บทที่ 44 หมัดระเบิด

บทที่ 44 หมัดระเบิด

หลินเซินมองลงไปข้างล่าง คนของตระกูลฉีและตระกูลหวังเหลือไม่ถึงสิบคนแล้ว การต่อสู้ระหว่างไป๋เสินเฟยกับราชายักษ์สถานการณ์ก็ดูไม่ค่อยดี

ตอนที่พวกเขามา มีคนมากกว่าสองร้อยคน ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่คน ทำให้หลินเซินรู้สึกเศร้าใจ

มนุษย์ได้รับพลังกลายพันธุ์เพียงบางส่วน ไม่สามารถทำให้ร่างกายเป็นโลหะได้ทั้งหมดเหมือนสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการณ์ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ถ้าระดับเดียวกัน มนุษย์จะเสียเปรียบ

ที่คนพวกนี้ยังยื้อชีวิตได้จนถึงตอนนี้ ก็เพราะมีเสวียนเหนี่ยว

นอกจากเสวียนเหนี่ยวสองตัวแล้ว สัตว์เลี้ยงระดับคริสตัลของฉีชูเหิงและหวังเทียนเอ๋อร์ก็ตายไปเกือบหมด การต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้ตระกูลฉีและตระกูลหวังสูญเสียอย่างหนัก พลังรบโดยรวมลดลงอย่างมาก

ต่อให้พี่สามและพี่สี่จะยังไม่กลับมาในเร็วๆ นี้ แค่มีหลินเซินอยู่ ก็น่าจะสามารถต่อกรกับตระกูลฉีและตระกูลหวังได้

แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่าฉีชูเหิงและหวังเทียนเอ๋อร์จะรอดกลับไปได้ไหม ถ้าพวกเขาและเสวียนเหนี่ยวตายที่นี่ ตระกูลฉีและตระกูลหวังก็คงไม่มีทางสู้กับตระกูลหลินได้อีก

เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมระดับโลหะผสมเสียชีวิตไปหลายคน ค่าสถานะทั้งสี่อย่างของหลินเซินจึงเพิ่มขึ้นเกินสามสิบไปแล้ว ถือว่าขึ้นมาอยู่ในชั้นเดียวกับระดับคริสตัล

เพราะขีดจำกัดคุณสมบัติของระดับคริสตัลคือสี่สิบ ตอนนี้หลินเซินมีมากกว่าสามสิบแล้ว ทักษะบูชายัญสวรรค์นี่มันสุดยอดจริงๆ ติดก็แค่ต้องสังเวยคนเยอะหน่อย

“มีชีวิตดีๆ ไม่ชอบ ชอบวิ่งมาหาที่ตาย” หลินเซินอารมณ์ดี ใช้โอกาสที่ราชายักษ์ไม่ได้สนใจ กลิ้งไข่กลายพันธุ์ออกไป

แต่ใครจะรู้ เขาเพิ่งกลิ้งไข่กลายพันธุ์ออกจากถ้ำ ก็ได้ยินเสียงคำรามดังมาจากเชิงเขา

ราชายักษ์ที่กำลังสู้กับไป๋เสินเฟยอย่างดุเดือด กลับทิ้งไป๋เสินเฟย วิ่งขึ้นเขามาอย่างบ้าคลั่ง

“ทำไมมันถึงรู้? ราชายักษ์มีญาณทิพย์หรือไง?” หลินเซินเห็นว่าราชายักษ์ไม่ได้สนใจทางนี้ ถึงได้ออกมา แต่สุดท้ายก็ยังถูกพบตัว

เขาถอยกลับเข้าไปในถ้ำโดยไม่รู้ตัว แต่ราชายักษ์เห็นเขาแล้ว มันยังคงพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้ค่าสถานะของฉันก็สูงแล้ว ยังต้องกลัวอะไรอีก ลองสู้กับมันซักตั้ง” ตอนแรก หลินเซินจะหันหลังวิ่ง แต่คิดอีกทีก็หยุด

สิ่งที่ทำให้หลินเซินมั่นใจ นอกจากค่าพลังที่เพิ่มขึ้นจากบูชายัญสวรรค์แล้ว ก็คือการจี้จุดและการวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัด

ตอนนี้ค่าพลังของเขายังคงเป็นรองราชายักษ์ แต่หลังจากใช้การเสริมพลังของวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัดแล้ว ค่าพลังของเขาก็อาจจะไม่ด้อยไปกว่าราชายักษ์

งั้นสู้ไปเลยดีกว่าหนี ลองดูว่าพลังของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ภายใต้พลังเสริมของบูชายัญสวรรค์และวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัด

ต่อให้สู้ไม่ได้ เขาก็หนีได้สบายๆ

แถมยังมีปืนพกทูตสวรรค์อยู่ เขายิงนัดเดียว ก็สามารถพุ่งออกไปพร้อมกับกระสุนได้ ราชายักษ์ไม่มีทางตามทัน

หลินเซินจึงเปิดใช้วิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัด พริบตานั้นชุดเกราะที่อยู่ข้างนอกร่างกายของเขาก็เปล่งประกายเหมือนเหล็กที่ถูกเผาจนแดง หลังจากถูกความเย็นจัดดับ ชุดเกราะก็กลายเป็นสีใส ดูเหมือนระดับคริสตัล คนทั่วไปดูไม่ออก

หลินเซินทำทั้งหมดนี้ในถ้ำบนยอดเขา ไป๋เสินเฟยและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างล่างมองไม่เห็น

ไป๋เสินเฟยยังสงสัยว่าทำไมราชายักษ์ถึงยอมถอยไป

เมื่อราชายักษ์คำราม ยักษ์ทั้งหมดก็ทิ้งพวกเขา วิ่งตามราชายักษ์ขึ้นไปบนภูเขา ทำให้คนของตระกูลฉีและตระกูลหวังตกใจและดีใจ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขารู้สึกเหมือนรอดตายอย่างปาฏิหาริย์

“ไป!” หวังเทียนเอ๋อร์และฉีชูเหิงเรียกลูกน้องที่เหลืออยู่ให้ถอย พวกเขาถอยไปพลางมองขึ้นไปบนภูเขา

ทันใดนั้น ทุกคนก็เห็นร่างมนุษย์ปรากฏขึ้นบนยอดเขา

“นั่น… ผู้วิวัฒนาการเหรอ?” มีคนถามขึ้น

“เป็นผู้วิวัฒนาการ… แถมยังเป็นระดับคริสตัล… ไม่แปลกใจเลยที่ยักษ์พวกนั้นวิ่งขึ้นเขาไป… ระดับคริสตัลคนนั้นขโมยของของพวกมัน…”

“ที่นี่นอกจากพวกเราแล้ว ยังมีผู้วิวัฒนาการคนอื่นอีก แถมยังเป็นระดับคริสตัล?”

“พวกเราแทบสู้ตาย แต่ไอ้สารเลวนั่นกลับมาฉกฉวยผลประโยชน์ หน้าไม่อายจริงๆ”

“หึ ก็แค่คนโง่ที่คิดว่าตัวเองฉลาด สุดท้ายก็ช่วยพวกเรา แต่ตัวเองกลับติดกับ มันไม่รอดแน่”

“…”

ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ราชายักษ์ก็เกือบจะถึงยอดเขาแล้ว มันกระโดดขึ้นโดยไม่ลังเล

ก้อนหินใต้ฝ่าเท้าของมันแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนใยแมงมุม จากแรงกดทับที่น่ากลัว เกิดรอยแตกเป็นวงกว้างหลายสิบเมตร

ราชายักษ์ที่กระโดดขึ้นสูง มาถึงหน้าหลินเซินในพริบตา เร็วกว่ากระสุนธรรมดา

บวกกับร่างกายที่ใหญ่โต และเสียงดังสนั่นจากคลื่นกระแทก ทำให้คนรู้สึกว่าหมัดของมันสามารถทำลายทั้งยอดเขาได้

ไป๋เสินเฟยมองสถานการณ์บนยอดเขาตลอดเวลา เธอกำลังคิดว่าคนๆ นั้นเป็นใคร “เป็นศิษย์พี่หลินหรือหลินจงเจิ้ง?”

ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นหลินเซียงตงหรือหลินจงเจิ้ง ไป๋เสินเฟยก็ไม่คิดว่าการที่เขาไม่หลบ แต่กลับเหวี่ยงหมัดเล็กๆ เข้ารับหมัดสีดำขนาดใหญ่ของราชายักษ์ จะเป็นทางเลือกที่ดี

เธอสู้กับราชายักษ์มานาน รู้จักมันดี พละกำลังและความแข็งแกร่งของมัน ล้วนเป็นระดับท็อปในระดับคริสตัล หรืออาจจะทะลุขีดจำกัดของระดับคริสตัลไปแล้วก็ได้

ความเร็วของมันอาจจะอ่อนกว่าหน่อย แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตคริสตัลทั่วไป น่าจะอยู่ที่ประมาณ 37

จุดอ่อนที่สุดของราชายักษ์ น่าจะเป็นความยืดหยุ่น น่าจะน้อยกว่าสามสิบ

ปกติแล้วจะไม่ค่อยเห็นผลของความยืดหยุ่น แต่มันก็สำคัญ เหมือนกับการตีดาบ หลังจากอบชุบความร้อนแล้ว ความแข็งของคมดาบจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าความยืดหยุ่นไม่ดี ก็จะฟันของแข็งไม่ได้

ดังนั้น พ่อครัวส่วนใหญ่จะมีมีดสองเล่ม เล่มหนึ่งคมบาง ความแข็งสูง ใช้หั่นผัก ทนทาน คมไม่ทื่อง่าย

อีกเล่มใช้สับกระดูก ใบมีดหนา ความแข็งอาจจะไม่สูงมาก แต่ความยืดหยุ่นจะดีกว่า สับกระดูกไม่เสียหาย อย่างน้อยก็ไม่หักง่ายๆ

ที่บอกว่าความยืดหยุ่นของราชายักษ์ต่ำ ก็แค่เทียบกับค่าพลังอื่นๆ ของมัน จริงๆ แล้ว ในระดับคริสตัล ความยืดหยุ่นของมันก็ไม่ได้ต่ำต้อยเลย

อีกอย่าง ร่างกายของมันหนามาก ไม่เหมือนมีดหั่น ความยืดหยุ่นที่ต่ำกว่าเล็กน้อย จึงไม่ใช่ปัญหา

ทุกคนจ้องมองหลินเซินที่ยืนอยู่บนยอดเขา เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ราชายักษ์ที่พุ่งเข้ามา

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว มาจากการปะทะกันของหมัดทั้งสอง

ในวินาทีต่อมา ทุกคนก็เบิกตากว้าง เห็นภาพที่พวกเขาไม่มีวันลืม

เสียงระเบิดดังกึกก้อง รอยร้าวสีขาวจำนวนมากปรากฏขึ้นบนร่างกายของราชายักษ์ที่เหมือนหินออบซิเดียน

วินาทีต่อมา ร่างกายขนาดใหญ่ของราชายักษ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ระเบิดออก กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยกระจายไปทั่ว ปะปนกับของเหลวกลายพันธุ์สีดำจำนวนเล็กน้อย

“ระ… เบิด… แล้ว…” ผู้วิวัฒนาการโลหะผสมของตระกูลหวังพูดด้วยเสียงสั่นเทา ภาพนั้นน่าตกตะลึงเกินไป

ไม่ใช่แค่เขา ฉีชูเหิงและหวังเทียนเอ๋อร์ก็ยังตกตะลึง พลังของหมัดนั้นน่ากลัวเกินกว่าจะเชื่อ นั่นคือสิ่งมีชีวิตคริสตัลระดับท็อป แต่กลับถูกต่อยระเบิดในหมัดเดียว

แววตาของไป๋เสินเฟยดูซับซ้อน เธอพึมพำว่า “เขาเป็นใครกันแน่?”

ฝูงยักษ์ที่กำลังวิ่งขึ้นภูเขาก็หยุดเท้าโดยไม่รู้ตัว มองร่างที่ไม่ได้ใหญ่โตบนยอดเขา แต่กลับทำให้พวกมันหวาดกลัวจับใจ