ตอนที่แล้วบทที่ 42 ขึ้นเขาล่าสัตว์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 เด็กคนนี้ ถูกหลอกจนได้!

บทที่ 43 สนุกสุดมัน


หลี่ซูฮวามีประสบการณ์ล่าหมูป่ามานับครั้งไม่ถ้วน เขารู้จักพฤติกรรมของหมูป่าในภูเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง

เขาสำรวจมูลสัตว์และรอยเท้าบนพื้น ก่อนจะยืนยันทิศทางที่หมูป่ามุ่งหน้าไป

จากนั้นกลุ่มล่าสัตว์ก็เริ่มตามรอยไปทันที

หมูป่าในป่ามักมีพื้นที่หากินที่กว้าง แต่โดยทั่วไปจะมีแหล่งน้ำและที่ปลดทุกข์ที่ใช้ประจำ

หลี่ซูฮวาสังเกตว่ามูลสัตว์ยังสดใหม่ จึงมั่นใจว่าวันนี้โชคดี เพราะหากต้องตามรอยหมูป่าไปไกล ๆ อาจต้องเดินถึงสิบกว่ากิโลเมตร

ตามคาด หลังจากเดินไปได้เพียงสองถึงสามกิโลเมตร กลุ่มก็พบฝูงหมูป่ากำลังคุ้ยเขี่ยพื้นดินในป่าเล็ก ๆ

ฝูงหมูป่านี้ประกอบด้วยหมูใหญ่สองตัว และลูกหมูเล็ก ๆ กว่าหนึ่งโหล เป็นฝูงที่ครบถ้วน

“เป้าหมายคือสองตัวใหญ่ ส่วนตัวเล็กถ้าตีได้ก็ตี”

หลี่ซูฮวาพูดขณะถอดปืนจากไหล่และบรรจุกระสุน พร้อมกับหันไปบอกหลี่จ้านขุยซึ่งยังคงเงียบขรึม

“อืม”

หลี่จ้านขุยตอบสั้น ๆ ใบหน้าเยือกเย็นไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งความตื่นเต้นหรือความดีใจที่กำลังจะได้ล่าหมูป่า

แต่ดวงตาของเขาดูเฉียบคม เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ในขณะเดียวกัน หลี่ไห่ป๋อและหลี่ไห่หยางก็เตรียมหอกเหล็กในมือ พร้อมที่จะบุกตะลุย

หลี่เว่ยตงซึ่งอายุน้อยที่สุด ยืนอยู่หลังกลุ่มตามเคย ด้วยความเป็นหลานชายของหลี่ซูฮวา ทุกคนจึงคอยดูแลเขาเป็นพิเศษ

เมื่อกลุ่มเข้าประชิดจนเหลือระยะประมาณ 50-60 เมตรจากฝูงหมูป่า พวกเขาก็หยุดลง

หลี่ซูฮวาย่อตัวลง ส่วนหลี่จ้านขุยยืนมั่นคงแยกขาเล็กน้อย พร้อมเล็งปืนอัตโนมัติแบบ 56

แม้ปืนรุ่นนี้จะมีระยะยิงหวังผลถึง 400 เมตร แต่สำหรับคนทั่วไป ระยะ 50-60 เมตรถือว่าเหมาะสมมากที่สุด

“ข้าซ้าย เจ้าขวา นับสาม”

“สาม... สอง...”

หลี่เว่ยตงกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด

เมื่อการนับถึงศูนย์ เสียงปืนสองนัดดังขึ้นพร้อมกัน

หลี่เว่ยตงมองไปยังเป้าหมายและเห็นหมูป่าตัวใหญ่สองตัว ตัวหนึ่งถูกยิงเข้าตา ล้มลงทันที อีกตัวถูกยิงเข้าที่คอ ล้มลงไปก่อนจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

เสียงปืนดังขึ้นอีกนัด คราวนี้หมูป่าตัวนั้นล้มลงอย่างสมบูรณ์

“แก่ขึ้นแล้วสินะ”

หลี่ซูฮวาวางปืนลงพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย มองหลี่จ้านขุยด้วยสายตาชื่นชม

ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นมือปืนที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ดูเหมือนตำแหน่งนั้นต้องส่งต่อให้คนรุ่นใหม่

หลี่จ้านขุยแม้จะยิงหมูตัวใหญ่ได้สำเร็จ แต่เขาไม่แสดงความภาคภูมิใจใด ๆ ก่อนจะหันปืนไปยิงลูกหมูป่าที่เริ่มวิ่งหนีอีกสามนัด

ในที่สุด ลูกหมูป่าสองตัวล้มลง แม้จะไม่แม่นยำทุกนัด แต่การยิงสัตว์ที่เคลื่อนไหวเช่นนี้ก็ถือว่าฝีมือเยี่ยม

“อาสอง ผมลองบ้าง!”

หลี่เว่ยตงซึ่งอดใจไม่ไหว รีบพุ่งเข้าไปหาอาสองด้วยความตื่นเต้น สายตาจับจ้องปืนในมือของหลี่ซูฮวา

“ให้จ้านขุยสอนเจ้าเถอะ”

หลี่ซูฮวาส่งปืนให้หลี่ไห่ป๋อ และบอกให้หลี่เว่ยตงไปหาหลี่จ้านขุย

หลี่จ้านขุยยื่นปืนให้หลี่เว่ยตง พลางแนะนำอย่างใจเย็น

“แรงกระแทกมันเยอะ ระวังให้ดี”

“นอนราบกับพื้น ใช้ไหล่ยันปืนแน่น ๆ มือซ้ายจับมั่นคง”

สำหรับคนที่ไม่เคยยิงปืนมาก่อน การยิงในท่ายืนเป็นเรื่องอันตราย การฝึกยิงจึงเริ่มจากท่านอนเสมอ

หลี่เว่ยตงนอนราบกับพื้นตามคำสั่งของหลี่จ้านขุย ทันใดนั้นเสียงปืนจากด้านข้างก็ดังขึ้นเสียก่อน

เมื่อเขามองไปยังเป้าหมายก็พบว่าฝูงหมูป่าแตกฮือออกไปไกลจนแทบมองไม่เห็น

แต่หลี่เว่ยตงไม่ได้สนใจว่าจะยิงโดนเป้าหมายหรือไม่ เขาเพียงแค่อยากลองยิงปืนให้สะใจ

เมื่อเขาแนบปลายนิ้วกับไกปืน ความตื่นเต้นและความกดดันทำให้เขากลั้นหายใจอีกครั้ง

“ปัง!”

เสียงปืนดังสนั่นจนหูเขาอื้อ อะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน

แม้จะไม่เห็นว่ากระสุนพุ่งไปที่ไหน แต่ความรู้สึกสะใจก็ล้นปรี่

เขายิงอีกครั้งและอีกครั้ง จนกระสุนหมดแม็กก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าพอใจ

แม้ไหล่จะเริ่มชาและหูยังคงอื้อ แต่เขาก็ยิ้มออกมา

“ช่วงแรกก็เป็นแบบนี้แหละ ฝึกมาก ๆ แล้วจะชินเอง”

หลี่จ้านขุยพูดประโยคยาวออกมาครั้งหนึ่งอย่างหายาก

“ข้าควรเรียกเจ้าว่าพี่ต้าไขว่ใช่ไหม?”

หลี่เว่ยตงคืนปืนให้หลี่จ้านขุยพร้อมกับเริ่มพูดคุย

“ตามสะดวก”

หลี่จ้านขุยไม่สนใจลำดับอาวุโสในหมู่บ้านมากนัก

“เจ้าเป็นทหารกี่ปีแล้ว? แล้วทำไมถึงกลับมาล่ะ?”

หลี่เว่ยตงพยายามค้นหาความทรงจำในหัว ภาพเลือนลางเริ่มกลับมา เขาจำได้ว่าเมื่อเขาอายุ 13-14 ปี หลี่จ้านขุยก็ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านแล้ว

บ้านของหลี่จ้านขุยตั้งอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านฝั่งตะวันออก ที่บ้านมีแม่ชราและน้องชายกับน้องสาวสองคน สภาพความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนัก

“หกปี ข้ากลับมาเพราะที่บ้านขาดคน”

หลี่จ้านขุยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึก ราวกับน้ำเปล่า

หลี่เว่ยตงไม่ได้ซักถามต่อ การเป็นทหารถึงหกปีแสดงให้เห็นว่าหลี่จ้านขุยไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

เหตุผลที่เขากลับมา แม้จะพูดว่าเพราะขาดคน แต่ในยุคสมัยนั้น แทบทุกบ้านล้วนขาดแรงงานหนัก จึงน่าจะมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านั้น

เมื่อหลี่เว่ยตงและหลี่ไห่ป๋อ รวมถึงหลี่ไห่หยางได้สนุกกับการยิงปืนจนพอใจแล้ว กลุ่มจึงมุ่งหน้าไปยังหมูป่าตัวใหญ่สองตัวที่ล้มลง   “โห ตัวนี้น่าจะหนักสามร้อยชั่งนะ”

หลี่ไห่ป๋อใช้เท้าเขี่ยหมูป่าตัวที่ถูกยิงทะลุตา ก่อนจะชูนิ้วโป้งให้หลี่จ้านขุย

“หัวหน้า ตอนนี้ต้าไขว่กลับมาแล้ว พวกเราอาจจะจัดล่าหมูป่าเพิ่มอีกสองรอบไหม?” หลี่ไห่หยางเสนอ

พวกเขารู้ว่าหมูป่าสองตัวนี้ถูกล่ามาเพื่อช่วยหลี่เว่ยตง ทุกคนในกลุ่มก็ไม่มีปัญหาใด ๆ เพราะกระสุนที่ใช้ล่าเป็นของหลี่ซูฮวา ซึ่งซื้อเอง ไม่เกี่ยวกับหมู่บ้าน

พวกเขาเพียงมาช่วยเหลือ ไม่ได้คาดหวังผลประโยชน์

“ได้ รอหิมะตกก่อน แล้วเรียกคนเพิ่ม จัดงานใหญ่สักครั้ง” หลี่ซูฮวาตอบรับ

แม้ว่าการเดินทางในป่าช่วงที่มีหิมะจะลำบากขึ้น แต่ก็ช่วยให้ล่าหมูป่าได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสะดวกต่อการขนออกมาด้วย

“เยี่ยมเลย!”

เมื่อได้ยินหลี่ซูฮวาเห็นด้วย หลี่ไห่ป๋อและหลี่ไห่หยางก็ตื่นเต้น รีบคว้ามีดออกมาเพื่อเริ่มเชือดหมูป่า เลือดถูกปล่อยออกมาพร้อมการคว้านเครื่องใน

เครื่องในหมูป่า เช่น ตับและลำไส้ มีความคาวและไม่เหมาะกับการรับประทาน พวกเขาจึงเลือกทิ้งไว้เพื่อลดน้ำหนัก

กลุ่มล่าสัตว์ครั้งนี้มีกันทั้งหมดห้าคน และได้หมูป่าตัวใหญ่สองตัว พร้อมลูกหมูอีกสองตัว แม้จะทิ้งเครื่องในไป น้ำหนักรวมของพวกมันก็ยังคงมากถึง 500-600 ชั่ง

การขนกลับออกไปยังหมู่บ้านถือเป็นงานหนัก แต่เมื่อมองดูผลลัพธ์ ทุกคนก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า

(จบบท)###

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด