ตอนที่แล้วบทที่ 22 การเสริมแกร่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 การลงมือ

บทที่ 23 การพบเจอ


อาเดียร์ยืนอยู่กับที่ ครุ่นคิดอย่างเงียบๆอยู่นาน

เมื่อไม่สามารถหาคำตอบได้ เขาตัดสินใจเลิกคิด และเดินเข้าไปสำรวจห้องอย่างละเอียด

ห้องนี้ดูเหมือนจะถูกทิ้งร้างมานาน

พื้นเต็มไปด้วยฝุ่นหนา แสดงให้เห็นว่ามันน่าจะถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อยหลายปี

ในห้องนั้น เขาพบชั้นหนังสือบางชั้นที่เต็มไปด้วยหนังสือ

หนังสือแต่ละเล่มมีป้ายที่เขียนด้วยตัวอักษรซึ่งไม่คุ้นเคย

อาเดียร์หยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา ปัดฝุ่นออก ก่อนจะเริ่มเปิดดู

“ชิป สร้างภารกิจใหม่ วิเคราะห์ตัวอักษรของโลกนี้”

เสียงตอบกลับดังขึ้นในหัว

“ติ๊ง! ภารกิจหนึ่งถูกสร้างแล้ว”

ขณะที่อาเดียร์เปิดอ่านหนังสือ พลิกหน้ากระดาษในมืออย่างรวดเร็ว ชิปในหัวของเขาก็เริ่มทำการสแกน

บันทึกข้อความทั้งหมด เนื้อหาในหนังสือถูกบันทึกลงในฐานข้อมูล เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบ

ด้วยการวิเคราะห์เชิงลึก เปรียนเทียบข้อความจำนวนมาก และพลังการคำนวณของชิป

หากมีข้อมูลมากพอ ชิปจะสามารถถอดรหัสภาษาของโลกนี้ได้ในที่สุด

ดูเหมือนว่าห้องนี้จะเคยเป็น ห้องสมุด ในอดีต

อาเดียร์ใช้เวลาสำรวจอยู่นาน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“เวลาที่คาดว่าจะใช้ในการถอดรหัสภาษาคือ 37 วัน 8 ชั่วโมง...”

หลังจากบันทึกเสร็จสิ้น เสียงชิปแจ้งเตือนดังขึ้น พร้อมระบุเวลานับถอยหลังที่ต้องใช้ในการทำภารกิจให้สำเร็จ

“37 วัน...”

อาเดียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้กังวลมากนัก

เขาส่ายหัวและตัดสินใจเดินขึ้นไปสำรวจชั้นสอง

เมื่อเทียบกับชั้นล่างที่เต็มไปด้วยซากศพ ชั้นสองกลับสะอาดกว่ามาก

แม้ว่าจะมีซากศพอยู่บ้าง แต่จำนวนกลับน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ชั้นสองยังคงมีห้องหลายห้อง

อาเดียร์เดินไปยังห้องหนึ่งและเปิดประตูอย่างระมัดระวัง

ภายในห้องนั้นเงียบสงบ

แต่แทนที่จะพบหนังสือ เขากลับพบว่ามีสิ่งของที่ดูเหมือนจะเป็น ยาหลากหลายชนิด ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ

กลิ่นที่ไม่คุ้นเคยลอยออกมาจากในห้อง

มันเป็นกลิ่นที่แปลกจนทำให้อาเดียร์หยุดชะงักและมองเข้าไปในห้องด้วยความสงสัย

อาเดียร์เดินเข้าไปในห้อง ดวงตาของเขาสังเกตเห็นแขนข้างหนึ่งที่ถูกตัดขาดซึ่งกำลังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด

แขนนั้นวางอยู่บนชั้นวาง ดูเหมือนเป็นของเด็กสาว

แขนข้างนี้ถูกฟันขาดอย่างเรียบเนียน ไม่ปรากฏร่องรอยเลือด แต่กลับซีดขาวอย่างน่าขนลุก

สิ่งที่ทำให้อาเดียร์ต้องหยุดคิด คือ แขนข้างนี้ยังดูใหม่อยู่

“ถูกตัดออกไปเมื่อประมาณสามถึงสี่วันก่อน”

อาเดียร์วิเคราะห์อย่างใจเย็น ดวงตาของเขาสำรวจรอบห้อง ภายในเต็มไปด้วยขวดและอุปกรณ์ที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการรักษา

เขาเริ่มคิดว่า ห้องนี้น่าจะเป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์และยารักษาโรค

และที่สำคัญ มันบ่งบอกว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีใครบางคนยังเคยอยู่ที่นี่ และในละแวกนี้อาจมีผู้รอดชีวิตอยู่

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ อาเดียร์จึงเริ่มสำรวจห้องอื่น ๆ หวังว่าจะพบร่องรอยเพิ่มเติม

เขาเปิดประตูห้องทีละห้อง และในบางห้องก็พบสิ่งใหม่ ๆ

ในห้องหนึ่ง เขาพบว่ามีแมลงขนาดเล็กอาศัยอยู่ เขาทดลองฆ่ามัน

แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เขาเคยสัมผัสพลังงานพิเศษที่ช่วยเพิ่มพูนความเเข็งเเกร่งของเขา

ภายใต้การเฝ้าติดตามของชิปในสมอง ไม่มีสัญญาณใด ๆ ของการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา

“หรือว่าต้องเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทพิเศษเท่านั้น ที่จะมอบพลังนั้นให้ได้?” อาเดียร์คิดในใจ

ด้วยความสงสัย เขาเดินมาถึงหน้าห้องถัดไป

มันเป็นประตูเหล็กที่ถูกล็อกด้วยกุญแจหลายชั้น มันดูแปลกประหลาด ราวกับว่ามันกลัวว่าอะไรข้างในจะหลุดออกไป

บนประตูปรากฏรอยบุบและรอยขีดข่วนหลายจุด ร่องรอยเหล่านี้ดูเหมือนจะเกิดจากการโจมตีภายในห้อง

แรงกระแทกที่หนักหน่วงจนทำให้ประตูเหล็กแข็งแกร่งนี้เสียรูปได้

ยืนอยู่หน้าประตู อาเดียร์รู้สึกถึงบางสิ่งผิดปกติจากสัญชาตญาณ

จากภายใน มีบางอย่างที่ปล่อยลมหายใจ ออร่าลึกลับออกมา ความรู้สึกอันตรายพลันเกิดขึ้นในใจเขา

อาเดียร์จ้องมองประตูนั้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจไม่เปิดประตู

เขาไม่เดินไปสำรวจห้องถัดไปด้วยซ้ำ แต่เลือกที่จะออกจากบริเวณนี้ทันทีด้วยความระมัดระวัง

บริเวณนี้ดูเหมือนจะมีอันตรายที่ไม่รู้จักซ่อนอยู่ อีกทั้งยังไม่มีร่องรอยว่ามีผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่

อาเดียร์จึงตัดสินใจออกจากบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า พบว่าฟ้าเริ่มมืดลงอย่างเห็นได้ชัด

เวลานี้ใกล้ค่ำเต็มที รอบข้างเริ่มมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ

บรรยากาศที่เคยเงียบสงบกลับเต็มไปด้วยเสียงแมลงร้อง และเสียงคำรามต่ำ ๆ ที่ชวนขนลุก

บริเวณนี้ดูเหมือนจะอันตรายขึ้นในชั่วพริบตา และอาจจะน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลากลางคืนมาถึง

เมื่อคิดเช่นนี้ อาเดียร์ที่กำลังจะก้าวเดินออกไป กลับหยุดนิ่ง

ค่ำคืนนี้ บริเวณนี้ดูเหมือนจะอันตรายเกินไป หากเขาเลือกที่จะออกจากที่นี่ในเวลานี้ อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงเดินไปยังห้องอีกฝั่งที่ดูมั่นคงกว่า และเตรียมตัวพักอยู่ในนั้นจนถึงรุ่งเช้า

อาเดียร์ปิดประตูเหล็กหนาแน่น แล้วใช้ของหนักกดทับไว้ ก่อนจะเดินไปนั่งเงียบ ๆ ที่มุมห้อง ไม่ส่งเสียงหรือขยับตัวอีก

โลกยามค่ำคืนแตกต่างจากเวลากลางวันอย่างสิ้นเชิง

ด้วยประสาทสัมผัสอันเฉียบคม อาเดียร์สามารถได้ยินเสียงจากที่ไกลออกไปอย่างชัดเจน

เสียงเหล่านี้เต็มไปด้วยความน่าหวาดกลัว ทั้งเสียงแมลงร้อง เสียงคำรามของสัตว์ป่าที่ดังขึ้นไม่ขาดสายในโลกภายนอก

อาเดียร์จินตนาการได้ว่า โลกภายนอกตอนนี้คงเต็มไปด้วยอันตรายมากกว่าตอนกลางวันอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น เขาลืมตาขึ้นพร้อมลุกขึ้นยืน

จากที่ไกลออกไป มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้น แทรกมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักหน่วงที่อ่อนแรง

“มีคนอยู่ใกล้ ๆ !” ความคิดนี้พุ่งเข้ามาในหัวของอาเดียร์ ขณะที่มือขวาของเขาเอื้อมไปแตะดาบยาวที่เอว

เขายืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจผลักประตูออก แล้วก้าวออกมาจากห้อง

ในเวลานั้น ฟ้าภายนอกมืดลงอย่างมาก แต่ยังคงมีแสงรำไรเพียงพอให้มองเห็น

ที่ไกลออกไป เขาเห็นร่างสามร่างกำลังวิ่งหนีอย่างลนลาน ท่าทางเหมือนกำลังถูกบางสิ่งไล่ล่า

“วิ่งเร็วเข้า!” เสียงตะโกนดังขึ้นจากระยะไกล

คนทั้งสามที่วิ่งมาจากที่ไกล เมื่อมองเห็นเงาร่างตรงหน้าตึก พวกเขาชะงักไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ

แต่เมื่อเห็นว่าเป็นอาเดียร์ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นโล่งใจ รีบส่งเสียงตะโกนเรียกเขาทันที

พวกเขาต้องการจะส่งสัญญาณเตือนบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เป็นการกระทำที่เสียเปล่า

อาเดียร์ไม่สามารถเข้าใจภาษาของโลกนี้ได้เลย จึงไม่รู้ว่าพวกเขาตะโกนพูดอะไรกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นท่าทางตกใจและเร่งรีบของคนทั้งสาม อาเดียร์ก็พอจะเดาได้ถึงความหมายโดยรวม

เขาไม่ได้เลือกที่จะหนี แต่กลับใช้มือขวาดึงดาบยาวออกมาจากฝัก พร้อมกับจ้องมองไปยังสิ่งที่อยู่ไกลออกไปด้วยสายตาลึก

สิ่งที่ปรากฏอยู่ไกลนั้น คือสัตว์ประหลาดลักษณะคล้ายแมลงขนาดใหญ่

มันมีลำตัวคล้ายด้วงที่ปกคลุมด้วยเกราะสีดำมันวาว

แต่สิ่งที่ทำให้ขนลุกมากที่สุดคือกรงเล็บอันแหลมคมและปากอันน่าสะพรึงกลัว

ที่ดูพร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่งในเส้นทางของมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด