ตอน 11 ยันต์ปราณกระบี่เต็มพิกัด!
ผนึกเทียนเสวียน : ต้องการ 120,000 คะแนน
โอสถระดับหก : ต้องการ 30,000 คะแนน
..
เฉินหยวนมองผ่านเร็ว ๆ และพบของแพง ๆ ที่มีราคาแพงจริง ๆ
ราคาเริ่มต้นนั้นมักจะเริ่มที่หลายหมื่นคะแนน บางชิ้นมีเป็นหลายล้านคะแนน
นั่นยังหมายความว่าของแต่ละชิ้นนั้นล้ำค่าเป็นอย่างมากและเฉินหยวนก็อยากได้มันด้วย
แต่เมื่อมอง 400 คะแนนที่เขามีก็ต้องยอมแพ้
เขาจะไปจ่ายได้อย่างไร?
มีไม่ถึงแม้แต่เสี้ยวเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ยังไม่เหมาะกับวิชาเคล็ดลับอะไรพวกนั้น
เขาต้องการของใช้งานที่แข็งแกร่ง เหมือนกับดีเสิทอีเกิล
เพลิงนภาลามทุ่ง : 10,000 คะแนน
อัสนีเทพพิโรธ : 30,000 คะแนน
ยันต์ทะเลเพลิง : 3,000 คะแนน
ยันต์ปราณกระบี่ : 100 คะแนน
ดูจากของใช้งานเหล่านี้แล้ว เฉินหยวนที่มี 400 แต้มนั้นซื้อได้แค่ยันต์ปราณกระบี่เท่านั้น และซื้อไม่ได้ทั้งหมด
เขาลองคิดดูและอัพโหลดวิชามังกรแหวกวารีขึ้นไป
“ติ๊ง เฉินหยวนอัพโหลดวิชามังกรแหวกวารีและได้รับ 500 คะแนน”
เมื่อได้ 500 แต้มมาแล้ว เขาซื้อยันต์ปราณกระบี่ทั้งห้าแผ่นทันที
ลู่หยวน
“บอสเฉินหยวนระวังตัวมาก เขาซื้อยันต์ปราณกระบี่ไปหมดเลย”
ฉินห่าว
“เขาฉลาดพอน่ะ แค่เหลือบตามองก็รู้แล้วว่าใครจะมีชีวิตรอดได้”
เฉินเฉียนเฉียน
“เฉินหยวนทำถูกแล้ว พอเจอวิกฤติ อย่าไปขี้เหนียวเงินทอง ถ้าหากเปลี่ยนมันเป็นพลังการต่อสู้ได้ก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นตายไปมันก็ไร้ค่า”
หวังหู่
“แต่พวกเราไม่มีเลยซักคะแนนนะ?”
หวังคู่
“แชทกลุ่มนี้มันบ้าจริง ๆ ไม่มีของขวัญมือใหม่ดี ๆ แล้วยังจะไม่ให้คะแนนมาอีก”
เย่เฉิน
“ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน พวกเราไม่มีคะแนนแล้วจะไปทำอะไรได้?”
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“ก็หาของล้ำค่าในโลกของตัวเองสิ อย่างทอง วิชาลับ อย่างที่เฉินหยวนทำ อย่างเช่นวิชานินจาโลกาเพลิงที่เย่เฉินอยู่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะ”
เย่เฉิน
“พูดได้ดี แล้วผมจะไปหาวิชานินจาพวกนั้นมาจากไหน? วิชานินจาไม่ใช่ของที่หากันได้ง่าย ๆ นะ แล้วผมก็เพิ่งจะมาถึงโลกนี้ด้วย ถ้าไปที่หมู่บ้านนินจา ผมอาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้”
ลู่หยวน
“ผมอยู่ในโลกล่มสลาย มีซอมบี้เต็มไปหมดเลย ซอมบี้มันอัพโหลดได้ไหมล่ะ?”
ไป่เย่
“ช่างเรื่องซอมบี้เถอะ อย่างน้อยก็มีโอกาสที่ซอมบี้จะมีแกนกลางที่ขายได้อยู่”
ลู่หยวน
“แต่ซอมบี้พวกนั้นน่ากลัวมากเลยนะ เอาร่างเล็ก ๆ นี่ออกไปก็มีหวังได้เป็นอาหารพวกมันพอดี”
ไป่เย่
“มันไม่มีทางอื่น เฉินหยวนให้จดหมายแดงไปไม่ใช่เหรอ? ฝึกสองวิชาลับนั้นสิ ถ้ามีพลังแล้วก็หาทางเก็บคะแนนได้นะ”
เฉินเฉียนเฉียน
“นายโชคดีแล้ว เฉินหยวนให้วิชาลับที่ทำให้แกร่งขึ้นตั้งแต่เริ่ม พวกเราไม่มีของแบบนั้นในตอนแรกหรอกนะ พวกเราซ่อนตัวเป็นปี ๆ และไม่มีใครตอบคำถามกันได้ ไม่มีใครใจดีอย่างเฉินหยวนที่ให้วิชาลับมาหรอก”
เย่เฉิน
“ใช่แล้ว สองวิชานั้นก็มีราคาวิชาละ 200 แต้ม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะไปหา 400 แต้มนั้นมาจากไหน”
หวังหู่
“หรือว่าเราจะไม่มีทางได้แต้มเลยจนเราตายนะ?”
ลู่หยวน
“มันก็คงเป็นไปได้ แต่บอสเฉินหยวนน่ะยอดไปเลย”
เฉินหยวน
“ยันต์ปราณกระบี่ใช้ได้ดีแค่ไหนเหรอ? มันฆ่าคนในขอบเขตแก่นแท้ได้ไหม?”
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“มันใช้ได้ดีนะ ลองดูก็ไม่เสียหาย”
เฉินเฉียนเฉียน
“มันไม่ปลอดภัย แม้ว่ายันต์ปราณกระบี่จะมีผล แต่มันก็เป็นยันต์จากต่างโลกของนาย มันอาจจะทำอะไรศัตรูไม่ได้ก็ได้ เพราะพลังต่อสู้ของสองโลกนั้นยากที่จะเปรียบเทียบ ถ้าเก็บซ่อนมันไว้ได้ก็เก็บไว้ก่อน ถ้าสิ้นหวังจริง ๆ ค่อยลองใช้ยันต์ปราณกระบี่นะ”
ฉินห่าว
“ฉันเห็นด้วยนะ”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับคำแนะนำ (ลองสังหารศัตรูด้วยยันต์ปราณกระบี่) เมื่อทำสำเร็จจะได้รับสมบัติระดับเงิน”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับคำแนะนำ (หากไม่มีทางเลือก จงใช้ยันต์ปราณกระบี่ต่อสู้) เมื่อทำสำเร็จจะได้รับสมบัติระดับเงิน”
คำแนะนำสองหน้าต่างโผล่ขึ้นมา
เฉินหยวนสีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย มันเป็นแค่สมบัติระดับเงินเท่านั้น
ต่อให้ทำสำเร็จ มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเขาเท่าใดนัก
ยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับสมบัติพวกนี้แล้ว การมีชีวิตรอดยังสำคัญกว่า
….
“เจ้าหนีไม่รอดหรอก”
มีเสียงตะโกนดังมาจากข้างหลัง
เฉินหยวนหันหน้าไปเห็นชายวัยกลางคนที่วิ่งมาหาเขาด้วยความเร็วอันน่ากลัว
แม้ว่าเขาจะมีวิชามังกรแหวกวารีแต่ศัตรูกลับย่นระยะระหว่างพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
“ขอบเขตแก่นแท้!”
เฉินหยวนใจหาย นี่คือขอบเขตแก่นแท้ของจริง
แต่มันไม่น่าแปลกใจ ถ้าเป็นถึงระดับหัวหน้าของสามตระกูลใหญ่ มันก็เป็นไปได้ที่จะอยู่ขอบเขตแก่นแท้
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ เฉินหยวนรู้ว่าเขาไม่สามารถหลบศัตรูด้วยความเร็วของเขาได้อีกแล้ว
ทางเดียวในการหนีจากอันตรายครั้งนี้ก็คือทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักหรือตาย
อย่างน้อยอีกฝ่ายก็จะตามไม่ทันเขา
เขาไม่รอช้า เขาหยิบดีเสิทอีเกิลขึ้นมาและลั่นไกอย่างต่อเนื่อง
ปั้ง ปั้ง ปั้ง
เสียงดังลั่นต่อเนื่อง กระสุนทะลวงผ่านอากาศไปด้วยความเร็วน่ากลัว
“กระจอก!”
หลินชางเหอร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวผ่องปกคลุมทั้งร่างกายราวกับเกราะคุ้มครอง
แกร๊ง
เมื่อกระสุนปะทะกับแสงสีขาว มันเหมือนกับปะทะแผ่นเหล็กและทะลวงผ่านไม่ได้แม้แต่น้อย
“กระสุนใช้ไม่ได้เหรอเนี่ย?”
“บนโลกแฟนตาซี ยิ่งไปไกลมากเท่าใดก็ยิ่งยากที่จะเข้าใจในพลัง ทุกครั้งการเปลี่ยนแปลงจะมากมายมหาศาล”
เฉินหยวนหน้าหมอง
เมื่อเห็นเฉินหยวนเปลี่ยนสีหน้า หลินชางเหอยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ขอบเขตร่างกายระดับหกกล้ามาฆ่าคนตระกูลหลินของข้าในเมืองเทียนเซี่ยง อยากจะรู้ว่าเจ้าจะยังมีอะไรเหลืออีกไหม”
“เจ้าตระกูลหลิน ถ้ามีสมองท่านก็น่าจะรู้ว่าข้ามีความสามารถในการฆ่าคนตระกูลหลินในเมืองเทียนเซี่ยงของท่านหรือไม่!”
“ข้าต้องหนีจากท่านหรือ?”
ทันทีที่เฉินหยวนได้ยินเขาก็รู้ว่าคนที่อีกฝ่ายกำลังตามหานั้นไม่ใช่เขาเลย
เห็นได้ชัดว่าเขาถูกใส่ความ
“ถ้าไม่ใช่เจ้า แล้วทำไมเจ้าถึงต้องหนี?”
หลินชางเหอเริ่มใจเย็นลงเล็กน้อย ถ้าหากเป็นเฉินหยวนจริง มันคงจะยากที่จะฆ่าคนตระกูลหลิน
“ทุกคนก็มีสมอง ต่อให้ไม่ใช่ฝีมือข้า ท่านคิดรึว่าข้าจะรอดชีวิตถ้าตกอยู่ในมือท่านแล้ว?”
“ต่อให้ท่านไม่ทำอะไรข้า คนที่ใส่ความข้าก็คงไม่ปล่อยข้าไป”
เฉินหยวนพูดเบา ๆ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่ออีกฝ่าย แต่เป็นเพราะเขาไม่เชื่อใจทัณฑ์สวรรค์
เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าถ้าหากเขาโดนจับไปตั้งแต่แรก
อีกฝ่ายจะไม่ถามแม้แต่เหตุผลและตบเขาตายคาที่
ในโลกแบบนี้ ชีวิตมนุษย์นั้นไม่ต่างจากต้นไม้ใบหญ้าไร้คุณค่าใด
โดยเฉพาะกับผู้บ่มเพาะพลังไร้สังกัด พวกตระกูลใหญ่นั้นไม่ได้สนใจคนอย่างเขาแม้แต่น้อย
ต่อให้พวกเขาฆ่าผิดคน พวกเขาก็ไม่ใส่ใจ
“เจ้าไม่มีเหตุผลให้ฆ่าคนตระกูลหลิน”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ฆาตกร หลินชางเหอก็ไม่คิดจะปล่อยเฉินหยวนไป
เพราะเฉินหยวนในตอนนี้กำลังหนีและเขาฆ่าคนตระกูลหลินไปหลายคนแล้ว
“ไม่ใช่แล้ว”
“นี่คือเหตุผลที่เจ้าฆ่าคนตระกูลหลิน วันนี้เจ้าจะต้องตายที่นี่”
เฉินหยวนพูดอย่างเย็นชา
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับท่านรึ?”
หลินชางเหอทำตาเยาะเย้ยล้อเลียนท่าทางโอหังของเฉินหยวน
เขาเองก็มั่นใจ
เพราะเขาอยู่ในขอบเขตแก่นแท้ระดับเจ็ด ส่วนอีกฝ่ายอยู่แค่ขอบเขตร่างกายระดับหก
ไม่ว่าจะมองอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่มีทางได้เปรียบ
เฉินหยวนสีหน้าเรียบเฉย เขาหยิบยันต์ปราณกระบี่ออกมาและกระชากมันออก
และเพื่อความปลอดภัย เฉินหยวนใช้ยันต์ปราณกระบี่สี่แผ่น
ชิ้ง
เสียงกระบี่แหลมดังขึ้นตามด้วยแสงกระบี่สว่างมากมายพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
แสงกระบี่ไร้สิ้นสุดนั้นพุ่งออกมาดั่งแม่น้ำสายยาวที่แผ่ขยายทั่วฟ้า
ภายใต้แสงวกระบี่กว้างใหญ่ ร่างของหลินชางเหอเล็กลง
ตู้ม
แม้น้ำพลังปราณกระบี่กระแทกลงมาจมหลินชางเหอไป