ตอนที่แล้วบทที่ 41 ปลูกสร้างมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43 เมืองน้ำแข็งถูกทำลาย

บทที่ 42 ขอยืมข้าว


“เป็นไปไม่ได้” อังก์เอ่ยขึ้น

“ข้ารู้ ข้าจะสอนเจ้าเอง” ไนเกรสตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

อังก์ใช้เวทมนตร์สายฟ้าระดับหนึ่งปล่อยลูกบอลสายฟ้าไปยังมังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อย แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

“อืม ข้าในสมัยยังเล็กมีภูมิต้านทานเวทมนตร์สูงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” ไนเกรสกล่าวด้วยความประหลาดใจ มังกรทองสัมฤทธิ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความต้านทานเวทมนตร์สูงมากอยู่แล้ว การใช้เวทสายฟ้าระดับหนึ่งไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ได้เลย

“ผิวหนังมีภูมิต้านทานสูง ถ้าอย่างนั้นลองเปิดผิวแล้วจี้ตรงหัวใจดีหรือไม่?” ไนเกรสเสนอ

อังก์เอียงศีรษะก่อนจะถาม “หัวใจอยู่ตรงไหน?”

ไนเกรสชี้ไปยังจุดที่ลำคอของมังกรเชื่อมต่อกับลำตัว บริเวณนั้นเป็นตำแหน่งของหัวใจ เขาคิดว่าอังก์จะทำตามคำแนะนำโดยการเปิดผิวหนังมังกร แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บเหมือนหัวใจตัวเองถูกบีบ ทั้งที่มันเป็นเพียงความรู้สึกหลอนจากจิตใจ เพราะมังกรตัวน้อยนี้งอกมาจากเกล็ดของเขา ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขาเอง

อย่างไรก็ตาม อังก์ไม่ได้เปิดผิวหนังของมังกร แต่กลับยื่นมือเข้าไปทางปากของมัน ผ่านหลอดอาหารไปยังตำแหน่งหัวใจ แล้วปล่อยสายฟ้าจี้เข้าไป มังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อยกระตุกอย่างรุนแรง

“อึก เจ้า\$#@!…” ไนเกรสรู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง เหมือนอังก์ได้สอดมือเข้าไปในปากของเขาเอง

แต่แผนนี้ได้ผล หลอดอาหารไม่มีชั้นผิวหนังที่มีภูมิต้านทานสูง และอยู่ใกล้หัวใจ สายฟ้าจึงสามารถแสดงประสิทธิภาพสูงสุด กล้ามเนื้อหัวใจหดตัวอย่างรุนแรง เลือดภายในถูกสูบออก และเมื่อหัวใจผ่อนคลาย เลือดจากอีกด้านก็ไหลเข้ามา การหดและผ่อนคลายเริ่มต้นทำงานเองจนหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง

“คว่าบาดา ได้ผลจริง พวกดรูอิดไม่ได้โกหก” ไนเกรสบ่นพึมพำ เขาเองก็ไม่เคยลองวิธีนี้มาก่อน แต่เคยได้ยินคนเล่ามา

เมื่อหัวใจเริ่มเต้น เลือดเริ่มไหลเวียน ร่างกายของมังกรทองสัมฤทธิ์ก็เริ่มแสดงการเปลี่ยนแปลง เช่น เกล็ดเริ่มมีช่องเล็ก ๆ เปิดปิด เป็นสัญญาณการหายใจของเกล็ด ตำแหน่งเปลือกตาและบริเวณอื่น ๆ ก็กลับมามีสีสดใสขึ้น ดูเหมือนมันมีชีวิตชีวามากขึ้น

แต่ก็เพียงแค่นั้น มังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อยยังคงนอนนิ่งเหมือนหลับลึก ไม่ว่าจะเปิดเปลือกตา ตบหู หรือแม้แต่ปล่อยสายฟ้าอีกครั้ง ก็ไม่มีสิ่งใดปลุกมันให้ตื่นได้

หลังจากพยายามอยู่นาน ไนเกรสกล่าวว่า “มันไม่มีดวงจิต แม้ร่างกายจะฟื้นขึ้นมาได้ แต่ดวงจิตไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ เฮ้อ การสร้างชีวิตใหม่ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายเลย”

ไม่มีดวงจิต? อังก์เอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาเอื้อมมือไปกดที่ตำแหน่งหัวใจของมังกรทองสัมฤทธิ์จนหัวใจหยุดเต้น ร่างกายของมันกลับกลายเป็นศพอีกครั้ง

อังก์บีบเปลวไฟแห่งดวงจิตขึ้นมาหนึ่งดวง แล้วสอดมันเข้าไปในร่างของมังกรทองสัมฤทธิ์ จากนั้นชี้ไปที่มันแล้วกล่าวว่า “มีดวงจิตแล้ว”

ไนเกรสเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจ้าเฮงซวย!”

อังก์ใช้วิธีง่าย ๆ และดุดันในการทำให้มังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อยมีดวงจิต กลายเป็นซอมบี้มังกร

สำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาและความทรงจำ หากใช้วิธีสังเวย จะทำให้เปลวไฟแห่งดวงจิตหลอมรวมกับความทรงจำในชีวิตก่อน และเปลี่ยนสภาพเป็นลิช เช่นเดียวกับเฟลินและลิซ่า กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณเจ็ดวัน

แต่สำหรับมังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อย มันไม่มีความทรงจำ และไม่มีชีวิตมาก่อน การมอบดวงจิตโดยตรงทำให้มันกลายเป็นซอมบี้ในทันที

“แต่ข้าไม่เคยสอนเจ้าให้สร้างเปลวไฟแห่งดวงจิตเลย” ไนเกรสกล่าวด้วยความสงสัย

“เปลวไฟแห่งวิญญาณ” อังก์ตอบ

“เปลวไฟแห่งวิญญาณกับเปลวไฟแห่งดวงจิตมันต่างกันมาก แต่เจ้าเป็นคนประหลาดอยู่แล้ว การจะเข้าใจเปลวไฟแห่งดวงจิตจากเปลวไฟแห่งวิญญาณก็คงไม่แปลกอะไร เอาเถอะ ข้าจะไม่สนใจแล้ว เจ้าควบคุมมัน และใช้ดวงจิตของมันเรียกชื่อเทพเจ้าของข้า หลังจากนี้ ข้าจะฉายภาพลงไปในร่างนั้นเพื่อใช้เป็นร่างกายของข้า”

ไนเกรสรู้สึกตื่นเต้นและตั้งตารอ หลังจากถูกผนึกมาเนิ่นนาน เขายังจำความเจ็บปวดและความสิ้นหวังในวันที่จักรพรรดิอมตะดึงดวงจิตของเขาออกจากร่างกายได้อย่างชัดเจน

เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่เขาจะได้ครอบครองร่างกายใหม่ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงร่างเล็ก ๆ ขนาดไม่เท่าไข่มังกรในวัยเยาว์ของเขาเอง แต่ก็ถือว่าเป็นร่างกายที่มาจากเกล็ดของเขา

อังก์ควบคุมมังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อย ส่งเสียงที่ฟังไม่รู้ความออกมา

“เอ่อ ภาษามังกร ภาษามังกร เอาเถอะ ข้าจะสอนเจ้าเอง” หลังจากผ่านการสอนอย่างเข้มงวด อังก์ก็สามารถควบคุมมังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อยให้เปล่งเสียงเป็นภาษามังกร เรียกชื่อของไนเกรสออกมาได้สำเร็จ

ไนเกรสฉายภาพลงในร่างของมังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อย ขยับศีรษะและตัวอย่างช้า ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

คาดว่าคงอยากแสดงความเศร้าสลดแบบ “วัยเยาว์ของข้ากลับมาแล้ว” หรือ “ร่างกายของข้ากลับมาแล้ว” อะไรทำนองนั้น แต่ยังไม่ทันที่เสียงถอนหายใจจะจางหาย ร่างหนึ่งก็โดดขึ้นไปบนหลังของมัน ขาสองข้างเล็ก ๆ สีขาวหนีบรอบเอวของมันไว้แน่น นั่งมั่นเหมาะบนหลังของมัน

ไนเกรสแทบล้มคว่ำ เขาตะโกนด้วยความตกใจ “เจ้าทำอะไร! ลงมาเดี๋ยวนี้! เจ้ามีปีกของตัวเองอยู่แล้ว จะขี่ข้าทำไม! เจ้าคนวิปลาส! รีบลงมา ไม่เช่นนั้นข้าจะเอาจริง เจ้าอยากลิ้มรสความโกรธเกรี้ยวของเทพแห่งปัญญาหรือไง?!”

ไนเกรสพยายามสลัดปีกอย่างแรงเพื่อให้เทวทูตโครงกระดูกหลุดจากหลัง แต่เทวทูตโครงกระดูกเองก็ขยับปีกรักษาสมดุล ทำให้ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดลงมา

หลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ ซอมบี้ตัวน้อยก็พุ่งตัวขึ้นมา พุ่งชนเทวทูตโครงกระดูกจนร่วงลงจากหลังของไนเกรส

ยังไม่ทันที่ไนเกรสจะเอ่ยคำขอบคุณ ซอมบี้ตัวน้อยกลับพลิกตัวขึ้นคร่อมแทน มันไม่ได้มีเจตนาจะช่วยไนเกรส แต่กลับแย่งของเล่นเสียมากกว่า ด้วยน้ำหนักของมันที่มากกว่า ทำให้ไนเกรสถูกกดจนร่วงลงพื้น

“คว่าบาดา! เจ้าจงยอมจำนนต่อความโกรธของมังกรทองสัมฤทธิ์!” ไนเกรสพยายามดิ้นรนอย่างไร้ผล แม้จะเป็นมังกรทองสัมฤทธิ์ แต่ด้วยความที่เป็นร่างที่เพิ่งฟื้นใหม่ ก็ไม่มีทางสู้ซอมบี้ตัวน้อยได้ ท้ายที่สุดเทวทูตโครงกระดูกก็เข้ามาช่วย ไล่ซอมบี้ไปอีกทาง

ไนเกรสลุกขึ้นยืน ใช้กรงเล็บปัดคราบสกปรกออกจากตัว ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เกือบกลายเป็นสัตว์ขี่ไปเสียแล้ว คว่าบาดา! มังกรทองสัมฤทธิ์อันยิ่งใหญ่เช่นข้าจะให้ใครขี่ได้ยังไงกัน? นี่มันน่าอับอายสำหรับมังกรทุกตัว”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ อังก์ก็กระโดดขึ้นขี่หลังของเขา

ไนเกรสขยับตัวโดยอัตโนมัติ แต่พบว่าร่างกายไม่ตอบสนองต่อคำสั่งของตัวเอง ดวงจิตของมังกรทองสัมฤทธิ์ตัวน้อยนี้ถูกอังก์มอบให้ ทำให้เจตจำนงของอังก์มีสิทธิ์เหนือกว่า หากไนเกรสไม่ยอมทำตามคำสั่งของอังก์ ก็จะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เลย

หลังจากต่อสู้กับจิตใจตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ไนเกรสก็ยอมรับความจริงอย่างไม่เต็มใจ “เอาเถอะ ขี่ก็ขี่ไป ยังไงก็ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นตัวข้าเอง มังกรทองสัมฤทธิ์ถูกขี่ นี่เป็นเรื่องน่าขายหน้าของมังกร ไม่ใช่ของเทพแห่งปัญญา”

ไนเกรสพูดปลอบใจตัวเอง ก่อนจะกระพือปีกบินขึ้นไป

ร่างของเขามีความยาวเพียงครึ่งเมตร เมื่ออังก์ขึ้นขี่ก็เหมือนกับคนโตขี่ม้าโยกของเด็ก หรือเหมือนคนนั่งบนม้านั่งตัวเล็ก ๆ แต่ด้วยปีกที่กว้างใหญ่ และน้ำหนักตัวของอังก์ที่เป็นเพียงโครงกระดูก ไม่ถึงยี่สิบกิโลกรัม การบินจึงไม่ใช่ปัญหา

ในตอนนั้น เฟลินบินเข้ามา เมื่อเห็นภาพนั้น เขาถึงกับตกใจจนลื่นล้มลงไปกับพื้น “นี่คือ…มังกรทองสัมฤทธิ์? ท่านไปขุดหลุมศพมังกรมาหรือไร? ที่นี่ไม่มีสุสานมังกร ท่านไปหามันมาจากที่ไหน?”

ยังไม่ทันที่อังก์จะตอบ เฟลินก็โบกมือ “ไม่ต้องพูดเรื่องนั้น ท่านช่วยข้าก่อน! ข้าขอร้องท่าน ให้ข้ายืมข้าวหน่อย เดี๋ยวข้าจะคืนเงินให้ทีหลัง”

4 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด