บทที่ 46 ฟักออกมาเป็นตัวประหลาด
บทที่ 46 ฟักออกมาเป็นตัวประหลาด
“หรือจะเกิดความเสียหายเพราะตกเขา?” ปฏิกิริยาแรกของหลินเซินเมื่อเห็นรอยร้าวบนไข่วิวัฒนาการคือ มันคงจะเสียหายพราะกลิ้งตกจากภูเขา
แต่พอคิดอีกที นี่มันไข่ของราชายักษ์นะ จะพังง่ายๆ ได้ยังไง
“ถ้าไม่ใช่เพราะตกเขา ก็แสดงว่ามันถึงเวลาฟักแล้ว” หลินเซินคิด
เว่ยหวู่ฟู่อยืนมองอยู่ข้างๆ เงียบๆ แค่ปล่อยพลังวิวัฒนาการออกมา วัสดุลึกลับก็ไหลออกมาจากร่างกาย กลายเป็นเกราะปกคลุมร่างเขา
ตามที่หลินเซินบอก ราชายักษ์น่าจะเป็นระดับคริสตัลกลายพันธุ์ งั้นลูกของมันก็ต้องเป็นระดับคริสตัลกลายพันธุ์เช่นกัน ถึงแม้ว่ามันจะเพิ่งเกิด แต่การจะฝึกมันก็คงไม่ง่าย จำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน
รอยร้าวบนไข่วิวัฒนาการมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลินเซินหยิบปืนแคปซูลสัตว์เลี้ยงออกมา เผื่อว่าเจ้าตัวเล็กข้างในจะโจมตีเขา จะได้สั่งสอนมันสักหน่อย
แคร็ก! แคร็ก!
รอยร้าวบนไข่วิวัฒนาการเพิ่มมากขึ้น ทันใดนั้น ไข่ก็แตกออกเป็นสองซีก มีบางอย่างกลิ้งออกมา
หลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่ที่เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ฝึกสัตว์ พอเห็นรูปร่างของสิ่งนั้น ก็ถึงกับอึ้งไป
แม้แต่สายตาที่มองสิ่งนั้น ก็เต็มไปด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ
“นี่มันตัวอะไรกันเนี่ย…” หลินเซินขยี้ตา สงสัยว่าตาตัวเองฝาดไปหรือเปล่า
แต่ไม่ว่าหลินเซินจะขยี้ตายังไง เขาก็ยังเห็นสิ่งนั้นอยู่
สิ่งที่กลิ้งออกมาจากไข่วิวัฒนาการ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการ
ที่บอกว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการ เพราะมันไม่มีส่วนไหนที่เป็นโลหะเลย มีขนสีขาว ตัวอ้วนกลม ตาสีแดง เท้าสีชมพู เป็นนกพิราบอ้วนสีขาวชัดๆ
สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการจะเป็นเลือดเนื้อไม่ได้ ดังนั้น นกอ้วนสีขาวตัวนี้ ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการ
แต่มันออกมาจากไข่วิวัฒนาการ ถ้ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการแล้วจะเป็นอะไร?
ไม่ใช่แค่หลินเซินที่งง เว่ยหวู่ฟู่ก็มีสีหน้าที่งุนงงเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองกำลังงุนงง เจ้าตัวเล็กก็เดินโซเซไปที่เศษไข่วิวัฒนาการ
อาจเป็นเพราะมันอ้วนเกินไป เวลาเดินก้นของมันก็เลยบิดไปมาเหมือนเป็ด ดูตลกและน่ารัก
เจ้าตัวเล็กจิกเศษไข่ ทำให้หลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่ใจหายวาบ
ไข่วิวัฒนาการฟองนั้นทั้งหนักและแข็งมาก กลิ้งตกจากภูเขา ชนหินแตก แต่กลับไม่เป็นอะไรเลย
แต่เศษไข่ที่แข็งขนาดนั้น เจ้าตัวเล็กกลับจิกแตกได้ง่ายๆ แล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้านกอ้วนนี่เป็นสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการจริงๆ ด้วย แต่ไม่รู้ทำไมถึงมีรูปร่างแบบนี้ ช่างเถอะ ฝึกมันก่อนแล้วกัน” หลินเซินพุ่งเข้าไปหมายจะแย่งเศษไข่ แล้วใช้กลยุทธ์เดิมในการฝึกสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการตัวประหลาดนี้
อย่างไรก็ตาม หลินเซินเพิ่งวิ่งไปถึงเศษไข่ ยังไม่ทันได้หยิบ ก็เห็นเจ้านกอ้วนวิ่งดุ๊กดิ๊กๆ มาหาเขา
หลินเซินตกใจ ถอยหลังไปสองสามก้าว เว่ยหวู่ฟู่ก็เตรียมพร้อมรับมือ
เนื่องจากอ้วนเกินไป เจ้านกอ้วนจึงเดินไม่เร็ว มันกระพือปีกอย่างร้อนรน แต่ด้วยสภาพของมัน อย่าว่าแต่บิน แค่กระโดดยังกระโดดไม่ได้ มันจึงไล่หลินเซินไม่ทัน
ในขณะที่หลินเซินมองท่าทางตลกๆ ของมัน ก็รู้สึกทั้งขำทั้งสงสาร ทันใดนั้นเจ้านกอ้วนก็หายวับไปกับตา
“แย่แล้ว!” หลินเซินรู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้านกอ้วนที่หายไปก็ปรากฏตัวที่ข้างเท้าของเขา เอาหัวกลมๆ มาถูขาของเขา เหมือนกำลังออดอ้อน
“นี่…” หลินเซินรู้สึกว่าวันนี้เขาได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการแบบนี้มาก่อน
เขายื่นมือออกไปอย่างระมัดระวัง ลูบขนของเจ้านกอ้วน เจ้านกอ้วนก็ไม่ได้ต่อต้าน แถมยังเอาตัวมาถูมือของหลินเซินอีก
เมื่อได้สัมผัส หลินเซินก็ยิ่งมั่นใจว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตเลือดเนื้อจริงๆ ภายใต้ขนปุกปุยสีขาวนั้น เป็นเลือดเนื้อที่อบอุ่น ไม่ใช่โลหะเย็นๆ
“นี่มันตัวอะไรกันแน่? มันมีกุญแจสัตว์เลี้ยงไหม?” หลินเซินอุ้มเจ้านกอ้วนขึ้นมาดูอย่างละเอียด เจ้านกอ้วนก็อยู่นิ่งๆ หดคอ ใช้ดวงตาสีแดงมองหลินเซินอย่างสนใจ
ไข่ของราชายักษ์ไม่ใช่ราชายักษ์ตัวน้อยก็แล้วไป กลายเป็นนกก็พอเข้าใจได้ แต่มันดันกลายเป็นนกพิราบอ้วนที่เป็นเลือดเนื้อได้ยังไง?
หลินเซินมองอยู่นาน ก็ไม่เห็นว่ามันจะซ่อนกุญแจสัตว์เลี้ยงไว้ตรงไหน
“กุญแจ… นายมีกุญแจไหม… เอากุญแจมาให้ฉัน…” หลินเซินพูดกับเจ้านกอ้วน
เจ้านกอ้วนเอียงคอมองเขาด้วยความงุนงง
เมื่อเห็นว่าเจ้านกอ้วนไม่เข้าใจ หลินเซินจึงวางมันลง หยิบกุญแจสัตว์เลี้ยงออกมาให้มันดู “นี่… นายมีไหม… เอามาให้ฉัน…”
เจ้านกอ้วนก็ยังคงไม่เข้าใจ ใบหน้าเล็กๆ ของมันเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา มันเดินบิดก้นไปที่เท้าของหลินเซิน เอาหัวถูขาเขาอย่างออดอ้อน พร้อมกับส่งเสียง “กู๋ กู๋”
“พอแล้ว พอแล้ว อย่าถูเลย ไปกินของของนายเถอะ” หลินเซินทั้งเอือมระอา เขาอุ้มเจ้านกอ้วนกลับไปวางไว้ข้างๆ เศษไข่วิวัฒนาการ
เจ้านกอ้วนก้มลงจิกกินเศษไข่อย่างมีความสุข เดินบิดไปบิดมา ดูน่ารักน่าเอ็นดู
“นายคิดว่าไง?” หลินเซินถามเว่ยหวู่ฟู่ที่อยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
เว่ยหวู่ฟู่จ้องมองเจ้านกอ้วนอยู่นาน แล้วพูดออกมาว่า “อ้วนมาก ควรลดน้ำหนัก”
“ฉันรู้ว่ามันอ้วน… ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้… ช่างเถอะ… ลืมๆ ไปซะ…” หลินเซินพูดไม่ออก
ขนาดตัวของเจ้านกอ้วนพอๆ กับนกพิราบธรรมดา แค่อ้วนกว่าเยอะ จนเกือบกลมแล้ว บวกกับขนสีขาวทั้งตัว มองไกลๆ เหมือนก้อนหิมะกลมๆ
ถึงตัวจะเล็ก แต่มันกินจุมาก เศษไข่วิวัฒนาการเยอะขนาดนั้น มันกินหมดภายในเวลาไม่นาน
ไม่รู้ว่าร่างกายเล็กๆ ของมัน กินเศษไข่พวกนั้นเข้าไปได้ยังไง
หลังจากกินเสร็จ เจ้านกอ้วนก็เดินบิดก้นไปหาหลินเซิน เอาหัวถูตัวเขา ใช้เท้าเล็กๆ เกาะเสื้อ เหมือนอยากจะปีนขึ้นไป
หลินเซินเอื้อมมือไปอุ้มมันขึ้นมา น้ำหนักของเจ้านกอ้วนไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย
ไข่วิวัฒนาการนั้น แม้แต่หลินเซินที่มีพลังเสริมจากบูชายัญสวรรค์ยังอุ้มได้อย่างยากลำบาก แต่เจ้านกอ้วนกินเศษไข่วิวัฒนาการไปหมดแล้ว น้ำหนักของมันก็ยังเบามาก ไม่ได้หนักไปกว่านกพิราบธรรมดาเท่าไหร่ เหมือนกับว่ามันไม่ได้กินเศษไข่พวกนั้นเข้าไป
“กลับไปก่อนแล้วกัน” หลินเซินเอาเจ้านกอ้วนใส่ลงในกระเป๋า
กระเป๋าใบนี้ได้มาจากเทียนซิน เทียนซินบอกว่าเป็นแบรนด์สวรรค์ เป็นของแบรนด์เนมบนดาวที่เขาอยู่
เจ้านกอ้วนก็เชื่องมาก อยู่ในกระเป๋าแต่โดยดี เอาหัวกลมๆ โผล่ออกมาจากกระเป๋า ใช้ดวงตาสีแดงมองไปรอบๆ อย่างสนใจ
“ไม่รู้ว่าการได้เจ้านี่มา จะเป็นโชคดีหรือโชคร้าย” หลินเซินคิดในใจ ตอนนี้ให้เขาโยนเจ้านกอ้วนทิ้ง เขาก็รู้สึกเสียดาย
ถึงมันจะแปลกๆ แต่ใครๆ ก็ดูออกว่ามันมีความสามารถพิเศษ