EP.3 พลังในการหยิบ 2
EP.3 พลังในการหยิบ 2
ชั้นได้นำ 2 ประเด็นกลับไปคิดทบทวนเพื่อให้เกิดความสมดุล ชั้นรู้ว่าชั้นนั้นสามารถพัฒนามันได้โดยการกระตุ้นเนื้อเยื่อสมองของตัวเองและการเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ชั้นไม่แน่ใจนักว่าชั้นจะไม่ฆ่าตัวตายโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนที่สมองของชั้นจะพัฒนาได้หรือเปล่า เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ชั้นได้รับพลังสัมผัสเพื่อวินิจฉัย ดังนั้นชั้นจะรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าอะไรผิดปกติกับตัวเองและคนอื่นเพื่อแก้ไขปัญหา
ชั้นเลือกการเก็บพลังงานไว้เพื่อจุดประสงค์เดียวคือชั้นรู้ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่ออัปเกรดเต็มที่เพราะ Sebastian Shaw (เซบาสเตียน ชอว์) 1 ในผู้มีพลังที่ทรงพลังที่สุดมีเรตติ้งต่ำเพียงเพราะผู้ใช้เดิมเป็นคนโง่สิ้นดี ชั้นแปลกใจที่ได้มันด้วยแต้มเพียง 1 ถึง 3 แต้มแทนที่จะเป็น 5 แต้ม
เหตุผลเดียวกันในการรู้ถึงศักยภาพของมันคือเหตุผลที่ชั้นใส่แต้ม 2 แต้มลงในการป้องกันทางจิตด้วย : การอัพเกรดจากการป้องกันทางจิตที่ดีขึ้นเป็นการป้องกันทางจิตที่สมบูรณ์แบบ จริงๆแล้วนั่นควรจะเป็นสิ่งแรกที่ชั้นทำ เพราะมันไม่สำคัญว่าคุณนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนหากคุณถูกควบคุมโดยคนอื่น
ชั้นเลือกพลังที่ชั้นคิดว่าจำเป็นจริงๆเพื่อเอาชีวิตรอดจากพลังที่เหลืออยู่ ซึ่งชั้นเลือกเพื่อประโยชน์ใช้สอยและความสนุกสนาน พลังแรกคือพลังเคลื่อนย้ายวัตถุด้วยพลังจิต ชั้นพิจารณาถึงพลังนี้แล้ว และความสามารถในการยกสิ่งของด้วยจิตใจ โดยเฉพาะตัวชั้นเอง เมื่อชั้นแข็งแกร่งขึ้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดมาก
อัตราการฟื้นคืนพลังยอดมนุษย์ระดับต่ำ หากชั้นหมดสติและไม่สามารถเข้าถึงการควบคุมชีวมวลได้ ชั้นจะมีโอกาสตายน้อยลง พลังนี้จะให้ปัจจัยการรักษาที่คล้ายกับสไปเดอร์แมน โดยบาดแผลที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการรักษาจะหายได้ภายในไม่กี่นาที บาดแผลที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการรักษาอาจหายได้ภายในไม่กี่วัน และในที่สุด แม้แต่การบาดเจ็บถาวรบางส่วน เช่น ความเสียหายที่สมองจากการกระทบกระเทือนก็สามารถรักษาได้ พลังนี้จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน เมื่อถึงระดับเทพ / คอสมิคระดับต่ำมันจะทำให้ชั้นได้รับปัจจัยการรักษาที่คล้ายกับวูล์ฟเวอรีน
ชั้นเลือกที่จะเพิ่มพูนทักษะ / ความรู้ด้านเวทมนตร์และรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์มากกว่าใครๆบนโลก รวมทั้ง Doctor Strange (ด็อกเตอร์ สเตรนจ์) ด้วย ความรู้ด้านเวทมนตร์จำนวนมากที่สูญหายไปตามกาลเวลาหรือถูกสร้างขึ้นบนดาวดวงอื่น เช่น การร่ายมนตร์ซึ่งเป็นความลับที่ชาวแอสการ์เดียนปกปิดไว้เป็นอย่างดี การสามารถสร้างแหวนสลิงของตัวเองและมีความรู้เกี่ยวกับวิธีขยายความสามารถด้านเวทมนตร์ของตัวเองและของผู้อื่นจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในอนาคต
ชั้นลองลบจแต้มออกจากความผูกพัน / ความรู้ด้านเวทย์มนตร์ และจู่ๆก็จำไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งชั้นใส่แต้มนั้นกลับเข้าไป น่าเสียดายที่ถ้าชั้นยังคงความรู้ไว้แม้หลังจากลบแต้มนั้นออกไปแล้วชั้นก็จะสามารถเลือกและยกเลิกการเลือกพลังแห่งความรู้ทั้งหมดได้ สโมสรลับของเหล่านักเวทย์ใน คามาทราช และพวกบ้าที่ฝึกฝนพลังชี่ใน คุน ลุน จะต้องมีแหล่งความรู้เวทย์มนตร์อีกแห่งบนดาวเคราะห์นี้พร้อมกับชั้นที่วิ่งไปมา
ต่อไปฉันเลือกการควบคุมพืช ตามความเป็นจริงแล้วชั้นจะไม่ใช้มันเป็นเวลานานพอสมควร แต่คนเดียวที่ใช้พลังนั้นบังเอิญเป็นคนที่ชั้นไม่อยากฆ่า Poison Ivy (พอยซั่ม ไอวี่) อาจเป็น 1 ในสุดยอดวายร้ายเพียงไม่กี่คนในกลุ่มผู้ร้ายของแบทแมนที่ควรจะกักขังไว้ใน อาร์คัม อาร์ไซลัม เพราะเธอนั้นมีอาการป่วยทางจิต ชั้นไม่อยากพูดอย่างแน่ชัดว่าชั้นสามารถแก้ไขเธอได้ แต่... ชั้นอยากจะลองจริงๆ
พลังสุดท้ายที่ฉันเลือกคือพลังการฝึกฝนแบบคู่ โดยการแข็งแกร่งขึ้นเพียงแค่มีเซ็กส์ดูเหมือนจะไม่ต้องคิดมาก และชั้นตรวจสอบแล้วว่ามันไม่มีพลังอื่นใดอีกที่จะทำให้ชั้นแข็งแกร่งขึ้นได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย พลังอื่นๆอีกมากมายที่ชั้นต้องการแต่ก็ซื้อไม่ไหว พื้นที่เก็บของในอวกาศเป็น 1 ในนั้น แต่พื้นที่เก็บของขนาด 1 ลูกบาศก์ฟุตทำให้มันมีค่าต่ำกว่าพลังอื่นๆของชั้น
คะแนนรวม 18 แต้ม
-2 เพิ่มสติปัญญาให้อยู่ในระดับเฉลี่ย
-3 พลังการเจริญเติบโต
-3 (อ่อนแอ) การถ่ายเทพลัง
-2 การป้องกันจิตใจที่สมบูรณ์แบบ
-1 การควบคุมชีวมวลด้วยตนเอง
-1 ทัชการวินิจฉัย
-1 การเก็บพลังงาน
-1 พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ
-1 LSH (พลังยอดมนุษย์ระดับต่ำ) ฟื้นฟู
-1 เพิ่มความสัมพันธ์ทางด้านเวทย์มนตร์ / ความรู้
-1 การควบคุมพืช
-1 การฝึกฝนคู่
หลังจากเลือกพลังของชั้นและกดใช่ ระบบจะถามคำถามติดตามผลหลายข้อ จากการเลือกค่าสถานะเชิงลบส่วนใหญ่ ชั้นต้องเลือกผลเชิงลบถาวรหลายรายการ (อย่างน้อยถ้าชั้นไม่มีการควบคุมชีวมวล) ที่ชั้นจะต้องเจอ ลักษณะเชิงลบที่ชั้นเลือกคือ กล้ามเนื้อยึดติดยาก , ข้อเท้าพลิก , อ้วน และแผลเป็นบนใบหน้า เนื่องจากแต่ละอย่างดูเหมือนจะจัดการได้ง่าย
ชั้นสามารถเลือกลักษณะนิสัยเชิงลบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มค่าสถิติเหล่านั้นได้ แต่สำหรับชั้นแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเลย ยกเว้นว่าชั้นจะตรวจสอบซ้ำ 2 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่มีลักษณะนิสัยใดที่จัดการได้ง่ายเท่ากับในด้านสติปัญญา และเลือกแนวทางนึงในการปิดกั้นจิตใจและสมอง การมีสติปัญญาของยอดมนุษย์ก็มีปัญหาเช่นเดียวกับคนที่มีสติปัญญาระดับยอดมนุษย์ทุกคน เช่น โทนี่ สตาร์กและรีด ริชาร์ดส์
การอุดตันในสมองนั้นจัดการได้ค่อนข้างง่าย และมันจะปิดกั้นความทรงจำของชั้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับโลแกนในภาพยนตร์ นั่นไม่ใช่วิธีการทำงานทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้น การรู้ว่าชั้นมีการอุดตันและสามารถกำจัดมันได้ก็เพียงพอแล้ว… เว้นแต่ว่าชั้นจะลืมเรื่องการอุดตันนั้นไป เพราะความทรงจำนี้อยู่ในนั้น… เชี่ย! ไม่เป็นไร มันไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหาใดๆ แม้ว่าชั้นจะจำไม่ได้ และชั้นควรสังเกตเห็นมันด้วยการสัมผัสเพื่อวินิจฉัย
ชั้นรู้ว่าการก้าวไปสู่ระดับสติปัญญายอดมนุษย์ระดับต่ำนั้นมันยากมาก ดังนั้นการก้าวไปสู่ระดับสติปัญญาสูงสุดจึงดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ชั้นนั้นไม่แน่ใจว่าชั้นรู้ได้อย่างไร แต่ความรู้นั้นมาจากสัญชาตญาณจากพลังอย่างนึงของชั้น ซึ่งน่าจะเป็นการเติบโต ชั้นสรุปทางเลือกของชั้นและจิตใจของชั้นก็ถูกพาไปสู่โลกใหม่
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________