บทที่ 2 อย่างมากก็แค่เพื่อนตายร่วมกันอีกสามปี
บทที่ 2 อย่างมากก็แค่เพื่อนตายร่วมกันอีกสามปี
[นับตั้งแต่การกำเนิดอารยธรรมในยุคหินเก่า มนุษย์ก็มุ่งเน้นไปที่การสร้างสิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่งต่าง ๆ ซึ่งสิ่งก่อสร้างเหล่านี้มักจะสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคม และจิตใจของสังคมมนุษย์...]
[ระบบสิ่งมหัศจรรย์มุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้ที่เป็นเจ้าของในการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่สอดคล้องกับยุคสมัย]
[ระบบสิ่งมหัศจรรย์เปิดใช้งานแล้ว โปรดตรวจสอบด้วยตัวคุณเอง!]
หลังจากตกตะลึงอยู่ไม่นานนัก ตัวอักษรเหล่านั้นก็ค่อยๆ จางหายไปจากสายตาของเฉินจิ่วซือ
และหน้าต่างคุณสมบัติก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[อาณาเขต]: หมู่บ้านหยุนซี
[พื้นที่]: 20,743 เอเคอร์ (≈83.95 ตร.กม.)
[ประชากร]: 3,281 คน
[เงิน]: 274,700 หยวน
[ระดับการพัฒนา]: ยากจน
[สิ่งมหัศจรรย์]: ไม่มี
[นักท่องเที่ยววันนี้]: 0 คน
[นักท่องเที่ยวเดือนนี้]: 0 คน
[ค่าความตะลึง]: 0
[คำแนะนำ]: แนะนำให้ทำภารกิจให้สำเร็จโดยเร็วสร้างสิ่งมหัศจรรย์ รับค่าความตะลึงจากผู้คนให้มากขึ้น ค่าความตะลึงสามารถนำไปซื้อสินค้าพิเศษ พิมพ์เขียว เทคโนโลยีต่างๆ ในร้านค้าได้ เน้นย้ำอีกครั้ง โปรดทำภารกิจให้สำเร็จโดยเร็วมิฉะนั้นคุณจะประสบความยากลำบาก
"...."
"ห๊ะ.. สิ่งมหัศจรรย์หรอ นี่มันอะไรกันเนี่ย?!!"
"สิ่งมหัศจรรย์นี่มันพวกกำแพงเมืองจีนอะไรแบบนั้นงั้นหรอ"
ความตกตะลึงของเฉินจิ่วซือเปลี่ยนเป็นความงงงวยอย่างรวดเร็ว "เดี๋ยวนะ นี่ฉันเป็นแค่ผู้ใหญ่บ้านนะ ทำไมถึงต้องให้ฉันสร้างสิ่งมหัศจรรย์บ้าบออะไรด้วยเนี่ย?!"
เฉินจิ่วซืออยากจะด่าออกมาดังๆ
มันจะบ้าไปแล้ว ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านยากจน กับภารกิจการสร้างสิ่งมหัศจรรย์เนี่ยนะ..
นี่มันระดับความยากแบบนรกชัดๆ!
นี่มันเรื่องจริงไม่ใช่เกมนะเว้ย?!
คิดว่าการสร้างสิ่งมหัศจรรย์มันง่ายเหมือนการตัดต้นไม้แล้วเอาค้อนมาตอกๆ ก็สร้างได้แล้วหรือยังไงกัน
กำแพงเมืองจีน สวนลอยบาบิโลน ปิระมิดแห่งกีซา หอไอเฟล... สิ่งมหัศจรรย์ที่ทุกคนรู้จักไม่ว่าจะยุคไหน ก็ต้องใช้เงิน เวลา และพลังงานจำนวนมหาศาลในการสร้าง!
บางครั้งก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนกว่าจะสร้างสำเร็จ
มันดูยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านกระจอกๆ อย่างเขาจะทำได้ชัดๆ!
ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์เลย แค่เงินสองแสนกว่าหยวนในบัญชีของหมู่บ้านนั้นยังสร้างตึกดีๆ เล็กๆ สักหลังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แล้วเขาจะเอาปัญญาที่ไหนไปสร้างสิ่งมหัศจรรย์เล่า?!
นอกจากว่าจะมีของขวัญมาให้สัก 80-90 ล้านหยวน หรือไม่ก็ร้อยล้านหยวน อาจจะพอทำได้...
"มีระบบมันก็ดีอยู่หรอก.. แต่ถ้าเป็นระบบปลูกพืช หรือระบบรีไซเคิลขยะฉันยังจะยอมรับได้มากกว่าอีกนะ แต่ระบบสิ่งมหัศจรรย์นี่มัน.. เห้อ.."
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
นี่มันระบบบ้าบออะไรกัน มันเรียกร้องอะไรเกินจริงเกินไปแล้ว!
รอให้ฉันเป็นผู้ใหญ่บ้านอันดับหนึ่งของประเทศ หรือเป็นมหาเศรษฐีก่อนค่อยมาปลุกระบบนี้ก็ยังไม่สาย!
เรื่องที่คนระดับมหาเศรษฐีจะทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่จะให้คนธรรมดาอย่างฉันทำเนี่ยนะ?!
….
"..ไหน! ขอฉันดูหน่อยว่าภารกิจอะไรที่จะให้ฉันทำ!"
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เฉินจิ่วซือก็เหมือนตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง แล้วคลิกเปิดภารกิจ
[ภารกิจ]: สร้างอุทยานภูเขาไฟ
[คำอธิบาย]: ใช้ประโยชน์จากภูเขาไฟในการสร้างอุทยานพฤกษศาสตร์ภูเขาไฟเขตร้อนบนเกาะ ซึ่งรวมถึงการบรรเทาวิกฤต การเที่ยวชม พักผ่อนและพักร้อน บ่อน้ำแร่เพื่อสุขภาพ การศึกษา การสำรวจ ระบบนิเวศ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
[รายละเอียด]: อาณาเขตของคุณตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่กำลังหลับใหล แม้ว่าจะไม่ได้ปะทุมานานแล้ว แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะปะทุ ใช้เทคโนโลยีบางอย่างเพื่อพัฒนามันให้เป็นอุทยาน เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และยังช่วยบรรเทาภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากภูเขาไฟได้อีกด้วย เป็นการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
เมื่อรับภารกิจแล้ว คุณจะได้รับไอเทมที่เกี่ยวข้อง เช่น พิมพ์เขียวอุทยาน เมล็ดพันธุ์พืช ฯลฯ เพียงแค่สร้างอุทยานภูเขาไฟตามพิมพ์เขียวให้เสร็จก็พอ...
หลังจากสร้างอุทยานเสร็จแล้ว ลาวาจะไหลออกมาจากบริเวณที่กำหนดอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทุขึ้นอีก และจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์
[รางวัล]: ขึ้นอยู่กับระดับความสำเร็จและระยะเวลาการก่อสร้าง
[โปรดรับภารกิจ!]
"ข้อมูลเยอะจังโว้ย!"
เฉินจิ่วซือพึมพำ "อืม.. ว่าแต่ ภูเขาไฟนี่มันยังปะทุได้อยู่เหรอเนี่ย"
บนเกาะเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ต่างๆ แม้แต่บนปากปล่องภูเขาไฟก็ยังมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่มากมาย แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้ปะทุมานานมากแล้ว
และทุกคนคิดว่ามันเป็นภูเขาไฟที่ดับไปแล้ว
แต่ตอนนี้ ตามความหมายของระบบนี้ ที่นี่เป็นภูเขาไฟที่กำลังหลับใหลอยู่สินะ!
ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าพวกเขาหลับนอนและใช้ชีวิตอยู่บนระเบิดเวลาหรอกเหรอ
ภูเขาไฟลูกอื่นยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจสอบตลอดเวลา แต่ที่นี่กลับไม่มีแบบนั้นเสียด้วย
แถมไม่มีแม้แต่ระบบเตือนภัยด้วยซ้ำ
เมื่อมองไปที่ข้อความนี้ เขาก็เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เมื่อข้อความต่อมาปรากฏขึ้น เขาก็เริ่มทำหน้าตาแปลกๆ
ลาวาสามารถควบคุมได้ด้วยเหรอ
ตราบใดที่สร้างอุทยานภูเขาไฟนี้เสร็จ ภูเขาไฟก็จะไม่ปะทุอีกต่อไปงั้นหรอ
เพียงแต่ว่า ลาวาจะไหลออกมาจากบริเวณที่กำหนด แล้วกลายเป็นจุดชมวิว.. มันจะได้ผลจริงหรอเนี่ย.. การชมลาวาภูเขาไฟโดยไม่มีความเสี่ยงสินะ!
"ซี้ดดดดด-"
เฉินจิ่วซืออดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
ถ้าสร้างสวนนี้ได้สำเร็จ หมู่บ้านของเขาจะต้องได้ขุมทรัพย์แน่นอน!
แต่มันจะเชื่อถือได้จริงเหรอ
ภูเขาไฟสามารถควบคุมได้ด้วยงั้นเหรอ
เดี๋ยวก่อน!
เมื่อสร้างสวนนี้เสร็จแล้ว ลาวาจะไหลออกมา แล้วแบบนี้จะแน่ใจได้ยังไงว่าจะไม่มีใครจับเขาไปบูชายันกับภูเขาไฟเพราะคิดว่านี่เป็นลางร้ายน่ะ!
ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดในยุคโบราณ อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่บ้านเลย แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังต้องตาย!
เฉินจิ่วซือเริ่มสับสน
ภูเขาไฟลูกนี้ไม่ได้ปะทุมาหลายพันปีแล้ว
ถ้าไม่สร้างมันก็อาจจะไม่ได้เห็นลาวาไปตลอดชีวิตก็ได้
แต่ถ้าสร้างแล้วยังไงลาวาก็ต้องออกมาแน่นอน!
มันเหมาะสมที่จะสร้างจริงๆ เหรอเนี่ย
แต่ถ้าเขาไม่สร้างแล้วมันเกิดปะทุขึ้นมาล่ะ เขาจะทำยังไงดี
ถ้าภูเขาไฟปะทุขึ้นมา หมู่บ้านคงจะพังพินาศหมด
คงไม่ต้องจัดงานเลี้ยง คงต้องรอให้คนมาขุดศพอย่างเดียวแล้ว
ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ โอกาสที่จะรอดก็คือ 0%
ถ้าให้ชะตากรรมมาอยู่ในมือของตัวเองมันคงดีกว่าแน่นอน
เอาไงดี สร้างหรือไม่สร้างดีนะ..
"..เดี๋ยวก่อน ทำไมฉันต้องมาคิดมากเรื่องพวกนี้ด้วย มันเหมือนว่าฉันมีเงินสร้างอย่างนั้นแหละปัดโถ่ว!"
เฉินจิ่วซือเหลือบมองหน้าต่างระบบที่เขียนว่า '[เงิน]: 274,700 หยวน' แล้วก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
หมู่บ้านมีเงินแค่นี้ เขาจะสร้างอะไรได้
ยิ่งเป็นอุทยานภูเขาไฟด้วยยิ่งแล้วใหญ่
ภูเขาไฟที่สูงกว่าสองร้อยเมตรนี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมาทำอะไรก็ได้ง่ายๆ นะ
เกาะจงซานเป็นเกาะภูเขาไฟที่สมบูรณ์แบบ
มีปล่องภูเขาไฟเล็กใหญ่ประมาณสามสิบกว่าแห่ง
โดยปล่องภูเขาไฟที่สูงที่สุดก็คือที่ที่เฉินจิ่วซือกำลังยืนอยู่นี่เอง
มันสูงประมาณ 220 เมตร
ส่วนปล่องที่เหลือก็สูงประมาณร้อยกว่าเมตร
แต่ถึงจะสูงแค่ร้อยกว่าเมตร มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะจัดการได้ง่ายๆ เลย
การจะปรับปรุงมันต้องใช้แรงงานและเงินทุนเท่าไหร่ก็ไม่รู้
ถ้ากล้วยไม้สกุลหวาย 1,000 เอเคอร์นี้พัฒนาไปได้ด้วยดี และสามารถขยายต่อไปได้อีก อาจจะต้องรออีกหลายปีกว่าจะสร้างได้
แต่ตอนนี้... ภารกิจนี้มันยากเกินไปจริงๆ
"ในที่สุดก็หาตัวเจอ มืดค่ำขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก!"
ขณะที่เฉินจิ่วซือกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงของฝูจือหยินก็ดังขึ้นมา "ฉันเห็นว่าบ้านนายไม่ได้เปิดไฟ เลยรู้ว่านายต้องยังอยู่ในนี้แน่ๆ"
"กลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะไปเฉียงโจวด้วยกัน"
เฉินจิ่วซือที่ถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์ก็ส่ายหัว แล้วสลัดความคิดทั้งหมดออกไป "ฉันกำลังจะกลับแล้ว"
ทั้งสองคนเดินไปบนถนนที่ปูด้วยหินภูเขาไฟในช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งสองคนต่างก็เงียบ
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ถนนของหมู่บ้านหยุนซีทั้งหมดสร้างจากหินภูเขาไฟ
แม้ว่าจะไม่มีแสงดาวแสงจันทร์ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะสะดุดล้ม
ไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่ ในที่สุดฝูจือหยินก็ทนไม่ไหวที่จะพูดขึ้นมา "ฉันว่านะ นายไม่จำเป็นต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ ที่ที่ปลูกกล้วยไม้สกุลหวายก็เป็นแค่หิน ถึงเป็นอย่างอื่นก็ปลูกไม่ได้อยู่แล้วนั่นแหละ อีกอย่างมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ล้มเหลวซะหน่อย แค่ล้มเหลวก็เท่านั้นเอง"
"แถมกล้วยไม้สกุลหวายที่พวกเราปลูกก็ถือว่าสำเร็จพอสมควรแล้วนี่ สามปีมานี้ ถ้ามันไม่ติดโรคบ้านี่ พวกเราก็คงได้เริ่มขายมันแล้ว"
"ถ้าแก้ปัญหาได้ก็แก้ไป ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พวกเราจะช่วยนายอีกสามปีก็ยังได้!"