บทที่ 47 วิชาพัฒนาร่าง

บทที่ 47 วิชาพัฒนาร่าง

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงฐานเสวียนเหนี่ยว ก็พบว่าฉีชูเหิงและหวังเทียนเอ๋อร์ยังไม่กลับมา

พวกเขาถูกส่งไปยังดาวดวงนั้นก่อนหลินเซิน หลินเซินไปทีหลัง ระยะเวลาคูลดาวน์ของอุปกรณ์เทเลพอร์ตของพวกเขาก็น่าจะสั้นกว่าหลินเซิน น่าจะกลับมาก่อน

ที่พวกเขายังไม่กลับมา อาจจะเป็นเพราะตายแล้ว เลยกลับมาไม่ได้ หรือไม่ก็พวกเขาไม่อยากกลับ ต้องการได้อะไรบางอย่างบนดาวดวงนั้น

หลินเซินหวังว่าพวกเขาจะกลับมา เพราะถ้าจะไปภูเขาหู่ลู่อีกครั้ง ต้องอาศัยเสวียนเหนี่ยวของพวกเขานำทาง

คนของตระกูลฉีและตระกูลหวังรู้ว่าหลินเซินกลับมาแล้ว ต่างก็เงียบ ไม่มีใครกล้ามาถามข่าว

พวกเขากลัวว่าคนของตัวเองจะไม่กลับมา ถ้าเป็นแบบนั้น ตระกูลฉีและตระกูลหวังก็คงไม่มีทางสู้กับตระกูลหลินได้อีก

ผู้จัดการทั้งสี่ของตระกูลหลินมาเยี่ยมหลินเซิน หลินเซินไม่ได้พูดอะไร แค่ให้พวกเขาทำหน้าที่ของตัวเอง ดูแลธุรกิจของตระกูลหลินให้เป็นปกติก็พอ

หลังจากส่งผู้จัดการทั้งสี่กลับไปแล้ว หลินเซินก็คุยกับเว่ยหวู่ฟู่อย่างละเอียด สุดท้ายก็ให้เว่ยหวู่ฟู่อยู่ที่ตระกูลหลิน

เว่ยหวู่ฟู่ไม่ต้องดูแลธุรกิจของตระกูลหลิน แค่คอยรับใช้หลินเซินก็พอ

ที่หลินซินรีบกลับมา มีสี่เรื่องสำคัญที่ต้องทำ

เรื่องแรก คือรอให้เครื่องบดสังหารวิวัฒนาการเสร็จ มันเป็นสัตว์เลี้ยงตัวหลักของหลินเซิน ถ้ามีมันอยู่ การไปดาวดวงนั้นอีกครั้งก็จะปลอดภัยมากขึ้น

เรื่องที่สอง หาสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ และประกายให้มากขึ้น เพื่อเตรียมตัวสำหรับการไปดาวดวงนั้นอีกครั้ง

เรื่องที่สาม หาคู่ มีผู้สืบทอดสายเลือด เพราะถึงจะเตรียมตัวดีแค่ไหน ที่นั่นก็ยังอันตราย ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหลินเซินไม่กลับมา ตระกูลหลินก็ต้องมีคนสืบทอด นี่คือสิ่งที่เขาสัญญากับพี่ๆ ไว้ เขาต้องทำให้ได้

เรื่องที่สี่ เรียนวิชาพัฒนาร่างที่เหมาะกับเขา

หลังจากวิวัฒนาการแล้ว ก็สามารถเริ่มฝึกวิชาพัฒนาร่างได้ วิชาพัฒนาร่างเป็นวิธีการฝึกฝนที่สามารถทำให้ร่างกายบริสุทธิ์และแข็งแกร่งขึ้น

พูดง่ายๆ ก็คือ กำจัดสิ่งสกปรกในร่างกายเหล็กกล้า โลหะผสม และคริสตัล ทำให้คุณสมบัติสูงขึ้น และดูดซับของเหลววิวัฒาการได้ดีขึ้น

แน่นอน นี่เป็นแค่ความเข้าใจของมนุษย์ จริงๆ แล้ว วิชาพัฒนาร่างในจักรวาลไม่ได้เรียกว่าวิชาพัฒนาร่าง แต่เรียกว่าวิชาวิวัฒาการ

ในจักรวาล วิชาวิวัฒาการมีมากมายนับไม่ถ้วน แทบทุกเผ่าพันธุ์จะมีวิชาวิวัฒาการเป็นของตัวเอง

แต่วิชาวิวัฒาการก็มีระดับที่แตกต่างกัน ตามที่เทียนซินบอก วิชาวิวัฒาการห้าอันดับแรกที่แพร่หลายที่สุดในจักรวาลคือ เคล็ดวิชาสวรรค์เที่ยงแท้ สรรพสิ่งถือกำเนิด ทฤษฎีวิวัฒนาการ เคล็ดวิชาหลอมรวม และคัมภีร์ต้นกำเนิด

นี่เป็นชื่อย่อของวิชาวิวัฒาการระดับท็อปห้าวิชา เช่น เคล็ดวิชาสวรรค์เที่ยงแท้ (天心诀ชื่อเต็มคือ เคล็ดวิชามนุษย์สวรรค์รวมเป็นหนึ่งเดียว (天人合一唯心诀)เดิมทีเป็นวิชาวิวัฒาการที่สร้างขึ้นโดยเผ่าพันธุ์ชาวสวรรค์ ต่อมาก็แพร่หลาย หลายเผ่าพันธุ์ใช้วิชานี้เป็นวิชาบังคับ ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิชาวิวัฒาการอันดับหนึ่ง

แน่นอนว่าหลินเซินคิดว่าเทียนซินคงจะโม้บ้าง

หลินเซินวิเคราะห์เองว่า วิชาวิวัฒาการห้าวิชานี้ จริงๆ แล้วไม่ได้ดีที่สุด แค่แพร่หลายและเป็นที่รู้จักมากที่สุด

หลักการมันเหมือนกัน หลินเซินไม่เชื่อว่าเผ่าพันธุ์ชั้นสูงในจักรวาล จะใจดีแบ่งปันวิชาวิวัฒาการที่ดีที่สุดให้กับเผ่าพันธุ์อื่น

เผ่าพันธุ์ในจักรวาลมีมากมาย เผ่าพันธุ์ที่เพิ่งเข้าสู่จักรวาลอย่างมนุษย์ ยากที่จะได้รับความสนใจจากเผ่าพันธุ์ใหญ่ๆ

มีหลายเผ่าพันธุ์ที่หายสาบสูญไปอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าสู่จักรวาล แล้วก็มีเผ่าพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่

เทียนซินบอกว่าเขารู้จักเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่รู้จักแค่ไม่กี่คน มนุษย์เหล่านั้นก็ไม่ได้โด่งดังอะไร แค่บังเอิญรู้จัก

เรื่องนี้เว่ยหวู่ฟู่ก็ยืนยันได้ มีมนุษย์หลายคนที่ออกไปสู่จักรวาลแล้ว แต่ยังไม่มีผู้แข็งแกร่งของมนุษย์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วจักรวาล มีแค่ไม่กี่คนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง

เทียนซินบอกว่ามีการจัดอันดับเผ่าพันธุ์ในจักรวาล มนุษย์ยังไม่มีคุณสมบัติติดอันดับด้วยซ้ำ

การจัดอันดับนั้นมีถึงหนึ่งร้อยล้านอันดับ เผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ก็เหมือนกับมนุษย์ ไม่มีคุณสมบัติติดอันดับ แสดงให้เห็นว่ามีเผ่าพันธุ์ในจักรวาลเยอะมาก การแข่งขันสูงมาก

ส่วนเรื่องที่จะโดนเผ่าพันธุ์ใหญ่ในจักรวาลรุกรานหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลมาก

ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์ใหญ่ๆ การเดินทางในอวกาศไปยังดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตอีกดวง ก็เป็นเรื่องยากมาก ต้องใช้เวลานาน

บางที กว่าพวกเขาจะเดินทางมาถึง มนุษย์ก็คงสูญพันธุ์ไปแล้ว

เส้นทางระหว่างดาวเคราะห์ ส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์เทเลพอร์ต ก็คือ นาฬิกาที่หลินเซินใส่อยู่ก่อนหน้านี้ ต้องอยู่ในเขตเทเลพอร์ตที่กำหนด ถึงจะใช้อุปกรณ์เทเลพอร์ตได้ และการเทเลพอร์ตก็มีทิศทางที่แน่นอน อุปกรณ์เทเลพอร์ตแต่ละชิ้นจะเชื่อมต่อกับดาวเคราะห์เพียงดวงเดียว

ตอนนี้ยังไม่พบอุปกรณ์เทเลพอร์ตที่ส่งคนมาที่นี่ ถึงจะมี  แต่ด้วยทรัพยากรกลายพันธุ์ของที่นี่ที่ขาดแคลน จึงแทบไม่น่าสนใจให้มามเยือน

ตัวอย่างเช่นดาวดวงก่อนหน้านี้ที่หลินเซินไป แค่เดินเล่นก็เจอสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ แต่ที่นี่ โอกาสเจอสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ยากเหมือนกับถูกหวย

สิ่งที่หลินเซินสงสัยคือ บนดาวดวงนั้นมีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เยอะมาก แต่กลับไม่เจอประกายเลย มันแปลกๆ

“หรือว่าจะมีแต่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้น ถึงจะมีประกาย?” หลินเซินอดคิดไม่ได้

เรื่องนี้ ต้องพิสูจน์โดยการตามหาประกายให้มากขึ้น

หลินเซินนึกถึงเคล็ดวิชาสวรรค์เที่ยงแท้ที่ได้ยินมาจากเทียนซิน ถึงแม้ว่าเขาจะจำได้ แต่ก็ไม่ได้คิดจะฝึก

อย่างแรกคือไม่ไว้ใจเทียนซิน อย่างที่สองคือไม่จำเป็น

เพราะบนดาวดวงนี้ ไม่เพียงแต่มี เคล็ดวิชาสวรรค์เที่ยงแท้ ยังมีทฤษฎีวิวัฒนาการ สรรพสิ่งถือกำเนิด เคล็ดวิชาหลอมรวม และคัมภีร์ต้นกำเนิดอีกด้วย

วิชาวิวัฒาการคลาสสิกห้าวิชาในจักรวาล มีอยู่ที่นี่ทั้งหมด

หลินเซินเปรียบเทียบ เคล็ดวิชาสวรรค์เที่ยงแท้ที่เทียนซินบอก กับวิชาพัฒนาร่าง  เคล็ดวิชาสวรรค์เที่ยงแท้ที่เขาเคยเห็น แทบจะเหมือนกันทุกประการ เนื้อหาโดยรวมเหมือนกัน มีแค่รายละเอียดบางอย่างที่ต่างกันเล็กน้อย

เพียงแต่ในวิชาพัฒนาร่าง วิชาวิวัฒาการคลาสสิกห้าวิชาจะใช้ชื่อย่อ

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ วิชาพัฒนาร่างมีถึงแค่ส่วนที่สามารถวิวฒนาการเท่านั้น ส่วนเนื้อหาที่เทียนซินบอก ยังรวมถึงส่วนที่อยู่ข้างหลังด้วย

หลินเซินเคยถามเว่ยหวู่ฟู่เรื่องนี้ เว่ยหวู่ฟู่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำวิชาวิวัฒาการเหล่านี้กลับมา ตอนแรกมีแค่ส่วนของการวิวัฒนาการจริงๆ ต่อมามนุษย์บางคนก็ได้ส่วนที่เหลือมา แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ครบ

เป็นอย่างที่หลินเซินคิด วิชาวิวัฒาการห้าวิชานั้น เป็นแค่พื้นฐาน แม้แต่ในฐานขนาดใหญ่ ตระกูลใหญ่ๆ ก็เลิกฝึกวิชาวิวัฒาการคลาสสิกห้าวิชาเหล่านี้แล้ว หันไปฝึกวิชาวิวัฒาการขั้นสูงกว่า

เช่นเว่ยหวู่ฟู่ ที่บ้านของเขามีวิชาพัฒนาร่างห้าวิชา แต่เขาฝึกวิชาวิวัฒาการลับอีกวิชา ได้ยินมาว่าเป็นวิชาวิวัฒาการลับที่บรรพบุรุษของเขาได้รับมาจากเผ่าพันธุ์ใหญ่ในจักรวาล

และเว่ยหวู่ฟู่ก็สัญญากับหลินเซินว่า จะสอนวิชาวิวัฒาการลับนี้ให้เขา