บทที่ 3 ไม่ต้องไปถึงในเมืองแล้ว
บทที่ 3 ไม่ต้องไปถึงในเมืองแล้ว
"ถ้าแก้ปัญหาได้ก็แก้ไป ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พวกเราจะช่วยนายอีกสามปีก็ยังได้!" ฝูจือหยินกล่าว
เฉินจิ่วซือที่ได้ยินดังนั้นก็ตั้งใจที่จะพูดว่า "ไม่มีปัญหาแน่นอน" แต่เมื่อเผชิญหน้ากับ "เพื่อนรัก" คนนี้ เขาก็พูดคำนั้นออกมาไม่ได้
ไม่มีใครรู้จักเขาดีเท่าเพื่อนคนนี้อีกแล้ว
เธอสามารถมองออกได้ทันทีว่าเขามีความมั่นใจอยู่หรือไม่
"พวกเราลุยกันมาสามปีก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แล้วอีกสามปีจะเป็นไรไปล่ะ ใช่ม้า"
ฝูจือหยินยกมือทาบอกอย่างมั่นใจ "รอพวกเราโตขึ้น มีเงินแล้ว คนอื่นก็จะทำตามแน่นอน การล้มเหลวครั้งเดียวมันไม่เป็นอะไรหรอก อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นเลยน่า"
"ใครบอกว่าล้มเหลวกัน นี่มันยังไม่รู้ผลเลยนะ!"
เฉินจิ่วซือกล่าว "บางทีเดือนหน้าเธออาจจะมีเงินเข้ากระเป๋าเป็นแสนเลยก็ได้นะ"
"โห ถ้ามีเงินเข้ากระเป๋าเป็นแสน ฉันจะซื้อรถให้นายเลย"
"ไม่ต้องรถหรอก จักรยานสักคันก็พอ"
ทั้งสองคนเดินคุยกันไปเรื่อยเปื่อยโดยที่ไหล่ของพวกเขาแตะกันเบาๆ
ไม่นานนัก เฉินจิ่วซือก็กลับมาถึงบ้านภายใต้การจับจ้องของฝูจือหยิน
แต่เฉินจิ่วซือไม่ได้กลับเข้าห้องของเขาในทันที
เขาเดินเข้าไปในห้องด้านข้างที่ว่างเปล่า แล้วเลือกที่จะรับภารกิจทันที
ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าเขาจะสร้างอุทยานภูเขาไฟได้ไหม แต่การดูไอเทมที่ได้รับจากภารกิจก็คงจะไม่เสียหาย
เรื่องทำภารกิจสำเร็จหรือไม่นั้นค่อยว่ากันอีกที
ยังไงซะก็ไม่มีบทลงโทษอะไรอยู่แล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น สิ่งของมากมายก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาในทันที
[แผนผังโดยรวมของอุทยานภูเขาไฟ]
[แบบแปลนการสร้างน้ำตกลาวา]
[แบบแปลนการสร้างห้องครัวลาวา]
[แผนการปลูกกระบองเพชร]
[แผนการปลูกองุ่น]
[......]
สายตาของเฉินจิ่วซือรีบกวาดไปที่หนังสือจำนวนมากที่อยู่ตรงหน้าเขา แล้วก็แอบตกใจ
สมกับที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ!
สิ่งก่อสร้างย่อยมีมากมายขนาดนี้เลยงั้นหรอ
แต่แค่เห็นพิมพ์เขียวและแผนผังที่ดูเหมือนเอกสารและข้อสอบก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันก็ทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นแล้ว
ถ้าอยากจะสร้างมันขึ้นมา จะต้องลงทุนเท่าไหร่กันนะ
และอีกอย่าง ลาวาและพืชจำนวนมากสามารถอยู่ร่วมกันได้จริงเหรอ
ในโลกแห่งความเป็นจริง มันจะเป็นไปได้จริงหรอ
ทันใดนั้นเอง
สายตาของเฉินจิ่วซือก็หยุดชะงัก
สายตาของเขาหยุดอยู่ที่หนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อ [แผนการปลูกกล้วยไม้สกุลหวายภูเขาไฟ]
"กล้วยไม้สกุลหวายภูเขาไฟ.. ฉันไม่เคยได้ยินชื่อสายพันธุ์นี้นี่นา น่าจะเป็นแค่แผนการปลูกกล้วยไม้สกุลหวายบนภูเขาไฟเฉยๆ สินะ"
แม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยเข้ากันกับแผนการปลูกกระบองเพชรหรือแผนการปลูกองุ่น แต่เฉินจิ่วซือก็ไม่ได้สนใจ เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาอยากรู้อยู่พอดี
เขารีบดึงมันออกมาจากกองเอกสาร แล้วกวาดสายตาดูสารบัญอย่างรวดเร็ว
"ซี้ดดดด ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!"
เฉินจิ่วซือรีบเผยสีหน้าดีใจ "ช่วงนี้ฝนตกเยอะ อุณหภูมิเหมาะสม เชื้อราเลยขยายพันธุ์เร็ว.. มันเป็นเพราะอย่างนี้เองสินะ แค่ผสมยาบางชนิด แล้วรดลงไปที่รากสักสองสามครั้งก็จะควบคุมได้แล้วงั้นหรอ"
"ส่วนที่ไม่มีปัญหาก็แค่ฉีดพ่นทุกๆ สามวัน ก็จะช่วยให้ไม่ติดเชื้อแล้ว"
"น้ำมันกระเทียม ซิลิโคนอินทรีย์งั้นหรอ ของพวกนี้มีอยู่ในหมู่บ้านนี่นา"
ยิ่งเขาอ่านมัน เขาก็ยิ่งดีใจมากขึ้น
และเมื่ออ่านจนจบ เฉินจิ่วซือก็ถอนหายใจออกมา
วิกฤตที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ ถ้ารู้วิธีการ เขาก็สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย!
"ฮ่าๆๆ ระบบเอ๋ย ฉันเข้าใจนายผิดไปจริงๆ สบายใจได้เลย เมื่อมีเงินแล้ว ฉันจะเริ่มสร้างสิ่งมหัศจรรย์เป็นอย่างแรกแน่นอน"
เมื่อความกังวลใจหายไป เขาก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
สิ่งที่ทำให้เขายินดียิ่งกว่าก็คือ กล้วยไม้สกุลหวายภูเขาไฟ มันเป็นสายพันธุ์จริงๆ
เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุง
ซึ่งจะเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาไฟของพวกเขามากที่สุด
จากคำอธิบายจะเห็นได้ว่า มันดีกว่ากล้วยไม้สกุลหวายที่พวกเขากำลังปลูกอยู่มาก
เมื่อถึงเวลาที่กล้วยไม้สกุลหวายในหมู่บ้านถูกจัดการเรียบร้อย เขาก็สามารถเปลี่ยนมาใช้สายพันธุ์ใหม่นี้ได้
มันเป็นสายพันธุ์ที่ไม่เหมือนใคร มีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาที่ดีกว่า แถมยังสามารถปลูกได้เฉพาะบนภูมิประเทศที่เป็นภูเขาไฟได้อีกด้วย แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากการบอกว่ามันสามารถเกื้อหนุนอุตสาหกรรมอื่นๆ ในท้องถิ่นได้!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่สิ่งของอื่นๆ รอบตัว
นอกจาก 'แผนผังการก่อสร้าง' จำนวนมากแล้ว มันยังมีเมล็ดพันธุ์พืช สิ่งประดิษฐ์ขนาดเล็กและขนาดกลางมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับอุทยานภูเขาไฟและไม่มีอยู่ในโลก
หลังจากทำความเข้าใจสิ่งของทั้งหมดแล้ว เฉินจิ่วซือก็เข้าใจหลักการของภารกิจในระบบนี้อย่างถ่องแท้
ระบบจะให้แผนการและไอเทมพิเศษบางอย่างแก่เขา จากนั้นเขาก็ต้องจัดซื้อวัตถุดิบตามแผนการ ไปดำเนินการก่อสร้าง สร้างสิ่งมหัศจรรย์ ทำภารกิจให้สำเร็จ แล้วก็รับรางวัล
นอกจากนี้ เมื่อมีสิ่งมหัศจรรย์แล้ว ผู้คนที่มาเยี่ยมชมสิ่งมหัศจรรย์ก็จะให้ 'ค่าความตะลึง'
ค่าความตะลึงสามารถนำไปซื้อพิมพ์เขียวและไอเทมอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือภารกิจได้ในร้านค้า
หลังจากเข้าใจระบบทั้งหมดแล้ว เฉินจิ่วซือก็หันกลับมาสนใจไอเทมภารกิจของอุทยานภูเขาไฟอีกครั้ง..
.. พริบตาเดียวเวลาก็ล่วงเลยมาถึงเช้าวันต่อมา
"นี่นายทำอะไรอยู่เนี่ย บ้าไปแล้วเหรอ วันนี้เราต้องไปเฉียงโจวนะ!"
เฉินจิ่วซือที่ฟุบอยู่บนโต๊ะและเผลอหลับไปขณะที่อ่านแผนผังอยู่ จู่ๆ ก็ถูกปลุกให้ตื่น
เมื่อเห็นหน้าของเพื่อนรักที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาก็สะดุ้งตัวแล้วกระโดดลุกขึ้น "เฮ้ย?! …ตกใจหมดเลย"
"หา ตกใจอะไร นี่นายบอกว่าฉันน่าเกลียดงั้นเหรอถึงตกใจได้ขนาดนี้!"
ทันทีที่ฝูจือหยินพูดจบ เฉินจิ่วซือก็รีบโบกมือ "ไม่ ไม่ใช่ แค่ฉันลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นคนอยู่ตรงหน้า… เป็นใครก็ตกใจไม่ใช่หรอ"
"เห้อ.. พอๆ รีบลุกไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว รีบไปขึ้นเรือที่อำเภอเถอะ เดี๋ยวค่อยไปนอนต่อบนเรือก็ได้"
ฝูจือหยินดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับคำอธิบายของเฉินจิ่วซือนัก แต่เธอก็เหมือนจะชินแล้ว
เธอเลยไม่ได้พูดอะไรต่อ
ถ้าพูดถึงเกาะจงซาน จริงๆ แล้วเกาะนี้ก็ใหญ่พอสมควร
มีหมู่บ้านขนาดเท่ากับหมู่บ้านหยุนซีอยู่บนเกาะแห่งนี้อีกกว่าสิบหมู่บ้าน
คนที่อยู่บนเกาะจงซานหากต้องการจะไปเฉียงโจวจะต้องเดินทางไปที่ท่าเรือเพียงแห่งเดียวในอำเภอ
และจะมีเรือโดยสารไปที่เกาะเฉียงโจวทุกวัน
"ไม่ต้องแล้ว!"
ในที่สุดเฉินจิ่วซือก็เริ่มได้สติ "ฉันรู้วิธีแก้ปัญหากล้วยไม้ของเราแล้ว และของที่ต้องใช้ก็มีอยู่ในหมู่บ้านของเรานี่แหละ เดี๋ยวฉันจะเรียกทุกคนมา แล้วฉันจะทำยาเอง!"
"รู้แล้วหรอ รู้จากไหน นายไปถามใครมาเนี่ย"
ฝูจือหยินรู้ว่าเฉินจิ่วซือคงไม่โกหกเรื่องพวกนี้แน่ เธอจึงรู้สึกประหลาดใจและยินดีในเวลาเดียวกัน
"ในหนังสือมีคำตอบ"
"อะไรนะ!"
"ฉันเห็นจากในหนังสือแล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอน สาเหตุของโรค วิธีการรักษา และวิธีป้องกัน ฉันเข้าใจหมดแล้ว"
เฉินจิ่วซือกล่าว "เดี๋ยวฉันจะเรียกคนที่ปลูกกล้วยไม้สกุลหวายทั้งหมดมา ถ้าเป็นไปได้ด้วยดี มันจะเห็นผลภายในหนึ่งสัปดาห์นี่แหละ"