บทที่ 43 ถ้ำบนยอดเขา
บทที่ 43 ถ้ำบนยอดเขา
ตอนนี้หลินเซินมั่นใจแล้วว่าเครื่องสังเวยเหล่านั้นคือคนของตระกูลฉีและตระกูลหวัง
แต่ที่แปลกคือ อะไรที่ทำให้พวกเขากลายเป็นเครื่องสังเวยของบูชายัญสวรรค์?
ระหว่างทางไปภูเขาหู่ลู่ก็มีคนตาย ตอนนั้นหลินเซินก็มีทักษะบูชายัญสวรรค์แล้ว แต่บูชายัญสวรรค์กลับไม่ทำงาน
หลินเซินคิดไปคิดมา สายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่นาฬิกา
ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างระหว่างตอนนี้กับก่อนหน้านี้ ก็คือพวกเขามาอยู่ในดาวดวงนี้แล้ว และทุกคนก็มีนาฬิกาที่ใช้เทเลพอร์ตได้
“หรือว่า คนที่ใส่นาฬิกา ก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมของฉัน? งั้นเทียนซินก็ใส่นาฬิกา เขาก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมของฉันงั้นเหรอ?” ตอนนี้หลินเซินอยากจะกลับไปฆ่าเทียนซินเพื่อทดสอบดู
หลินเซินชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เก็บความคิดนั้นไป
ความไม่รู้มันน่ากลัว หลินเซินอยากรู้ให้มากขึ้น อยากรู้ว่าโลกนี้เป็นยังไง
และเว่ยหวู่ฟู่เป็นเหมือนหน้าต่างบานหนึ่งที่ทำให้เขามองเห็นโลกกว้าง แต่น่าเสียดายที่หน้าต่างบานนี้ยังไม่ใหญ่พอ แถมยังมีปัญหา เปิดยากมาก
ส่วนเทียนซิน หน้าต่างบานนี้ใหญ่พอ ดังนั้นเขาต้องล้วงข้อมูลจากเทียนซินให้มากขึ้น ยังฆ่ามันทันทีไม่ได้
ตระกูลฉีและตระกูลหวังบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ผู้วิวัฒนาการระดับเหล็กกล้าตายเกือบหมด ไม่มีใครรอดจากการต่อสู้แบบนี้ได้
ผู้วิวัฒนาการระดับโลหะผสมก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก ถ้าไม่ใช่เพราะมีสัตว์เลี้ยงระดับคริสตัลของฉีชูเหิงและหวังเทียนเอ๋อร์ พวกเขาคงตายกันหมดแล้ว
หลินเซินไม่ได้คิดจะเข้าไปช่วย แค่แอบดูอยู่เงียบๆ
ถึงจะโหดร้าย แต่นี่คือกฎของการเอาชีวิตรอด
ถ้าเขาไม่โชคดี ได้ความสามารถในการมองเห็นประกายมาครอง เขาก็คงตกไปอยู่ในมือของตระกูลฉีและตระกูลหวังไปเรียบร้อยแล้ว และจุดจบของเขาคงจะแย่กว่าความตาย
คนที่โดดเด่นที่สุดในการต่อสู้อันดุเดือดครั้งนี้ ก็คือไป๋เสินเฟยและเสวียนเหนี่ยวสองตัว
ไป๋เสินเฟยสู้กับราชายักษ์ ถึงแม้จะไม่ได้เปรียบ แต่ก็ไม่ได้เสียเปรียบ ยังพอสู้กันได้
หลินเซินเดาว่าราชายักษ์ตัวนั้นน่าจะเป็นระดับคริสตัลกลายพันธุ์ มีพลังพอๆ กับงูยักษ์สีน้ำเงินเข้มตัวนั้น
ที่ไป๋เสินเฟยสามารถสู้กับราชายักษ์ได้อย่างสูสี แสดงว่าฝีมือของเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทียนซินซักเท่าไหร่
เสวียนเหนี่ยวสองตัวก็แข็งแกร่งมาก บินวนอยู่บนฟ้า โฉบลงมาโจมตีเป็นระยะ ยักษ์โลหะผสมรับกรงเล็บของมันไม่ไหว โดนทีเดียวก็หัวฉีก
ยักษ์คริสตัลก็ต้องหลบการโจมตีของเสวียนเหนี่ยว ไม่กล้าสู้ตรงๆ
เสวียนเหนี่ยวสองตัวสามารถรับมือกับยักษ์คริสตัลมากกว่าสิบตัว ส่วนสัตว์เลี้ยงคริสตัลอีกสี่ตัวของตระกูลฉีและหวัง แม้สู้แบบตัวต่อตัวกับยักษ์คริสตัลก็ไม่สามารถกุมความได้เปรียบ
“ทำไมพวกเขาถึงถูกยักษ์พวกนี้ล้อมอยู่ตรงนี้?” หลินเซินขมวดคิ้วมองไปรอบๆ
ตามหลักแล้ว รอบๆ ภูเขาลูกนี้ไม่มีต้นไม้ พวกเขามีคนเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่ไปซ่อนตัวในป่าเหล็ก แต่กลับมาอยู่ที่โล่งๆ?
คนเยอะขนาดนี้ แถมยังถูกล้อมโดยยักษ์ นี่มันยิ่งกว่าผิดปกติ
“หรือพวกเขาจะโดนล้อมตอนที่กำลังจะขึ้นเขา? แต่ทำไมพวกเขาถึงอยากขึ้นภูเขาลูกนี้?” หลินเซินมองภูเขาลูกนั้น
ภูเขาไม่สูงมาก แค่ไม่กี่ร้อยเมตร มองเห็นหลุมจำนวนมากบนภูเขาจากระยะไกล
หลินเซินเดาว่า ยักษ์พวกนั้นอาจจะขดตัวอยู่ในหลุมพวกนั้นเหมือนก้อนหิน
คนของตระกูลฉีและตระกูลหวังอยากขึ้นเขา แต่ไม่รู้ว่านั่นไม่ใช่ก้อนหินธรรมชาติ เลยโดนล้อม
“พวกเขาอยากขึ้นเขาไปทำอะไร?” หลินเซินอยู่ไกลเกินไป มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่บนเขา
“ยักษ์พวกนั้นน่าจะถูกล่อลงมาหมดแล้ว ตอนนี้ถ้าฉันขึ้นไปดูบนเขาก่อน บางทีอาจจะได้เจออะไรดีๆ” พลังในร่างกายของหลินเซินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดที่ต้องนอนซุ่มอยู่เฉยๆ
ว่าแล้วก็ทำเลย หลินเซินอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของภูเขา มองดูอย่างระมัดระวัง หลังจากที่แน่ใจว่าไม่มียักษ์กลายพันธุ์ เขาก็เริ่มปีนขึ้นไป
จริงๆ แล้ว ต่อให้มียักษ์กลายพันธุ์ หลินเซินก็ไม่กลัว ตราบใดที่ไม่เจอกับราชายักษ์ ตอนนี้เขาไม่ต้องใช้ทักษะประกาย แค่พละกำลังของร่างกาย ก็สามารถสู้กับยักษ์พวกนั้นได้
ด้วยพลังเสริมจากบูชายัญสวรรค์ ค่าสี่อย่างของเขาเพิ่มขึ้นเกินยี่สิบไปแล้ว และกำลังจะถึงสามสิบ ซึ่งเพียงพอที่จะสู้กับสิ่งมีชีวิตคริสตัลทั่วไป
ค่าพลังของเขายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนเครื่องสังเวย แต่ความเร็วในการเพิ่มขึ้นกลับช้าลง
ยักษ์พวกนั้นถูกล่อออกไปหมดแล้วจริงๆ บนภูเขาด้านนี้ก็มีหลุมเยอะ ก่อนหน้านี้คงเป็นที่พักของยักษ์
หลินเซินปีนขึ้นไปจนถึงยอดเขา ไม่เจอยักษ์เหล็กกล้าแม้แต่ตัวเดียว แต่กลับเจอถ้ำ
“ที่ฉันไม่เจออะไรเลยระหว่างทาง ก็เพราะถ้ำมันอยู่ตรงนี้ ต้องมองจากด้านหน้าถึงจะเห็น พวกนั้นคงจะอยากเข้าไปในถ้ำนี้ ถึงได้โดนยักษ์ล้อม”
หลินเซินคิด “แต่พวกเขาจะเข้าไปในถ้ำเพื่อหลบซ่อน หรือเพราะพบอะไรบางอย่างในถ้ำกันแน่?”
โชคดีที่หลินเซินไม่ต้องคิดมาก แค่แอบเข้าไปดูในถ้ำก็น่าจะได้คำตอบแล้ว
หลินเซินมองลงไปข้างล่าง การต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น คนของตระกูลฉีและตระกูลหวังที่เหลืออยู่ไม่ถึงยี่สิบคนแล้ว ยักษ์ก็ตายไปเยอะ พื้นดินเต็มไปด้วยซากศพของยักษ์
ราชายักษ์และไป๋เสินเฟยกำลังสู้กันอย่างดุเดือด ไม่มีเวลามาสนใจด้านบน
หลินเซินคลานไปที่ถ้ำอย่างระมัดระวัง เขาไม่อยากให้ราชายักษ์เห็น
โชคดีที่ราชายักษ์ไม่มีเวลามาสังเกต หลินเซินเข้าไปในถ้ำได้สำเร็จ
“ไข่กลายพันธุ์!” ทันทีที่เข้าไปในถ้ำ หลินเซินก็เห็นไข่กลายพันธุ์ในสระน้ำที่อยู่ด้านในสุดของถ้ำ
ถ้ำค่อนข้างใหญ่ แต่ไม่ลึก มองเห็นได้ทั้งหมด ในที่สูงแบบนี้ ด้านในสุดกลับมีสระน้ำพุร้อน น้ำในสระยังมีควันลอยขึ้นมาอีกด้วย
ตรงกลางสระ มีไข่กลายพันธุ์สีดำเหมือนเพชร สูงประมาณครึ่งเมตร นี่เป็นไข่กลายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดที่หลินเซินเคยเห็น
ดูจากรูปร่างแล้ว น่าจะเป็นไข่กลายพันธุ์ระดับคริสตัล
“เจ้านี่จะเป็นลูกของราชายักษ์หรือเปล่า? ถ้าใช่ ฉันรวยแล้ว!” หลินเซินกระโดดลงไปในสระ น้ำในสระไม่ลึก แค่ระดับหน้าแข้ง
เขาใช้มือทั้งสองข้างจับไข่กลายพันธุ์ พยายามยกมันขึ้นมา แต่ครั้งแรกกลับยกไม่ขึ้น
หลินเซินตกใจมาก ตอนนี้พละกำลังของเขามี 27 แต้ม ยกช้างด้วยมือเดียวได้สบายๆ แต่กลับยกเจ้านี่ไม่ขึ้น มันต้องหนักขนาดไหนกัน?
จริงๆ แล้ว หลินเซินไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้ เขาเลยไม่ได้ออกแรงมาก
ครั้งนี้หลินเซินตั้งท่า ใช้ท่าที่ออกแรงได้มากที่สุดยกมันขึ้น ในที่สุดก็ยกไข่กลายพันธุ์สีดำเหมือนเพชรที่สูงครึ่งเมตรขึ้นมาได้
“หนักชะมัด!” หลินเซินรู้สึกหนัก อุ้มไข่กลายพันธุ์ออกมาจากสระ แล้ววางลง
มันหนักเกินไป แรงทั้งหมดของเขาใช้ไปกับการอุ้มมัน เดินช้ามาก
“โชคดีที่ไข่กลายพันธุ์เป็นรูปไข่” หลินเซินกลิ้งไข่กลายพันธุ์ออกไป ในถ้ำนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว นอกจากไข่กลายพันธุ์ฟองนี้