บทที่ 572: ฉันจะแข็งแกร่งขึ้น!
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 572: ฉันจะแข็งแกร่งขึ้น!
กล่าวจบ โครโนอาเหลือบมองบูที่ยืนเคียงข้าง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบเนิบ “ในเส้นเวลาของนาย ตอนที่พ่อมดบาบีดี้พาจอมมารบูมายังโลก ความจริงแล้วเขาต้องการปลดผนึกเทพเจ้ามังกรซารามะ”
“ครานั้น ไคโอชินชินมาถึงได้ทันท่วงที เพราะมิสเตอร์โปโป้จากเส้นเวลาอื่นรับรู้ถึงเหตุการณ์นี้ และได้แบ่งปันข้อมูลทั้งหมดให้กับมิสเตอร์โปโป้ในเส้นเวลาอื่น ๆ ทำให้พวกเขาสามารถนำทางไคโอชินให้ไปพบกับบาบีดี้ล่วงหน้า และจัดการกับสถานการณ์อันตรายได้อย่างลับ ๆ”
“เอ๊ะ? คุณซาตาน ท่านโครโนอาพูดถึงผมเหรอ?” จอมมารบูผงกหัวขึ้นจากหนังสือการ์ตูนในมือ ใบหน้าฉายแววสงสัย เพราะไม่ได้ใส่ใจฟังบทสนทนาที่ผ่านมาแม้แต่น้อย
“ไม่ ไม่” ซาตานร้องปลอบประโลมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับไปหาโครโนอาด้วยสีหน้าฉาบไปด้วยความกังวล เหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้า
ในฐานะมนุษย์ผู้มีพลังอันน้อยนิด การรับรู้เรื่องราวใหญ่โตเกินกว่าจะรับไหวเช่นนี้ ทำให้ลางสังหรณ์แห่งหายนะก่อตัวขึ้นในใจของซาตาน ราวกับเงาดำที่คืบคลานเข้ามาใกล้
หลังจากฟังคำอธิบายของโครโนอาจบลง ความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งกลุ่ม ราวกับมีเงาแห่งความลึกลับปกคลุม
ปรากฏว่ายอดฝีมือผู้ทรงพลังเกินกว่าจะคาดคิดเช่นนี้ ได้แฝงตัวอยู่ท่ามกลางพวกเขามาโดยตลอดราวกับเงาที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
เรื่องราวอันน่าตกตะลึงนี้ราวกับมีใครมาบอกว่า แท้จริงแล้วซาตานคือทูตสวรรค์สูงสุด...
อืม?
เอาเข้าจริงแล้ว ความคิดที่ว่าซาตานเป็นทูตสวรรค์สูงสุดอาจจะยิ่งชวนตื่นตะลึงและน่าหวั่นเกรงกว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ได้ยินมาเสียอีก ถ้ามันเป็นจริงนะ...
โกคูเกาหัวอย่างครุ่นคิด ในที่สุดเขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเหตุใดมิสเตอร์โปโป้จึงสามารถถ่ายทอดวิชาความรู้มากมายให้เขาได้ในอดีต
เหตุใดสิ่งมหัศจรรย์อย่าง "ห้องกาลเวลาในวิหารพระเจ้า" จึงตั้งอยู่ ณ พระราชวังเบื้องบนโลกใบนี้?
หรือทั้งหมดนี้เป็นเพราะมิสเตอร์โปโป้เคยเป็นผู้ติดตามของเทพมังกรซารามะ?
“ท่านโครโนอา…” โกคูชายตามองลูกแก้ววิเศษ
ภายในลูกแก้ววิเศษนั้น มิสเตอร์โปโป้นับร้อยนับพันกำลังหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
“มิสเตอร์โปโป้ ตอนนี้…”
“มิสเตอร์โปโป้กำลังรวบรวมพลังทั้งหมดในร่างแยกของตนเพื่อฟื้นฟูพลัง หลังจากเวลาเนิ่นนาน ในที่สุดเขาก็เริ่มลงมืออย่างจริงจัง!”
“พลังทั้งหมดของมิสเตอร์โปโป้หรือ?” โกคูเผยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังขึ้นมาทันที
…
กลับมายังเบื้องหน้าหลินเฉิน
ขณะร่างแยกของมิสเตอร์โปโป้หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง ซารามะก็ระเบิดพลังทั้งหมดออกมา ราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ดวงตาคมกริบจับจ้องทุกความเคลื่อนไหวอย่างไม่วางตา
ถึงแม้มิสเตอร์โปโป้จะเคยเป็นผู้ติดตามมาก่อน แต่ซารามะก็ไม่เคยลืมเลือนว่าตนเป็นเพียงร่างแยกของเทพเจ้ามังกรซารามะที่แท้จริง
กระนั้น การต้องต่อสู้กับอดีตผู้ติดตามเช่นนี้ ซารามะไม่มีวันยอมถอยหนี
“โปโป้ มาเถอะ! ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้ายังมีพลังเหลืออยู่เท่าไหร่หลังจากผ่านมานานขนาดนี้! ปืนใหญ่มังกร!”
เสียงคำรามกึกก้องของมังกรดังสะท้านฟ้าเบื้องหลังซารามะ เหล่าเทพเจ้ามังกรซูเปอร์นับสิบคำรามลั่นพร้อมกัน พ่นลำแสงสีทองอร่ามจากปาก แปรเปลี่ยนเป็นกระแสธารทองคำอันบ้าคลั่ง พุ่งตรงเข้าใส่โปโป้
เห็นดังนั้น มิสเตอร์โปโป้ก็ถอนหายใจยาว “ท่านซารามะ ได้โปรดมีสติเถิด”
จากนั้น จุดแสงจาง ๆ ราวกับประกายหิ่งห้อยก็พุ่งออกจากปลายนิ้วของโปโป้
แม้แสงนั้นริบหรี่แทบมองไม่เห็น ทว่าเมื่อปืนใหญ่มังกรของซารามะปะทะเข้ากับมัน พลังทำลายล้างกลับชะงักงัน ก่อนจะไหลย้อนกลับราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก ในที่สุดก็พุ่งเข้าใส่เทพเจ้ามังกรซูเปอร์ที่ยืนตระหง่านอยู่ด้านหลังซารามะ
ร่างของเทพเจ้ามังกรซูเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่เมื่อครู่ สลายกลายเป็นแสงดาวพร่างพรายหายไปในชั่วพริบตา
เปลือกตาของซารามะกระตุก
เขาเข้าใจความลับที่ซ่อนเร้นอยู่ในพลังโจมตีนั้นดี
เห็นได้ชัดว่ามิสเตอร์โปโป้ใช้พลังแห่งกาลเวลาย้อนกลับการโจมตีของเขากลับมา
แต่ปืนใหญ่มังกรคือท่าไม้ตายที่ซารามะหลอมรวมเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์
กล่าวคือ ในการปะทะกันเพียงเสี้ยววินาทีนั้น พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกพลังแห่งกาลเวลาของโปโป้กลืนกินจนหมดสิ้น
แม้ซารามะในยามนี้จะเป็นเพียงร่างแยก แต่ความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองก็ราวฟ้ากับเหว
“ไม่! ข้าต้องทำลายผนึกและเรียกคืนพลังที่แท้จริงกลับมาโดยเร็วที่สุด! โปโป้ วันนี้พอแค่นี้! แต่ครั้งหน้าที่เราได้เจอกัน เจ้าจะไม่โชคดีแบบนี้อีก!”
“ถึงตอนนั้น ข้าจะทำให้เจ้าชดใช้สำหรับการทรยศ!”
ซารามะคำรามลั่น น้ำเสียงแข็งกร้าว ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความแค้น ก่อนที่ประตูมิติจะปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขา
เขานำดราก้อนบอลสีดำทั้งสามลูกไปด้วย ซารามะก้าวล่วงผ่านประตูมิติ ร่างของเขาเลือนหายไปจากโลกนี้ในชั่วพริบตา
แม้ร่างจะสูญสลายไปจากโลกนี้แล้ว แต่ซารามะได้ทิ้งรอยแผลฉกรรจ์ที่ไม่อาจเยียวยาไว้เบื้องหลัง บิดผันเส้นเวลาจนยุ่งเหยิงเกินกว่าจะแก้ไข
มิสเตอร์โปโป้มองไปรอบ ๆ ส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด
“ซารามะ ท่านจะสร้างความวิบัติไปถึงเมื่อไหร่กัน กว่าจะเข้าใจความตั้งใจอันแสนยากเย็นของท่านเซ็นโอ”
สิ้นคำ มิสเตอร์โปโป้ก็หันไปหาหลินเฉิน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณหลินเฉิน ให้ผมพาคุณกลับไปยังเถาแห่งกาลเวลานะครับ”
“หืม?”
ยังไม่ทันที่หลินเฉินจะได้เอื้อนเอ่ยตอบ บรรยากาศรอบตัวก็พลันบิดเบี้ยว ทิวทัศน์แปรเปลี่ยน พวกเขากลับมายังเถาแห่งกาลเวลาอีกครา
“พี่หลินเฉิน!”
“ฝ่าบาท?!”
ในระยะไกล โกคูและเบจิต้าอุทานด้วยความตกตะลึง
โครโนอาซึ่งเพิ่งล่วงรู้ผ่านลูกแก้ววิเศษว่าหลินเฉินและคนอื่น ๆ ได้เดินทางกลับมายังเถาแห่งกาลเวลาแล้ว จึงรีบเร่งมายังที่แห่งนี้โดยพลัน
ซาตานและบูรับหน้าที่เป็นแพทย์สนามอีกครา คอยดูแลรักษาโกฮังและคนอื่น ๆ ที่บาดเจ็บสาหัส
“ขออภัย ท่านโครโนอา พวกเราไม่สามารถนำดราก้อนบอลกลับมาได้”
“ไม่เป็นไร แค่พวกนายกลับมาได้ก็เพียงพอแล้ว ใครจะคาดคิดว่าเทพเจ้ามังกรซารามะจะเข้ามาขัดขวาง” โครโนอาปลอบประโลมพวกเขา ก่อนจะหันไปกล่าวขอบคุณมิสเตอร์โปโป้ “มิสเตอร์โปโป้ ขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกเราไว้”
“ท่านซารามะ ต้องการทำลายผนึก ผมจึงไม่อาจนิ่งดูดายได้อีกต่อไป”
ขณะที่โครโนอาและมิสเตอร์โปโป้สนทนากัน หลินเฉินกลับเงียบงัน จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง
ครั้งนี้ เขาพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ หากไม่ใช่เพราะมิสเตอร์โปโป้เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน พวกเขาคงต้องจบชีวิตลงด้วยคมดาบของซารามะเป็นแน่
แม้จะระเบิดพลังทั้งหมดที่มีออกมา แต่หลินเฉินก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของซารามะได้เลย ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการต่อสู้หรือพลังศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ยังคงด้อยกว่าอยู่หลายขุม ข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวที่เขามีเหนือกว่าซารามะก็คือพลังแห่งกฎ
ทว่าข้อได้เปรียบเพียงน้อยนิดนี้ กลับไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขามีในตอนนี้ยังไม่มากพอที่จะรองรับการใช้พลังแห่งกฎในวงกว้างได้
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาก็คงจะหมดแรงไปเสียก่อนที่จะสามารถเอาชนะซารามะได้
แบบนี้ไม่ได้การเสียแล้ว ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้!
หากต้องเผชิญหน้ากับเทพมังกรซารามะอีกครั้ง เขาจะต้องพ่ายแพ้อีกอย่างนั้นเหรอ?
ความคิดนี้ทำให้หลินเฉินปรารถนาพลังที่เหนือกว่าอย่างไม่อาจห้ามใจ
ทว่าเมื่อนึกถึงเส้นทางสู่ความแข็งแกร่ง รอยยิ้มขมขื่นกลับผุดขึ้นบนริมฝีปากของหลินเฉิน
ปราศจากระบบแล้ว เขาจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองได้อย่างไร?
ซูเปอร์ไซย่าร่าง 5 งั้นหรือ?
ถึงแม้จะรู้วิธี แต่เขาก็ยังไม่อาจบรรลุถึงขั้นแปลงร่างได้จริง
แล้วจะมีหนทางอื่นใดอีกเล่า?
หากไร้ซึ่งระบบ คงไม่มีหนทางใดที่เขาจะไขว่คว้าพลังนั้นมาได้
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_