผู้ปลุกมันขึ้นมาก็ตาม
แต่ซารามะหาได้ใส่ใจไม่ เขากางแขนออก เตรียมเอ่ยความปรารถนาที่รอคอยมานาน
ทว่าในชั่วขณะนั้นเอง ออร่าอันมหาศาลก็ทะลวงผ่านพรมแดนของอาณาจักรปีศาจทมิฬเข้ามาอย่างกะทันหัน ราวกับพายุคลั่งที่โหมกระหน่ำ
ออร่ามหาศาลดุจเทพปีศาจแผ่ขยายอาณาเขต ก่อแรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วอาณาจักรปีศาจทมิฬ จนเหล่าผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้ถึงพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวในทันที
“ออร่านี้…” เมจิคาบูร่าและซารามะหันขวับ ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวทะยานสู่ท้องฟ้า ทอดมองทะลุหมู่เมฆไปยังเบื้องไกล
เบื้องหน้าบนหน้าผาไม่ไกลจากปราสาทราชาปีศาจ สายตรวจกาลเวลานำโดยหลินเฉิน ปรากฏกายขึ้นบนผืนแผ่นดินของดินแดนปีศาจ ราวกับเทพเจ้าจุติลงมา
เคียงข้างพวกเขามีเทพสององค์ มิสเตอร์โปโป้และโครโนอาร่วมขบวนมาด้วย! ราวกับเป็นสัญญาณแห่งหายนะ
“สายตรวจกาลเวลาบ้าเอ๊ย!” เมจิคาบูร่าที่ยังบาดเจ็บอยู่กัดฟันกรอด ความแค้นเดือดดาลพลุ่งพล่านในอก จำต้องส่งคนไปขัดขวาง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองและซารามะ
“เทพปีศาจ จงทำลายล้างมันเสียให้สิ้น!”
ทันทีที่เมจิคาบูร่าออกคำสั่ง เหล่าเทพปีศาจแห่งปราสาทราชาปีศาจก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ตามมาด้วยกองทัพปีศาจจากดินแดนปีศาจจำนวนมหาศาล ปกคลุมทั่วทั้งนภา บุกเข้าใส่หลินเฉินและพรรคพวกอย่างเกรี้ยวกราด
ฝ่ายสายตรวจกาลเวลา
หลินเฉินและพรรคพวกจ้องมองดินแดนแห่งความมืดด้วยแววตาใคร่รู้
นี่หรือคืออาณาจักรปีศาจทมิฬ?
สภาพแวดล้อมที่นี่ยังดูร่มรื่นกว่าที่คาดคิดไว้เสียอีก
ทว่า ความใคร่รู้พลันแปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง เมื่อสายตาของพวกเขาปะทะเข้ากับเทพเจ้ามังกรขนาดมหึมาที่ลอยเด่นอยู่เหนือปราสาทราชาปีศาจ
เพราะตามที่มิสเตอร์โปโป้บอก ควรจะมีเวลาเหลืออยู่บ้างก่อนที่ดราก้อนบอลมืดจะถูกปลดผนึก
มิสเตอร์โปโป้คำนวณผิดพลาดงั้นหรือ?
แท้จริงแล้ว การตัดสินของมิสเตอร์โปโป้นั้นถูกต้อง เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเดมิกราถูกเมจิคาบูร่าบังคับให้ใช้พลังแห่งกาลเวลาปลดผนึกอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พลังของตนเองเสียหายและเรียกเทพเจ้ามังกรแห่งความมืดออกมาเร็วกว่าที่คาดไว้หลายชั่วโมง
“นั่นคือเทพเจ้ามังกรที่ถูกเรียกออกมาจากดราก้อนบอลมืดงั้นเหรอ? ตัวใหญ่มาก!” หลินเฉินมองมังกรขนาดมหึมาในระยะไกลด้วยความตื่นตะลึง คำพูดหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของเขาอย่างไม่อาจเก็บความประทับใจไว้ได้ “มิสเตอร์โปโป้ พวกเรามาถึงช้าไปหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ต้องรีบร้อน ผนึกยังคงอยู่”
วันนี้มิสเตอร์โปโป้ฟิวชั่นได้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งยังคงเฝ้าดูผนึกในเส้นเวลาอื่น ๆ อยู่
เขาจึงรีบยืนยันสถานการณ์กับร่างแยกตนเองในทันที
“ก่อนที่พรของท่านซารามะจะสัมฤทธิ์ผล พวกเรายังมีโอกาส!”
“ถ้าเช่นนั้น…” หลินเฉินมองกองทัพดินแดนปีศาจที่กำลังเคลื่อนพลใกล้เข้ามาพลางโบกมือส่งสัญญาณให้กับกลุ่มของตน “สายตรวจกาลเวลา ออกปฏิบัติการ!”
ทันทีที่คำสั่งของหลินเฉินดังก้องออกไป พลังอันมหาศาลของเหล่าสมาชิกที่ยืนหยัดอยู่เบื้องหลังเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นดุจพายุคลั่ง
แม้เวลาภายนอกจะผ่านไปเพียงหนึ่งวัน แต่สำหรับสายตรวจกาลเวลาแล้ว พวกเขาล้วนผ่านการฝึกฝนอันหนักหน่วงมาหลายสิบปี
การฝึกฝนอย่างทรหดอดทนเช่นนั้นทำให้พลังของแต่ละคนแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์
หลินลั่วและทาโร่เป็นผู้นำในการบุกตะลุยเข้าสู่สมรภูมิรบ ทั้งสองตัดสินใจแยกกันต่อสู้แทนที่จะฟิวชั่นเป็นหนึ่งเดียว
ความเยาว์วัยที่เคยฉาบบนใบหน้าของพวกเขาเลือนหายไปราวกับถูกกาลเวลากลืนกิน เพียงชั่วข้ามคืน
พลังปาฏิหาริย์ของห้องกาลเวลาในวิหารพระเจ้าได้ผลักดันร่างกายให้เติบโตเต็มที่ ก้าวสู่วัยผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์
กระนั้น ฤทธิ์ของน้ำพุแห่งความเยาว์วัยยังคงคุ้มครอง รักษารูปลักษณ์ภายนอกให้คงเดิม แทบไม่เปลี่ยนแปลง
“ทาโร่!”
“รับทราบ พี่ใหญ่!” ทาโร่ขานรับ น้ำเสียงหนักแน่น
ฉับพลันนั้น ร่างของหลินลั่วก็พลันเปล่งประกาย แปรเปลี่ยนเป็นซูเปอร์ไซย่าฟ้าร่าง 4 พลังอันไร้ขีดจำกัดแผ่ซ่านออกมา ในขณะที่ทาโร่ก็แปรสภาพเป็นซูเปอร์ไซย่าในตำนานร่าง 4 ออร่าดำทะมึนแผ่ออกมา ดุดัน ราวกับโบรลี่แห่งความมืดมิด
ทั้งสองพุ่งทะยานเข้าใส่กองทัพดินแดนปีศาจ ดุจคมดาบที่เฉียบคม พุ่งผ่านอากาศ
เบื้องหน้า กองทัพทหารดินแดนปีศาจ จำนวนหนึ่งร้อยนาย ตั้งแนวรับอย่างแข็งขัน
เหล่าทหารที่ขอบเขตพลังพระเจ้าระดับเริ่มต้นนี้ แกร่งกล้าเทียบเท่าโกคูในร่างเทพเจ้าซูเปอร์ไซย่าขั้นแรก ทว่าจุดแข็งของพวกมันอยู่ที่จำนวนอันมหาศาล
กระนั้น สำหรับสองพี่น้องในยามนี้ พวกมันก็เป็นเพียงเหยื่อบูชายัญเท่านั้น
เมื่อความต่างชั้นของพลังมากมายถึงเพียงนี้ ปริมาณก็ไม่อาจทดแทนคุณภาพได้อีกต่อไป
“หลินลั่ว!”
“ทาโร่!”
สองพี่น้องรวบรวมพลังไว้ในมือข้างละหนึ่ง ขวาของหลินลั่ว ซ้ายของทาโร่
เมื่อมือทั้งสองประกบกัน พลังงานสีทองอร่ามดุจสายธาราแห่งสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นบนฟากฟ้า
เสียงคำรามดังกึกก้องสะท้าน เหล่าทหารดินแดนปีศาจเบื้องหน้าพลันสลายหายไปในชั่วพริบตา สายธารพลังงานยังคงพุ่งทะยานต่อไปกลืนกินชีวิตอีกนับร้อย
การโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้เหล่าผู้อยู่แนวหลังของกองทัพดินแดนปีศาจต้องขมวดคิ้วมุ่น
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคนทั้งสองถึงแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้? นี่มันเพิ่งจะผ่านไปวันเดียวเองไม่ใช่เหรอตั้งแต่การต่อสู้ครั้งล่าสุด?”
พิคโกโร่แย้มยิ้ม ราวกับถึงคราวที่เขาจะได้แสดงฝีมือบ้าง
ในชั่วพริบตา พลังออร่าที่แผ่พุ่งออกมาจากพิคโกโร่ก็ทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิมเกินสองเท่า
“นี่มัน…”
โกคูชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ก่อนรอยยิ้มจะผุดขึ้นบนใบหน้า
หลินเฉินก็คลี่ยิ้มเช่นกัน
พิคโกโร่ ผู้ที่มักจะตกเป็นเพียงเงาของกลุ่มคนหลัก บัดนี้ในที่สุดเขาก็ไล่ตามพวกเขาทันแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น จากออร่าที่แผ่ออกมา พิคโกโร่ดูเหมือนจะก้าวเดินบนเส้นทางเดียวกับพิคโกโร่ในอีกเส้นเวลาหนึ่งที่หลินเฉินเคยไปเยือน นั่นคือการฟิวชั่นกับราชาปีศาจพิคโกโร่!
ในเส้นเวลาหนึ่งที่หลินเฉินเคยย่างกราย เหล่านักรบ Z ล้วนพ่ายแพ้ยับเยิน เหลือเพียงพิคโกโร่ผู้เดียวที่แบกรับภาระปกป้องโลกไว้บนบ่า ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มพลังให้แก่ตน เขาจึงตัดสินใจฟิวชั่นกับราชาปีศาจพิคโกโร่ที่ร่วงโรยตามวัย จนกระทั่งมีพลังเหนือล้ำจอมมารบู
บัดนี้ พิคโกโร่ในเส้นเวลาของหลินเฉินก็ได้เลือกเดินบนเส้นทางเดียวกัน และด้วยเคยผ่านการฟิวชั่นกับสลักที่หลอมรวมกับผู้เฒ่าสูงสุดมาก่อนหน้านี้ พลังของเขาในยามนี้จึงสูงส่งเทียบเคียงได้กับระดับซูเปอร์ไซย่าร่างฟ้า
เมื่อผสานพลังเข้ากับหมัดเจ้าพิภพ พลังของพิคโกโร่จึงมากล้น พอที่จะยืนหยัดต่อศัตรูได้ด้วยลำแข้งของตนเองได้เสียที
“ปืนใหญ่พิฆาตลำแสงมาร! จงสลายไปซะ!”
พิคโกโร่สะบัดมือ ปล่อยท่าไม้ตาย “ปืนใหญ่พิฆาตลำแสงมาร” ออกไป
แต่ครั้งนี้ พลังทำลายล้างกลับทวีคูณรุนแรงกว่าเดิมถึงร้อยเท่า!
ลำแสงขนาดมหึมาพุ่งตรงไปยังกองทัพดินแดนปีศาจ ก่อนจะแตกแขนงออกเป็นลำแสงเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน ราวกับสายฝนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา จู่โจมใส่เหล่าทหารรอบด้านอย่างไร้ปราณี
ในชั่วพริบตาเดียว เหล่าทหารปีศาจก็ถูก “ปืนใหญ่พิฆาตลำแสงมาร” กวาดล้างไปราวกับเศษธุลี เปรียบได้กับลูกกวาดที่ถูกเสียบไม้ แล้วถูกเขี่ยทิ้งลงพื้นอย่างง่ายดาย
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_