บทที่ 5 สิ่งมหัศจรรย์ทำให้บ้านเมืองล่มจมงั้นเหรอ? ไม่มีทาง!
บทที่ 5 สิ่งมหัศจรรย์ทำให้บ้านเมืองล่มจมงั้นเหรอ? ไม่มีทาง!
"นี่ช่วยนวดให้หน่อยสิ ฉันเหนื่อยจะตายแล้ว" ฝูจือหยินกล่าวขณะเอนหลังไปทางเฉินจิ่วซือ
"... เธอไม่เกรงใจเลยนะ กล้าให้ฉันนวดให้งั้นหรอ"
เฉินจิ่วซือหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่ไหล่ ฝูจือหยินก็หัวเราะเบาๆ "เห้อ สบายจัง ว่าแต่นายกำลังดูอะไรอยู่เหรอ เหมือนเมื่อคืนนี้ก็เห็นดูอยู่นี่"
"ก็ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากจะวางแผนสร้างสวนสร้างอุทยานหรืออะไรทำนองนั้นในหมู่บ้านของเรา ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แล้วก็พัฒนาการท่องเที่ยวไปด้วยในตัว"
เฉินจิ่วซือก็ยังคงนวดให้ฝูจือหยินต่อไปอย่างไม่หยุดมือ และพูดอย่างสบายๆ "ฉันกำลังดูแผนผังน่ะ ฉันกำลังดูอยู่ว่ามีอะไรผิดพลาดไหม"
"สวนเหรอ อย่างมากก็ได้ใช้แค่ให้คนในหมู่บ้านของเรามาเดินเล่นกันเองเท่านั้นแหละ จะมีใครที่ไหนอยากนั่งเรือมาที่เกาะห่างไกลเพื่อเดินเล่นในสวนกันล่ะ แม้ว่าเราจะเป็นเขตเมืองร้อนเพียงไม่กี่แห่งในประเทศ แต่คนก็สนใจแค่นั้นแหละมั้ง ไปดูที่เฉียงโจวก็ไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอ"
จากเกาะเล็กๆ ที่พวกเขาอยู่ไปที่เฉียงโจว ต้องนั่งเรือไปสามชั่วโมงกว่า
การที่จะมีคนมาที่นี่เพื่อดูแค่สวนนั้นมันดูเพ้อฝันไปหน่อยจริงๆ
แต่ถ้าสร้างขึ้นมาจริงๆ ในเวลาว่างก็ไปนั่งเล่นได้ หรือจะให้คุณตาคุณยายมีที่พักผ่อนหย่อนใจก็ไม่เลว
"เธอจะรู้อะไร สวนที่ฉันจะสร้างมันจะยิ่งใหญ่มากกกกกก แถมยังมี... เอกลักษณ์ มีเอกลักษณ์มากๆ" เฉินจิ่วซือไม่รู้จะอธิบายยังไง "ยังไงซะหลังจากสร้างเสร็จแล้ว มันจะเป็นหนึ่งเดียวในโลก ฉันแค่อดเป็นห่วงเรื่องเงินไม่พอ.."
"สวนจะใช้เงินเท่าไหร่กันเชียว เงินในบัญชีกลางของเราก็ยังมีอยู่ตั้งหลายแสน รอขายกล้วยไม้พวกนี้แล้วให้คนที่ทำเงินได้มาบริจาคเพิ่มก็พอแล้ว..."
"ฉันตั้งใจจะรวมเอาภูเขาไฟทั้งลูกเข้ามาในสวน เธอลองดูเองสิ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งการบริจาค" เฉินจิ่วซือส่ายหัวอย่างจนใจ
"มันจะอะไรนักหนา พอทุกคนมีเงินแล้ว หมู่บ้านอยากจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ ก็บริจาคกันหน่อยจะเป็นไรไป แต่ที่นายบอกว่าหนึ่งเดียวในโลก ฉันอยากจะ... ห๊า?! นายนี่จริงจังเหรอ!"
เมื่อฝูจือหยินหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเปิดดูแบบไม่ใส่ใจ แล้วก็... ตกตะลึงไปเลย!
ม่านตาของเธอหดเล็กลง
ดวงตาเบิกกว้าง
อ้าปากค้าง
หลังจากเงียบไปพักใหญ่ เธอก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง "นายนี่จริงจังเหรอ"
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องวิศวกรรมหรือการก่อสร้าง แต่เธอก็รู้ว่าการก่อสร้างขนาดใหญ่แบบนี้ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลแน่นอน...
การรวมเอาภูเขาไฟทั้งลูกเข้ามาในสวน ทั้งทิวทัศน์ธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่มนุษย์สร้างขึ้น พืชพรรณ และเชื้อรา นายเรียกนี่ว่าสวนเนี่ยนะ
นี่มันอุทยานธรณี+สวนพฤกษศาสตร์ชัดๆ!
เธออยากจะบอกว่าเฉินจิ่วซือกำลังล้อเล่น แต่เมื่อเห็นแผนผังที่มีรายละเอียดชัดเจน มีการระบุข้อมูลต่างๆ อย่างครบถ้วน แม้กระทั่งมีแบบแปลนการก่อสร้างอย่างละเอียด มันดูเหมือนว่าจะมีการวางแผนมานานแล้วอย่างแน่นอน
เธอไม่คิดเลยจริงๆ
ช่วงนี้เฉินจิ่วซือซุ่มทำอะไรแบบนี้อยู่นี่เองงั้นหรอ
"นี่ ฉันถามหน่อย นายจะดึงดูดการลงทุนขนาดนั้นมาจากไหน การลงทุนจำนวนมหาศาลบนเกาะที่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่แบบนี้ คิดว่าพวกนายทุนเป็นคนโง่หรือไง พวกเขาจะไม่อยากได้กำไรคืนเหรอ"
เมื่อเห็นว่าเฉินจิ่วซือจริงจัง ฝูจือหยินก็ยังคงอยู่ในอาการงงงวย
"ใครบอกว่าฉันจะดึงดูดการลงทุนจากภายนอกล่ะ สร้างทีเดียวไม่ได้ ก็ค่อยสร้างไปเรื่อยๆ ไม่ได้เหรอไง อุทยานภูเขาไฟนี้มันไม่ได้มีแค่โครงการเดียวซะหน่อยนี่"
เฉินจิ่วซือทำหน้าไม่ร้อนรนแล้วพูดต่อ "ฉันตั้งใจจะจัดตั้งสหกรณ์เพื่อรวบรวมและแปรรูปกล้วยไม้สกุลหวายของหมู่บ้านเรา แล้วนำไปขายด้วยรูปแบบที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น"
"เงินที่สหกรณ์ได้มา นอกจากจะแบ่งปันให้กับชาวบ้านและเป็นค่าใช้จ่ายของหมู่บ้านแล้ว ที่เหลือก็จะเอาไปลงทุนในอุทยานภูเขาไฟทั้งหมด"
เพียงแค่ข้อมูลทางเทคนิคบางส่วนของอุทยานภูเขาไฟก็สามารถช่วยกู้สถานการณ์ของกล้วยไม้สกุลหวายทั้งหมู่บ้านได้แล้ว มันทำให้เฉินจิ่วซือเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับระบบสิ่งมหัศจรรย์ไปมากและเริ่มวางแผนอย่างจริงจัง
สิ่งมหัศจรรย์ไม่ได้ทำให้หมู่บ้านเสียสักหน่อย ลองดูก็คงไม่เสียหายอะไร
หลังจากศึกษาอย่างละเอียดเมื่อคืนนี้ เขาพบว่าในกระบวนการก่อสร้างอุทยานภูเขาไฟนั้น จริงๆ แล้วมีโอกาสมากมายแฝงอยู่
เขาสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่อุทยานภูเขาไฟมอบให้ในการทำเงินไปพร้อมๆ กับการก่อสร้างได้
จากนั้นทั้งหมู่บ้านจะเข้าสู่วัฏจักรเชิงบวก
ยิ่งสร้างก็ยิ่งรวย
มีแต่ได้กับได้
ยิ่งไปกว่านั้น แค่สิ่งมหัศจรรย์แรกก็ให้ประโยชน์ได้ขนาดนี้ แล้วสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆ ที่จะตามมาล่ะ
แค่คิดเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
"โอเคๆ ฉันไม่คิดเรื่องเงินแล้วกัน แต่ลาวาในแผนของนายมันอะไรกัน ที่ปากปล่องภูเขาไฟของเราตอนนี้จะเข้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วลาวามันจะมาจากไหน ไหนจะร้านอาหารที่ใช้ความร้อนจากภูเขาไฟอีก มันมีที่ไหนกัน ส่วนเรื่องน้ำพุร้อนนี่ก็ดูดีนะ แต่มันดูเพ้อไปหน่อยไหม"
โครงการต่างๆ ที่จะค่อยๆ สร้างไป และสหกรณ์กล้วยไม้สกุลหวายพวกนั้นไม่น่าจะมีปัญหา
แต่เมื่อไม่คิดถึงเรื่องเงินและขนาดแล้ว แผนนี้ก็ดูเหลวไหลมาก
พื้นที่หลักคือ น้ำตกลาวา.. น้ำตกลาวางั้นหรอ
แล้วก็ยังมีอีกหลายอย่างที่สร้างขึ้นโดยใช้ลาวาเป็นหลัก
มันดูเหมือนแผนการนี้สามารถสร้างได้ในฝันเท่านั้น
มีเพียงแค่สวนองุ่น สวนกระบองเพชร และร้านอาหารในถ้ำเท่านั้นที่ดูสมจริงหน่อย
"ถึงจะไม่มีลาวาจริงๆ แต่พื้นที่แบบนี้มันไม่สวยเหรอ"
คำพูดที่ยังคงหนักแน่นของเฉินจิ่วซือทำให้ฝูจือหยินงงไปเลย
เธอไม่สามารถโต้แย้งได้
เมื่อออกแบบตามแผนนี้ แม้ว่าจะไม่มีลาวา มันก็ดูไม่แย่เลย แค่มันจะไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าที่มีลาวา...
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง
ในที่สุดฝูจือหยินก็พบว่าแผนนี้อาจจะใช้ได้จริงก็เป็นได้
แค่ไม่ต้องรีบร้อนเกินไปก็พอ
"เอาเถอะ ถ้าสร้างสวนนี้ได้จริง ที่นี่ก็จะกลายเป็นจุดเช็กอินที่สวยน่าดู แค่เราต้องควบคุมจังหวะการก่อสร้างให้ดี ค่อยๆ สร้างไปก็พอ"
เมื่อเก็บหนังสือขึ้น ฝูจือหยินก็เปลี่ยนเรื่อง "ว่าแต่นายได้ยินมาบ้างไหมว่า จ้าวเถียจู้ทะเลาะกับพ่อของเขา เพราะพ่อของเขาฟังแต่นายแล้วทำอะไรก็เสียเงินเปล่าๆ"
"พอได้ผลแล้วเขาก็จะรู้เอง ไม่ต้องไปสนใจหรอก"
..เฉินจิ่วซือเอามือนวดขมับอย่างช่วยไม่ได้
บ้านของจ้าวเถียจู้ถือว่าเป็นแนวหน้าจริงๆ
พวกเขาปลูกกล้วยไม้สกุลหวายไปประมาณ 20 เอเคอร์
แต่เมื่อลงทุนมาก ความผิดหวังก็ยิ่งมาก
เดิมทีคิดว่าจะทำเงินได้ปีละสองสามแสน พอแบ่งกันในครอบครัวแล้วก็ถือว่าเยอะมาก แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้
ตอนนี้พวกเขาเลยหมดหวัง
และการที่ไม่คิดจะลงทุนต่อไปแล้วก็เป็นเรื่องปกติ
แต่รอให้ยาออกฤทธิ์ก่อนแล้วพวกเขาจะตามมาเอง
เพราะใครจะไม่อยากได้เงินกันล่ะ.. ใช่มั้ย!
... เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาเดียวก็เป็นเวลาสามวันแล้ว
ในตอนเช้าตรู่ ขณะที่เฉินจิ่วซือกำลังหลับฝันดี จู่ๆ เขาก็ถูกปลุกด้วยเสียงร้องอย่างตื่นตระหนกจากข้างนอก
เขาโผล่หน้าออกไปอย่างงงๆ แล้วก็เห็นผู้คนนับร้อยคนมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าบ้านของเขา
เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็กลืนน้ำลายลงคอ "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่บ้านผมกันล่ะ มีอะไรเหรอ"
"ฮ่าๆๆ ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อคืนนี้ พวกจุดด่างดำบนกล้วยไม้ส่วนใหญ่หายไปแล้ว แม้แต่บริเวณที่เป็นหนักก็ยังเห็นได้ชัดว่าฟื้นตัวแล้วด้วย ยาของคุณมันใช้ได้ผลจริงๆ!"
"ใช่ๆ เห็นผลทันตาเห็นเลย!"
"ที่ของฉันอยู่ค่อนข้างไกล ไม่ได้เสียหายอะไรมาก ตอนนี้ 4 เอเคอร์กว่าของฉันกลับมาเป็นปกติหมดแล้ว!"
"ไอ้หมาน้อยคนนั้นที่เคยหัวเราะเยาะฉันเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าเสียเวลาเปล่า ตอนนี้ต้องลากครอบครัวไปทำงานในไร่หมดแล้ว เสียดายที่ดันปล่อยเวลาให้เสียไปตั้งหลายวัน กว่าจะฟื้นตัวก็คงต้องใช้เวลานานเลยทีนี้"
"......"